KTAMเพิ่มทางเลือกลูกค้าขาย3กองทุน ตราสารหนี้ใน-ตปท.-อิควิตี้อินเด็กซ์ลิงค์
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเคแทม อิควิตี้ อินเด็กซ์ ลิงค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 2 ปี (KTEL2 Y ) ในวันที่ 8-12 ตุลาคม 2555 อายุโครงการประมาณ 2 ปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขึ้นต่ำ 10,000 บาท โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารทางการเงินที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อมุ่งให้เติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุน โดยกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนนี้จะกระจายการลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินต่างประเทศ สกุล AED และ/หรือ สกุล USD ประมาณ 40% เช่น เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank , Bank of China , ตราสารหนี้ของ Macquarie Group Ltd. และส่วนที่เหลือจะเลือกลงทุนในตั๋วแลกเงิน / หุ้นกู้สถาบันการเงินหรือบริษัทเอกชนในประเทศไทย เช่น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารธนชาติ ธนาคารไอซีบีซีไทย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ บมจ.บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส บมจ.ศุภาลัย เป็นต้น รวมถึงสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับผลตอบแทนจากราคาหน่วยลงทุนประเภท ETF ของ Energy Select Sector SPDR Fund (XLE)
เงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน โดยจะจ่ายผลตอบแทนทุกๆ1 ปี พิจารณาจาก 3 กรณี ดังนี้ กรณีที่1 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ( SET 50 ) เพิ่มขึ้นมากกว่าหรือเท่ากับ30% ของราคาเริ่มต้น ณ สิ้นวันใดวันหนึ่งในช่วงการจ่ายผลตอบแทนทุกๆ1ปี ของอายุกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผตอบแทนประมาณ 1.75% กรณีที่ 2 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดในแต่ละช่วงการจ่ายผลตอบแทนทุกๆ1ปี ( Final Price ) เพิ่มขึ้นมากกว่าราคาเริ่มต้น แต่ไม่ถึง 30% ของราคาเริ่มต้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 0.01-19.49% และในกรณีที่ 3 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดอายุในแต่ละช่วงการจ่ายผลตอบแทนทุกๆ 1 ปี
( Final price ) เท่ากับหรือน้อยกว่าราคาเริ่มต้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 0%
ฝ่ายวิจัยของบริษัท ได้ประเมินเป้าหมายดัชนี ในปี2556 อยู่ที่ 1,479 จุด ค่า PE อยู่ที่ 13.5เท่า โดยคาดว่าจะปรับตัวสูงกว่าปีนี้ ประมาณ 15% ทั้งนี้ จากการสถิติที่ผ่านมา ในปี 2550 การแกว่งตัวของดัชนีค่า PE เฉลี่ยสูงสุดที่ 14 เท่า และต่ำสุดเฉลี่ยที่ 9 เท่า ดังนั้น ในระหว่างปี 2556 ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 1,550 จุด และต่ำสุดที่ 996 จุด นอกจากนี้ ในปี 2552 และ 2553 ตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนสูงถึง 63% และ41 % ตามลำดับ ซึ่ง เป็นปีที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ในขณะที่ปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในช่วงการเติบโตที่มีเสถียรภาพ โดยผลประกอบการจะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 54 ( KTSUPB54 ) ในวันที่ 8-16 ตุลาคม 2555 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท นโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากประจำของ Abu Dhabi Commercial Bank , The Commercial bank of Qatar , Union Nation Bank , MTN ออกโดย Banco Santander Brazil S.A. , MTN ออกโดย Banco Bradesco S.A. ในสัดส่วน 77% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก / ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย / ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.20% ต่อปี
พร้อมทั้งเปิดจำหน่ายกองทุน เปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 1 ( KTSIV3M1 ) เสนอขาย วันที่ 8-12 ตุลาคม 2555 เน้นลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก 42% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี