pooklook on January 27, 2013, 05:45:58 PM
 วิถีชีวิตที่เร่งรีบจนขาดความพิถีพิถันในการบริโภค ของคนในปัจจุบันโดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิศ อันเป็นบ่อเกิดของโรคภัยต่างๆ มากมายตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า เคยมีสถิติว่า 90% ของคนเมืองมักมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นโรคยอดฮิตอย่าง โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบ ท้องผูก ที่ดึงเอาความสุขของชีวิตไปไม่น้อย เพราะลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่เป็นอวัยวะสำคัญของกระบวนการย่อย การอักเสบของลำไส้เล็กเป็นอาการที่เกิดร่วมกับโรคกระเพาะอาหาร ส่วนสำหรับคราวนี้ขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เสียก่อน

        โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เกิดจากการระคายเคืองที่ลำไส้ได้รับเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาของระบบย่อยอาหาร มักพบบ่อยในช่วงอายุประมาณ 15-30 ปี และมักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาการ คือ ผนังลำไส้บวม อักเสบ ทำให้มีเลือดออกทางทวารหนัก เกิดอาการปวดท้องและมีอาการท้องเดินกะทันหันเนื่องจากลำไส้บีบตัว คนที่เป็นโรคนี้มักมีปัญหากับการถ่ายอุจจาระ คือถ่ายบ่อยไม่เป็นเวลา เจ็บทุกครั้งที่ถ่าย เมื่อเรื้อรังนานเข้าทำให้เป็นโลหิตจางเนื่องจากเสียเลือดมาก อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยโรคนี้มีอาการอักเสบรุนแรง ต้องผ่าตัดเอาลำไส้บางส่วนออก แล้วจึงรักษาลำไส้ในส่วนที่เหลือต่อไป ความน่ากลัวของลำไส้ใหญ่อักเสบยังไม่หมดเพียงเท่านี้ การเกิดแผลและการเสียดสีบริเวณที่อักเสบนานๆ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายอันดับต้นที่คร่าชีวิตคนกินดีอยู่ดีมานักต่อนัก

        การสังเกตเบื้องต้นช่วยค้นพบโรคได้ด้วยตัวเอง ลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่ค่อยๆ เป็นทีละน้อย อาการบ่งชี้เริ่มแรกคือ ปวดอุจจาระบ่อย ถ่ายไม่เป็นเวลา วันหนึ่งๆอาจเข้าห้องน้ำนับสิบครั้ง แต่อาจถ่ายออกมาไม่ออกบ้าง อาการแบบนี้อาจเรื้อรังอยู่หลายปี ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปรับพฤติกรรม ก็จะทำให้มีเลือดออกมากับอุจจาระ ท้องเสียกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าปล่อยไว้เรื้อรังไปเรื่อยๆแผลที่เกิดในลำไส้จะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นและมีโอกาสหายน้อยลง ดังนั้นคนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายดังที่กล่าวมาควรรีบปรึกษาแพทย์

        แม้สาเหตุที่แท้จริงของการอักเสบนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าพฤติกรรมที่สร้างปัญหาให้ลำไส้ใหญ่คือ การกินอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย อาหารรสจัด กินไม่เป็นเวลา และความเครียด ซึ่งทำให้การย่อยอาหารที่กระเพาะและลำไส้เล็กแปรปรวน ลำไส้ใหญ่เกร็งตัว ถูกกระตุ้นมากกว่าปกติเพื่อดูดซึมน้ำและถ่ายอุจจาระออกมา อีกทั้งอาหารที่แข็งและย่อยยากยังสร้างความระคายเคืองให้กับผนังลำไส้อีกด้วย ดังนั้นการอักเสบของลำไส้ใหญ่เป็นคล้ายกับการประท้วงว่าคุณใส่ใจร่างกายตัวเองน้อยเกินไป

    คนที่เป็นลำไส้ใหญ่อักเสบต้องใส่ใจอาหาร ควรกินหรือไม่ควรกินอะไรบ้าง   

     สิ่งที่ควรกิน ผลไม้สุกนื้อนิ่ม เช่น มะละกอ กล้วยสุก และผักใบเขียว เช่นคะน้า กวางตุ้งต้มสุก เพื่อให้ได้โฟเลตและใยอาหารที่ละลายน้ำได้
     สิ่งที่ควรกิน ฟักทอง แครอทต้มสุก เพื่อให้ได้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน
     สิ่งที่ควรกิน ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน เพื่อให้ได้วิตามินดีและบี 12
     สิ่งที่ควรกิน อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ปลา กุ้ง หอย ผักกูด ผักโขม เพื่อชดเชยการสูญเสียเลือด

     สิ่งที่ควรงด ผักผลไม้ดิบที่ย่อยยาก ถั่วและธัญพืชเปลือกแข็ง
     สิ่งที่ควรงด ผลไม้รสจัด มีความเป็นกรดสูง เช่น สับปะรด
     สิ่งที่ควรงด อาหารไขมันสูง และนม เนย
     สิ่งที่ควรงด อาหารรสจัดทุกชนิด


         ปรับเปลี่ยนชีวิตเพื่อพิชิตโรค โรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาหายในคราวเดียว แต่จะดีขึ้นได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน มีการศึกษาว่า การกินอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ เช่น ผัก ผลไม้ที่ปรุงสุก จะช่วยบรรเทาการอักเสบได้เป็นอย่างดี และอาหารที่ให้สารอาหารประเภทโปรตีน วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 12 โฟเลต แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี อย่างหลากหลายและเพียงพอช่วยสร้างความแข็งแรงแก่ผนังลำไส้และปรับระบบการย่อยอาหารให้คงที่ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก สร้างความระคายเคืองให้กับลำไส้อันได้แก่ รำข้าว ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช ข้าวโพดหวาน แม้ว่าจะมีประโยชน์มาก แต่ควรกินเมื่อลำไส้ของเราปรับตัวดีขึ้นแล้ว

          ในคนที่เป็นลำไส้ใหญ่อักเสบมักพบว่ามีโลหิตจางด้วย เนื่องจากมีเลือดออกบริเวณที่อักเสบตลอดเวลา จึงควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงและวิตามินซี เพื่อให้ร่างกายดูดซึมเหล็กมาใช้ได้อย่างเต็มที่ สิ่งสุดท้ายอย่าลืมหาวิธีคลายเครียดพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าให้ความเร่งรีบของชีวิตช่วงชิงสุขภาพที่ดีไปจากคุณอีกเลย


ที่มา http://women.thaiza.com/