เรื่องย่อ : “หยกเลือดมังกร”

“กรีน” ปลื้มผู้ใหญ่ให้โอกาสป้อนงานต่อเนื่อง โวความรัก “เคลลี่” แฮ้ปปี้หวานแม้ห่างกัน


 
          นางเอกดาวรุ่ง 7 สี ที่ผู้ใหญ่ทางช่องป้อนงานให้อย่างต่อเนื่อง สำหรับนักแสดงสาวที่เติบโตมาจากบ้านเอเอฟ “กรีน – อัษฏาพร สิริวัฒน์ธนกุล” หรือว่า “กรีน เอเอฟ 5” เพราะหลังจากละครเรื่อง “ขุนเดช” ลาจอไป ก็มีละครเรื่อง “หยกเลือดมังกร” ต่อเลยทันที ซึ่งพอมารับบทในละครเรื่องนี้ เจ้าตัวถึงกับบ่นว่าเป็นงานยาก เพราะว่าต้องเล่นเป็นสาวเปรี้ยว ซึ่งขัดกับบุคลิกของตนเป็นอย่างมาก

แต่พอถามเรื่องความรักสาวกรีนก็บอกว่าแฮ้ปปี้สุดๆ แม้จะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยกับ “เคลลี่ ธนะพัฒน์” แต่ความหวานไม่มีจืดจาง เรียกว่าดวงรุ่งทั้งงานและความรัก

          “กรีนต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านมากๆ ที่ให้โอกาสกรีนทำงาน พอจบละครเรื่องขุนเดชก็มีละครเรื่องหยกเลือดมังกรต่อเลย ตอนนี้กรีนกำลังทำการบ้านเกี่ยวกับคาแรคเตอร์สาวเปรี้ยวในหยกเลือดมังกรอยู่ ซึ่งเป็นอะไรที่กรีนไม่ถนัดเพราะส่วนตัวกรีนไม่ใช่สาวเปรี้ยว ออกจะซุ่มซ่ามด้วยซ้ำ ก็เลยกดดันตรงส่วนนี้นิดหน่อย แต่เชื่อว่าพอได้เล่นไปสักพักทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทาง จะพยายามทำออกมาให้ดีถูกใจแฟนละคร”

          เรื่องละครเรื่องงานกำลังรุ่ง แล้วเรื่องรักของกรีนเป็นยังไง? ... “แฮ้ปปี้ดีค่ะ ต่างคนต่างทำงานไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก เพราะถ่ายละครทั้งคู่ ก็จะใช้วิธีโทรศัพท์คุยกัน ติดต่อกันตลอด แล้วก็ดูละครที่พี่เคลลี่เล่น อย่าง ละครเกิดเป็นหงส์ ช่วยโปรโมทซะเลย (หัวเราะ) คนที่บ้านกรีนก็ดูนะ แต่พอเวลาพี่เคลลี่เล่นฉากร้ายมากๆ คนที่บ้านกรีนก็จะไม่ดู บอกว่าพี่เคลลี่เล่นร้ายเกินไป (หัวเราะ) แต่ถ้าเรามีเวลาว่างตรงกันก็จะมีไปทานข้าว ไปดูหนัง ไปทำบุญไหว้พระด้วยกันบ้าง”

พระเอก ‘พอร์ช’ ล้มป่วยก็ยอม ทุ่มสุดตัว เพื่อ ‘หยกเลือดมังกร’






 
          ตั้ง อกตั้งใจกับเรื่อง “หยกเลือดมังกร” ละครบู๊ดราม่าเข้มข้นกันแบบสุดๆ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพระเอกของเรื่อง “พอร์ช – ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ที่ชีวิตต้องไปพัวพันกับแก๊งค์มาเฟีย แถมยังต้องบู๊เตะต่อยเกือบทั้งเรื่อง งานนี้ผู้จัด “ธงชัย ประสงค์สันติ” แห่งค่าย “พอดีคำ” น่าจะมอบถ้วยรางวัลนักแสดงดีเด่นให้ “หนุ่มพอร์ช” เพราะเจ้าตัวทุ่มสุดตัว จนร่างกายพีคจัดรับไม่ไหว ถึงขนาดต้องพักกองเลยทีเดียว “ในเรื่องนี้ผมชื่อ หยก ครับ เป็นผู้ชายที่ยึดมั่นอยู่ในความยุติธรรม ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แล้วไม่ยอมใคร สู้ไม่ถอยแม้จะต้องหลังชนฝา เป็นคนจีนเป็นสายเลือดมังกรโดยแท้จริง แล้วชีวิตมีจุดเปลี่ยนต้องเข้ามาอยู่ในแก๊งค์มาเฟียอะไรประมาณนี้ เนื้อหาละครเป็นละครบู๊ดราม่า เข้มข้น สนุกมากครับ ผมชอบเล่นดราม่าอยู่แล้ว คิดว่าบทแบบนี้ท้าทายดี ถ้าเราเล่นดราม่าได้ก็สามารถเล่นได้หลากหลายบทบาท

          คิวบู๊ เรื่องนี้เยอะที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาแล้ว ที่ผ่านมายังไม่ค่อยบู๊เท่านี้ อันนี้ทั้งเตะทั้งต่อยถือปืน ครบสูตรแก๊งค์มาเฟีย เป็นอารมณ์จีนๆ หน่อย ยิ่งเวลาผมใส่ชุดจีนยิ่งหล่อ ( หัวเราะ ) ใส่แล้วเชื่อมากว่าเราเองเป็นคนจีน”

          หักโหมทุ่มสุดตัวจนไม่สบาย ต้องพักกอง ?

          “ร่วง เลยครับ ( หัวเราะ )จริงๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ผมว่าร่างกายมันคงไม่ไหว อีกอย่างนอนน้อย ป่วยมาเป็นอาทิตย์ๆ ครับ มีวันนึงที่ร่วงคากองถ่ายเลย ต้องหยุดกองไปเลย พอหายก็กลับมาถ่ายใหม่เหมือนเดิมครับ แฟนๆ ตกใจเหมือนกัน แต่เค้าเข้าใจกันแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ผมทุ่มเทให้เรื่องนี้มาก อยากให้ออกมาดี อยากให้คนดูกันเยอๆ แม้จะต้องล้มหมอนนอนเสื่อก็ยอม พี่ธง ( ธงชัย ประสงค์สันติ ) สอนตลอดให้เล่นให้เต็มที่ เล่นทุกซีนให้เต็มที่อย่าได้มองข้าม ผมก็เต็มที่ครับตามที่พี่เค้าบอก”

          “หยกเลือดมังกร” ท้าทุกสายตาในวันพุธที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ

‘เจมส์’ ไม่กดดันรับบทพ่อ ปลื้ม อยากร่วมงาน ‘พอดีคำ’ นานแล้ว


   
           อยู่ในวงการมานาน “ เจมส์ – เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” เพิ่งจะสบโอกาสอันดีได้มาเล่นละครให้กับค่าย “พอดีคำ” ในละครเรื่อง “หยกเลือดมังกร” แถมบทบาทในเรื่อง “เจมส์” ยังได้รับบทเด่นไม่แพ้พระเอก เจ้าตัวเป็นปลื้มไม่น้อยที่ผู้จ้ด “ธงชัย ประสงค์สันติ” เอ่ยปากว่าบท “เจ้าสัวเล้ง” ต้องเป็น “เจมส์” เท่านั้น

          “ บท เจ้าสัวเล้ง เป็นเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ เติบโตมาจากการรับมรดกตกทอดของตระกูล เจ้าสัวเล้งต้องสานต่อทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม แต่มันก็มีมาเฟียอีกกลุ่มที่คอยจ้องทำร้าย ใครที่เป็นภรรยาเจ้าสัวเล้ง หรือลูกหรือคนที่เกี่ยวข้องจะโดนฆ่าหมด ตัวบทในเรื่องผมว่าไม่ยากเท่าไหร่ เล่นบู๊ยากมากกว่าเพราะมีความเป็นบู๊สุดๆ กว่าทุกเรื่องที่เคยเล่นมา บู๊ทุกรูปแบบ ใช้ปืน เตะต่อย มีครบครับกังฟูก็มี

