MSN on June 27, 2013, 08:00:25 AM
เดินหน้าผลักดันและพัฒนานักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดตัว ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ ครั้งแรกของการรวมพลนักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์กว่า 80 แบรนด์ไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ในตลาดอาเซียน และการยอมรับในตลาดโลก

กรุงเทพฯ : สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าผลักดันและพัฒนานักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทย เปิดตัว ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ ครั้งแรกของการรวมพลนักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์กว่า 80 แบรนด์ไทย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมและโปรแกรมเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบไทยแบบ 360 องศา เพื่อเตรียมความพร้อมรับ AEC และมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก

ร.อ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงนโยบายการพัฒนาการออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทย ว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) มีนโยบายให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าสินค้าอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านความพร้อมของวัตถุดิบและทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศจำนวนมาก การสนับสนุนการพัฒนานักออกแบบให้มีการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และแนวคิดใหม่ๆเป็นการสร้างจุดเด่นจุดขายให้กับสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของนักออกแบบไทยให้ทัดเทียมนักออกแบบระดับสากล สร้างนักออกแบบให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีศักยภาพ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการออกแบบในภูมิภาคเอเชีย เตรียมความพร้อมรับกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558”

“ทั้งนี้กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดย สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ได้มีการสนับสนุนและพัฒนานักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์มาโดยตลอด ผ่าน ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก’ (Designers’ Room) และ ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก’ (Talent Thai) เพื่อคัดเลือกนักออกแบบสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์เข้าร่วมกิจกรรมและโปรแกรมเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในด้านการออกแบบ การผลิต การตลาดและการสร้างแบรนด์ อีกทั้งเปิดโอกาสให้นักออกแบบได้มีโอกาสนำผลงานไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับประเทศ และระดับโลก เพื่อให้นักออกแบบได้พบปะเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งทั้งสองโครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักออกแบบ และกลุ่มผู้ประกอบการในแวดวงสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นอย่างมาก และในปีนี้เป็นครั้งแรกที่กรมฯ รวม 2 โครงการเข้าเป็น ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ เพื่อจะพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับนักออกแบบหลากหลายสาขามากในอนาคต” นางศรีรัตน์  กล่าว

สำหรับวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของ ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ นั้น ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแลและรับผิดชอบการดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า “‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและพัฒนาความสามารถของนักออกแบบไทยให้ทัดเทียมนักออกแบบระดับสากล   ผลักดันและส่งเสริมนักออกแบบไทยให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีประสิทธิภาพ สามารถก้าวสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคตโดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคม – ตุลาคม 2556 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รวมนักออกแบบจาก ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก’ (Designers’ Room) และ ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก’ (Talent Thai) กว่า 80 แบรนด์ ในโครงการเดียวกัน และโครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทยได้วางแผนที่จะเพิ่มการสนับสนุนนักออกแบบในสาขาอื่นๆเพิ่มขึ้นในอนาคต สำหรับปีนี้กรมฯ ตั้งเป้าคัดเลือกนักออกแบบทั้งสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ไทยเข้าร่วมโครงการทั้งหมดกว่า 80 แบรนด์ โดยแบ่งเป็นนักออกแบบจาก ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก’ (Designers’ Room) ซึ่งได้ดำเนินการคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 33 แบรนด์ โดยนักออกแบบทั้งหมดได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังใหญ่ที่สุดในอาเซียน ‘BIFF&BIL 2013’ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีนักออกแบบบางรายที่ได้รับคัดเลือกจากผู้จัดงานฯอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเข้าร่วมการแสดงผลงานในระดับอินเตอร์ เช่น Who’s Next ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ MQ Vienna Fashion Week  ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งนักออกแบบเหล่านี้ ได้รับการตอบรับและความสำเร็จทั้งในระดับประเทศและในระดับอินเตอร์เป็นอย่างดี”

