FANCLUBENJOYJAM on August 30, 2012, 07:00:45 AM
เรื่องย่อ: ท่านชายในสายหมอก







          เรื่องย่อละคร  ท่านชายในสายหมอก

          บทประพันธ์ โดยวรรณึก บทโทรทัศน์ โดย ปณธี-ภควดี  
      
          กำกับการแสดง โดยศุภฌา ครุฑนาค ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

          เจ้าชาย (หลุยส์ สก๊อต) ผู้ซึ่งเป็นรัชทายาทของประเทศนิวแลนด์ ดินแดนแห่งธรรมชาติอันรื่นรมย์ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเข้าพักในโรงแรมหรูพร้อมกับผู้ติดตาม(สุพจน์ จันทร์เจริญ)เจ้าชายต้องการแบกเป้และกล้องถ่ายรูปไปเที่ยวอย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรองต้อนรับที่น่าอึดอัด เจ้าชายจึงให้ผู้ติดตามปลอมตัวเป็นเจ้าชายแทนและให้ปฏิบัติภารกิจแทนทุกอย่างเจ้าชายหลบมาพักในเกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสาร เจ้าชายพยายามหาไกด์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกเรื่อง แต่ก็หาไม่ได้ง่ายๆเพราะข้อเสนอที่ต้องรับใช้ดูแลเจ้าชายทุกอย่างทำให้ไม่มีไกด์ที่ไหนยอมทำ
          วันหนึ่ง ในขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นในถนนข้าวสาร เจ้าชายโดนเด็กสาวคนหนึ่งขโมยกล้องถ่ายรูปของเจ้าชายไป แต่เผอิญว่า ขิง (วรกาญจน์โรจนวัชร) อยู่ในเหตุการณ์ จึงช่วยจับขโมยเอาไว้ให้พร้อมสั่งสอนให้เด็กสาวรู้สำนึกว่าอย่าทำอีกแต่กลายเป็นว่าเจ้าชายเข้าใจผิดคิดว่าขิงเป็นขโมยซะเอง ขิงจึงแก้แค้นเจ้าชายที่ตัวเองทำดีแล้วไม่ได้ดี ขิงกลับมาที่บ้านเช่านั่งปรับทุกข์เรื่องไม่มีงานทำกับ น้าตุ๊ก (ค่อม ชวนชื่น)น้าชายที่มีอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก ขิงไม่มีเงินส่งให้ยายที่ต่างจังหวัดมาหลายเดือนแล้ว น้าตุ๊กแนะนำให้ไปสมัครเป็นไกด์ให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเพราะทำงานให้แค่เดือนเดียวได้เงินตั้งพันนึง ขิงส่ายหน้าไม่พอใจกับเงินแค่พันเดียว น้าตุ๊กบอกว่าพันยูโร ขิงสนใจขึ้นมาทันที แต่เขารับเฉพาะไกด์ผู้ชายเท่านั้น ขิงจึงปลอมตัวมาในมาดชายหนุ่ม
          ขิงพาเจ้าชายไปลุยเที่ยวสถานที่ต่างๆแต่เจ้าชายเองก็ไม่ได้พอใจในการนำทางของไกด์จอมมั่ว ขิงเองก็หมั่นไส้ที่เจ้าชายทำตัวโอ่อ่าและใช้ตนอย่างกับข้าทาสขิงเลยพยายามตะล่อมเอาเงินจากกระเป๋าเจ้าชายทุกวิถีทาง โดยเตี๊ยมกับแม่ค้าให้หลอกเรียกเงินแพงๆหรือแอบโก่งเงินค่าราคาสินค้า ทางด้านผู้ติดตามก็ฉวยโอกาสที่ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย วางมาดโอ่อ่าจีบสาวไปทั่ว ทำให้ได้เจอกับแม่บ้านคนสวยคนหนึ่ง ผู้ติดตามไล่จีบแม่บ้านคนนั้นโดยหารู้ไม่ว่าเธอคือพัชรี (นิภาภรณ์ ฐิติธนการ) เหยี่ยวข่าวที่ต้องการหาสกู๊ปข่าวเด็ดเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นนักข่าวที่เก่งแค่ไหน พัชรีเลือกที่จะทำสกู๊ปเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์เป็นการแสดงฝีมือของเธอ จึงปลอมตัวมาเป็นแม่บ้านในโรงแรมเพื่อสืบหาข้อมูล
