MSN on April 03, 2013, 05:36:11 PM
KTAMโชว์ผลงานไตรมาส1AUMโตกว่า8%  กองทุนอสังหารั้งแชมป์ปีนี้ขยายอีก9หมื่นล.

              นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า    บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  ณ  วันที่  15 มีนาคม  2556   ประมาณ 460,845 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2555  ประมาณ 8.10%   จากการที่บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่อง  นับตั้งแต่ต้นปี มียอดขายประมาณ  40,000  ล้านบาท    ไม่รวมกองทุน  Money  Market   นอกจากนี้  ยังได้เปิดจำหน่ายกองทุน ETF  ที่อิงหมวดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์  กลุ่มแบงก์  พลังงานและอาหาร  กองทุนทริกเกอร์ฟันด์   2  กองทุน   มียอดขายประมาณ 4,500  ล้านบาท กองทุนอ้างอิงเงินเฟ้อ  ขายได้ 1,800 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท   และกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์  คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์   ซึ่งอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย  ถึงวันทื่ 2 เมษายนนี้   โดยมีธนาคารซิตี้แบงก์เป็นตัวแทนการจำหน่ายหลัก

                ทั้งนี้  จากยอดขายกองทุนตั้งแต่ต้นปี  นับว่าบริษัทได้รับการตอบรับและความไว้วางใจที่ดีจากลูกค้า  พร้อมทั้งบริษัทได้รับความร่วมมือที่ดีจากธนาคารกรุงไทยและตัวแทนการจำหน่าย ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของบริษัททำให้มียอดขายเพิ่มสูงขึ้น

                  ส่วนแผนการดำเนินงานในไตรมาส2  ธุรกิจกองทุนรวม บริษัทยังคงเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการ และ Roll  Over  อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับลูกค้าที่กองทุนครบกำหนดอายุ และต้องการลงทุนต่อเนื่อง    นอกจากนี้  จะเปิดจำหน่ายกองทุน ETF ที่อิงหมวดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีก 2 กองทุน  ได้แก่   กองทุนเปิด KTAM SET Commerce ETF Tracker (ECOMM)  และกองทุนเปิด KTAM SET ICT ETF Tracker (EICT)   
 
                    ทางด้านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ อยู่ในระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย และตลาดหลักทรัพย์   (ก.ล.ต.)  เพื่อเพิ่มทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทย คอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นท์  ( TCIF)      มูลค่า  25,155  ล้านบาท  สำหรับลงทุนใน เอ็มไพร์ ทาวเวอร์  , แอทธินี ทาวเวอร์  ,  อาคาร208 และไซด์เบอร์  เวิล์ด   รัชดา    และ จะยื่นขออนุมัติแก้ไขโครงการกับก.ล.ต. เพื่อเพิ่มทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทย รีเทล อินเวสเม้นท์  ( TRIF)   มูลค่า 18,420 ล้านบาท  เพื่อลงทุนใน  Asiatique the River Front  ,  Pantip ประตูน้ำ  ,  Pantip บางกะปิ ,   Pantip เชียงใหม่ ,  ตะวันนาบางกะปิ    และ OP Place       ซึ่งคาดว่ากงล.ต.  จะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ในการอนุมัติเพิ่มทุนโครงการดังกล่าว     นอกจากนี้  คาดว่าจะยื่นขอจัดตั้งกองทุนใหม่ประเภทโรงแรมมูลค่า 18,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 2  สำหรับ Infrastructure fund คาดว่าจะยื่นขอจัดตั้งกองแรกได้ในไตรมาส 2 มูลค่า 2000 ล้านบาทเป็นทรัพย์สินประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก   ทั้งนี้  คาดว่า  ในส่วนของกงอทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้ จะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้น ประมาณ 90,000 ล้าบบาท

