กรุ๊ปเอ็มจับมือช่อง 3 พร้อมแบรนด์ผู้สนับสนุนร่วมมอบรางวัล แก่ “น้องเอม” แชมป์จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ คนแรกของไทย
ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรักการทำอาหารอย่างมากจนเป็นที่กล่าวขาน ถึงตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ในวันนี้รายการ “จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์” ก็สามารถเฟ้นหา สุดยอดเชฟรุ่นจิ๋วคนแรกของเมืองไทยได้เป็นผลสำเร็จ หนูน้อยมากพรสวรรค์คนนั้นคือ “น้องเอม” ด.ญ.อรปรียา เดชอนันตชาติ อายุ 12 ปี
ทั้งนี้ รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ (Junior MasterChef Thailand) ถือเป็นรายการซีรี่ส์บันเทิง ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อค้นหาสุดยอดเชฟรุ่นจิ๋วมือสมัครเล่น โดยเปิดโอกาสให้เด็กอายุระหว่าง 8-12 ปี ที่ชื่นชอบการทำอาหารมาร่วมแสดงความสามารถเพื่อก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง ซึ่งตลอดทั้งซีรี่ส์ผสานไปด้วยความตื่นเต้น ความสนุกสนาน และสร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่าเชฟตัวน้อยทั้งหลายและพวกเขายังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ทั้งในเชิงเทคนิคการทำอาหาร และความสวยงามในการจัดความสวยงามแก่เมนูเพื่อพิสูจน์ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำอาหาร โดยรูปแบบของรายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ถือเป็นรูปแบบเดียวกับรายการจูเนียร์ มาสเตอรเชฟ ที่โด่งดังมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อิสราเอล เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีซ ฟิลิปปินส์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ โดยรายการจะมุ่งเน้นให้เด็กๆ ที่สนใจในการทำอาหาร พร้อมจะเอาชนะความกลัวและปัญหาต่างๆ รวมถึงการเรียนรู้ที่จะสนุกกับการเรียนทักษะใหม่ๆ ในการทำอาหาร และทราบถึงประโยชน์ของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อพัฒนาตนเองสู่ความสามารถอันเป็นเลิศ นอกจากนี้ รายการยังสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ ความเข้าใจของเด็กๆ ที่มีต่อโลกจากการทำอาหารที่มาจากที่ต่างๆ ไปจนถึงการให้เด็กได้สะท้อนความแตกต่างด้านความรู้สึกนึกคิด เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเปิดรับความคิดของผู้อื่นด้วย หากพิจารณารูปแบบเนื้อหาของรายการอาจมีความแตกต่างกันบ้างในแต่ละประเทศ แต่คุณค่าหลัก และส่วนประกอบพื้นฐานของรายการนั้น มีความเป็นสากลซึ่งรายการที่ผู้ชมได้ชมผ่านจอโทรทัศน์อาจจะมีการนำเสนอเนื้อหาที่สนุกสนาน และสะท้อนความพยายามที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศในการทำอาหาร แต่รายการ จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ จะเป็นการแสดงความสามารถในการทำอาหารที่เต็มไปด้วยพลังความยิ่งใหญ่ จากคนตัวเล็กๆ ที่แฝงหัวใจหลักในการนำเสนอรายการ อันประกอบไปด้วย
1. การเรียนรู้ : เราได้เห็นผู้ร่วมรายการที่เป็นเด็กเรียนรู้ และพัฒนาตนเองตลอดรายการ จากจุดเริ่มต้นไปจนถึงตอนจบของซีรีส์
2. ความสนุกสนาน: หัวใจของรายการคือความสนุกในการทำอาหารและการทดลอง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหาร
3. การให้คำแนะนำ และการสอนของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอย่างเอาใจใส่: รายการต้องการให้เด็กที่เข้าร่วมรายการได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ และกรรมการจะมีการตัดสินอย่างยุติธรรมและดีที่สุด
4. ความสามารถของเด็กๆ ที่เข้าร่วมรายการต้องมีฝีมือในการทำอาหารอย่างยอดเยี่ยม : ซึ่งทักษะชั้นเลิศเหล่านี้คือแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ติดตามพัฒนาการเด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้และเติบโตและยิ่งรักในการสร้างสรรค์อาหารและการทำครัวมากยิ่งขึ้น
โดยรายการ จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ได้รับเกียรติจาก 3 ผู้มีชื่อเสียงที่คร่ำหวอดด้านอาหารร่วมเป็น คณะกรรมการ ประกอบด้วย ซุปเปอร์สตาร์นักชิม มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, เชฟหนุ่มอินดี้ อิ๊ก บรรณ บริบูรณ์ และครูใหญ่ ใจดี ครูบิ๊บ ชัชชญา รักตะกนิษฐ ผู้อำนวยการ โรงเรียนการอาหารนานา ชาติสวนดุสิต
สำหรับแชมป์ จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ คนแรกของไทย “น้องเอม” ด.ญ.อรปรียา เดชอนันตชาติ อายุ 12 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ เกรด 7 สาวน้อยหน้าตาน่ารักสดใส ผู้หลงใหลในศิลปะที่เริ่มเรียนรู้การทำอาหารมาตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เริ่มจากการช่วยหยิบจับส่วนผสมต่างๆ ให้พี่เลี้ยง อาหารที่เธอถนัดที่สุดคือ อาหารฝรั่ง ยามว่างนอกเหนือจากการฝึกทำอาหารที่เธอรักแล้ว เธอมักจะใช้เวลาในการวาดรูปด้วยสีน้ำหรือเล่นเปียโน ความที่ชื่นชอบศิลปะเป็นทุนเดิมจึงส่งผลให้เมนูของเธอ มีการออกแบบการจัดวางที่สวยงามและลงตัว อีกทั้งยังมีศาสตร์ในการปรุงอาหารที่ยอดเยี่ยม ส่วนผสมเครื่องปรุง ที่พอเหมาะทำให้ทุกๆ เมนูของเธอที่บรรจงสร้างสรรค์ มักจะประทับใจกรรมการอยู่เสมอ ซึ่งนอกจาก “น้องเอม” จะได้รับโล่เกียรติยศแล้ว ยังได้รับทุนการศึกษา 500,000 บาทด้วย โดยรองชนะเลิศในครั้งนี้ได้แก่สาวน้อย ผู้มีรอยยิ้มอันแสนหวาน “น้องบีม” ด.ญ.พรชิตา มณีศรี อายุ 12 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียน สุเหร่าสามอิน “น้องบีม” เกิดมาในครอบครัวเจ้าของกิจการร้านอาหารปักษใต้ ทำให้ซึมซับและรักในการ ทำอาหารมาตั้งแต่เล็กๆ ด้วยฝีมือการปรุงอาหารที่จัดจ้านพรสวรรค์การตกแต่งจานอาหารที่โดดเด่น ปฏิภาณ ไหวพริบในการควบคุมสถานการณ์ ความสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดีทำให้ “น้องบีม” เป็นอีก หนึ่งคนที่น่าจับตาโดย “น้องบีม” ในฐานะรองชนะเลิศได้รับโล่เกียรติยศและรางวัลจากบางกอกแอร์เวย์ มอบตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-กระบี่ พร้อมที่พักจากโรงแรมเชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท 2 คืน