          คุณหญิงฉาดประภา (ภรผกา เสียงสมบุญ) รู้ว่ามีเจ้าชายจากต่างแดนมาเยือนถึงประเทศไทย ปฏิบัติการจับลูกสาวประเคนให้เจ้าชายเพื่อหวังเอี่ยวในราชวงศ์และสมบัติจึงเกิดขึ้นคุณหญิงฉาดประภาพาลูกติ๊งโหน่ง (พุทธชาติ พงศ์สุชาติ)มาเพื่อขอพบเจ้าชาย แต่ได้พบผู้ติดตามที่ตอนนี้อยู่ในมาดเจ้าชายแทน ลูกติ๊งโหน่งที่แต่งตัวจัดก็ตกหลุมรักผู้ติดตามทันที และพยายามสานสัมพันธ์กับผู้ติดตามทุกเมื่อที่มีโอกาส ซึ่งก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวข่าวอย่างพัชรีที่กำลังพยายามหาข้อมูลเจ้าชายเพื่อทำสกู๊ปผู้ติดตามได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกษัตริย์ (ศุกล ศศิจุลกะ) พ่อของเจ้าชายว่าได้หาเจ้าหญิงเตรียมไว้ให้เจ้าชายแล้ว และกำชับให้ผู้ติดตามบอกเจ้าชายให้รีบกลับมา ผู้ติดตามรีบส่งข่าวให้เจ้าชายรู้ พอเจ้าชายรู้ว่ากำลังจะจับคลุมถุงชนก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากกลับ
          ในคืนหนึ่ง ขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นอยู่กับขิงนั้น เจ้าชายได้เห็นเหตุการณ์การฆาตรกรรมชรินทร์(ดิลก ทองวัฒนา),อำนาจ(วีระชัย หัตถ์โกวิท)และลูกน้องเห็นเจ้าชายกับขิงซึ่งเจ้าชายสะพายกล้องอยู่ ชรินทร์จึงให้อำนาจและลูกน้องตามไล่ฆ่าเจ้าชายกับขิง แต่เจ้าชายกับขิงหนีรอดออกมาได้เจ้าชายกับขิงรีบไปแจ้งตำรวจ แต่กลายเป็นว่าชรินทร์และลูกน้องก็นั่งวางมาดอยู่ในสถานีตำรวจแห่งนั้นแล้ว พอเจ้าชายเห็นตำรวจทำความเคารพชรินทร์ เจ้าชายก็เข้าใจได้ในทันทีว่าชรินทร์เป็นคนของคนใหญ่คนโตเหนือกฎหมาย ทางเดียวที่รอดไปได้คือต้องหนี ชรินทร์ยังแจ้งความจับเจ้าชายกับขิงเอาไว้ด้วยทั้งสองคนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมกันในคดีฆาตรกรรม
          เจ้าชายได้ติดต่อไปยังผู้ติดตามเพื่อให้ช่วยสืบเสาะและหาทางพิสูจน์ว่าตนเองและขิงเป็นผู้บริสุทธิ์โดยมีหลักฐานแค่ชิ้นเดียวคือSD CARDที่มีรูปถ่ายของชรินทร์ อำนาจและลูกน้องเอาไว้ เจ้าชายกำชับผู้ติดตามว่าอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงทางราชวงศ์เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคดีความอย่างเดียว ยังจะถูกบังคับให้กลับประเทศเพื่อแต่งงานกับเจ้าหญิงขณะที่เจ้าชายและขิงหนีการไล่ล่าจากพวกของอำนาจจนต้องกระโดดรถไฟหนีลงไปในน้ำ พอขึ้นจากน้ำได้นั้น หมวกของขิงได้หลุดหายไปจนผมสยายพร้อมกับเสื้อผ้าของขิงเมื่อเปียกน้ำก็ทำให้เน้นทรวดทรงของขิงจนทำให้เจ้าชายรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วขิงเป็นผู้หญิงและโกรธมากที่ขิงหลอกตนเองมาตลอด เจ้าชายไล่ขิงให้ออกไปจากชีวิตของเขา ขิงทวงเงินค่าจ้างเจ้าชาย แต่ในขณะที่บรรยากาศระหว่างเจ้าชายและขิงกำลังตึงเครียดอยู่นั้น พวกอำนาจก็ตามมาทัน ทำให้ทั้งสองต้องจับมือกระเตงกันหนีไปด้วยค่าจ้างหนึ่งพันยูโรที่ขิงต้องการจะได้จากเจ้าชาย ขิงจึงพาเจ้าชายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านยายในจ.เพชรบุรี
