ซอร์สไฟร์ย้ำธุรกิจควรปรับกลยุทธ์ รู้เขา รู้เรา รับศึกจากภัยคุกคามที่มองไม่เห็น
ซอร์สไฟร์ เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับภัยคุกคาม พร้อมแนะนำเกร็ดความรู้ในการปกป้องธุรกิจให้รอดพ้นความเสี่ยงจากภัยคุกคาม ที่อาศัยช่องจากแนวโน้มการต่อขยายเครือข่ายในองค์กรธุรกิจปัจจุบันเพื่อ อำนวยความสะดวกในการแบ่งปันระบบงานและข้อมูลร่วมกันผ่านจุดเชื่อมต่อจากภาย นอกองค์กร รวมถึงการใช้อุปกรณ์โมบายเพื่อเข้าถึงระบบงานและข้อมูลองค์กร
สุธี อัศวสุนทรางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทย และอินโดจีน บริษัท ซอร์สไฟร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันไม่มีแผนรักษาความปลอดภัยใดที่สมบูรณ์แบบ และก็ยังมีอีกหลายองค์กรที่ยังไม่ตระหนักว่าการหย่อนความปลอดภัยของระบบเป็น เรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และไม่ได้จับประเด็นเรื่องดังกล่าวมารวมไว้ในกลยุทธ์การป้องกันในภาพรวม พร้อมกับคิดไปเองว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถปิดทุกช่องโหว่จากการโจมตีได้ หมด และหันไปมุ่งเน้นที่การทำทุกวีถีทางเพื่อป้องกันองค์กรจากภัยคุกคามที่ สามารถมองเห็นได้”
“ในขณะที่มีการวิจัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่องว่า การโจมตีในหลายๆ ครั้งสามารถเจาะผ่านลำดับชั้นในเครือข่ายและหลุดลอดผ่านผลิตภัณฑ์รักษาความ ปลอดภัยจากจุดเชื่อมต่อปลายทางหรือเอ็นด์พอยท์เข้ามาได้ สิ่งนี้นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจ ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีให้มากยิ่งขึ้น เพราะยังมีภัยคุกคามที่มองไม่เห็นและหลุดรอดเข้าสร้างความเสียหายได้อยู่ การเตรียมพร้อมยังรวมไปถึงการปิดช่องทางไม่ให้ภัยคุกคามที่หลุดเข้ามสามารถ สร้างความเสียหายได้ และต้องสามารถกู้ระบบให้กลับมาสู่สภาวะที่น่าเชื่อถือได้อีกครั้ง”
ใน การเตรียมสภาวะป้องกันให้พร้อม ซอร์สไฟร์ใช้กลยุทธ์ในการมุ่งเน้นที่ภัยคุกคามเป็นหลัก เพื่อช่วยลูกค้าตอบโต้ภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าภัยคุกคามจะกลับมาใหม่หรือเพิ่งเจาะเข้ามาได้ ทั้งนี้ สุธี ยังได้ให้มุมมองเกี่ยวกับเกร็ดความรู้ในการเตรียมการรับมือการโจมตีหลักๆ ในประเด็นต่างๆ ได้แก่
- องค์กรควรตระหนักถึงข้อได้เปรียบของผู้โจมตี ปัจจุบันเครือข่ายมีการต่อขยายระบบออกไปมาก ทั้งเรื่องของเวอร์ชวล คลาวด์ และระบบโมบาย ทำให้พื้นฐานการทำงานยากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรจะมีการวางแผน ติดตั้งแพทช์ และควบคุมการใช้งาน
- มีมุมมองเกี่ยวกับรอบนอกเครือข่าย ในยุคแห่งการแบ่งปันข้อมูลหรือระบบงานร่วมกัน รวมถึงการใช้ระบบร่วมกับอุปกรณ์มือถือ การป้องกันแต่รอบนอกเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ องค์กรควรเพิ่มคุณลักษณะใหม่ไว้ในระบบป้องกันเครือข่ายและบริเวณรอบเครือ ข่าย เช่นระบบป้องกันการบุกรุก สามารถช่วยกำจัดภัยคุกคามที่ซ่อนตัวอยู่บนเว็บและโมบายแอพได้ด้วย
- กำจัดจุดบอด บ่อยครั้งที่การตอบโต้เหตุคุกคามที่เกิดขึ้นจะใช้เวลาช่วงสำคัญช่วงแรกหลาย ชั่วโมงกับการพยายามหาว่าเกิดอะไรขึ้น ธรรมชาติของระบบเครือข่ายแบบขยาย ทำให้องค์กรธุรกิจต้องกลับมาทบทวนถึงเรื่องความสามารถในการรับรู้ความเป็นไป ในเครือข่ายและควบคุมสินทรัพย์ขององค์กรให้ได้ เพื่อที่ว่าผู้ป้องกันจะทราบล่วงหน้าว่าจะต้องทำอะไรบ้างหากเกิดวิกฤติขึ้น ในระบบ
“เหล่านี้ นับเป็นมุมมองสำคัญ ที่องค์กรธุรกิจควรตระหนัก เพื่อให้เข้าใจถึงธรรมชาติของภัยคุกคาม พร้อมทั้งหาวิธีการและโซลูชั่นเหมาะสมที่จะรับมือกับภัยคุกคามที่ไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการขาดมุมมองและความเข้าใจเกี่ยวกับภัยคุก คามในยุคปัจจุบัน” สุธี กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับซอร์สไฟร์
ซอร์สไฟร์ อิงค์ (Nasdaq: FIRE) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นอัจฉริยะเพื่อการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ กำลังเปลี่ยนวิถีในการช่วยให้องค์กรทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก จัดการและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเครือข่าย ด้วยโซลูชั่นจากแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายอันล้ำสมัยเพื่อ อป้องกันมัลแวร์ขั้นสูง ซอร์สวฟร์นำเสนอระบบรักษาความปลอดภัยที่คล่องตัว (Agile Security®) ให้กับลูกค้า เพื่อการปกป้องได้ทันต่อเหตุการณ์จริง และทันต่อภัยคุกคามใหม่ๆ ที่เข้ามาโจมตี ซอร์สไฟร์ได้รับความเชื่อถือมากว่า 10 ปี อีกทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในแง่นวัตกรรมและความเป็นผู้นำ อุตสาหกรรม ด้วยสิทธิบัตร งานวิจัยระดับโลก และเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลมากมาย ปัจจุบัน ซอร์สไฟร์เติบโตและมีชื่อเสียงในแง่ของการมีนวัตกรรม และอัจริยภาพด้านการรักษาความปลอดภัย ให้การปกป้องและรักษาความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอร์สไฟร์ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
www.sourcefire.com Sourcefire, โลโก้ Sourcefire, Snort, โลโก้ Snort และ Pig, Agile Security และโลโก้ Agile Security, ClamAV, FireAMP, FirePOWER, FireSIGHT ตลอดจนเครื่องหมายการค้าและโลโก้อื่นๆ เป็นเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Sourcefire, Inc ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ ประเทศอื่นๆ ชื่อบริษัท ผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการของผู้อื่น
