MSN on July 14, 2013, 04:04:02 PM
เครือไทยออยล์จับมือมิตซุยแอนด์คัมปนีต่อยอดธุรกิจเป็นผู้บุกเบิกด้านการผลิตสาร LAB ที่ครบวงจรที่สุดรายแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
          - เปิดตัวบริษัทร่วมทุน ในนามบริษัท LABIX จำกัด เป็นผู้ผลิตสาร LAB ด้วยนวัตกรรมล่าสุดของ UOP ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยที่สุดในโลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
          - ลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทยนำพาประเทศสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
          - ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยการลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสาร LAB ต่อปีถึง 3,500 - 4,000 ล้านบาทและสร้างเม็ดเงินให้ประเทศอย่างน้อย 6,000 ล้านบาทต่อปี



          บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (ไทยออยล์) ผู้นำธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ และ บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด (มิตซุย) บริษัท Trading ชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายการค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่ง หนี่งของประเทศญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ต่อยอดธุรกิจเป็นผู้บุกเบิกด้านการผลิตสาร LAB ที่ครบวงจรที่สุดรายแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดตัวบริษัทร่วมทุนในนาม บริษัท ลาบิกซ์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตสาร LAB (Linear Alkyl Benzene) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและสารซักล้างด้วยนวัตกรรมล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท

          การร่วมทุนในครั้งนี้จัดเป็นโครงการใหญ่ระดับชาติระหว่างไทยและญี่ปุ่นของปีนี้ นอกจากจะทำให้เกิดการสร้างงานและเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวแล้วยังช่วยลดการขาดดุลการค้าและค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสาร LAB ถึง 3,500-4,000 ล้านบาทต่อปี และสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างน้อย 6,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้มากขึ้นเพื่อรองรับการเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี แล้วยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยญี่ปุ่นชื่นชมประเทศไทยว่ามีไมตรีจิตมิตรภาพ นอกเหนือจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มากด้วยศักยภาพ

          นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของเครือไทยออยล์ ในการเป็นผู้นำธุรกิจเชิงบูรณาการด้านการกลั่น และปิโตรเคมีที่มีความต่อเนื่องอย่างครบวงจรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กอรปกับพันธกิจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่บนพื้นฐานแห่งความเชื่อมั่นเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน มุ่งเน้นหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมตลอดระยะเวลาในการทำธุรกิจเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน บริษัทฯ โดยบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ ดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี จึงได้จับมือกับ บริษัท มิตซุย แอนด์คัมปนี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ค้า สาร LAB (Linear Alkyl Benzene) รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการก่อตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อผลิตสาร LAB ได้เป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าสารดังกล่าวจากต่างประเทศแล้วยังสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างน้อย 6,000 ล้านบาทต่อปี ช่วยสร้างงานและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชน”

          “เครือไทยออยล์ได้เริ่มทำการศึกษาการเพิ่มมูลค่าสารเบนซีน และพบว่าอนุพันธ์ของสารเบนซีน (Benzene Derivative) ที่มีศักยภาพทางธุรกิจและเหมาะสมกับเครือไทยออยล์ที่สุด คือ สาร LAB ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและสารซักล้าง โครงการผลิตสาร LAB ใช้วัตถุดิบหลัก คือสารเบนซีน (Benzene) และน้ำมันก๊าด (Kerosene)ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของเครือไทยออยล์ โดยกระบวนการผลิตทั้งหมดจะถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับโครงสร้างการผลิตของเครือไทยออยล์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะทำให้โครงการมีความได้เปรียบในด้านการผลิตเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นๆ นอกจากนี้เครือไทยออยล์ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตของบริษัท UOP ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมีความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นที่ยอมรับอย่างสูงในอุตสาหกรรม LAB และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้นล่าสุด เพื่อให้ได้หน่วยผลิต LAB ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีต้นทุนการผลิตต่ำและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ นอกจากนี้สถานที่ตั้งโครงการอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของประเทศ เนื่องจากสามารถขนส่งสินค้าได้ทั้งทางทะเล และทางรถยนต์ ทำให้บริษัทสามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าทั้งในประเทศและส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวีรศักดิ์กล่าวเสริม

          นายคาซุยะ โอกามูระ เจ้าหน้าที่และประธานฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด กล่าวว่า “มิตซุยแอนด์คัมปนีมีประวัติยาวนานกว่า 40 ปีในการค้า LAB โดยทางบริษัทได้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนพื้นฐานของความไว้วางใจ โดยไม่มีบริษัทอื่นใดที่สามารถทำการตลาดมาได้อย่างยาวนานเช่นมิตซุยแอนด์คัมปนี โดยในปัจจุบัน ทางบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนการตลาดได้เกินกว่า 40% สำหรับตลาดในประเทศไทย จากความรู้, ประสบการณ์, บุคลากรและการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทางบริษัทได้ประยุกต์สร้างธุรกิจผ่านการร่วมลงทุนล่าสุดกับไทยออยล์ใน LABIX ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ LABIX ทางบริษัทจะเข้าทำการสนับสนุนทางด้านการขายและการตลาด แม้ว่าเราไม่สามารถที่จะเจาะจงถึงลูกค้าได้ในวันนี้ กล่าวได้ว่าลูกค้าที่สำคัญจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตผงซักฟอกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น เวียตนาม, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยพม่านั้นจะเป็นจุดต่อไปในอนาคต”

