เรื่องย่อ: “รักข้ามเส้น”
ประเภท โรแมนติก-คอมมาดี้
บทประพันธ์ ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บทโทรทัศน์ ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ผู้กำกับ ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
บริษัทผู้ผลิต บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน) ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูกๆ ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็กๆ ส่งขายอีกด้วย โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้นม.6 แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่ ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป
ฟาก ชาคริต (เฟิร์ส) หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายโทนของ คุณหญิงพจนีย์ ซึ่งถูกมารดาบังคับให้คบกับ พิมพ์สิริ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและการศึกษา และที่สำคัญเลยก็คือ เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่าเช่นเดียวกับตระกูลของชาคริตอย่างที่คุณหญิงพจนีย์ต้องการ คุณหญิงพจนีย์ต้องการให้สาวๆ ที่หมายตาชาคริตรู้ว่าชาคริตมี คนรักที่เหมาะสมอยู่แล้ว จึงบังคับเขาพาพิมพ์สิริออกงานสังคม โดยยอมแลกข้อแลกเปลี่ยนกับชาคริตว่าคุณหญิงจะยอมให้เขาไปสอนพิเศษตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันเขาจะต้องเข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรมที่คุณหญิงเป็นเจ้าของ ทั้งๆที่ชาคริตไม่ชอบงานบริหารเอาเสียเลย ชาคริตจึงต้องจำใจยอมไปงานสังคมกับพิมพ์สิริแทบจะรายวัน
ชาคริตอึดอัดมากเมื่อต้องอยู่ในงานสังคมสวยหรูแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน ขาดความจริงใจต่อกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์สิริเผลอเขาจึงหลบออกมาจากงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก หมอนิธิ เพื่อนสนิทของเขาที่มางานสังคมด้วย พอออกมาจากงานได้แล้วชาคริตเกิดหิวขึ้นมาจึงแวะเข้ามากินบะหมี่ที่ร้านของอมร เพราะถึงเขาจะเกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่า แต่ชาคริตก็ชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ เมื่อฟ้ามุ่ยเห็นชาคริตก็หลงรักเขาทันที แต่เธอก็ทำได้แค่แอบมองเขา ส่วนชาคริตไม่ได้สนใจฟ้ามุ่ยเลย
นับตั้งแต่ชายหนุ่มในฝันจากไป ฟ้ามุ่ยก็เศร้าใจมาก นวล ฟ้าลั่น ฟ้าใส และฉัตร ต่างเป็นทุกข์ไปกับฟ้ามุ่ย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฟ้าใสจึงออกความคิดให้ฟ้ามุ่ยลองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันดูบ้าง เผื่อว่าสักวันที่ฟ้ามุ่ยได้เจอชายในดวงใจจะได้ไม่ต้องแห้วอีก
ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจขออมรไปเรียนต่อพราะหวังจะเอาวิชาความรู้กลับมาช่วยขยายกิจการร้าน อมรยอมให้ฟ้ามุ่ยเรียนได้ เพราะใจจริงเขาก็ต้องการให้ลูกสาวมีการศึกษาไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปเรียนเมื่อปิดร้านแล้วเท่านั้น เพื่อไม่ให้งานทางร้านเสียหาย เพราะฟ้ามุ่ยเป็นตัวหลักของกิจการร้านบะหมี่อยู่ ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคค่ำแทนภาคปกติ
และที่เรียนภาคค่ำนั่นเอง ฟ้ามุ่ยก็ได้พบกับชาคริตอีกครั้ง เพราะชาคริตเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือที่นั่น เมื่อได้พบชายในฝันอีกครั้ง ฟ้ามุ่ยจึงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ชาคริตสนใจ เธอเริ่มแต่งหน้า แต่งตัวมากขึ้น โดยมีฟ้าใสและฉัตรคอยช่วยเหลือแนะนำ
จากที่เคยเป็นอีเพิ้ง ฟ้ามุ่ยก็เริ่มสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจนเป็นที่แปลกใจของอมรมาก อมรจึงพยายามซักถามฟ้ามุ่ยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรูปแปลงโฉมของลูกสาวในครั้งนี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ อมรจึงแอบไปจ้างพล ชายหนุ่มที่เปิดร้ายขายข้าวมันไก่อยู่ข้างๆ ร้านบะหมี่ของอมรให้คอยแอบตามดูพฤติกรรมของฟ้ามุ่ยทุกระยะ แต่พลเกิดมาหลงรักฟ้าใสเข้า จึงถูกฟ้าใสชักชวนเข้าเป็นพวกที่คอยให้ความช่วยเหลือให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังในรักกับชาคริต โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าพลไม่ช่วยกันปิดบังเรื่องฟ้ามุ่ยกับชาคริตแล้ว ฟ้าใสจะไม่ยอมรับรักพล พลจึงกลายเป็นสายให้พวกฟ้ามุ่ยเสียแทน