“ในส่วนนักออกแบบจาก ‘โครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก’ หรือ ‘Talent Thai 2013’ ในปีนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าที่จะคัดเลือกนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์เข้าร่วมโครงการอีกกว่า 50 แบรนด์ ซึ่งจากการเปิดรับสมัครนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ‘Talent Thai 2013’ ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากเหล่านักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์มาร่วมสมัครคัดเลือกถึงกว่า 100 แบรนด์ โดยเป็นทั้งนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เคยเข้าร่วมโครงการ อาทิ แบรนด์ 248, Chaiyoandfriend, Happy Saliva, House of T, MAD BKK, METEOR, Mink, Pin, Skog, SRINLIM  ฯลฯ และนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์หน้าใหม่ โดยประเภทสินค้าจะมีตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ตลอดจนเครื่องประดับที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละแบรนด์ ซึ่งนักออกแบบทั้งหมดจะต้องเข้าไปสู่ขั้นตอนของการเลือกสรรความคิด ไอเดีย และความพร้อมในการก้าวสู่ตลาดอินเตอร์จากคณะกรรมการ นับเป็นโอกาสที่ดีของนักออกแบบที่จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน และรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในแวดวงการออกแบบและการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ไทย เพื่อนำมาพัฒนาแบรนด์ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้นักออกแบบที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จะได้มีโอกาสแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าของขวัญและของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ‘BIG&BIH October 2013’ รวมทั้งโอกาสในการแสดงผลงานในระดับอินเตอร์ งานแสดงสินค้า MAISON & OBJET ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส”

ความแตกต่างอีกหนึ่งประการในปีนี้คือ กรมฯ ได้เพิ่มประเภทนักออกแบบในสาขาการให้บริการออกแบบในโครงการ Talent Thai โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการให้บริการออกแบบเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ซึ่งนักออกแบบในกลุ่มนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยเช่นกัน ผู้ประกอบการที่ต้องการนักออกแบบไปช่วยพัฒนาสินค้าจะสามารถมีช่องทางติดต่อกับนักออกแบบได้ง่ายขึ้น และธุรกิจการให้บริการออกแบบก็สามารถมีช่องทางในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้ ซึ่งกรมฯ หวังว่าผู้ประกอบการและนักออกแบบจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ร่วมมือสร้างสรรค์ผลงานให้ธุรกิจสามารถพัฒนาเติบโตไปตามเป้าหมายทั้งในระดับประเทศและระดับโลกต่อไป

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ นั่นคือ การจัดอบรม เสวนา และ Workshop โดยในครั้งนี้ กรมฯ ได้จัดให้มีการรวมตัวของเหล่านักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ (Talent Thai) และ สินค้าแฟชั่น (Designers’ Room) เป็นครั้งแรก เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาความรู้ด้านการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งในเรื่องของการสร้างแบรนด์ การทำแผนเพื่อพัฒนาธุรกิจ การเจรจาธุรกิจพลิกการค้าสู่ความสำเร็จ รวมไปถึงความรู้เรื่องกฎหมายและลิขสิทธิ์การออกแบบ แก่นักออกแบบโครงการสร้างนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก (Designers 'Room 2013) และ นักออกแบบโครงการสร้างนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก (Talent Thai 2013) โดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในแวดวงการออกแบบ และการส่งออกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ไทย ได้แก่ คุณศิริชัย เลิศศิริมิตร นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน, คุณณรงค์กร จิตรถาวรกุล อุปนายก

สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน, , คุณธันยพัชร ลิ้มสุนทร Owner & Co-Founder of Fashion Identity, คุณฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด, คุณสืบสิริ ทวีผล ทนายความ Tilleke & Gibbins International.LTD, คุณวิวัฒน์ ชุติวณิช ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันคีนันแห่งเอเซีย, โดยกรมฯ ได้จัดพิธีเปิดงานเพื่อเป็นการเปิดตัว ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากท่านรองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร.อ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ ภายในงานยังมีความพิเศษอยู่ที่การแสดงผลงาน    คอลเล็คชั่นที่เคยผ่านเวทีหรือเตรียมแสดงในเวทีงานแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับประเทศและระดับอินเตอร์ในปีนี้ จากนักออกแบบรุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมโครงการ และนักออกแบบที่เข้าร่วมโครงการในปีนี้ ผ่านการพรีเซนต์ แบบ Life Fashion show ในชุด ‘SMART LIFE SMART GEN’ โดยนายแบบ – นางแบบ นำโดย แม๊กกี้ อาภา ภาวิไล นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสและประสบการณ์ที่ดีที่โครงการได้มอบให้แก่นักออกแบบ เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดแบรนด์สินค้าของตนเองต่อไปในอนาคต
 
