ราชวงศ์ ชิง รัชกาลเฉียนหลงฮ่องเต้ เซี่ยจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อหญิงสาวสองคนพบรู้จักกันที่ปักกิ่ง ด้วยสถานการณ์พาไปทำให้ทั้งสองต้องเปลี่ยนสถานะกันและกัน เสี่ยวเยี่ยนจื่อองค์หญิงตัวปลอมเข้าไปใช้ชีวิตในวังหลวงในฐานะองค์หญิงหวน จู ส่วนเซี่ยจื่อเวยองค์หญิงตัวจริงเข้าสู่หอบัณฑิตด้วยการชักนำของฝูเอ่อคัง เข้าสู่หอบัณฑิต นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชะตาชีวิตหญิงสาวทั้งสองก็เปลี่ยนไป ต้องพานพบกับอุปสรรคขวากหนาม ความวุ่นวายนานัปการ
เอ่อคัง ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของจื่อเวย ทั้งยังรู้เรื่องที่จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อสับเปลี่ยนสถานะกันและกันอีก ด้วย จื่อเวยไม่สามาถทำใจทอดทิ้งไม่เหลียวแลเสี่ยวเยี่ยนจื่อ(องค์หญิงตัวปลอม)ไป ได้ นางยินดีที่จะใช้ชีวิตเสมือนคนไร้บ้าน ไร้ญาติขาดมิตร เอ่อคังเกิดความเวทนาจึงใกล้ชิดเคียงข้างนาง นับแต่นั้นเป็นต้นมา โลกของจื่อเวยก็ถูกเอ่อคังเติมเต็ม เอ่อคังพาจื่อเวยไปยังสถานที่เป็นส่วนตัวของตน ท้องทุ่งซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้หอมกรุ่นนานาพันธุ์ราวทะเลดอกไม้ ทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่ไพศาล ทะเลสาบ ถ้ำ ...เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำของคนทั้งสอง ภูผาและผืนน้ำได้เป็นพยานในคำมั่นสัญญาของคนทั้งสอง
ในเวลา เดียวกัน เสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งใช้ชีวิตระหกระเหินนั้น หลังจากที่เข้าวังหลวงซึ่งเต็มไปด้วยกฏเกณฑ์มากมายราวกับเข้าไปอยู่ในโลก ใหม่จนกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน โดยเฉพาะเสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ธรรมเนียมใดได้สร้างความ โกลาหลยากที่จะลืมเลือนไว้มากมายในวังหลวง เป็นต้นว่า นางขนานนามสี่ขันทีว่าสี่ปราญช์ผู้ยิ่งใหญ่ เรียกนางกำนัลคู่กายซึ่งคอยปรนนิบัติรับใช้ว่าหญิงงามโดยวางตัวเป็นกันเอง ราวกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเป็นการทำลายกฏเกณฑ์อันเคร่งครัดของวังหลวง การวางตัวเป็นกันเองกับทุกคนของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทำให้นางเป็นที่รักใคร่ของข้าทาสบริวาร เรื่องนี้ทำให้ฮองเฮาและบรรดาหญิงชั้นสูงเกิดความไม่พอใจขึ้นมา แต่เฉียนหลงกลับไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจเสี่ยวเยี่ยนจื่อแต่อย่างใด
หย่ง ฉีพระโอรสองค์ที่ห้าของเฉียนหลงเป็นผู้ที่เก่งกล้าสามารถทางด้านบุ๋นและบู๊ มองโลกแง่ดี เป็นคนหนุ่มที่โชติช่วงเป็นที่โปรดปรานของเฉียนหลง หย่งฉีและเบนจามินชาวอังกฤษศิษย์ของหลางซื่อหนิงซึ่งเติบโตมาด้วยกันรักใคร่ กันฉันท์พี่น้อง นับตั้งแต่เสี่ยวเยี่ยนจื่อเข้าวังหลวง ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของหย่งฉีและเบนจามินต้องเผชิญกับบททดสอบ ความจริงแล้วก่อนที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อจะเข้าวังหลวงได้มีเรื่องวิวาทกับเบนจา มินมาก่อน นึกไม่ถึงว่าโลกแคบเหลือเกิน เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อรู้ว่าเบนจามินซึ่งนางเรียกติดปากว่าผีฝรั่งจะมาเป็น อาจารย์สอนวาดภาพก็ทำให้นางเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาด้วยเกรงว่าฐานะที่แท้ จริงของนางจะถูกเปิดเผยออกมา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเบนจามินและเสี่ยวเยี่ยนจื่อราวกับแมวจับหนูเช่น นั้น ในระหว่างนี้เบนจามินก็เกิดความหลงใหลเสี่ยวเยี่ยนจื่อขึ้นมา อีกด้านหนึ่งนั้น หลายต่อหลายครั้ง หลายต่อหลายสถานการณ์ก็ทำให้หย่งฉีเกิดความหลงใหลเสี่ยวเยี่ยนจื่อเช่นเดียว กัน แต่ด้วยเสี่ยวเยี่ยนจื่อมีฐานะเป็นน้องสาว ทำให้หย่งฉีจำต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในใจเท่านั้น มีเพียงเบนจามินที่รู้ความในใจของหย่งฉี และแล้วทั้งเบนจามินและหย่งฉีก็กลายเป็นองครักษ์ปกป้องคุ้มครองเสี่ยว เยี่ยนจื่อไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หย่งคังด้วยความที่ต้องการ เรียกจื่อเวยได้เต็มปากเสียที และในเวลาเดียวกันเพื่อคลายความวิตกกังวลให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงตัดสินใจส่ง จื่อเวยเข้าวังหลวง ด้วยหวังว่าหลังจากที่เฉียนหลงทรงยอมรับจื่อเวยแล้วสามารถทำให้องค์หญิงตัว จริงตัวปลอมสับเปลี่ยนฐานะกันดังเดิม ความจริงจะได้กระจ่างเสียที ถึงแม้ว่าจื่อเวยมีความประสงค์ที่จะปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อ แต่นางก็ไม่สามารถทำได้ ทำได้เพียงเป็นเป็นนางกำนัลคู่กายของเสี่ยวเยี่ยนจื่อเท่านั้น หลังจากที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยพบกันอีกครั้งก็เหมือนกับเสือติดปีก ทั้งสองร่วมมือกันก่อเรื่องพิลึกพิลั่นมากมาย ด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของจื่อเวยได้เติมเต็มสิ่งที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อขาด ทั้งสองฮึกเหิมอาสาจัดงานเลี้ยงทั่วทั้งวังหลวง ทั้งที่มีอุปสรรคมากมาย แต่ก็สามารถบรรลุผ่านพ้นไปได้ นอกจากนี้เสี่ยวเยี่ยนจื่อยังก่อตั้งกลุ่มองค์หญิงท้าเดิมพันกับกลุ่มองค์ ชาย ท่ามกลางสถานการณ์มากมายที่ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่แล้วก็ประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความไม่พอพระทัยของฮองเฮาที่มีต่อเสี่ยว เยี่ยนจื่อและจื่อเวยเป็นอันมาก
สืบเนื่องจากเสี่ยว เยี่ยนจื่อได้รับผลกระทบจากเบนจามินจนเกิดเหตุการณ์ระลึกขวัญมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์รับเสด็จไทเฮากลับสู่วังหลวง ทำให้บรรดาข้าราชบริพารในวังหลวงอกสั่นขวัญแขวนไปทั่ว องค์หญิงฉิงซึ่งเคียงข้างพระวรกายไทเฮา ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้องค์หญิงฉิง,เสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยเป็น เพื่อนที่รู้ใจกัน จากบาดหมางกลายเป็นเข้าอกเข้าใจกัน เรื่องราวมากมายทำให้เฉียนหลงทรงโปรดปรานจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อมากยิ่ง ขึ้น จากความช่วยเหลือของหย่งฉี,เอ่อคัง,เอ่อไท่(น้องชายของเอ่อคัง,เพื่อนนัก เรียนของหย่งฉี)และเบนจามิน ทำให้เฉียนหลงทรงโปรดปรานเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อเวยมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงสร้างความริษยาสู่ฮองเฮา ทั้งยังทำให้ไทเฮาทรงกระวนกระวายร้อนรุ่มพระทัยอีกด้วย