ฝ่ายชาคริตเมื่อมาได้สอนหนังสือภาคค่ำให้ฟ้ามุ่ย เขาก็ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น รู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนและจริงใจเพียงใด แล้วเขาก็ตกหลุมรักฟ้ามุ่ยในที่สุด ฟ้ามุ่ยตื่นเต้นมากที่ชาคริตหันมาสนใจเธอ แต่เธอก็กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าเธอคือสาวร้านขายบะหมี่ที่เขาเคยมองเมินมาแล้ว เธออาจจะผิดหวังในรักครั้งนี้ก็ได้ ฟ้ามุ่ยจึงหลอกชาคริตว่าเธอเป็นลูกเศรษฐี
ชาคริตชวนฟ้ามุ่ยออกเดทหลายครั้ง ความรักของฟ้ามุ่ยกับชาคริตดูเหมือนจะงอกงามดี แต่ฟ้ามุ่ยก็ไม่สบายใจเรื่องที่โกหกชาคริตว่าเธอคือใคร จนเธอเกือบจะหลุดปากบอกวามจริงก็หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ
นวลเห็นลูกสาวมีทุกข์จึงบอกฟ้ามุ่ยว่าก่อนที่ความรักของเธอจะก้าวไปไกลกว่านี้ ฟ้ามุ่ยควรจะบอกความจริงกับชาคริตเสีย เพราะคนเราถ้าคิดจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ควรจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับชาคริตในวันออกเดทกันวันหนึ่งว่าเธอคือยายเพิ้งที่ขายบะหมี่ที่ชาคริตเคยมองเมินคนนั้น และเมื่อได้รู้ความจริงอย่างงี้แล้วชาคริตยังอยากจะคบเธอต่อไปหรือไม่ ชาคริตอึ้งไป ฟ้ามุ่ยจึงคิดว่าชาคริตผิดหวังเมื่อรู้ความจริงว่าเธอคือใครจึงวิ่งหนีไป
เหล่าพี่น้องและแม่ต้องพากันช่วยปลอบใจฟ้ามุ่ยกันเป็นการใหญ่ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น วันๆเอาแต่เศร้าซึม ทำบะหมี่ให้ลูกค้าๆ ผิดๆ ถูกๆ จนถูกลูกค้าต่อว่า ยิ่งทำให้ฟ้ามุ่ยเครียดมากขึ้นไปอีก ในที่สุดฟ้ามุ่ยก็ตัดสินใจจะย้ายไปเรียนที่อื่นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าชาคริตให้ช้ำใจอีก
ฝ่ายชาคริตหลังจากหายตกใจแล้วก็พยายามจะตามหาฟ้ามุ่ยเพื่อปรับความเข้าใจ แต่กลับพบว่าฟ้ามุ่ยย้ายไปเรียนที่อื่นเสียแล้ว ชาคริตก็เศร้าใจมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาจึงตัดสินใจแอบค้นที่อยู่ของฟ้ามุ่ยจากใบสมัครเข้าเรียนจนรู้ว่าฟ้ามุ่ยอยู่ที่ไหน แล้วแอบไปดักเจอฟ้ามุ่ยที่หน้าบ้าน ฟ้าลั่นกับพลเห็นชาคริตมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวบ้านก็คิดว่าเป็นโจร จึงช่วยกันรุมซ้อมชาคริต แต่ฟ้ามุ่ยกลับมาเจอจึงห้ามไว้
ฟ้ามุ่ยตกใจมากที่เห็นว่าคนที่ถูกรุมซ้อมจนสะบักสะบอมนั้นคือชาคริตจนทำอะไรไม่ถูก ชาคริตจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจลูกร้านขายบะหมี่อย่างเธอเลย แต่วันนั้นที่เขาเงียบไปหลังจากรู้ความจริงว่าฟ้ามุ่ยคือใครแล้วนั่นก็เป็นเพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่มองผ่านเลยผู้หญิงดีๆอย่างฟ้ามุ่ยไปได้ และชาคริตขอโอกาสให้เขาได้กับมาคบกับฟ้ามุ่ยอีกสักครั้ง ฟ้ามุ่ยอึ้งไป ชาคริตเลยคิดว่าฟ้ามุ่ยยังโกรธเขาอยู่ จึงตัดสินใจพิสูจน์รักแท้ของเขาด้วยการขอฟ้ามุ่ยแต่งงาน !
ฟ้ามุ่ยตกใจมาก ! เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ชอบลูกคนรวยอย่างชาคริต แต่ชาคริตไม่หวั่น เขากลับบอกฟ้ามุ่ยว่าเมื่อเขารักแล้ว เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเป็นอันขาด และเขาจะต้องเอาชนะใจว่าที่พ่อตาของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหนก็ตาม
ฟ้ามุ่ย นวล ฟ้าลั่น ฉัตร ฟ้าใส และพลจึงช่วยกันออกอุบายให้ชาคริตปลอมตัวเป็น "ชาติ" หนุ่มกำพร้าเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานบะหมี่ของอมร ยอมทำงานใช้แรงงานอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ชาคริต ตอบตกลง
เอาละสิ !!! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แรงงานโรงงานบะหมี่อย่าง “ชาคริต” จะสามารถเอาชนะใจ ว่าที่พ่อตาแม่ยาย ได้หรือไม่ และการฟันฟ่าอุปสรรคนานับประการของทั้งคู่ จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ติดตามรับชมละคร “รักข้ามเส้น” ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 18.45 – 20.00 น. เริ่ม วันศุกร์ที่ 22 มีนาคมนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จ้า