ขอนำเรื่องของคุณแม่ของผมมาเป็นอุทาหรณ์ครับ
แม่อายุ 59ปี มีประวัติความดันสูง และมีอาการปวดหัวอยู่บ้าง แต่ก็หายลงด้วยการกินยาลดความดัน หลังจากเกิดอาการปวดหัวบ่อยขึ้น แม่ก็คิดเองว่าอาจเกิดจากความเครียด เลยหาหมอนวดมือหนักๆ นวดหัว และต้นคอเผื่อผ่อนคลายเสมอๆมา
กว่าสองอาทิตย์การนวดไม่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว และ อาการรุนแรงมากขึ้น ต้องไปพบหมอและเอ็กซเรย์เพือดูความผิดปรกติภายใน
จันทร์ที่ 2 พ.ค. 54 คุณหมอจาก โรงพยาบาลโทรเรียกแม่ให้กลับโรงพยาบาลด่วน ภายหลังจากหมอทราบผลการอ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ว่า มีน้ำและเลือดคั่งอยู่ภายในสมอง 2 ข้าง (bilateral subdural hematoma ไม่มี intra-axial hematoma)
อาการนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากศรีษะกระแทกอย่างรุนแรง ถูกทำร้าย หรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุหกล้ม
ก่อนเข้าห้องผ่าตัด หมอถามแม่และน้องชายย้ำหลายครั้งว่าถูกทำร้ายมาหรือเปล่า เพราะหากถูกทำร้ายต้องกลายเป็นเรื่องคดีความต่อ ทุกคนต่างยืนยันว่าไม่เคยล้ม และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน สาเหตุของน้ำและเลือดคั่งในสมองแม่ ยังคงเป็นปัญหาคาใจหมอ ?
พยาบาลโกนหัวแม่ทันทีในคืนนั้น พร้อมกับบอกว่าต้องเจาะเอาน้ำและเลือดออกจากสมอง เพื่อให้คลายอาการปวดหัว “นิดเดียว เดี๋ยวก็หาย ” พยาบาลย้ำกับแม่เพื่อให้สบายใจ ก่อนส่งตัวให้คุณหมอ เปิดหนังศรีษะ พร้อมเจาะกะโหลก ฝั่งซ้ายและขวา
จากคำบอกเล่าของพยาบาล ในหัวแม่มีน้ำผสมกับเลือดไหลออกมา 4 ถุง (ไม่แน่ใจปริมาณ) ผ่านไปช่วงเย็นของอีกวัน แม่เริ่มพูดคุยได้
แม่ขอดูกระจก พร้อมกับเอามือลูปหัวตัวเอง และบ่นว่า “ พยาบาลหลอกว่าทำนิดเดียว แต่ทำตั้งเยอะ” เนื่องจากน้ำและเลือดคั่งในสมองสองข้าง ต้องผ่าตัดพร้อมๆกันทั้งสองข้าง หลังการผ่าตัดมีรอยเย็บที่หัวข้างละ 8 เข็ม และมีรอยเจาะเล็กๆ อีกสองจุด ผมยังแซวแม่ว่า “ทำไมไม่บอกหมอดึงหน้าให้ตึงไปเลยละ ไหนๆก็ผ่าหัวละ” แม่นั่งยิ้มไม่คุยต่อ
หลังจากนั้นก็หลอกถามอีกครั้งว่า มีใครตีหัวแม่หรือเปล่า เคยล้มไหม เพราะหมอยืนยันว่าอาการมีน้ำปนเลือดคั่งในสมองเกิดจากการกระแทกย่างรุนแรง
แม่เริ่มเล่าให้ฟังด้วยความจำนนต่อหลักฐานทางการแพทย์ว่า
ทุกครั้งที่ปวดหัวจะไปหาหมอนวดให้นวดหัวซึ่งวิธีการนวดก็มีการใช้มือสองข้าง สับ สับ สับ กด กด กด คลึง คลึง คลึง ที่หัว แม่บอกว่านวดมานานหลายอาทิตย์ เข้าใจว่านานมากพอที่จะทำให้เกิดน้ำและเลือดปนในสมองได้มากถึง 4 ถุง หลังจากรู้สาเหตุก็ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอยืนยันว่าการนวดนี้แหละคือสาเหตุ
คุณหมอเล่าว่าอุบัติเหตุจากการนวด คอ และนวดหัว เกิดขึ้นบ่อย มีคนเป็นอัมพาตเพราะการนวดที่ลำคอ เนื่องจากการนวดจะส่งผลให้เส้นเลือดเส้นหลักถูกบีบ ถูกกระแทก คนแก่บางคน ในเส้นเลือด มีแคลเซียมและ ไขมันเกาะอยู่ในเส้นเลือด การนวด ทำให้แคลเซียมและไขมันในเส้นเลือดย้ายที่และอุตตันในเส้นเลือด ส่งผลให้เลือดส่งไปไม่ถึงสมองบางส่วน และเป็นอัมพาตในที่สุด
ตอนนี้แม่ผมอยู่ในระหว่างการพักฟื้น หลังการผ่าตัดเพียงสองวันก็สามารถเดินและพูดคุยได้ และที่สำคัญอาการปวดหัวหายไป
ทุกครั้งที่คิดจะนวดหัว หรือนวดคอ อยากให้นึกถึงเรื่องของแม่ผมไว้ จะได้ไม่ประมาทครับ
และที่สำคัญคนแก่ที่มีภาวะความดัน ไม่ควรนวดที่หัวและที่คอ
ที่มา ฟอร์เวิร์ดเมล