ปริศนา ชาติกำเนิดตลอดจนความปราดเปรื่องของจื่อเวยกลับนำทุกข์ภัยมาสู่นาง จื่อเวยถูกฮองเฮาทรงกลั่นแกล้ง ทั้งยังต้องเผชิญกับบททดสอบมากมายของไทเฮา ทำให้หลายต่อหลายครั้งที่จื่อเวยต้องประสบกับความทุกข์ยากลำเค็ญสร้างความ เจ็บปวดใจให้เอ่อคังเป็นอันมาก นอกจากนี้เสี่ยวเยี่ยนจื่อซึ่งไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่มีสัมมาคาวะ หลายต่อหลายครั้งได้นำปัญหามาสู่จื่อเวยเช่นเดียวกัน ในที่สุดเอ่อคัง,หย่งฉี,เอ่อไท่และเบนจามินก็รวมตัวกันเป็นสี่องครักษ์ พิทักษ์จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ นับแต่นั้นเป็นต้นมาสี่องครักษ์และองค์หญิงตัวจริงตัวปลอมก็ร่วมทุกร่วมสุข คละเคล้ากันไปเรื่อยมา
เบนจามินและหย่งฉีต่างพยายามทำ ทุกอย่างเพื่อเอาอกเอาใจเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทำให้ทั้งสองเปิดศึกแย่งชิงหญิงงามกันขึ้นมา เสี่ยวเยี่ยนจื่อต้องอยู่ท่ามกลางการแย่งชิงถูกรุมเร้าไม่จบสิ้น เอ่อคังและองค์หญิงฉิงเดิมทีทั้งสองมีหมั้นหมายกันมาก่อน เนื่องจากไทเฮาทรงอาลัยอาวรณ์จึงทำให้ทั้งสองไม่ได้แต่งงานกันเสียที เหตุการณ์ต่างๆมากมาย ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งเจ็ดคนท่ามกลางความรัก ท่ามกลางรอยยิ้มและน้ำตา ท่ามกลางความสับสนระหว่างอำนาจและเสรีภาพ ตลอดจนความรักความจริงใจที่มีต่อกันนั้นได้ก่อให้เกิดสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกระทึกขวัญ ปาฏิหาริย์ หวาดผวา ตื่นตระหนกซึ่งยากที่จะพรรณนา
ด้วยเฉียนหลงทรงมีพระราชประสงค์ เยี่ยมเยียนพสกนิกร อีกทั้งยังทรงพักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบท พระองค์จึงทรงชักชวนเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,จื่อเวย,หย่งฉี,เอ่อคัง,เบนจามิน,เอ่อ ไท่และพวกร่วมขบวนเสด็จประพาส เนื่องจากไทเฮาทรงเคลือบแคลงสงสัยฐานะที่แท้จริงของจื่อเวย พระนางจึงทรงมีพระบัญชาให้ฉิงเอ๋อติดตามขบวนเสด็จประพาสเพื่อปฏิบัติภารกิจ ลับ การนี้จึงกระทบถึงความสัมพันธ์ของเอ่อคังและจื่อเวยขึ้นมา
การ เสด็จประพาสครั้งนี้ ระหว่างทางมีเรื่องราวหลากหลาย เสี่ยวเยี่ยนจื่อ,เอ่อคังและพวกต่างผดุงคุณธรรม เมื่อพบความไม่เป็นธรรมก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ สั่งสอนผู้มีอิทธิพลที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ ขุนนางท้องถิ่นที่บังคับหญิงสาวชาวบ้านแต่งงาน ขุนนางท้องถิ่นเรียกรับสินบนชาวบ้าน ยกเลิกเก็บค่าคุ้มครองจากผู้มีอิทธิพล แม้ว่าการเสด็จประพาสตรั้งนี้ทำให้เฉียนหลงทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ร้อน ของพสกนิกร แต่ในเวลาเดียวกันพระองค์ก็ทรงตระหนักถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน เป็นต้นว่า การเล่นกลองยาว ยิงธนูเลือกคู่ ปีนไม้ไผ่ชิงดอกไม้ หลากหลายกิจกรรมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดคือการที่ได้พบกับขุนนางซื่อสัตย์สุจริตที่ยึดมั่นต่อ กฎหมายทุ่มเทความรู้ความสามารถเพื่อแผ่นดิน หย่งฉี,เอ่อไท่และเสี่ยวเยี่ยนจื่อที่มีขุนนางเช่นนี้จึงพากันวางฐานะสูง ศักดิ์ลงปีนขึ้นไปซ่อมหลังคาที่ว่าการ แต่แล้วเสี่ยวเยี่ยนจื่อก็ก่อเรื่องก่อราวขึ้นอีกจนได้โดยเหยียบกระเบื้อง หลังคาแตกหักจึงกลายเป็นเรื่องขบขันไม่ว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อปรากฎตัวที่ใดจะ ต้องเกิดเรื่องเกิดราวทุกครั้ง