       นายสมชัย  กล่าวถึง  การลงทุนในตลาดตราสารหนี้  และค่าเงินในไตรมาส 2 และครึ่งปีหลังของปี 2556  ว่า
 จากการที่เศรษฐกิจไทยยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ในขณะที่ฝั่งยูโรโซนและสหรัฐอเมริกายังคงมีความเสี่ยงและกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้คงเป็นในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ทำให้คาดว่าในไตรมาส 2  เม็ดเงินลงทุนต่างชาติทั้งเม็ดเงินลงทุนเดิมและเม็ดเงินใหม่จากการทำ QE (Quantitative Easing) จะยังคงหมุนเวียนอยู่ในตลาดตราสารหนี้ไทยและทำให้อัตราผลตอบแทนมีการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ในขณะที่ครึ่งปีหลังหากมีตราสารหนี้ออกใหม่ในตลาดเพิ่มมากขึ้นและเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนและสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัว ก็อาจมีเม็ดเงินลงทุนไหลออกหรือย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น และทำให้อัตราผลตอบแทนมีความผันผวนมากขึ้น

ในส่วนของค่าเงินจากการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆ ที่ใช้วิธีเพิ่มสภาพคล่องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น ทำให้มีโอกาสที่จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยอีก ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้อีก และสร้างแรงกดดันทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและการเมืองให้ กนง. ต้องลดดอกเบี้ยลง  ขณะที่เงินเฟ้อในประเทศยังไม่สร้างแรงกดดันนัก อัตราเงินเฟ้อไทยที่ประกาศล่าสุดก็มีแนวโน้มลดลงด้วย โดยอยู่ที่ 3.2% ในเดือน ก.พ. จาก 3.4% ในเดือนก่อน และในด้าน Supply ก็ยังไม่สร้างแรงกดดันมากนัก การใช้จ่ายใน พรก. บริหารจัดการน้ำฯ ก็ยังไม่เห็นเด่นชัด ทำให้การกู้ยืมอาจไม่มากตามที่คาดไว้   อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงินเฟ้อจะชะลอลง และเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ในระดับที่ค่อนข้างดี   แม้ว่าจะชะลอจากปีก่อนก็ตาม   ทำให้การลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นยังไม่จำเป็น หากแต่การลดดอกเบี้ยนั้นอาจกลับไปสนับสนุนการกู้ยืมที่มากเกินความจำเป็นและบั่นทอนเสถียรภาพเศรษฐกิจในอนาคต

                   ในปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนประเภทตราสารทุน  ทั้งทริกเกอร์ฟันด์ ที่สามารถคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วยก่อนครบกำหนดอายุโครงการทุกกองทุน   กองทุนเปิดกรุงไทยซีเล็คทีฟ  อิควิตี้ ฟันด์  ( KTSE )  ที่มีผลตอบแทนสูงที่สุดในอุตสาหกรรมประเภทกองทุนตราสารทุน   โดยล่าสุดผลตอบแทน YTD   ณ วันที่  27  มีนาคม   อยู่ที่ 30.23 %   

                  สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2556  มองว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดในช่วงต่อจากนี้ไป อาจเผชิญแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนได้เป็นระยะๆ โดยเฉพาะภายหลังจากที่หุ้น ส่วนใหญ่มีการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่  และเมื่อผลการดำเนินงานของบริษัทที่ประกาศออกมาไม่สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนของ KTAM จะเน้นที่การคัดเลือกหุ้น (Stock Selection) โดยการประเมินมูลค่าหุ้นเทียบเคียงกับปัจจัยพื้นฐาน  คุณภาพของการทำกำไร (Quality of Earnings) ที่มาจากความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและยอดขาย  มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี เพื่อลดความผันผวนของผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก  และมีราคาที่เหมาะสม    โดยมองโอกาสการเติบโตของบริษัทในระยะ 3-5 ปี มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีมผู้จัดการกองทุนและทีมวิจัยของบริษัทในการคัดกรองหุ้นที่จะเข้าลงทุน โดย KTAM เชื่อว่าจะเป็นหนทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนและเป็นหนทางหนึ่งในการช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ในระยะยาว นอกเหนือจากการปรับสัดส่วนการลงทุน  (Asset  Allocation)  ให้สอดคล้องกับภาวะการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป

               เป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) สิ้นปี 2556 KTAM คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1,750 จุด (PER ประมาณ 16เท่า) โดย Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังถือว่าไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ทางฝ่ายวิจัยของ KTAM คาดว่า อัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 2556 จะอยู่ที่ระดับประมาณ 22% และให้อัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณ 3%