อนันดา ฯ ดึงยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “กลุ่มมิตซุย” ร่วมทุน เดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่มาตรฐานระดับสากล -เผยบริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่มีเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,800 ลบ.
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศการลงนามสัญญาร่วมทุน กับบริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่มือหนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น พร้อมดึงจุดแข็งพันธมิตรด้านโนฮาวน์ต่างประเทศ มุ่งอัพเกรดอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่มาตรฐานระดับสากล หลังนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก เผยบริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่มีเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,800 ลบ.อนันดาฯเข้าถือหุ้นร้อยละ 49
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR)เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยมียอดรายได้ 1.445 ล้านล้านเยน หรือ 1.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ การร่วมทุนในครั้งนี้มาจากการที่มิตซุยฯมองเห็นศักยภาพของตลาดไทยและศักยภาพของอนันดาฯ โดยในอนาคตผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและนำความรู้ใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาสินค้าอยู่ตลอดเวลาจะสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้เซ็นสัญญาข้อตกลงเพื่อการร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และด้วยความตั้งใจในการนำความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญใหม่ๆ มาดำเนินธุรกิจร่วมกัน อันนำมาซึ่งการยกระดับอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ระดับสากลในระยะเวลาอันใกล้
ส่วนความชัดเจนในการร่วมทุนในครั้งนี้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มมิตซุย 49%และนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นในสัดส่วน 2% ที่เหลือ ในบริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด
“การร่วมทุนทางธุรกิจในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้ยักษ์ใหญ่อย่าง มิตซุย ฟุโดซัง มาเป็นพันธมิตรในการสนับสนุนทางธุรกิจ ซึ่งมิตซุย ฟุโดซัง เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของอนันดาฯ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านการเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง ซึ่งนอกจาก อนันดาฯ จะมีโอกาสได้เรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ ที่น่าสนใจแล้ว ด้วยจุดแข็งของมิตซุย ฟุโดซัง ทำให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ได้รับจากการร่วมทุนในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้อนันดาฯสามารถนำความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวสู่ระดับระดับสากลตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน โดยจะเริ่มโครงการแรกภายในปีนี้ครับ” นายชานนท์กล่าว