KTAMขายกองทุนกำหนดอายุโครงการพุ่ง58% ชวนล๊อกเงินลงทุนยาว1ปีชูผลตอบแทน3.50%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการที่ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 121,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ประมาณ 58% ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการบริหารกองทุนของบริษัทที่สามารถให้ผลตอบแทนตามที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และเป็นการเพิ่มทางเลือกทางด้านการลงทุน โดยในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 29 ( KTFF29 ) ระหว่าง วันที่ 16-22 มกราคม 2556 อายุโครงการ 1 ปี เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินใน UAE/ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ประมาณ 44% และตราสารหนี้ของสถาบันการเงินชั้นนำในรัสเซีย และบราซิลประมาณ 45% ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนไทยที่มีอันดับเครดิต BBB+ ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.50% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.75% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ผลกระทบที่มีต่อตลาดตราสารหนี้ไทย ทำให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาวปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2-7 basis points และเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมีลักษณะลาดชันขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตราสารหนี้ต่างประเทศ ในส่วนของตราสารระยะสั้นค่อนข้างทรงตัวแต่มีโอกาสปรับลดลงเนื่องจากสภาพคล่องที่ไหลเข้ามาพักเงินในตราสารรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี โดยผลการประมูลพันธบัตรรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังคงสะท้อนถึงความต้องการลงทุนที่มีอยู่สูง ซึ่งปัจจัยหนุนสำคัญคือ กระแสเงินไหลเข้าของนักลงทุนต่างประเทศ โดยนับจากต้นปี นักลงทุนต่างประเทศมีการถือครองตราสารหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท รวมเป็นยอดคงค้าง 7.32 แสนล้านบาท หรือประมาณ 8.64% ของมูลค่าตลาดคงค้างของตราสารหนี้ที่จดทะเบียนใน ThaiBMA โดยเน้นถือครองตราสารรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี สำหรับภาวะการลงทุนในต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนของตราสารสกุลเงินต่างประเทศปรับลดลงจากสภาพคล่องที่มีอยู่สูง แต่ผลจากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ต้นทุนสุทธิการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสะท้อนอยู่ในรูปของค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยมยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงชดเชยทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับลดลงไม่มากนัก
นอกจากนี้ บริษัทยัง อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 4 (KTSIV6M4 ) ถึงวันที่ 18 มกราคม นี้ เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนภายในประเทศ เช่น เงินฝาก / บัตรเงินฝาก ธนาคารออมสิน ธนาคารเกียรตินาคิน และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 2.75%ต่อปี