MSN on July 10, 2013, 07:49:35 AM
KTAMเพิ่มทางเลือกขายKTPLUS 11-24ก.ค.นี้ เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งใน-ต่างประเทศ

         
               นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า   บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์พลัส  (KTPLUS)  ในวันที่  11- 24 กรกฎาคม  2556    มูลค่าโครงการ 3,000  ล้านบาท    เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก  ตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐ  ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น  ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน   และตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดี ซึ่งผู้ออก  ผู้รับรอง  ผู้รับอาวัล    ผู้สลักหลัง  หรือผู้ค้ำประกัน  จะต้องได้รับการจัดอันดับในระดับ  Investment Grade  สำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  ซึ่งจะมีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน  แต่ในบางสถานการณ์ผู้จัดการกองทุนอาจใช้ดุลยพินิจในการกำหนดสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงตามความเหมาะสม 

               ทั้งนี้  กองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ   ที่บริษัทจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นตราสารที่มีคุณภาพ  โดยมีความเสี่ยงของการลงทุนในระดับต่ำ ถึงปานกลาง กองทุนมีเป้าหมายในการรักษาเงินต้น  สร้างผลตอบแทนให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และสูงกว่าการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน   เน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ระดับ  Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ  โดยอายุเฉลี่ยของเงินลงทุนโดยเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขาย ได้ทุกวันทำการผลตอบแทนจากการลงทุน  นักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา  ไม่เสียภาษี  หัก  ณ ที่จ่าย     

          นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยและโลกยังมีความไม่แน่นอนทั้งในด้านอัตราการเจริญเติบโต และเสถียรภาพของราคา  ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่น  อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลกทำให้เกิดกระแสการไหลเข้า/ออกของเงินลงทุนระหว่างประเทศ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงตราสารหนี้  มีความผันผวนทั้งในขาขึ้นและขาลง  ซึ่งที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยและหลายประเทศถูกปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การลงทุนระยะสั้นทั้งในรูปเงินฝากหรือกองทุนตลาดเงินให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำ  ขณะเดียวกันการเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว (มากกว่า 2 ปี) แม้จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า  แต่อาจจะต้องเผชิญกับความผันผวนของมูลค่าเงินลงทุนในช่วงที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ทยอยปรับตัวขึ้น  เนื่องจากการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายการเงินในช่วงปี 2557 เป็นต้นไป

            ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากหรือกองทุนตลาดเงิน ขณะเดียวกันเพื่อควบคุมความเสี่ยงหากอัตราดอกเบี้ยกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น  การลงทุนในตราสารระยะ 0.5 – 2 ปี จะทำให้ไม่เสียโอกาสในสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และสามารถควบคุมความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้หลังจากปิดการเสนอซื้อครั้งแรก( IPO )  ในวันที่ 24  กรกฎาคม 2556  บริษัทจะเปิดให้ซื้อขายได้ทุกวันทำการ  ตั้งแต่วันที่ 28  ตุลาคม  2556 เป็นต้นไป
 
              นอกจากนี้  บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3เดือน1  ( KTSIV3M1 )  ถึงวันที่  12 กรกฎาคม 2556    เป็นกองทุนประเภท Roll    Over   อายุโครงการ3 เดือน   เน้นลงทุนในเงินฝาก  บัตรเงินฝาก  ตั๋วแลกเงินของธนาคารทิสโก้   และธนาคารธนชาต   ในสัดส่วน  42%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.60% ต่อปี