          “LABIX จะเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ผลิตวัตถุดิบสำหรับผงซักฟอก โดยทางบริษัทรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงทุนรวมถึงมีส่วนร่วมในโครงการนี้กับไทยออยล์ จากการใช้วัตถุดิบจากโรงกลั่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงเป็นการผลิตภายในประเทศเพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้ลักษณะการประกอบกิจการมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง ทั้งยังได้รับการขับเคลื่อนจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยทางด้านการปฏิบัติการจากไทยออยล์ และด้านการตลาดจากมิตซุยแอนด์คัมปนี โดยทางบริษัทมีความเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก อันเนื่องจากเป็นการเพิ่มมูลค่าให้เคมีพื้นฐานจากโรงกลั่น รวมถึงเป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนในบริเวณนั้นด้วย โดยทาง LABIX จะเริ่มจำหน่าย LAB ให้กับลูกค้าในช่วงเวลาเดียวกับที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2015 ทางบริษัทอยากที่จะเน้นย้ำว่าโครงการนี้จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับไทยออยล์และมิตซุยแอนด์คัมปนี รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่น” นายโอกามูระกล่าวเพิ่มเติม

          “ตลาดของสาร LAB มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความต้องการสารทำความสะอาดและสารซักล้าง โดยความต้องการสาร LAB ในตลาดโลกปี 2555 อยู่ในราว 3.2 ล้านตันต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 2-3% ต่อปี หรือมีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณ 70,000 – 100,000 ตันต่อปี โดยเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก และเริ่มมีการยกระดับคุณภาพการดำรงชีวิต ความต้องการสาร LAB ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2555 อยู่ในราว 400,000 ตันต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 3% ต่อปี ผู้บริโภครายใหญ่คือประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์และไทย โดยโรงงานผลิตสาร LAB ในภูมิภาคฯ นี้ มีอยู่เพียงแห่งเดียว ทำให้ภูมิภาคฯ นี้ มีการนำเข้าสาร LAB สูงถึง 250,000 ตันต่อปี ฉะนั้นบริษัท ลาบิกซ์ จำกัดจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายคาซุยะ โอกามูระ กล่าวเสริม

          สาร LAB เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสารเคมีขั้นปลาย (Downstream Fine Chemical Product) กลุ่ม Surfactant ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในอุตสาหกรรมผงซักฟอกและสารซักล้าง เครือไทยออยล์ โดยบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด จึงได้พิจารณาแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ที่จะเข้าร่วมสนับสนุนโครงการและพบว่า บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการตลาด LAB เป็นอย่างดี จุดแข็งในด้านการผลิตของเครือไทยออยล์ และเครือข่ายการตลาดที่เข้มแข็งของมิตซุยจึงเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกันให้เกิดความได้เปรียบและความแข็งแกร่งทางธุรกิจ จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัท ลาบิกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในการบริหารจัดการธุรกิจ LAB โดยบริษัทร่วมทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้นนี้ถือหุ้นโดย บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด และบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 75 และ 25 ตามลำดับ

          บริษัท ลาบิกซ์ จำกัด มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศเป็นหลัก เพื่อทดแทนการนำเข้า และจากทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมยังสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังมีการนำเข้าสูงได้อีกด้วย โดยบริษัท ลาบิกซ์ จำกัด จะทำการตลาดร่วมกับบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พบปะลูกค้า และแลกเปลี่ยนข้อมูลการตลาด
« Last Edit: July 16, 2013, 08:50:31 AM by MSN »

MSN on July 16, 2013, 08:50:53 AM
Thaioil Group and Mitsui & CO.,LTD announce the business collaboration aiming to establish the only first and fully integrated LAB plant in Thailand and in Southeast Asia
 
          - Establish Joint Venture Company under the name LABIX Company Limited with the latest technology from UOP - currently considered the most advanced and efficient process in the world for LAB production
          - Investment with the total cost of 12,000 million Baht to establish LAB plant in Thailand, helping enhance Thailand economic growth.
          - Strengthen Thailand economic and competitiveness by substituting LAB import amount of 3,500 – 4,000 million Baht per year while creating the country’s revenue at least 6,000 million Baht per annum

          Thaioil Group is a leader of fully integrated refinery complex, recognized as one of the most efficient refining and petrochemical companies in the Asia Pacific. Thaioil Group via Thai Paraxylene Company Limited (TPX) - a wholly-owned subsidiary of The Group in tandem with Mitsui & CO.,LTD (Mitsui) - the world’s top notch trading Japan-based company, have established the first and only fully integrated LAB project in Thailand and Southeast Asia. Thaioil Group via TPX and Mitsui have set up the Joint Venture Company under the name of LABIX Company Limited with investment cost of 12,000 million baht. LABIX Company Limited is a LAB (Linear Alkyl Benzene) manufacturer, using the latest technology from UOP. LAB is a key raw material for fabric and homecare manufacturing. Under business collaboration between Thailand and Japan, the company creates more jobs and enhance economic growth by substituting LAB import amount of 3,500 – 4,000 million Baht per year. Generating additional income at least 6,000 million Baht to Thailand, LABIX can enhance Thailand’s competitiveness to achieve a leading position when entering into the ASEAN Economic Community (AEC).