เสี่ยวเยี่ยนจื่อมักจะทำสิ่ง ใดโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาภายหลังจนเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดมากมาย เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อมาถึงวัดกามเทพ ด้วยความพิลึกพิลั่นของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ เสี่ยวเยี่ยนจื่อแอบปีนขึ้นไปบนต้นไม้กามเทพเพื่อผูกผ้าแดงอธิษฐานขอพรให้ ความฝันของทุกคนเป็นจริง แต่ความซุกซนของเสี่ยวเยี่ยนจื่อกลับทำให้กามเทพของชาวจีนและจูปีเตอร์ของ ชาวตะวันตกต้องทำงานกันมากขึ้น
มิตรภาพระหว่างเบนจามินและ หย่งฉีนั้น บัดนี้ทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งซึ่งแย่งชิงเสี่ยวเยี่ยนจื่อ แม้ว่าเบนจามินมีใจให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อ แต่ก็ระมัดระวังตัวไม่เคยล่วงล้ำก้ำเกินนางแต่อย่างใด ครั้งหนึ่ง เสี่ยวเยี่ยนจื่อรู้สึกหึงหวงหย่งฉีขึ้นมาจนสุดที่จะทนต่อไปได้ หย่งฉีต้องการแสดงความจริงใจให้เป็นที่ประจักษ์จึงวางฐานะองค์ชายสูงศักดิ์ ลงเข้าครัวตุ๋นน้ำแกงให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อ แม้ว่ารสชาติไม่สู้ดีนัก แต่ก็ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อปลาบปลื้มใจ ในที่สุดเสี่ยวเยี่ยนจื่อและหย่งฉีก็ตกลงปลงใจคบหาดูใจกัน นับแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเบนจาไม่สามารถตัดใจจากเสี่ยวเยี่ยนจื่อไปได้ แต่เบนจามินก็ยังคงทำหน้าที่เป็นองครักษ์ปกป้องคุ้มครองเสี่ยวเยี่ยนจื่อต่อ ไป
จื่อเวยค้างคาใจต่อความสัมพันธ์เก่าก่อนของเอ่อคังและฉิง เอ๋อ แต่เมื่อจื่อเวยเห็นเอ่อคังแสดงความจริงใจให้เป็นที่ประจักษ์จึงคลายความ คลางแคลงใจไปได้ จื่อเวยเลื่อมใสในความใจกว้างและมีน้ำใจของฉิงเอ๋อจนทั้งสองกลายเป็นเพื่อน รู้ใจกัน ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฉิงเอ๋อเรียนขี่ม้า ด้วยความไม่ระวังตกเข้าไปในกับดักสัตว์จนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่เซียวเจี้ยนยอดฝีมือบุคคลลึกลับช่วยชีวิตฉิงเอ๋อเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ในหัวใจของฉิงเอ๋อก็มีแต่เซียวเจี้ยนเรื่อยมา เป็นความประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลบเลือนไปได้ จื่อเวยไว้วางใจฉิงเอ๋อมากขึ้นทุกที ในที่สุดจื่อเวยก็เปิดเผยความลับเรื่องฐานะที่แท้จริงของนางและเสี่ยว เยี่ยนจื่อต่อ ฉิงเอ๋อ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฉิงเอ๋อก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ
วัน หนึ่ง พรรคบัวขาวทำพิธีขับไล่วิญญาณ แต่ความเป็นจริงมีเป้าหมายลอบปลงพระชนม์เฉียนหลง จื่อเวยถวายอารักขาเฉียนหลงโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของนางจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เฉียนหลงทรงรักและมีพระเมตตาจื่อเวยมากขึ้น การนี้ทำให้ฝูหลุน,เอ่อคังและพวกร้อนใจเป็นอันมาก หลังจากที่อาการบาดเจ็บของจื่อเวยทุเลาบ้างแล้ว เฉียนหลงทรงได้รับสาส์นด่วนจากวังหลวงความว่าอ๋องมองโกลจะเดินทางมาเมือง หลวงเพื่อปรึกษาหารือถึงการแต่งงาน การนี้จึงทำให้การเสด็จประพาสของเฉียนหลงต้องยุติลง เดินทางกลับวังหลวงทันที