ยายขม (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ยายของขิงกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินเพราะกำลังจะโดน กำนัน (วัชระ ปานเอี่ยม)ยึดบ้านและที่ดิน กำนันมีลูกชายชื่อ แก้ว (ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์) ซึ่งเป็นจิ๊กโก๋ประจำตำบลและหมายปองขิงอยู่ ขิงทวงค่าจ้างจากเจ้าชายเพื่อเอาไปใช้หนี้ แต่เจ้าชายไม่มีเงินให้เพราะทรัพย์สินทั้งหมดหล่นหายไปหมดในระหว่างโดนตามไล่ล่า ทั้งสองจึงต้องรับจ้างทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาให้ยายเจ้าชายให้ผู้ติดตามหาเบาะแสจากนักข่าว ผู้ติดตามจึงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากนักข่าวหญิงจากสถานีโทรทัศน์ชื่อดังที่ชื่อว่าพัชรี แต่พอผู้ติดตามเจอพัชรีเท่านั้นก็ตกใจเพราะรู้ว่าคือคนเดียวกับแม่บ้านที่มาคอยทำความสะอาดในห้องพักที่โรงแรมและเป็นคนเดียวกับที่เขาแอบรักพัชรีรู้ว่าผู้ติดตามไม่ใช่เจ้าชายแต่ก็ตกลงใจจะช่วยผู้ติดตามสืบข้อมูลและทำข่าวเปิดโปงของชรินทร์มาเฟียของเมืองไทยเพราะพัชรีเชื่อว่าสกู๊ปข่าวนี้จะทำให้เธอดังขึ้นมาได้พอๆกับสกู๊ปข่าวเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์ โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเธอทำข่าวชรินทร์สำเร็จ เธอต้องได้สัมภาษณ์เจ้าชายอย่างเอ็กคลูซิฟคนเดียว ผู้ติดตามและพัชรีช่วยกันสืบหาเบาะแสก็ได้รู้ว่าชรินทร์แท้จริงเป็นผู้ค้าผู้หญิงรายใหญ่
เจ้าชายกำลังโดนตามตื้อจากนางเอกลิเกประจำคณะยายขมที่ชื่อ รุ้ง (สาวิตรี สุทธิชานนท์) ซึ่งเป็นคนฟุ้งเฟ้อเห่อของนอก รุ้งหวังว่าเจ้าชายจะพาตนเองไปอยู่เมืองนอกด้วย และเจ้าชายก็ยังต้องผจญกับไอ้แก้วที่อิจฉาเจ้าชายเพราะได้ใกล้ชิดกับขิงโดยพยายามหาทางกลั่นแกล้ง เมื่อคณะลิเกของยายขาดพระเอก เจ้าชายก็จับผลัดจับผลูกลายเป็นพระเอกลิเก แถมยังได้รับความนิยมเพราะความหล่อใสไร้เดียงสาและความน่าเอ็นดูในความเปิ่นเล่นผิดเล่นถูกของพระเอกลิเกที่อิมพอร์ตมาจากเมืองนอกจนกลายเป็นขวัญใจแม่ยก ถึงขนาดได้ไปเล่นในโรงแรมหรูของ จ.เพชรบุรีเลยทีเดียว
          ผู้ติดตามและพัชรีสืบจนรู้ว่าการฆาตรกรรมที่เจ้าชายและขิงเห็นนั้นเป็นการฆ่าปิดปากลูกน้องคนสนิทของชรินทร์ที่หักหลังกันเรื่องเงินที่ได้จากการค้าผู้หญิง ผู้ติดตามและพัชรีจึงรีบแจ้งให้เจ้าชายทราบที่บ้านของชรินทร์ ผู้ติดตามแอบเข้าไปสืบหาหลักฐานเพื่อยืนยันข้อมูลที่ได้มาแต่โดนจับไว้ได้ เมื่อชรินทร์และอำนาจรู้ว่าเจ้าชายคือผู้ติดตามปลอมตัวอยู่ ทุกคนต่างก็ช็อค อำนาจเอาปืนขู่ให้ผู้ติดตามโทรศัพท์บอกทางกษัตริย์ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดยังเป็นปกติ สุดท้ายผู้ติดตามและพัชรีก็หาทางหนีไปได้