          Mr.Veerasak Kositpaisal, Chief Executive Officer and President, Thai Oil Public Company Limited said “Thaioil Group aims to be a leading fully integrated refinery and petrochemical complex in Asia Pacific, with the vision of sustainable growth and development. To achieve our goal, Thaioil Group by TPX – one of the Thaioil Group’s wholly owned Petrochemical manufacturing subsidiary, in connection with Mitsui & CO.,LTD - the leading LAB trader in the region, to form LABIX Company Limited. As not only the first LAB producer in the country, LABIX also the first fully integrated LAB plant in Southeast Asia. Additionally, the project will help substitute LAB import, generate country revenue at least 6,000 million Baht, create more jobs and improve community life’s quality.”

          “Thaioil Group has explored how to develop a value-added product from Benzene, discovering that LAB is the high value Benzene derivative that has promising business potential and perfectly fit with the Group since we can upgrade both Kerosene and Benzene into higher value product. LAB is a surfactant product categorized in Downstream Fine Chemical Product and a major ingredient in fabric and homecare business e.g. detergent and dish washing liquid. This LAB plant facilities - not only production plant but also other infrastructures, will be fully integrated with Thaioil Group to maximize the synergy value for most efficient operation. We utilize the latest and the most advanced UOP technology for our world-class LAB production to ensure its higher efficiency, safe production and environmentally friendly, helping strengthen our competitiveness in business. With a strategic location of LAB plant, LABIX is a hub to distribute LAB product to both domestic market and export effectively to reduce the deficit for Southeast Asia market.” Mr.Veerasak mentioned.

          Mr.Kazuya Okamura, Managing Officer, Chief Operating Officer Basic Chemicals Business Unit said, “Mitsui has a long history spanning over 40 years handling LAB. Throughout that time, we have managed to build firm relationships with our customers on the basis of trust. There is no other company like us that has marketed LAB in this sort of front-line capacity for such an extended time. Today we are maintaining over a 40% share of the Thai domestic market. With knowledge, experience, human resources and business partner assets, we firmly apply ourselves toward building the corporate value of LABIX, this latest joint venture with Thaioil. We recognize that we are expected to contribute in the area of sales and marketing, in regard to our participation in the LABIX project. Though we must refrain from mentioning the names of specific buyers today, we can say that our main customers will be detergent manufacturers in Thailand and other Southeast Asia countries such as Vietnam, the Philippines and Malaysia as well as Myanmar in the near future”.

          “LABIX is the first plant to produce raw materials for detergent that will be built in Thailand. Accordingly, it is our great joy and honour to be able to invest and participate in this project together with Thaioil. With raw material supplies coming from a refinery located on the same site, the project formulates a local production for local consumption business model that brings high competitiveness, driven by the powerful partnership consisted of Thaioil handling plant operations and Mitsui assuming sales. We consider it indeed a very good project, for it’s value added to the basic chemicals coming from the refinery and can simultaneously contribute to the economic growth of local communities, as well as a better standard of living for the people in the area. LABIX will start selling product to customers in Thailand and other countries in the region to be in line with the ASEAN Economic Community drawing near in 2015. We are firmly convinced that this project will be a significant milestone for Thaioil and Mitsui, as well as for our respective nations of Thailand and Japan”, added Mr.Kazuya.

          He continued, “LAB market is closely related to the demand for detergent and other cleaning agent. Global LAB demand in 2012 was around 3.2 million Ton, with growth rate of 2-3% or 70,000 to 100,000 Ton per year. Asia is the growth market, thanks to its population growth and also improves in the standard of living. LAB demand in Southeast Asia in 2012 was approximately 400,000 Ton with 3% growth rate. Major consumer is Indonesia, Vietnam, Thailand and Philippine. There is only one existing LAB producer in this region, so this region has to import LAB up to 250,000 Ton per year. Therefore, LABIX will contribute to the country's economic stability and sustainable development.”

          LAB is a surfactant product categorized in Downstream Fine Chemical Product and a major ingredient in fabric and homecare business e.g. detergent and dish washing liquid. Thaioil Group by Thai Paraxylene Company limited (TPX) joined force with Mitsui & CO., LTD, a leading LAB trader in Southeast Asia as a strategic partner. With an expertise of petrochemical manufacturing of Thaioil Group and strong global trading network of Mitsui, a great collaboration of the two companies are formed under the name LABIX Company Limited, a 75:25 Joint Venture between TPX and Mitsui.

          LABIX Company Limited will firstly focus on domestic market for self-sufficient consumption as well as to substitute LAB import and then to fill the net deficit market of Southeast Asia. LABIX will conduct marketing activities together with Mitsui & CO., LTD.