happy on October 13, 2012, 07:07:24 PM
TAI CHI 0 ไทเก็ก หมัดเล็กเหล็กตัน
จากตัวตลกสู่วีรบุรุษ
Tai Chi O /กำหนดเข้าฉาย 25 ตุลาคม 2012 Tai Chi Hero /กำหนดเข้าฉาย 22 พฤศจิกายน 2012
นักแสดง - เหลียงเจียฮุย, แองเจล่าเบบี้, เผิงอวี้เอี้ยน, ซูฉี, แดเนี่ยล วู
ผู้กำกับ - ฝงเต๋อหลุน
ประเภท – แอ็คชั่น, ไซไฟ / ระบบ Digital พากย์ไทยเรื่องย่อ หยางลู่ฉานเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์พิเศษในตัว แต่กระนั้นเขาก็ถูกล้อเลียนว่าเป็นตัวตลกประจำเมือง แม่ของหยางจึงกระตุ้นให้เขาฝึกฝนวิชาการต่อสู้ โดยการเดินทางไกลไปหมู่บ้านเฉินอันเลื่องชื่อเพื่อเรียนเพลงมวยไท้เก๊ก ทว่าในหมู่บ้านเฉิน มีกฎเหล็กอยู่หนึ่งข้อคือห้ามเผยแพร่วิชาไท้เก๊กแก่คนภายนอก ทันทีที่หยางเดินทางมาถึง เขาก็ถูกคนในหมู่บ้านท้าประลองฝีมือ นับตั้งแต่ผู้ชายแข็งแกร่ง, ผู้หญิงอ้อนแอ้น ไปจนถึงเด็กตัวเล็กๆ ทุกคนสามารถเอาชนะหยางได้หมด หลังจากผ่านการต่อสู้อันหนักหน่วง และพ่ายแพ้แก่ยื่อเหนียง ลูกสาวคนสวยของปรมาจารย์เฉิน เจ้าหนุ่มหยางก็ยิ่งเลื่อมใสในวิชาไท้เก๊ก และยิ่งอยากพบปรมาจารย์เฉินเพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์ แต่หยางหารู้ไม่ว่าชายแปลกหน้าซอมซ่อผู้ช่วยเขาไว้ในการประลองกับยื่อเหนียง ก็คือปรมาจารย์เฉินนั่นเอง เฉินสัมผัสได้ถึงความพิเศษในตัวชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงแอบถ่ายทอดเพลงมวยไท้เก๊กให้หยางอย่างลับๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง หมู่บ้านเฉินก็ถูกรุกรานโดยการมาเยือนของฝางซื่อชิง เพื่อนในวัยเด็กของยื่อเหนียง ผู้นำคำสั่งราชการมาบอกให้คนในหมู่บ้านยอมรับว่า เขามีสิทธิ์สร้างทางรถไฟตัดตรงเข้ามายังหมู่บ้าน นั่นทำให้หยางต้องผนึกกำลังกับยื่อเหนียง เพื่อขัดขวางไม่ให้ฝางซื่อชิงและเครื่องจักรพิฆาตของเขาทำงานสำเร็จ ในที่สุดความกล้าหาญของหยางก็สามารถเอาชนะใจยื่อเหนียงและคนในหมู่บ้านได้ ประวัติศาสตร์ไท้เก๊ก “สิ่งประดิษฐ์ยิ่งใหญ่ 4 อย่างของจีน” ได้แก่ เข็มทิศ, ดินปืน, การผลิตกระดาษ และการพิมพ์ ไม่เพียงสร้างความเจริญให้ชาวจีนเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้ชาวตะวันตกด้วย สมัยราชวงศ์ฉิง (1644-1911) คือช่วงเวลาแห่งความถดถอยทางเทคโนโลยีในประเทศจีน ด้วยการขาดแคลนศิลปวิทยาการใหม่ๆ รวมถึงไม่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมใดๆ ซึ่งต่างจากซีกโลกฝั่งตรงข้าม ที่เวลานั้นถือเป็นช่วงก้าวกระโดดของชาติตะวันตก
จีนต้องขื่นขมกับความพ่ายแพ้ต่ออำนาจของชาวตะวันตก ยกตัวอย่างเช่น สงครามฝิ่น (1838-1842, 1856-1860) ที่ผลลัพธ์ของมันทำให้เกิดสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อจีน จากการร่วมมือกันของอังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น และรัสเซีย เมื่อไม่อาจทนต่อสภาพการกดขี่ข่มเหงของชาวต่างชาติ และการฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาลตัวเอง