ประพาส ศรีอ่อน กับภาพยนตร์เรื่องแรก “รักฝังเขี้ยว” ไม่ฮาแบบมุขคาเฟ่

ประพาส  ศรีอ่อน กับภาพยนตร์เรื่องแรก “รักฝังเขี้ยว”
ไม่ฮาแบบมุขคาเฟ่

               เริ่มถ่ายทำได้ประมาณ 40 % แล้วกับภาพยนตร์โรแมนติก คอเมดี้  แอ็คชั่น “รักฝังเขี้ยว” ของค่ายหนังน้องใหม่วงการบันเทิงไทย บริษัท 108 สยามฟิล์ม จำกัด โดย วินัย วงศ์คำหาร ประธานกรรมการ ร่วมกับ บริษัท เบลสซิ่ง โปรดักชั่น จำกัด โปรดิวเซอร์โดย ธนาวุฒิ เกสโร ผลงานการกำกับฯครั้งแรกของ ประพาส  ศรีอ่อน (ต๊ะ ติ๊ง โหน่ง) นำแสดงโดย อาร์ตี้ –ธนฉัตร ตุลยฉัตร, จีน- เกล้าแก้ว  สินเทพดล (ผลงาน- ภาพยนตร์ Before valentine,อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง,บุญชู 10),เซกิ โอเซกิ (ผลงาน-ภาพยนตร์ ยามาดะ ซามูไรอโยธยา,คู่แรด ,พระเอกมิวสิควีดีโอ, ถ่ายแบบ),บอย -ธวัชชัย เพ็ญภักดี (ผลงาน- ภาพยนตร์ไชยา,อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง,ละครเทพบุตรสะลึมสะลือ,ลูกทาส )อ่าง เถิดเทิง, หม่อมเหยิน -ประสิทธิ์ เทศทะวงศ์,หม่อมเอ็กซ์ -อัศนัย เทศทะวงศ์,หม่อมเอ็ม-อรรถพล เทศทะวงศ์,กฤษฏ์ศิรวัชร แก้วมณีกานนท์ ผลงาน-ผู้ชนะการประกวดตามหาจเด็จทางไทยทีวีสีช่อง 3,ข้าวโอ๊ต -ภุมมารินทร์ ชัยสิทธิ์ (ผลงาน-นางเอกมิวสิควีดีโอฯ) และนวรัตน์ ม่วงปิ่น