          “ เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกที่ผมเล่นเป็นคนจีน ทั้งๆที่เป็นคนจีนนะ แต่ไม่เคยเล่นเป็นคนจีนเลย ด้วยความที่เราเป็นคนจีนก็ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมของคนจีนได้ง่ายขึ้น สำหรับบทพ่อไม่ใช่เรื่องแรกนะครับ เคยเล่นมาแล้วไม่ได้รู้สึกอะไร บทแม่ยังเคยเล่นเลย เจมส์มองที่บทมากกว่าถ้าบทดีบทเด่นรับเล่นเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องนี้ตอนติดต่อมาแทบไม่ต้องคิดเลย เพราะอยากร่วมงานกับ พอดีคำ มานานมากแล้ว เคยเห็นงานของค่ายนี้มาก่อนรู้สึกว่าเป็นงานคุณภาพ ไม่ต้องคิดเยอะลุยเลย โดยเฉพาะเรื่องนี้ พี่ธง ( ธงชัย ประสงค์สันติ ) กำกับเองด้วย พี่ธงเก่งมากครับ สามารถทำอะไรที่ดูแล้วสนุก ถูกปากคนไทย วิธีการทำงานของกองนี้ เค้ามีความอารมณ์ดีกันหมดขำขันเฮฮากัน บรรยากาศเหมือนเล่นๆ แต่งานออกมาดีคุณภาพมาก สำคัญที่สุดเลยผู้กำกับเก่งครับ ยังไงเจมส์ฝากละคร หยกเลือดมังกร ด้วยครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งบทบาท ปกติเวลาเล่นละครเรื่องอะไร ผมมักจะสร้างสรรค์ตัวละครใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในใจคนอยู่เสมอ บทบาทนี้เป็นอีกครั้งที่ผมเชื่อว่า คนดูจะต้องคิดและเชื่อว่า เจ้าสัวเล้ง มีตัวตนจริงๆ ครับ”

          “เจ้าสัวเล้ง” จะติดตราตรึงใจแฟนละครหรือเปล่า ติดตามได้หลังข่าวทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี ทางช่อง 7 สี ใน “หยกเลือดมังกร”

ผู้จัด ‘ธงชัย’ การันตี ‘หยกเลือดมังกร’ มันส์ทุกตอน


 
          นั่งแท่นกำกับละครสุดยอดฟอร์มยักษ์ด้วยตัวเองเลยทีเดียว สำหรับผู้จัดคุณภาพ“ธงชัย ประสงค์สันติ” ที่ทุ่มเทให้กับละคร “หยกเลือดมังกร” เป็นอย่างมาก เพราะลงทุนเฟ้นหานักแสดงในเรื่อง และ ยังกำกับการแสดงด้วยตัวเองแบบไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ ซักซีนเดียว ละเอียดทุกเม็ดขนาดนี้ ไม่ดูไม่ได้แล้ว

          “ละครเรื่อง “หยกเลือดมังกร” เป็นละครบู๊ดราม่าแอ็คชั่น เป็นบู๊ที่ทุกคนโหยหา สิ่งที่คนดูอยากดูคือความเป็นฮีโร่ของพระเอก โดยมีเงื่อนไขของความรักกับนางเอกและยังมีเรื่องของมาเฟียเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วเป็นละครที่มีครบรสตอบโจทย์ผู้หญิงได้ด้วยเพราะมีดราม่า มีเรื่องรักสามเส้าพระเอกกับนางเอก ยังมีนักแสดงรุ่นใหญ่

          อาดาว - ดวงดาว จารุจินดา, ทองขาว ภัทรโชคชัย, สรุวุฑ ไหมกัน พวกนี้เป็นฟืนชิ้นใหญ่ที่จะโยนเข้ากองไฟ ห้ำห่ำการแสดงเต็มที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องบทไม่กระจาย ผมบอกคนเขียนบทอย่าทิ้งตัวละครเด็ดขาดใน 60 ฉากที่เราจะได้ดู จะได้เห็นพระเอกซัก 40 ฉาก นอกนั้นเฉลี่ยตัวละครทุกตัวไม่ให้หายไป”

          “เรื่องของคิวบู๊ อยากนำเสนอมุมมองใหม่ๆ บ้าง ภาพที่คนยังไม่ค่อยได้เห็น บู๊เลยต่างจากเรื่องอื่นเคยทำมา เรื่องนี้ไม่มีปล่อยแสง เป็นอาวุธเป็นหมัดล้วน หนักกว่าเรื่องที่ผ่านมาเหมือนกัน ต้องคิดฉากบู๊จากปืนมาเป็นหมัด จากหมัดมาเป็นไม้ มีมวยจีน ท่าทางจะออกเป็นจีนๆ สำคัญคือพวกฉากไล่ล่า เลยค่อนข้างยากในการถ่ายทำ เรื่องนี้กำกับเองด้วย คุณภรรยาให้มากำกับเอง ( หัวเราะ ) อยากฝากให้ได้ชมกัน

