pooklook on January 27, 2013, 08:19:12 PM
เมื่อวันที่ 21-23 กันยายน 2555  ได้มีโอกาสไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานกับเพื่อนๆ ค่ะ

ตอนแรกก็งงๆ ว่าที่นี่ชื่ออะไรกันแน่ เพราะตอนเพื่อนชวนบอกไปเขาสก ไปถึงที่ก็เป็นเขื่อนรัชชประภา

พอไปถึงที่พัก เค้าบอกว่ายินดีต้อนรับสู่เขื่อนเชี่ยวหลาน  ความเป็นมายังไงก็ไม่ทราบนะคะ ยังไม่ได้หาข้อมูลเลย

แต่ว่าชอบชื่อเขื่อนเชี่ยวหลาน เลยขอใช้ชื่อเรื่องแบบนี้แล้วกันค่ะ
 

ออกเดินทางคืนวันศุกร์ อาศัยนอนบนรถตู้ที่เหมาไป ตื่นมาตอนเช้าก็ถึงที่หมายแล้วค่ะ เขื่อนรัชชประภา

ก็แวะดูวิวกันที่บริเวณจุดชมวิวซักหน่อยค่ะ...นี่เพื่อนร่วมทริปค่ะ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ ก็มีกล้องกะเค้าเหมือนกัน



แดดไม่มีเลยค่ะ กลัวว่าฝนจะตก เลยเอากระเป๋าใส่ถุงดำก่อนเอาลงเรือกัน



ไม่มีรูปป้ายเขืื่อนมาโชว์นะคะ ถ่ายได้รูปสองรูปนุ้ยก็ไปเดินหาร้านกาแฟสดแล้วค่ะ ปรากฏว่าเจอแต่กาแฟโบราณ
ก็เลยลองซื้อมาชิม หวานมากๆ ค่ะ เพื่อนบอกร้านกาแฟโบราณที่กินที่ตลาดก็หวานเจี๊ยบเหมือนกัน แล้วก็เดินจ๋อยๆ
ไปขึ้นรถเพื่อลงไปที่ท่าเรือ เหมือนเคย...เพื่อนๆ ถ่ายรูปกัน นุ้ยก็ไปเิดินหาร้านกาแฟสดต่อ เลยไม่มีรูปท่าเรือกับเค้า
แถวร้านขายของที่ระลึกมีกาแฟสดอยู่ร้านนึงค่ะ ได้กาแฟแล้วก็ขึ้นเรือเลย เราต้องไปแพที่พักกันด้วยเรือแบบนี้ค่ะ



นั่งเรือชมวิวไปเพลินๆ ซักพักก็ถึงแล้วค่ะ แพเพลินไพร



เรามาเป็นกรุ๊ปใหญ่ ได้นอนหลังใหญ่ตรงกลางค่ะ มี 5 ห้องนอน นอนกันห้องละ 4 คน ที่นี่ไม่มีสัญญานมือถือทุกค่ายค่ะ
นุ้ยว่าก็ดีนะคะ ทำให้พวกเราได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่เอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังมือถือกันหมด สำหรับห้องน้ำ
จะเป็นห้องน้ำรวม ตั้งอยู่บนเขาโน่นค่ะ เดินไกลเอาการเหมือนกัน เรือคยัคทางแพเค้ามีไว้ให้ใช้ฟรีนะคะ


pooklook on January 27, 2013, 08:21:03 PM
กิจกรรมส่วนใหญ่ของเราก็คือ การเล่นน้ำค่ะ...ไปถึงเที่ยง ทานอาหารที่ทางแพจัดไว้ให้เสร็จ ก็เริ่มโดดน้ำกันแล้วค่ะ





ด้วยการที่ต้องคร่ำเคร่งกับหน้าที่การงาน เหนื่อยล้ากับการใช้ชีวิตประจำในเมืองกรุง การได้ทำอะไรแบบนี้ มันก็มีความสุขมากๆ
เล่นน้ำกันลืมอายุไปเลย...บ่ายๆ เราก็นั่งเรือไปชมถ้ำปะการังกัน เรือลำเดิมกับตอนที่มานั่นแหล่ะค่ะ  รอบนี้เจอฝนตกหนักมาก
โชคดีที่เอาถุงกันน้ำใส่กล้องไปด้วย...มะล่อกม่ะแล่กลงจากเรือแล้วก็ต้องเดินตากฝนข้ามเข้าไปอีก 1 ลูก เพื่อไปต่อแพค่ะ



ฟ้าจะเปิด เป็นช่วงๆ



เพราะฝนตก เลยทำให้มีหมอก (มั้ง) คะ...เราใช้แพสองลำ ลำละสิบคนค่ะ


pooklook on January 27, 2013, 08:23:48 PM
จะเข้าถ้ำ ก็ต้องเดินขึ้นเขาไปอีกนิด....สัมภาระเค้าให้ทิ้งไว้นอกถ้ำนะคะ เข้าไปแต่ตัวกับกล้อง ข้างในถ้ำมืดมากค่ะ
จะมีคนขับแพของเราเป็นผู้นำชมถ้ำ พีเค้าจะถือหลอดไฟนีออนเดินนำเราเข้าไปชมข้างใน



ถามพี่เค้าว่าทำไมไม่ติดไฟข้างใน...เค้าบอกว่าหินงอกหินย้อยมันจะตายค่ะ...หินงอกรูปช้าง



หินย้อยปลายหักหมดละ



ตรงนี้พี่เค้าบอกว่า มีคนบอกว่ารอยหินตรงนี้เหมือนพระสมเด็จฯ เค้าเลยนำเงินมาวางบูชากัน



ถ้ำไม่ใหญ่มาก เดินชมแป๊บเดียวก็รอบแล้วล่ะค่ะ  ชมถ้ำเสร็จก็นั่งแพกลับ ข้ามเขาอีกลูก(ฝนตกทำให้ทางลื่น เดินลำบากเหมือนกันค่ะ
โชคดีที่ใส่รองเท้าสำหรับเดินเขามาด้วย ส่วนคนอื่นที่มาด้วยรองเท้าแตะลื่นคนจะปื้ดสองปื้ด มอมแมมไปตามๆ กัน) กลับถึงแพก็เย็นพอดี
เล่นน้ำต่อแทนการอาบน้ำไปเลยค่ะ มื้อเย็นทางแพเค้าก็จะจัดเตรียมไว้ให้จะเป็นพวกปลาทอด ผัดผัก ไข่เจียว แกงเหลือง
ผลไม้ บางอย่างก็เติมได้ไม่อั้น ที่นี่มีไฟฟ้าใช้ถึงห้าทุ่มนะคะ จากนั้นก็จะดับไฟแล้วค่ะ

happy on January 31, 2013, 11:58:37 AM
สวยจัง แต่ไม่กล้าไป ::)