QTC ตั้งเป้ารายได้ปี56 แตะ 1,000 ล้านบาท งัดกลยุทธ์ทั้งใน และ ต่างประเทศ ดึงมาร์จิ้นเพิ่ม
บมจ.คิว ทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ คาดยอดขายโต 20% ด้าน CEO “ พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ” มั่นใจรายได้ปี 56 มีอัตราการเติบโตของรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท เผย เตรียมเข้าประมูลงานรัฐราว 4,000 ล้านบาท ในเร็วๆนี้มุ่งแผนการลงทุนร่วมกัน ระหว่าง HYDRO, AGE และ UAC คาดอีก 6 เดือนรู้ผล
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประมาณการณ์รายได้ปี 2556 ที่ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% โดยแบ่งสัดส่วนในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในเบื้องต้นคาดว่าจะบริหารจัดการให้ได้ไม่ต่ำกว่าปี 2555
ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนการที่จะบุกตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ , อินโดนีเซีย และบรูไน เนื่องจากตลาดในประเทศดังกล่าว เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และยังเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนงานในประเทศนั้น บริษัทฯยังคงเน้นในการประมูลงานของหน่วยงานภาครัฐ และงานเอกชนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการ เตรียมความพร้อมในการเข้าประมูลงาน โดยมีมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท และในเบื้องต้นคาดว่าจะชนะงานประมูลเข้ามาไม่ต่ำกว่า ปี 2555 ใน ปัจจุบัน บริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) กว่า 220 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นทั้งภายในและนอกประเทศอย่างต่อ เนื่อง
“ส่วนแผนการขยายตลาดภายในประเทศนั้นบริษัทฯ จะทำการผลิตหม้อแปลงที่ต้นทุนต่ำจากการใช้ลวดอลูมิเนียม ซึ่งมีราคาถูกกว่าทองแดงประมาณ 15-20% เพื่อเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าที่เน้นเรื่องราคาถูกเป็นหลัก แต่เรายังคงรักษาคุณภาพของ QTC ตามมาตรฐานทุกประการ
นายพู ลพิพัฒน์ ยังได้กล่าวอีกว่าปี 2556 นี้ทางบริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท ชไนเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนผลิตและขายหม้อแปลงไฟฟ้าแบบแห้ง (Dry Type) ซึ่งคาดว่าจะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ไม่ต่ำกว่า 20% ภายในปีนี้ และภายในปี 2556-2558 ทางบริษัทฯได้วางแผนมุ่งเน้นทำตลาดในกลุ่ม VSPP อีกทั้งวางแผนมุ่งเน้นทำตลาดที่มี Margin สูง เช่นตลาด EPC, Oil & Gas
และภายในปี 2556 ทางบริษัทฯจะพัฒนาศูนย์ดูแลและบริการลูกค้าให้กลายเป็นหน่วย Profit Center โดยมีเป้าหมาย 100 ล้านบาท
ส่วน แผนความคืบหน้า กรณีการลงทุนร่วมกัน ระหว่าง HYDRO, AGE และ UAC นั้น นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า แผนการร่วมมือดังกล่าวจะเริ่มความชัดเจนภายใน 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งหากการร่วมมือของโครงการดังกล่าวเป็นรูปธรรมแล้ว จะทำให้ส่งเสริมศักยภาพของบริษัทฯให้มีรายได้เติบโตยิ่งขึ้น
อย่าง ไรก็ตาม บริษัทฯมีนโยบายที่จะปรับปรุงศักยภาพขององค์กร โดยการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ TQM ให้เป็นระดับ World Class โดยดูจากผลงานที่จะการันตรีคุณภาพมาตรฐานต่างๆที่ทางบริษัทฯได้รับ อาทิ ISO 9001, 14001, OHSAS 18001 และ ISO/IEC 17025 ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพที่เป็นเลิศ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