   “‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจหนึ่งของกรมฯ ในฐานะที่เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างและส่งเสริมศักยภาพของนักออกแบบไทย รวมทั้งช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยสู่การเป็นผู้นำและศูนย์กลางในระดับภูมิภาคอาเซียน  และส่งเสริมแบรนด์สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยให้ได้รับความสนใจและการยอมรับในตลาดระดับประเทศและระดับสากลมากยิ่งขึ้น  ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งกรมฯ คาดหวังว่าในอนาคตเราจะมีการพัฒนากิจกรรมและการดำเนินโครงการให้สามารถรองรับกลุ่มนักออกแบบเป้าหมาย และเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีศักยภาพทั้งในด้านการออกแบบและการตลาดให้สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เราจัดขึ้นได้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” ม.ล. คฑาทอง กล่าวสรุป
ติดตามภาพ และข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมทั้งกิจกรรมดีๆ ของ ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ ได้ที่ www.designers360.net, www.ditp.go.th/design, www.facebook.com/ditptalentthai 
« Last Edit: June 27, 2013, 08:10:00 AM by MSN »

MSN on July 14, 2013, 03:59:22 PM
บทสัมภาษณ์ช่วงเสวนา
การเปิด ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’

o   นายสุรพงศ์ อู่อุดมยิ่ง นายกสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ 
กล่าวถึงศักยภาพของนักออกแบบไทย และทิศทางของนักออกแบบและตลาดดีไซน์ในปัจจุบันและอนาคต

-   ศักยภาพของนักออกแบบไทยในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องความสามารถในการออกแบบซึ่งนับได้ว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก และในปัจจุบันแต่ละแบรนด์เริ่มมีศักยภาพในด้าน Branding มากขึ้นซึ่งส่งผลให้  แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในตลาดสากลมากยิ่งขึ้น

-   สำหรับทิศทางของนักออกแบบไทยในอนาคต คิดว่า ดีไซเนอร์ควรพยายามเปิดตัวเอง รวมทั้งหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาไอเดีย และมุมมองใหม่ๆ ทั้งในด้านความรู้การออกแบบ และในเรื่องของภาษา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากในอนาคต และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักออกแบบพึงมี นั่นคือ ทุกคนต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ต้องหาตัวตนหรือสไตล์ของเราให้เจอว่าคืออะไร เพราะสิ่งเหล่านี้ใครก็แย่งเราไปไม่ได้ การเสนองานที่ดีต้องเสนอความเป็นตัวเอง งานไม่จำเป็นต้องแปลกหรือแหวกแนว  แต่ต้องเป็นการสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มเติมให้กับแบรนด์ของตัวเราเองนั่นคือการเสนองานที่ดีและมีคุณภาพ

ตัวแทนนักออกแบบของโครงการฯ 3 แบรนด์กล่าวถึงความรู้สึกและประโยขน์ที่ได้รับจากโครงการฯ

o   คุณนุกูลกิจ เอี่ยมละออ จากแบรนด์ The Urban Apparel ตัวแทนนักออกแบบจากโครงการ Designers’ Room 2013
-   แบรนด์ The Urban Apparel ได้เข้าร่วมโครงการ Designers’ Room ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว ซึ่งได้รับโอกาสและประสบการณ์ที่ดีจากการเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก อาทิ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมงาน MQ Vienna Fashion week และ ELLE fashion week Thailand รวมทั้งเป็น 1 ใน 5 แบรนด์ที่ได้ร่วมอบรมกับคุณดลชัย บุญยะรัตเวช นักสร้างแบรนด์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยจากบริษัท แบรนด์สเคป จำกัด ซึ่งแบรนด์ The Urban Apparel ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการโครงการฯ ทั้งหมด ไปพัฒนาต่อยอด โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างแบรนด์ คือ สร้างให้ผู้ซื้อเชื่อในสิ่งที่เรากำลังจะทำ ซึ่งแบรนด์ The Urban Apparel จะเน้นที่ความแตกต่างแต่ความต่างนั้นต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เป็นความแตกต่างที่ต้องขายได้และมีตลาดรองรับอีกด้วย

