KTAMจ่ายปันผลKTSE2บาทต่อหน่วย พร้อมขาย2กองทุนตราสารหนี้ชู1ปี3.20%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผล ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยซีเล็คทีฟ อิควิตี้ฟันด์ (KTSE) ครั้งที่2/2556 ในวันที่ 23 เมษายน นี้ ในอัตรา 2.00 บาทต่อหน่วย ซึ่งในปีนี้จ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 3.50 บาทต่อหน่วย กองทุนKTSE มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในสัดส่วนไม่เกิน 30 หลักทรัพย์ เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด และจากการจัดอันดับกองทุนของ Morningstar กองทุน KTSE มีผลตอบแทนสูงเป็นอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม
สำหรับผลการดำเนินงาน นับตั้งแต่ต้นปี ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2556 อยู่ที่ 30.54% ในขณะที่ผลการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ที่ 12.15% ผลการดำเนินงานที่ดีของกองทุน KTSE เกิดจากการที่บริษัทได้เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่ผู้จัดการกองทุนมองเห็นว่าบริษัทเหล่านี้ สามารถทำกำไรได้ในอนาคต มีปัจจัยพื้นฐานดี และเป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากทางภาครัฐ หลังจากที่ภาครัฐไม่ได้มีการลงทุนในส่วนนี้มานานนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง และยังมีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าว และหุ้นในกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับประโยชน์นอกจากปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น เช่น กลุ่มท่องเที่ยว ขนส่ง และกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าอาเซียนด้วย (AEC)
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงเดือนเมษายน ตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูง แต่บริษัทเห็นว่าแนวโน้มในระยะยาวของตลาดยังคงดีอยู่ และถือว่าเป็นการปรับฐานหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าลงทุน ประกอบกับภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจโลกก็เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัทได้ให้เป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ 1,755 จุด
นอกจากนี้ บริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ และต้องการลงทุนในกองทุนที่มีกำหนดระยะเวลา บริษัทจึงมีการเปิดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และในสัปดาห์นี้ จะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 34 (KTFF34 ) ในวันที่ 18-23 เมษายน 2556 อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ในเงินฝากประจำ Bank of China , ECP ค้ำประกันโดย SBER Bank , MTN ออกโดย Itau Unibanco S.A. และECP ค้ำประกันโดย VTR Bank ในสัดส่วน 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือลงทุนตราสารในประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำธนาคารธนชาต และ หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน /บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.20% ต่อปี
พร้อมทั้ง อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6เดือน1 ( KTSIV6M1 ) เป็นกองทุนประเภท Roll Over ถึงวันที่ 22 เมษายนนี้ อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก/ บัตรเงินฝาก/ ตั๋วแลกเงินของธนาคารออมสิน , ธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ในสัดส่วน 43% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่A- ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี สามารถซื้อผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