          ความสัมพันธ์ของเจ้าชายกับขิงเริ่มพัฒนาจนกลายเป็นความรัก ขิงได้เห็นน้ำใจของเจ้าชายที่ช่วยดูแล เมื่อยายจะโดนยึดบ้านและที่ดิน กำนันกับไอ้แก้วยื่นข้อเสนอสุดท้ายคือต้องให้ขิงมาแต่งงานกับไอ้แก้ว แล้วหนี้สินทั้งหมดถือว่าหายกันไปแต่ในที่สุดเจ้าชายก็สามารถช่วยเหลือขิงและยังช่วยให้ยายได้ไถ่ถอนบ้านคืนด้วยโดยอาศัยความเป็นลิเกหน้าหยกของตน ออดอ้อนแม่ยก
          แก้วกับรุ้งวางแผนร่วมกันเพื่อแยกเจ้าชายกับขิงโดยไอ้แก้วจะไปหลอกเจ้าชายมาแล้วให้รุ้งรวบหัวรวบหาง แต่ทุกอย่างผิดแผน เจ้าชายไม่มาตามนัดจนกลายเป็นรุ้งรวบหัวรวบหางแก้วแทน หลังจากนั้นทั้งแก้วและรุ้ง เวลาเจอกันทีไรต้องเขินใส่กันทุกทีความสัมพันธ์ที่ทำท่าจะไปด้วยดีของเจ้าชายของขิงก็หวิดล่ม เมื่อทั้งสองทะเลาะกันอย่างหนัก แต่พอเมื่อเจ้าชายขาดขิงไป เจ้าชายจึงรู้ว่าชีวิตตัวเองกำลังขาดสิ่งสำคัญในชีวิตไปและรู้ว่าตัวเองรักขิงเข้าให้แล้ว
          เบื้องหลังของชรินทร์กำลังจะปูดออกมา ชรินทร์จึงต้องตามมาฆ่าปิดปากเจ้าชาย ขิง ผู้ติดตามและพัชรีด้วยตัวเองเพราะมั่นใจในอิทธพลของตัวเองว่าจะสามารถเคลียร์ทุกอย่างได้ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่ออิทธิพลที่ใหญ่กว่าจากกษัตริย์ที่รีบเสด็จฯมาตามเจ้าชาย ชรินทร์จึงต้องโดนจับเข้าไปชดใช้ความผิดในคุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กษัตริย์ทรงทราบเรื่องที่เจ้าชายรักขิง ก็ทรงเขียนเช็คไม่ระบุตัวเลขให้ขิง เพื่อจ้างให้ขิงออกไปจากชีวิตของเจ้าชาย ขิงโกรธมากที่โดนหมิ่นศักดิ์ศรีและไม่พอใจที่เจ้าชายหลอกตนเองมาตลอดว่าเป็นคนธรรมดา เจ้าชายจะเข้ามาอธิบายกับขิง แต่ขิงไม่ฟัง ขิงตบหน้าเจ้าชายแล้ววิ่งหนีไป
          ขิงกลับมาบอกกับกษัตริย์ว่าตนเองสามารถตัดใจจากเจ้าชายได้ เพราะถ้าตนเองรั้งเจ้าชายเอาไว้ มันก็เท่ากับว่าอาจจะทำให้ประเทศของกษัตริย์ต้องขาดเจ้าชายไปเมื่อเห็นว่าเป็นความต้องการของขิง เจ้าชายจึงยอมกลับไปกษัตริย์แต่ก่อนจะกลับไป เจ้าชายก็ได้ให้พัชรีสัมภาษณ์ตามที่ผู้ติดตามได้ให้สัญญาเอาไว้ พัชรีเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาจากสกู๊ป“เจ้าชายในสายหมอก” พัชรีขอบคุณผู้ติดตามด้วยการหอมแก้มหนึ่งทีในสนามบิน เจ้าชายกับกษัตริย์กำลังจะเสด็จกลับ ขิงไปส่งเจ้าชายด้วยน้ำตา
          หนึ่งเดือนต่อมาที่ถนนข้าวสาร ขิงกลับมาทำงานเป็นไกด์และหลอกขายของนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม อยู่ๆก็มีเสียงแตกตื่นว่ามีเจ้าชายมา ขิงรีบวิ่งไปดู ปรากฎว่าขิงได้พบกับเจ้าชายผิวดำ ในขณะที่ขิงกำลังจะเดินผิดหวังกลับไปนั้น เธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งที่เธอคุ้นเคยจากข้างหลังของเธอ ขิงรีบหันไป เธอพบกับเจ้าชายซึ่งเดินออกมาจากหลังเจ้าชายผิวดำ เจ้าชายบอกว่ากลับมาจ่ายค่าจ้างที่ติดค้างขิงเอาไว้ โดยที่เจ้าชายมาในชุดลำลองสะพายเป้เหมือนที่เจอขิงวันแรกแล้วทั้งสองโผเข้ากอดกันด้วยความรักที่อัดแน่นเอาไว้ในหัวใจ
« Last Edit: September 05, 2012, 08:46:22 AM by FANCLUBENJOYJAM »