          “พอดีคำ” ตั้งใจอย่างมาก ทุกขั้นตอนของการทำงาน ขอกำลังใจท่านผู้ชม และขอให้ดูให้สนุก ดูด้วยความมันส์ความสะใจ อยากให้คนดูลุ้นว่าพระเอกจะตัดสินใจยังไง จะเลือกใคร อยากให้ติดตามตัวละครทุกตัว นักแสดงทุกคนในละครเรื่องนี้ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างสะใจและเมามันส์ บางฉากต้องมีเสียน้ำตาแน่ วิธีการแสดงของพวกเค้าจะได้อรรถรสไปอีกแบบ แต่เป็นแบบฉบับของพอดีคำครับ”

          ผู้จัดและผู้กำกับคอนเฟิร์มขนาดนี้ แฟนๆ ต้องติดตามกันให้ได้ “หยกเลือดมังกร” ทุกค่ำคืนวันพุธ และ พฤหัสบดี ทางช่อง 7 สี

‘มิน’ ประทับใจบท ‘กิ่งเหมย’ เปิดตัวเบาๆ ก่อนจะสุดรันทดใน ‘หยกเลือดมังกร’


 
          มา ประเดิมเล่นละครให้ค่าย “พอดีคำ” เป็นครั้งแรกหลังจากผู้จัด “ธงชัย ประสงค์สันติ” หมายมั่นปั้นมืออยากจะได้ “มิน – พีชญา วัฒนามนตรี” มาร่วมงานด้วยนานแล้ว ครั้งนี้สมใจ “มิน” มารับบท “กิ่งเหมย” สาวที่สุดแสนจะรันทดในเรื่อง ก่อนจะไปชมความเข้มข้นของละคร “มิน” มาเผยความรู้สึกที่ได้รับบทเด่นในเรื่องว่า

          “ กิ่งเหมย เป็นเด็กสาวที่เติบโตมาในชุมชนเล็กๆ ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ เข้มแข็งมาก ทำงานช่วยอาม่ามาตั้งแต่เด็ก ชีวิตน่าสงสาร แม่เสียชีวิตต้องอยู่กับอาม่าเล่นโดย อาดาว ( ดวงดาว จารุจินดา ) ในเรื่องยังโชคร้ายอีกพอเป็นสาวสะพรั่งตาก็เริ่มบอด เพราะเป็นกรรมพันธุ์จากแม่ ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องของศึกสายเลือดเกี่ยวกับมาเฟียเจ้าสัว มีการต่อสู้กันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี แต่ก็แอบมีความโรแมนติก พระเอกเค้าจะคอยปกป้องนางเอก กิ่งเหมยกับพระเอกโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนามาเรื่อยๆ แล้วจะเจอบททดสอบให้คนดูได้ลุ้นตลอดเวลา”

          “เป็นครั้งแรกที่ ได้ร่วมงานกับค่ายนี้ แรกๆ เกร็งยอมรับว่าประหม่าบ้าง แต่ต้องปรับตัวให้เร็วที่สุดเพื่อการทำงาน เพราะเราแปลกใหม่อยู่คนเดียว ถ้าเราปรับตัวได้เร็วแค่ไหนงานก็เร็วขึ้นเท่านั้น มาเจอกับทีมงานนี้ที่มีการปรบมือเวลาเล่นได้ดี ชอบมากเลย เป็นกำลังใจที่ดีมาก พอเล่นดีแล้วเค้าปรบมือ อบอุ่นค่ะ เหมือนทำดีแล้วได้ดี เคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้วพี่ๆนักแสดงบางคนเล่าให้ฟัง มินเองก็ศึกษามาว่าบ้างค่ายนี้เค้าทำงานยังไง ที่สุดแล้วเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด พอเราไว้ใจวางใจทีมงานก็ทำให้แสดงออกมาได้เต็มที่ ตอนนี้สนิทกับตากล้องไปแล้วส่งสัญญาณกันใหญ่เลย มุมไหนมินสวย”

          “ยัง ไงฝากละครด้วย หลายๆ คนน่าจะชอบ ในละครถึงตัวละครจะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายก็ยังแอบมีเรื่องโรแมนติก มินร้องไห้เยอะมากตาบวมตลอด ขออ้อนหน่อยค่ะ ช่วงแรกๆ เปิดตัวมายังไม่ค่อยดราม่าเท่าไหร่ ยังน่ารักๆอยู่ เป็นความรักของหนุ่มสาว ยังไงห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะจะมีจุดเปลี่ยนแล้วจะเริ่มดราม่า ทีนี้จะเข้มข้นแล้วค่ะ ติดตามกันให้ได้นะคะ”

          ติดตามให้ได้ว่า “กิ่งเหมย” จะเจออะไรที่ทำให้ชีวิตพลิกผัน ตอนแรก 14 พ.ย. นี้ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ

‘พอร์ช’ ปลื้ม แฟนละครชม ‘หยกเลือดมังกร’ ฝากให้ติดตาม ‘กิ่งเหมย’ ตาบอด ยิ่งเข้มข้น



          กำลัง เข้มข้นเลยทีเดียว ละครเรื่อง “หยกเลือดมังกร” ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายิ่งดูยิ่งเข้มข้น นอกจากแฟนละครจะพูดกันปากต่อปากแล้ว พระเอกของเรื่อง “พอร์ช – ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ยังออกมาการันตีอีกว่าสนุกร้อยเปอร์เซ็นต์ และฝากบอกแฟนๆ ห้ามพลาดแม้ซักตอนเดียว

          “ ละครออกอากาศไปแล้วนะครับ เสียงตอบรับดี ผมได้ดูตั้งแต่วันแรกที่ออกอากาศเลย วันนั้นไปดูกับที่บ้าน พอดีเป็นวันเกิดผมด้วย ได้ดูกันพร้อมหน้าพร้อมตา คนชมเยอะครับ บอกละครสนุก ดีใจมาก เรื่องนี้เต็มที่แล้ว ตอนถ่ายทำก็เต็มที่ ไม่รีบค่อยเป็นค่อยไป ขยี้บทไปเรื่อยๆ ปกติผมเล่นละครจะไม่ค่อยคาดหวัง แต่เรื่องนี้ยอมรับครับว่าคาดหวังเอาไว้เยอะ สุดท้ายแล้วผลจะออกมายังไงไม่ซีเรียส เพราะเราคิดว่าทำเต็มที่แล้ว

          “ อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนนางเอกตาบอด จะยิ่งเข้มข้นมาก เพราะจริงๆ เรารักนางเอกมาก แต่เราทำไม่ดีกับนางเอก ไม่อยากให้กิ่งเหมยรู้ว่าหยกเป็นสายตำรวจ เพราะใครที่เข้ามาพัวพันกับหยกจะยิ่งอันตราย มินเล่นดีมากครับ รับส่งอารมณ์กับผมเต็มที่ ถือเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ อีกอย่างชอบเล่นดราม่าเหมือนกันด้วย ประทับใจทุกๆ ฉากของละครเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นฉากเล็กๆน้อยๆ ก็เก็บหมดเลย บางทีบางฉากผมไม่พูดอะไรเลย กล้องเค้าก็รับให้ ทำให้ตัวละครดูน่าดู อันนี้เป็นคำแนะนำของพี่ธง ( ธงชัย ประสงค์สันติ ) ที่สอนผมตั้งแต่เรื่องแรก ทุกวันนี้ผมก็เอาคำแนะนำของพี่เค้าไปใช้ครับ”

          ฝากละครอีก ครั้งครับ ตอนนี้กำลังเข้มข้นเลย อยากให้ติดตาม สนุกแน่นอน มีครบทุกรส ยังไงฝากด้วย ทางช่อง 7 สี ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี

‘พอร์ช’ กำไรสุดๆ จูบปากสองสาว ‘มิน – กรีน’



          ถือ เป็นศิษย์เอกของค่าย “พอดีคำ” สำหรับพระเอกหนุ่ม “พอร์ช – ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ครั้งนี้เหมือนได้กลับมาโรงเรียนที่ตัดสายสะดืออีกครั้ง เมื่อต้องมารับบท “หยก” ในเรื่อง “หยกเลือดมังกร” กลับมาคราวนี้จะธรรมดาได้อย่างไร ผู้จัดและผู้กำกับ “ธงชัย ประสงค์สันติ” เลยสั่งให้จูบจริงสองสาว “มิน – พิชญา วัฒนามนตรี” และ “กรีน - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” ซะเลย

          “ จูบจริงครับ ( หัวเราะ ) โดนจริงๆ ทั้งสองคนเลยแหละ ตอนถ่ายก็ขอโทษกันไปทุกฉาก เลิฟซีนกับทั้ง มิน และ กรีน มันมีที่มาที่ไปไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปนั่งจูบกัน ในเรื่อง หยก กับ กิ่งเหมย รักกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาหยกเลิฟซีนกับกิ่งเหมยก็จะทำด้วยความรัก แต่หยกบังเอิญต้องมาเป็นลูกน้องเจ้าพ่อ ทำให้ต้องมาเจอ ดุจแพร แล้วเค้ามาชอบเรา บวกกับกิ่งเหมยชอบผลักไสว่าหยกชอบดุจแพร ยิ่งทำให้ดุจแพรเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกชอบ เค้าก็มาจูบเรา เวลาเล่นผมทำความรู้สึกไปตามเนื้อเรื่อง ไม่ได้คิดว่าเค้าเป็น มิน เป็น กรีน คิดว่าเค้าเป็นตัวละครในเรื่องก็เล่นได้ อารมณ์ก็มา ถ้าไปคิดถึงตัวตนจริงๆ ของเค้าจะทำให้เราเขิน ฉากไหนต้องโดนจริงก็ต้องเล่น พยายามไม่ให้เทค เอาให้ครั้งเดียวผ่านเลย”

          “ กับมินสนิทกัน เล่นง่ายหน่อย มินเป็นคนเก่ง เวลาเราเล่นกับคนเก่งๆ เราก็จะเก่งตามไปด้วย รู้กันเรื่องมุมกล้อง ก่อนเข้าฉากมีคุยกันเตี้ยมกัน กับกรีนไม่เคยเจอมาก่อนแต่ไม่มีปัญหา ตอนมาดูมอนิเตอร์เค้าก็เขินนะ เพราะเป็นครั้งแรกของกรีนที่ต้องเล่นเลิฟซีน มีแซวกันนิดหน่อยพอขำๆ ให้บรรยากาศครื้นเครงครับ”

          พูดซะขนาดนี้ เลิฟซีนจะน่าดูและน่าติดตามขนาดไหน ชมกันได้ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ

‘พิม’ ประทับใจ ‘เจมส์ – เชน’ ปล่อยฝีมือเต็มเหนี่ยว ไม่มีใครยอมใคร



          มา ร่วมงานกับ “พอดีคำ” ครั้งแรกก็เจอโจทย์หินซะแล้ว แต่ “พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์” ไม่มีหวั่น เพราะถือเป็นตัวจริงในเรื่องดราม่าอยู่แล้ว เมื่อต้องมารับบท “ดวงแข” ใน “หยกเลือดมังกร” เลยผ่านฉลุย แถมแอบหยอดชม “เจมส์ – เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” กับ “เชน - ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์” ว่าเล่นได้ดี ปล่อยพลังเต็มที่ไม่มีใครยอมใคร

          “ ในเรื่องรับบทเป็นดวงแข เป็นภรรยาเจ้าสัวเล้ง ก่อนหน้านี้เป็นเหมือนผู้หญิงขายตัวนั่นแหละ เป็นคนโลภมาก เอาลูกชาย มานพ มาอ้างว่าเป็นลูกเจ้าสัวเล้ง เพราะอยากให้ลูกได้สมบัติทั้งหมด บทแบบนี้ไม่ค่อยอยากสำหรับพิมนะ แต่มันต้องเรียงลำดับอารมณ์ดีๆ เพราะเรื่องราวมันเยอะซับซ้อน ฉากหินๆ คงเป็นฉากที่ทะเลาะกับลูกชาย แล้วเค้าหันมาด่าเรา ซึ่งเรารักเค้ามากก็เสียใจ แล้วลูกชายยังไล่ออกจากบ้านอีก เรื่องนี้สอนคนดูด้วย รักลูกควรรักให้ถูกทาง ดวงแข สอนลูกให้คดโกง สุดท้ายสิ่งที่ดวงแขสอนลูกเอาไว้ก็มาตกที่ตัวเอง เพราะที่สุดแล้วลูกก็ไม่เอาแม่ ทรยศแม่ตัวเองเพราะลูกก็ยึดเงินทองเป็นหลัก

          “ พูดถึงพี่เจมส์ พี่เค้าเก่งมาก แอ็คติ้งดีมาก บทก็แม่น พิมชอบเล่นคู่กับคนที่มีฝีมือเยอะๆ รู้สึกว่าเล่นแล้วเราจะได้ความรู้และฝีมือจากเค้า พี่เค้าทำการบ้านมาดี มีพลัง เค้าปล่อยมาเต็ม เวลาเราเล่นก็ไม่ยอมเหมือนกัน ทำให้งานออกมาดี ทางด้านเชน เล่นเป็นลูก เค้าก็เก่ง ด้วยความที่วัยใกล้กันเกิน แต่เชนเค้าเชื่อว่าเราเป็นแม่ เวลาเข้าฉากด้วยกัน เชนพูดประจำ เชื่อว่าเราเป็นแม่เค้าจริงๆ ( หัวเราะ ) เล่นยากนะเพราะสนิทกัน เวลาเล่นเป็นแม่ลูกต้องมีสมาธิ ไม่งั้นจะหลุด”