o   คุณสุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ จากแบรนด์ Surasekk ตัวแทนนักออกแบบจากโครงการ Talent Thai 2012
-   แบรนด์ Surasekk ได้เข้าร่วมโครงการ Talent Thai ปีนี้นับเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งความประทับใจจากการที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการคือ การที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศคัดเลือกผลงานนักออกแบบจากคุณภาพจริงๆ รวมทั้งเรื่องของการให้โอกาสนักออกแบบได้มีพื้นที่ที่จะแสดงผลงานของตัวเองสู่ตลาดและสาธารณชน นอกจากนี้โครงการยังมีการอบรมให้ความรู้ทั้งในด้านการออกแบบและการตลาด เพื่อให้แต่ละแบรนด์นำไปต่อยอด และค้นหาแนวทางเป็นของตัวเอง ได้รู้ว่าอะไรคือจุดแข็งของ

เรา ทำให้ทราบว่าอะไรที่เราควรจะสู้หรือควรจะถอย อีกทั้งทำให้เรารู้ว่าเราควรจะพัฒนาแบรนด์ต่อไปอย่างไร และในปีนี้แบรนด์ Surasekk ยังได้รับโอกาสที่ดีจากกรมฯ ในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผลงานในงาน Maison & Objet งานแสดงสินค้าและของตกแต่งบ้านเน้นดีไซน์ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ซึ่งได้เตรียมสินค้าไปโชว์ 3 ประเภท คือ
1) งานที่มีคอนเซ็ปต์ชัดเจน ซึ่งเป็นงานที่เน้นโชว์ศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์
2) งานที่มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนแต่ Scale เล็กลงมา เพื่อให้ราคาของสินค้าถูกลง สามารถขายได้ง่ายยิ่งขึ้นและสามารถต่อรองราคาได้
3) งานที่มีคอนเซ็ปต์เน้นความสวยงาม Scale ใหญ่ คือ เน้นดึงดูดความสนใจของคนในงาน ทำห้คนดูเกิดคำถาม และ
   ตามมาด้วยการพูดคุยสนททนากับเจ้าของแบรนด์ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจอีกช่องทางนึง

o   คุณอัญชนา ทองไพฑรูย์ จากแบรนด์หมา (Dog) ตัวแทนนักออกแบบที่เข้าร่วมสมัครโครงการ Talent Thai 2013
-   ปีนี้เป็นปีแรกของแบรนด์หมา (Dog) ที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากแบรนด์ได้เล็งเห็นว่าโครงการ Talent Thai เป็นโครงการที่มีประโยชน์และสามารถเอื้อโอกาสทางธุรกิจแก่กลุ่มนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นรุ่นพี่หลายๆ  แบรนด์ที่ได้เข้าร่วมโครงการต่างได้รับการพัฒนาศักยภาพและได้รับโอกาสในหลายๆด้าน  ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลงานในงานนิทรรศการหรืองานแฟร์ในระดับประเทศและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจของแต่ละแบรนด์ประสบความสำเร็จ จึงทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ และในฐานะนักออกแบบรุ่นใหม่ สิ่งที่ต้องการจากโครงการฯนี้ คือ การได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก เราชอบ ได้พื้นที่และโอกาสที่จะแสดงผลงานให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาด รวมไปถึงเรื่องของความรู้ โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างแบรนด์ ซึ่งแบรนด์จะนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการออกแบบและการทำการตลาดของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
« Last Edit: July 14, 2013, 04:01:04 PM by MSN »