เมื่อกลับถึงวังหลวง ฉิงเอ๋อก็รีบนำความลับเรื่องฐานะที่แท้จริงของจื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทูลต่อไทเฮา เรื่องนี้ทำให้ไทเฮาทรงตกพระทัยเป็นอันมาก ทว่าไทเฮายังไม่ทันได้ทรงจัดการปัญหาของจื่อเวย นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงไซหย่าแห่งมองโกลทรงมีพระทัยปฏิพัทธ์ต่อเอ่อคังเป็นคู่ หมั้นคู่หมาย เรื่องนี้ทำให้จื่อเวยและเสี่ยวเยี่ยนจื่อวิตกกังวลเป็นอันมาก ด้วยความที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อคำนึงถึงความสุขชั่วชีวิตของจื่อเวย เสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงตัดสินใจเข้าเฝ้าทูลความจริงเรื่ององค์หญิงตัวจริงตัว ปลอมต่อเฉียนหลงโดยไม่หวั่นต่ออาญาที่หลอกลวงเบื้องสูง เฉียนหลงทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งคุมขังเสี่ยวเยี่ยนจื่อ,จื่อเวย,จินสั่ว และพวก
เบนจามิน,เอ่อคัง,หย่งฉีและเอ่อไท่ได้รับความช่วยเหลือ จากเซียวเจี้ยนชายลึกลับชุดดำจนสามารถแหกคุกหลวงช่วยเหลือเสี่ยวเยี่ยนจื่อ และจื่อเวยหลบหนีไปได้ ทว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกยากที่จะทำใจได้ที่ปล่อยให้เบนจามินและเอ่อไท่ ต้องรับโทษตามลำพัง ทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันด้วยการกลับเข้าวังหลวงเข้าเฝ้าเฉียนหลง เฉียนหลงทรงนิ่งเงียบหวนนึกถึงความสุขที่ได้รับจากเสี่ยวเยี่ยนจื่อและจื่อ เวย ในที่สุดเฉียนหลงก็ทรงอภัยโทษให้ทุกคนในความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง อีกด้านหนึ่ง องค์หญิงไซหย่าแห่งมองโกลซึ่งทรงปฏิพัทธ์ต่อเอ่อคังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจจะจบลงด้วยความเศร้า หรือสุขสมหวังก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
กล่าว ถึงอาหลี่เหอจัวซึ่งนำหานเซียงลูกสาวทูลถวายเฉียนหลง เสี่ยวเยี่ยนจื่อต้องการกอบกู้การค้าของหลิ่วชิงสองพี่น้องจึงชักชวนพรรคพวก สวมใส่ชุดชาวฮั่น,แมนจูและมองโกลขับกล่อมเครื่องดนตรีของชาวตะวันตกจนเลื่อง ลือไปทั่วเมืองหลวง เสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกเข้าใจถึงความรักของหานเซียงและไม่เอ่อตาน ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าจะช่วยเหลือหานเซียงหลบหนีออกจากวังหลวง ต่อมา เมื่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวกรู้ว่าเซียวเจี้ยนคือชายชุดดำที่ช่วยเหลือพวก นางแหกคุกหลบหนีจากคุกหลวงก็เกิดความเลื่อมใสเซียวเจี้ยนเป็นอันมากจึงพากัน กราบเซียวเจี้ยนเป็นอาจารย์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เซียวเจี้ยนก็มีมิตรภาพอันแนบแน่นต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อและพวก ตอลดจนรักมั่นต่อฉิงเอ๋อเรื่อยมา
พระสนมอี๋แม่ของหย่งฉีและ ไทเฮาต่างไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของหย่งฉีและเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ทั้งสองจึงทาบทามซินหยงบุตรีเสนาบดีฝ่ายซ้ายให้แต่งงานกับหย่งฉี หย่งฉียึดมั่นต่อความรักที่มีต่อเสี่ยวเยี่ยนจื่อจึงปฏิเสธเสียงแข็ง พระสนมอี๋ผิดหวังจึงผูกคอตาย โชคดีที่เสี่ยวเยี่ยนจื่อช่วยชีวิตพระสนมอี๋ไว้ทันการด้วยการขอยาชุบชีวิต จากหานเซียงช่วยชีวิตพระสนมอี๋ หย่งฉีเกรงว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยจึงต้องจำใจแต่งงานกับซินหยง ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจื่อได้รับความสะเทือนใจเป็นอันมาก