          ฝากละครเรื่อง นี้ด้วยนะคะ ละครเข้มข้นจริงๆ สำหรับคนที่ชอบแนวนี้ “พอดีคำ” ไม่ทำให้คนดูผิดหวังแน่นอน ทุกส่วนลงตัว คุณภาพน้ำดี ชมได้ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลาช่อง 7 สีค่ะ

‘เจมส์’ ติดใจ รุ่นน้อง ‘พอร์ช’ เรื่องหน้าขอเล่นด้วยกันอีก


 
          ได้ มาประกบคู่เป็นพ่อ-ลูกในละครเรื่อง “หยกเลือดมังกร” ก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะความหล่อกินกันไม่ลง สำหรับ “เจ้าสัวเล้ง” “เจมส์ – เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” ที่นอกบทแล้วเอ่ยปากชมพระเอกรุ่นน้อง “พอร์ช – ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ไม่ขาดปาก เรื่องหน้ายังอยากจะปะทะฝีมือกันอีกซะด้วย แบบนี้ผู้จัด “ธงชัย ประสงค์สันติ” จะจัดให้หรือเปล่า

          “ ส่วนใหญ่แล้วคนชอบละครเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะมากนะครับ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของเจมส์ที่ได้กลับมาเล่นละครให้ช่อง 7 ดีใจที่คนพูดถึง หยกเลือดมังกร เยอะ คงเพราะบทละครเรื่องนี้สนุก เดินเรื่องไม่ช้า และตัวละคร เจ้าสัวเล้ง ก็เป็นตัวละครที่หลายๆ คนให้ความสนใจ เท่าที่ได้ฟังมาคนจะชมว่า เจ้าสัวหล่อ เท่ห์ โดยเฉพาะเวลาเล่นบู๊เตะต่อยท่วงทีท่าทางใช้ได้ดูแล้วเท่ห์มาก และยังชอบการแคสติ้งของทีมงานที่เลือกได้เหมาะสม แฟนละครบอกเจมส์กับพอร์ชหน้าคล้ายๆ กัน บางคนค้านในเรื่องหน้าตา เพราะเจมส์ต้องเล่นเป็นคนอายุ 50 บางคนอาจไม่เชื่อว่าอายุถึง 50 ( หัวเราะ) แต่เค้าเชื่อในเรื่องการแสดง ดีใจ และ ภูมิใจครับ ที่คนยังชื่นชอบ ดีใจที่การกลับมาของเราอีกครั้งมีคนดูเยอะ มีคนชอบขนาดนี้

          “พูด ถึง พอร์ช เค้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านการแสดงมาก เป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะที่ดี ได้เข้าฉากกับเค้าไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ หรือ ซีนอารมณ์ รู้สึกว่าเค้ามีอนาคตทางด้านการแสดงที่ดี ไปได้อีกไกล เค้าเป็นคนใส่ใจ พัฒนาตัวเอง ดีใจที่ได้ร่วมงานกับน้องๆ รุ่นใหม่ที่เอาจริงเอาจังกับการทำงาน ตั้งใจแสดง เวลาอยู่ในกองถ่าย พอร์ช เป็นที่รักใคร่ของทีมงาน ถ้ามีโอกาสเรื่องหน้าอยากทำงานด้วยกันอีก สุดท้ายฝากละครด้วยครับ ตอนนี้ดำเนินไปได้ครึ่งเรื่องแล้ว คาดว่าหลายๆคนคงชอบในบทบาทในตัวละครทุกตัว ฝากละครเรื่องนี้ไว้กับแฟนๆ ช่อง 7 ทั่วประเทศ ฝาก เจ้าสัวเล้ง ด้วยนะครับ”

          ติดตามชม “หยกเลือดมังกร” และมาดูกันต่อว่าบาดแผลในใจของ “เจ้าสัวเล้ง”จะคลี่คลายไปได้อย่างไร ทุกค่ำคืนวันพุธ และ พฤหัสบดี ช่อง 7 สี