FANCLUBENJOYJAM on August 30, 2012, 07:13:14 AM
ข่าวซุบซิบ: “ซานิ” นุ่งสั้นมุดโต๊ะไม่ห่วงสวย

 

           หมวยห้าว “ซานิ - นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” จากบ้านทรู แฟนเทเชีย หลังจากได้ทดลองความสามารถของตัวเองด้วยการชิมลางงานแสดงกับละครซิทคอมไปแล้ว ตอนนี้มีโอกาสได้มาเล่นละครเรื่อง “ท่านชายในสายหมอก” ในบทนักข่าวสาวหัวเห็ด ที่ใครๆ ก็นึกว่าซานิคงไม่พ้นต้องนุ่งกางเกงทั้งเรื่องตามประสาสาวห้าวที่อย่างที่เห็นๆ กัน แต่ที่ไหนได้เจ้าตัวบอกว่า ในเรื่องหนูเป็นนักข่าวสาวนุ่งกระโปรง ใส่ชุดแซคแทบทั้งเรื่อง แถมยังต้องนุ่งกระโปรงสั้น มุดๆ คลานๆ อยู่ใต้โต๊ะแบบไม่ห่วงสวยอีกตะหาก … แฟนคลับ AF ที่อยากเห็นหมวยห้าวแต่งหญิงโชว์ขาขวา อดใจรออีกนิดเร็วนี้ได้เห็นแน่
« Last Edit: August 30, 2012, 07:20:18 AM by FANCLUBENJOYJAM »

FANCLUBENJOYJAM on August 30, 2012, 07:13:23 AM
“ซานิ” วางไมค์ หลงเสน่ห์งานแสดง สวมบทนักข่าวหัวเห็ด ล.ท่านชายในสายหมอก



          นักร้องสาวเสียงทรงพลังจากทรูแฟนเทเชีย “ซานิ - นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” พักวางไมค์มาเป็นนักแสดงเต็มตัวในละคร “ท่านชายในสายหมอก” ซึ่งเป็นละครยาวเรื่องแรกของ “ซานิ” ที่เจ้าตัวบอกว่าประทับใจในการทำงานละครเรื่องนี้สุดๆ จนทำให้ติดใจงานด้านการแสดงซะแล้ว โดยได้เล่าถึงการทำงานละครเรื่องนี้ว่า

          “ในละครท่านชายในสายหมอก ซานิเล่นรับบท พัชรี เป็นนักข่าว คาแรคเตอร์ มุ่งมั่น ว่องไว คล่องแคล่ว ในเรื่องใครๆ ก็คิดว่าซานิต้องนุ่งกางเกงลุยๆ แน่ แต่นักข่าวสาวพัชรีนุ่งกระโปรงแทบทั้งเรื่อง แต่งตัวใส่สูท ใส่ชุดแซค ในเรื่องใส่กางเกงไม่กี่ครั้ง บางทีนุ่งกระโปรงสั้นมาก แต่ต้องคลาน ต้องมุดโต๊ะก็มี