ประชาชนชาวจีนจึงพร้อมใจกันลุกฮือขึ้น แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ มีชาวจีนรักชาติจำนวนหลายสิบล้านคนถูกฆ่าตายในการลุกขึ้นต่อต้านชาวตะวันตกครั้งนี้ แต่ในความเจ็บปวดก็ยังมีสิ่งดีๆ แฝงอยู่ นั่นคือช่วงเวลาอันโหดร้ายนั้นเอง เป็นช่วงเวลาที่วิชาศิลปะการต่อสู้ของจีนเติบโตรุ่งเรืองมากที่สุด แม้ว่าชุ่นสึ กษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์ฉิง ได้ออกคำสั่งไม่ให้มีการเรียน, การสอน และฝึกฝนวิชาการต่อสู้ทั้งหลาย แต่วิชาเหล่านั้นก็ถูกส่งผ่านจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นโดยไม่เปิดเผย
วิชาไท้เก๊กสอนให้คนรู้จักการผ่อนถ่ายพลังที่จู่โจมเข้ามา และส่งพลังนั้นคืนกลับไปยังคู่ต่อสู้ ด้วยการค้นหาจุดสมดุลของตัวเอง และการควบคุมฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ลีลาท่วงท่าของร่างกายระหว่างการปะทะ มันจึงเป็นมากกว่าการใช้กำลังต่อต้านกำลัง ที่จะทำให้ผู้ต่อสู้บาดเจ็บทั้งคู่ ผู้ฝึกฝนไท้เก๊กสามารถใช้พลังนำพาร่างกายตนเองถอยหลัง, หลบหลีก, ลอยตัว เพื่อหลีกเลี่ยงจากการบาดเจ็บได้ วิชาไท้เก๊กดั้งเดิมที่เรียกกันว่า “ไท้เก๊กแบบเฉิน” ถูกคิดค้นขึ้นมาในยุคเริ่มต้นราชวงศ์ฉิงโดย เฉินหวังฉิง (1580-1660) และถูกถ่ายทอดสู่คนในตระกูลอย่างลับๆ จนกระทั่งถึงรุ่นของเฉินฉางชิง (1771-1853) มันก็ถูกสอนแก่คนภายนอกชื่อหยางลู่ฉาน (1799-1872) ผู้ที่นำวิชานี้ไปพัฒนาจนกลายเป็น “ไท้เก๊กแบบหยาง” ในที่สุดเบื้องหลังงานสร้าง ใน Tai Chi 0 ผู้อำนวยการสร้าง เฉินกั๋วฟุ และผู้กำกับ เฝิงเต๋อหลวน ตั้งใจสร้างสรรค์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่มาพร้อมฉากแอ็คชั่นมันระห่ำ ในแบบเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องดังอย่าง 300 ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่ผลิตผลงานชิ้นนี้ และเฉกเช่นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อีกมากมายหลายเรื่องของจีน พวกเขาคิดว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสร้าง Tai Chi 0 แม้ว่ามันจะเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นกำลังภายใน ด้วยเรื่องราวที่เล่าถึงจุดกำเนิดของวิชาไท้เก๊ก แต่เฉินและเฝิงก็รู้ดีว่า เรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ ลงไป เพื่อเอาใจเหล่าผู้ชมวัยรุ่น ด้วยเหตุนี้ ผู้กำกับ เฝิงจึงย้อนกลับไปมองภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่น และวิดีโอเกมส์ ของสองสิ่งที่เขาหลงใหลอย่างที่สุด และนำพวกมันมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ Tai Chi 0 ด้วย นอกจากนี้ เฝิงยังนำจุดที่น่าสนใจแบบนิยายวิทยาศาสตร์ มาใส่ไว้ในภาพยนตร์จีน และมันก็กลายเป็นส่วนผสมอันลงตัว เมื่อช่วงเวลาที่แตกต่างกันในประวัติศาสตร์จีน ถูกนำมาตีความใหม่จนเกิดเป็นโลกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา
ทีมงานฝ่ายศิลป์ได้แรงบันดาลใจมามากมายจากหลายช่องทาง ตั้งแต่ภาพวาดของศิลปินเอก ลีโอนาร์โด ดาวินชี ไปจนถึงวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน ผู้ออกแบบงานสร้าง ทิม ยิป เจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger Hidden Dragon พูดถึงเรื่องนี้ว่า “แม้ว่าเราจะตั้งใจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้หนังจีน แต่เราก็ทำมันด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด” และผู้กำกับ เฝิง ก็อธิบายเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของกังฟู เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในหนังเรื่องนี้คือ ความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”
“ไอเดียไหนก็ตามที่ถูกเสนอเข้ามา ผู้อำนวยการสร้าง เฉินจะพิจารณามันด้วยเหตุผล” ทิม ยิปกล่าว “เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากในการสร้างหนัง ส่วนเฝิงเต๋อหลวน เขาคือผู้กำกับหนุ่มไฟแรงที่กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ ผมคิดว่าเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่จะมากำกับหนังเรื่องนี้” ในตอนแรก เฉินกั๋วฟุ, เฝิงเต๋อหลวน และหงจินเป่า ผู้กำกับฉากแอ็คชั่น ต้องการนำเสนอภาพการต่อสู้ไท้เก๊กของจริง ผ่านตำนานชีวิตของสองปรมาจารย์ผู้เป็นตัวแทนของสำนักสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างกันสองแห่งในศตวรรษที่ 19 “ผมต้องนำเสนอภาพการต่อสู้ที่รุนแรง, มีพลัง และดูสมจริงอย่างที่ผู้กำกับ เฝิงอยากให้เป็น และแน่นอนว่าฉากแอ็คชั่นทุกฉาก ต้องแสดงให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะและอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย” หงจินเป่ากล่าว มีผู้เชี่ยวชาญด้านไท้เก๊กหลายคนมาคอยให้คำปรึกษาแก่หงจินเป่าตลอดระยะเวลาถ่ายทำนานหกเดือน ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำแต่ละวัน หงจินเป่าและทีมของเขาจะกลับมานั่งดูและตัดต่อวิดีโอผลงานในวันนั้น เพื่อนำไปใช้อธิบายและสื่อสารกับเหล่านักแสดงและผู้กำกับ เฝิงเต๋อหลวน ในการถ่ายทำวันต่อไป
แม้ว่า Tai Chi 0 จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับไท้เก๊ก แต่ก็ยังมีฉากแอ็คชั่นของศิลปะการต่อสู้อันหลากหลายอัดแน่นอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตอนต้นเรื่องก่อนที่หยางจะเดินทางไปหมู่บ้านเฉิน ภาพการต่อสู้จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างรุนแรงและน่ากลัวมาก กระทั่งเขาไปถึงหมู่บ้านเฉิน และได้ต่อสู้กับยื่อเหนียง รวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆ ผู้ชมก็จะได้เห็นศิลปะการต่อสู้แบบไท้เก๊กอย่างแท้จริง ซึ่งในส่วนคิวบู๊ของยื่อเหนียง และตัวละครหญิงรายอื่น ทีมงานได้ออกแบบท่าทางการต่อสู้ให้มีลักษณะอ่อนช้อยงดงามตามลักษณะของสตรีเพศ แต่แฝงไว้ด้วยพละกำลังไม่แพ้ท่วงท่าการต่อสู้ของผู้ชาย
« Last Edit: October 14, 2012, 07:08:33 PM by happy »
Logged