“พอร์ช” คุกเข่าขอ “มิน” แต่งงานบนดาดฟ้า ชีวิตจริงฝันตรงกันจัดงานแต่งริมทะเล









   
          เรื่องราวภาคบู๊ก็กำลังเข้มข้นได้ใจ ภาคความรักก็กำลังจับจิตสำหรับ “หยกเลือดมังกร” ที่เรื่องราวเดินทางมาถึงตอนท้ายๆของเรื่อง ซึ่งวันนี้มีเบื้องหลังฉากโรแมนติกที่ หยก ขอ กิ่งเหมย แต่งงานบนดาดฟ้ามาฝากผู้ชม โรแมนติกขนาดที่ “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” และ “มิน พิชญา วัฒนามนตรี” พระนางยังเคลิ้มอินเผยงานแต่งในฝันของแต่ละคนออกมา และสำคัญตรงที่ฝันเหมือนกันนี่สิ เอ๊ะ!! ยังไง มันยังไง เป็นฉากที่หยก(พอร์ช) เห็นว่าอาม่า(ดวงดาว)ตายแล้ว กิ่งเหมย(มิน)ที่ตาบอดต้องอยู่คนเดียว หยกที่รักและอยากดูแลกิ่งเหมยอย่างเต็มที่ จึงตั้งใจทำทุกสิ่งให้ถูกต้องด้วยการขอกิ่งเหมยแต่งงานบนดาดฟ้าที่บ้านของหยกเอง

          ปักหลักถ่ายทำฉากนี้กันตอนค่ำ บนดาดฟ้าออสก้าอพาร์ทเม้นท์ ย่านถนนเพชรบุรี พอร์ชและมิน อยู่ในชุดตามคาแรคเตอร์ซักซ้อมบทกันอยู่ด้านล่างจนคล่องและเมื่อทุกอย่างพร้อมถ่ายทำ จึงปีนกันขึ้นไปด้านบน ตามบทกิ่งเหมยเขินมากเพราะพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าหยกจะขอแต่งงาน แต่ความเขินของกิ่งเหมยยิ่งทำให้หยกยิ่งชอบ หยกจับมือกิ่งเหมยและคุกเข่าลงนั่งก่อนเอ่ยปากขอกิ่งเหมยแต่งงาน และบอกว่าต่อไปเราจะดูดาวดวงเดียวกันตลอดไป กิ่งเหมยตอบตกลงและทั้งคู่กอดกันด้วยความรักและนั่งดูดาวด้วยกันต่อโดยมีหยกคอยบรรยายความสวยงามของท้องฟ้าให้กิ่งเหมยที่ตากบอดฟัง ทั้งพอร์ชและมินเล่นได้อินกับตัวละครมาก ทุกอย่างผ่านไปอย่างสวยงาม และเมื่อผู้กำกับสั่งย้ายทุทกล้องให้ทั้งคู่นั่งพักกันก่อน พอร์ชเลยขอพักด้วยการนอนเอนตัวราบแบบไม่ห่วงหล่อมองดาวบนฟ้า ก่อนจะคุยกับมินที่นั่งอยู่ข้างๆแลกเปลี่ยนความคิดกันว่า “ โรแมนติกดีเนอะขอแต่งงานบนดาดฟ้า ถ้าชีวิตพอร์ชพร้อมก็อยากแต่งงานมีลูกเลยนะ จะได้ใช้เวลากับลูกตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่แก่ แต่ถ้างานแต่งงานในฝันเลยนะ อยากจัดงานแต่งริมทะเล ที่มีเพื่อนๆและครอบครัวมาร่วมงาน น่าสนุก ” งานนี้นอกจากสาวมินจะเห็นด้วยกับความกิ๊บเก๋ของงานแต่งริมทะเลแล้ว เจ้าตัวก็บอกว่า “แต่งงานริมหาดเป็นงานแต่งงานในฝันของมินเหมือนกัน ชอบและคงจะโรแมนติกมาก” ใจตรงกันจริงพระนางคู่นี้ คุยกันจบก็พอดีจัดกล้องเสร็จผู้กำกับเรียกไปเข้าฉากเล่นเหมือนเดิมอีกรอบ ทุกอย่างผ่านฉลุยสวยหวานโรแมนติกจนจบฉาก

          ติดตามฉากโรแมนติกขอแต่งงานของ ”มิน” และ “พอร์ช” ฉากนี้ได้ในละครหยกเลือดมังกรวันพุธที่ 9 มกราคม 2555 นี้ทางช่อง7