          ช่วงแรกๆ ของการถ่ายละคร ซานิปวดหัวมาก เพราะไม่เข้าใจอินเนอร์ของพัชรี ไม่เข้าใจว่าทำไมนักข่าวต้องพูดแบบนี้ ทำไมต้องทำแบบนั้น จนกระทั่งพี่ต่อ (ศุภฌา ครุฑนาค) ผู้กำกับของเรื่อง ได้มาบอก มาแนะนำให้ว่าต้องคิดและทำอะไรแบบไหน ทำให้ซานิรู้ว่าการเป็นนักแสดงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่แค่ท่องบทเป็นนกแก้วนกขุนทอง แล้วก็มายืนเล่นหน้ากล้อง แต่การเล่นละครมีองค์ประกอบเยอะมาก หน้าที่ของนักแสดง ต้องทำความเข้าใจตัวละคร ต้องมีอะไรอีกเยอะ แล้วละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของซานิ ก็เลยเครียด กังวลว่าเราจะมาเป็นตัวถ่วงให้พี่ๆ นักแสดงที่เค้าทำงานดีมาตลอด ต้องมารู้สึกแย่กับเรารึเปล่า ซานิก็เลยตั้งใจว่า เราต้องทำให้ดีขึ้นๆ เอาความกดดันตรงนี้มาเป็นแรงผลักดันตัวเอง ก็ผ่านตรงจุดนั้นมาได้

          ตอนนี้ซานิติดใจงานละครแล้ว ชอบการทำงานสนุกดี พี่ต่อผู้กำกับฯ ทีมงานละครทีวีธันเดอร์ นักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ น่ารักมากๆ นี่เพิ่งปิดกล้องไป ถ่ายทำนาน 5-6 เดือน เป็นการถ่ายทำที่ยาวนานแต่คุ้มค่า พอปิดกล้องต้องจากกันน้ำตาจะไหลเลย เพราะผูกพันกันมาก พอไม่เจอกันก็คิดถึงกัน เรื่องนี้ทำให้ซานิประทับใจกับงานแสดงอยากจะเล่นละครอีก

          ซานิขอฝากตัวกับแฟนๆ ละครด้วยนะคะ อีกไม่นานคงได้ดู ล.ท่านชายในสายหมอกกัน แล้วอย่าลืมติ ชม งานละครครั้งแรกขอซานิด้วย เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ”
« Last Edit: September 01, 2012, 01:14:32 PM by FANCLUBENJOYJAM »

FANCLUBENJOYJAM on September 05, 2012, 08:43:58 AM
“โบ” ปลื้มผู้ใหญ่ป้อนงานต่อเนื่อง ลั่นจะตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาตนเอง



           อีกหนึ่งนักแสดงเลือดใหม่ของทางช่อง 3 ที่น่าจับตามองในเรื่องของฝีมือทางการแสดง สำหรับ “โบ – สาวิตรี สุทธิชานนท์” ที่มีงานละครอย่างต่อเนื่อง พอจบการถ่ายทำละคร “ธรณีนี่นี้ใครครอง” กับ “ท่านชายในสายหมอก” ก็ได้รับบทบาท “จันทร์กะพ้อ” ในละคร “คุณชายรณพีร์” หนึ่งในโปรเจคท์ละครซีรี่ส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ”

          และเมื่อได้รับโอกาสที่ดีจากทางผู้ใหญ่ที่มอบหมายงานให้ได้ทำอย่างต่อเนื่องแบบนี้สาวโบกล่าวอย่างปลาบปลื้มใจว่า

          “โบตื่นเต้นและลุ้นที่เร็วๆ นี้ละครเรื่อง ‘ท่านชายในสายหมอก’ กำลังจะออนแอร์แล้ว เป็นละครโรแมนติกคอมิดี้ ดูสบายๆ ในเรื่องโบเล่นเป็นนางเอกลิเก ซึ่งต้องไปหัดเรียนร้องรำลิเกจริงๆ เป็นอะไรที่โบไม่เคยได้ทำ แต่พอได้เรียนรู้เพื่อมาถ่ายละคร โบชอบลิเกเลยค่ะ เพราะเป็นศิลปวัฒนธรรมไทยที่น่าทึ่งมากเพราะร้องลิเกค่อนข้างยาก รำต้องให้สวยงาม ต้องฝึกฝนมากๆ อยากให้คนไทยอนุรักษ์วัฒนธรรมดีๆ นี้ไว้ และก็อยากให้ช่วยติดตามผลงานและให้กำลังใจโบในละครเรื่อง ‘ท่านชายในสายหมอก’ กันด้วยนะคะ ลองดูว่านางเอกลิกเกมือใหม่เป็นยังไงบ้าง

          และตอนนี้โบกำลังถ่ายทำละครเรื่อง “คุณชายรณพีร์” อยู่ค่ะ เป็นละครที่อยู่ในโปรเจคท์ ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’ โบดีใจมากๆ เลยค่ะที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสโบ มอบหมายให้โบได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง พอจบจากถ่ายทำละคร ‘ธรณีนี่นี้ใครครอง’ กับ ‘ท่านชายในสายหมอก’ ก็ได้มารับบท “จันทร์กะพ้อ” ในละคร ‘คุณชายรณพีร์’ คาแร็คเตอร์เป็นเด็กสาวแก่นเสี้ยวเหมือนทอมบอย ซึ่งจะต่างกับบทบาทที่โบเคยได้รับผ่านๆ มา ก็เป็นการท้าทายในการทำงานของตัวโบเอง

          เรื่องนี้ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักแสดงที่ไม่เคยได้ร่วมงานมาก่อนหลายคน ก็ทำให้โบสนุกที่ได้ทำงานกับคนใหม่ๆ ได้รู้จักคนเยอะขึ้น ได้เรียนรู้ปราบการณ์ในการทำงานมากขึ้นด้วย แต่ที่ดีใจมากๆ อีกอย่างคือได้ทำงานกับพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ซึ่งโบปลื้มในผลงานและความสามารถพี่เค้ามานานแล้ว

          เมื่อได้โอกาสดีๆ ได้ทำงานต่อเนื่องแบบนี้ โบก็จะตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาฝีมือในการทำงานให้ได้มากที่สุด ฝากแฟนๆ ละครติดตามให้กำลังใจโบด้วยนะคะ”

FANCLUBENJOYJAM on October 05, 2012, 03:22:21 PM
“โบ” แจงนัวเนียหนุ่มหล่อแค่การแสดง พลิกบทเป็นสาวห้าวใน “คุณชายรณพีร์”



          ร้อง และรำลิเกได้ไพเราะสวยงามจนใครๆ ก็พูดถึงบทบาทนางเอกลิเก “รุ้ง” ของ “โบ - สาวิตรี สุทธิชานนท์” ในละคร “ท่านชายในสายหมอก” ที่หลายคนบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าสาวโบจะร้องและรำลิกเกได้ดี แถมยังมีโอกาสได้ปลุกปล้ำ “เจ้าชายโซว์” ที่รับบทโดย “หลุยส์ สก๊อตต์” ทำเอาสาวๆ อิจฉาตาร้อนผ่าวกันทั้งเมือง และความสามารถทางการแสดงของสาวโบนี่เอง ที่เข้าตาผู้จัดละครทำสาวโบถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงละคร “คุณชายรณพีร์” จากละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้บอกเล่าเกี่ยวกับงานละครของเธอว่า
“ละครท่านชายในสาย หมอกที่โบเล่นกระแสการตอบรับดีเลยค่ะ ก็มีคนพูดถึงว่าไม่น่าเชื่อว่าโบจะร้องจะรำลิเกได้ แล้วก็มีคนแซวว่าโบได้เล่นบทไล่จับผู้ชายอีกแล้วเหรอ น่าอิจฉาได้กุ๊กกิ๊กกับพระเอกอีกแล้ว แต่ก็โชคดีแฟนคลับของพระเอกทุกคนเข้าใจว่าโบทำงาน ไม่มีใครแอนตี้ แต่ส่วนใหญ่จะแซวมากกว่าโบได้แกะแขนคนหล่อตลอดเลยนะ

          ซึ่งกระแส ตอบรับตรงนี้โบต้องขอบคุณอาโย (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์) มากๆ ที่คอยให้คำแนะนำว่าต้องแอ็คติ้งยังไง ให้บทของรุ้งเป็นผู้หญิงแจ๋น ดูโอเว่อร์นิด แล้วดูตลกๆ น่ารักๆ สร้างสีสันให้กับเรื่อง โบดีใจมากที่มีคนชอบงานที่เราทำ

          ส่วนละครที่กำลังเริ่มถ่ายทำ เรื่องต่อมาของโบก็คือ “คุณชายรณพีร์” จากละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ซึ่งโบรับบทเป็นจันทร์กะพ้อ บุคลิกจะดูเป็นคนห้าวๆ จนคนคิดว่าเป็นทอม มีพ่อเป็นนักมวย เป็นเพื่อนสนิทกับนางเอกน้องมิ้นต์ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) ที่จะคอยดูแลปกป้องนางเอก บทนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับตัวโบที่จะกะโปโลแก่นๆ นิดนึง