               ผู้กำกับฯหน้าใหม่เผยถึงการก้าวเข้ามากำกับฯหนังครั้งแรกว่า “มีคนถามมามากมายว่า ผมเข้ามาทำหนังได้อย่างไร คือจริงๆแล้วผมเองก็อยู่กับวงการหนังไทยมานาน ก็ประมาณ 31 ปี แล้วครับ   ตอนนั้นผมเข้ามาในวงการภาพยนตร์ด้วยการจัดคิวบู๊ ทำงานในกองถ่ายเป็นสแตนอิน ผมแสดงมาก็เป็นร้อยๆเรื่องนะ แต่พอหนังไทยช่วงหลังๆเริ่มซบเซาผมก็เลยหันมาเล่นตลกโดยมีโน๊ต เชิญยิ้ม ที่ผมถือว่าเค้าเป็นอาจารย์เพราะผมจำจังหวะท่าทางเค้าที่พอพูดแล้วคนขำ ผมไปนั่งดูเค้าทุกวันเลยนะ จนผมคิดว่าผมเองก็เล่นได้ก็เลยไปสมัครเล่นตลก ประสบการณ์ส่วนใหญ่ของผมพูดได้เลยว่าเกิดขึ้นมาจากตลก แล้วก็มาทำรายการทีวีช่อง 5 วาไรตี้ตี2  รายการมาสเตอร์คีย์  รายการบิ๊กเกมส์ และผมก็จะอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิควีดีโอ ซีดี กับผลงานเรื่อง “รักฝังเขี้ยว” ถ้าเมื่อก่อนคิดถึงแดร็กคูล่าของไทยก็ต้องนึกถึงเรื่องแดร็กคูล่าต๊อก ผมคิดว่าอยากทำหนังเกี่ยวกับแดร็กคูล่าสักเรื่อง ตอนนั้นผมคิดถึงเหี่ยวฟ้าแต่พี่เหี่ยวก็เสียก่อน ผมก็มานึกตลกอาวุโสก็ได้หม่อมเหยินพอเล่าเรื่องให้แก่ฟังแก่ก็ขำชอบใจและก็โอเค ส่วนอาร์ตี้–ธนฉัตร  พระเอกของเรื่องในเรื่องนี้เค้าก็พลิกคาแร็คเตอร์มากเลยเป็นคนขรึมๆที่ต้องพลัดพรากจากคนรักไม่ได้เจอกันมา 500 ปี ต้องบู๊กับเซกิทั้งเรื่อง เซกิ รับบทเป็นแวมไพร์(แดร็กคูล่าสมัยนี้) ซึ่งเค้าก็แสดงหนังบู๊มาตลอดนะเรื่องนี้ก็พลิกคาแร็คเตอร์เป็นร้ายไม่เคยแสดงมาก่อนเหมือนกัน นางเอกจีน-เกล้าแก้ว รับบทเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์สดใส เรื่องชื่อทางทีมงานช่วยกันหาก็มาลงตัวที่ “รักฝังเขี้ยว” เนื้อเรื่องมีบู๊ผสมตลกถึง 70 % ดราม่า 30%  รับรองว่าเรื่องนี้ครบรสแต่ไม่ใช่ตลกคาเฟ่นะ มีคนถามเยอะว่าต๊ะคุณเก่งนักเหรอมาทำหนังถึงต้องมาพูดว่าไม่ใช่ตลกคาเฟ่ จริงๆตลกคาเฟ่ดีนะและคือครูของผมเพราะผมเคยเล่นตลกคาเฟ่มาก่อน ในความคิดของผมคือมุขของคนที่เค้าเล่นไปแล้ว เราเอามาเล่นใหม่ก็ขำกับคนละอย่าง มันคือแกงคนละหม้อ แต่ด้วยผมเป็นคนดูหนังเยอะก็เลยเห็นว่าเรื่องหลายๆเรื่องก็เป็นมุขเก่าๆซ้ำๆ ซึ่งคนดูเค้าก็เคยดูทั้งเป็นวีซีดี ดีวีดี ในโรงภาพยนตร์ หรือในโทรทัศน์ มุขส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุขที่เล่นกันซ้ำๆซากๆ ผมก็จะโดนคนถามเสนมอว่าถ้าต๊ะทำหนังจะมีมุขพวกนี้อีกมั้ย ผมก็บอกว่าไม่มีเพราะให้คนเค้าดูกันในคาเฟ่กันหมดแล้ว ที่ผมจะทำคือขำนะแต่ขำในสตอรี่ก็ขำในเรื่องราวของหนังไม่จำเป็นต้องตลกเยอะแยะอะไร คือมีตลกมาแสดงก็ไม่จำเป็นว่าต้องตลกก็ได้ หนังของเราก็อาจจะเป็นพระเอกตลกก็ได้ ตัวโกงตลก หรือตัวประกอบตลกคือตลกของการเดินเรื่อง ก็จะไม่มีมุขซ้ำๆกับที่เราเห็นในคาเฟ่และจากหนังหลายๆเรื่อง แต่ผมไม่ได้ว่าใครนะเป็นการเปลี่ยนแนวของผมมากกว่า หนังสมัยนี้เค้าก็ทำกันดีเค้าเข้าใจทำให้แตกต่างและฉีกมุม ผมเองก็จะเป็นแนวนั้นนะผมไม่ได้ตามใครแต่ก็คิดเหมือนกันว่าหนังไทยควรจะเป็นแนวไหนคนดูถึงชอบ

               ก็อยากจะเชิญคนที่ชอบดูหนังที่มักจะเจอแต่สิ่งจำเจ ถ้าท่านกลัวว่าดูหนังไทยเรื่องนี้แล้วจะเจอความจำเจของมุขตลกหรือเห็นว่าตลกมากำกับฯแล้วจะเจอมุขตลกคาเฟ่ ผมบอกเลยว่าไม่มีแน่นอน ถ้าท่านเจอมุขอย่างนี้ให้มาว่าหรือด่าผมเลย เพราะถ้าใครมาแสดงแล้วเป็นอย่างนั้นผมจะตัดออกเลยจะเสริมในสิ่งที่เป็นสาระดี บู๊ สนุกมันฮาสตอรี่แน่นอนกับภาพยนตร์เรื่อง "รักฝังเขี้ยว”