          เรื่อง นี้โบจะต้องเข้าฉากอยู่กับน้อมมิ้นต์แถบทั้งเรื่อง เพิ่งร่วมงานกันเป็นครั้งแรก น้องเค้าน่ารักเป็นกันเอง ทำงานด้วยกันสนุกดี หรืออย่างพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ผู้กำกับ โบก็เพิ่งได้ร่วมงานเป็นครั้งแรก พี่เค้าใจดีมาก ช่วยแนะนำการแสดงการทำงาน เรียกนักแสดงรุ่นโบทุกคนว่าลูกหมด พี่นกเป็นคนทำงานละเอียดแล้วการทำงานเรื่องนี้พี่นกถ่ายเหมือนถ่ายหนัง แกใส่ใจในการทำงานมากๆ ทำให้โบรู้สึกว่าตัวเองโชคดีได้ร่วมงานกับคนที่น่ารัก และคนเก่งๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับการแสดงเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ”
« Last Edit: October 08, 2012, 02:56:03 PM by FANCLUBENJOYJAM »

FANCLUBENJOYJAM on October 18, 2012, 07:37:15 AM
“ซานิ” ชวนกินเจ อิ่มกายสุขใจ



          นักร้องสาวหมวยมาดห้าว “ซานิ - นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” กำลังเป็นปลื้มกับกระแสตอบรับของบท “พัชรี” นักข่าวสาวหัวเห็ดในละคร “ท่านชายในสายหมอก” ที่ไปไหนมาไหนก็มีคนพูดถึงผลงานละครหลังข่าวเรื่องแรก ทำให้ซานิมีกำลังใจในการทำงาน และติดใจงานแสดงซะแล้ว และซานิยังถือโอกาสเชิญชวนให้แฟนๆ มากินเจ ในเทศกาลถือศีลกินเจที่จะถึงนี้ด้วย

          “ซานิดีใจมากค่ะ ที่กระแสตอบรับงานละครท่านชายในสายหมอกออกมาดี คนชอบ คนพูดถึง ซานิไปทำงานที่ต่างจังหวัดคนก็เรียก “พัชรี” มีคนแซวว่าแต่งตัวแบบผู้หญิงๆ ดูน่ารักดี บางคนก็บอกว่าเล่นเข้าขากับพี่ลิฟท์ (สุพจน์ จันทร์เจริญ) เคมีคู่นี้เข้ากัน เล่นด้วยกันตลกดี ได้ยินแบบนี้ดีใจมากๆ เลยค่ะ เพราะนี่เป็นละครยาวเรื่องแรกที่ซานิได้เล่น ตั้งใจกับงานมาก ก่อนละครออนแอร์ก็แอบกังวลว่างานที่เราทำจะออกมาดีมั้ย คนจะชอบที่เราเล่นมั้ย แต่พอผลตอบรับออกมาแบบนี้ ดีใจมากๆ ค่ะ ซานิติดใจงานแสดงซะแล้ว มีโอกาสอยากทำให้ดี อยากทำให้ได้อีก ขอบคุณแฟนๆ มากๆ ค่ะ ที่ติดตามผลงานและให้กำลังใจ

          นอกจากขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามผลงานแล้ว ซานิก็ถือโอกาสเชิญชวนแฟนๆ ให้ถือศีลกินเจ ในเทศกาลถือศีลกินเจที่จะถึงนี้ด้วยนะคะ ตัวซานิเองกินเจมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบการกินเจมาก มีความรู้สึกว่า การกินเจกินผักเป็นการขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย ถือเป็นการดีท็อกซ์ร่างกายที่ดี ทำให้รู้สึกว่าตัวเราสะอาด แล้วยังเป็นการได้ทำบุญไปด้วยในตัว เพราะได้ละเว้นกินเนื้อสัตว์ ละเว้นชีวิตสัตว์เหมือนเป็นการให้ชีวิตรู้สึกได้บุญ แล้วเดี๋ยวนี้เทศกาลกินเจ หาอาหารเจกินกันง่าย อยากให้ลองกินเจกันดู การกินผัก ผลไม้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทำให้สุขภาพแข็งแรงอยู่แล้ว แล้วยังได้ทำบุญไปด้วยในตัว เรียกว่าเทศกาลกินเจ อิ่มกาย สุขใจ ชีวิตมีสุขค่ะ”
« Last Edit: October 18, 2012, 08:00:45 AM by FANCLUBENJOYJAM »