pooklook on September 09, 2012, 09:09:00 PM
หลายคนอาจจะพูดว่า ตอนนี้ยังหนุ่มยังสาวอยู่ ยังมีแรงพอที่จะทำงานมาก ๆ เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ พอแก่ตัวแล้วจะได้สบาย

                  ก็ไม่ผิดหรอกนะคะที่จะคิดเช่นนั้น แต่ต้องระวังไว้หน่อยเพราะถ้าโหมงานหนักเกินไปล่ะ เงินที่เก็บไว้แทนที่จะเอาไปใช้ซื้อของ หรือท่องเที่ยว ก็อาจจะต้องควักออกมาใช้รักษาตัวแทน เมื่อป่วยด้วยโรคคาโรชิโรคแปลก ๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งความร้ายกาจของมันก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

                 โรคคาโรชิ หรือ Karochi syndrome ฟัง ดูแล้วก็คงไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษจะหมายถึง Death from Overwork หรือ การเสียชีวิตจากการทำงานหนัก พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำงานหนักจนตาย หรือบ้างานจนตายนั่นเอง

                 นั่นหมายความว่า โรคคาโรชิ คือโรคที่เกิดกับคนขยัน ใครที่บ้างาน โหมทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ จนร่างกายรับไม่ไหว ในที่สุดก็ถึงแก่ชีวิต โอ้ว...ฟังดูชักน่ากลัวขึ้นมาแล้ว อย่าเพิ่งวิตกไป มารู้จักเจ้าโรคนี้กันหน่อยดีไหม

              โรคคาโรชิ คืออะไร

                 โรคนี้มีประวัติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่นถูกกองทัพสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิด ทำให้บ้านเมืองเสียหายยับเยิน หลังจากนั้น คนญี่ปุ่นจึงต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าเพื่อฟื้นฟูประเทศ ซึ่งภายหลัง ประเทศญี่ปุ่นก็กลายเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะบอกได้ว่า อดีตที่แสนเจ็บปวดได้ปลูกฝังให้คนญี่ปุ่นเป็นคนขยันขันแข็ง อดทน และผูกพันกับองค์กรมาก อีกทั้งการทำธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงมาก ทำให้ชาวญี่ปุ่นทำงานหามรุ่งหามค่ำ พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่กลับบ้านกลับช่อง สุดท้ายเกิดความเครียด โรคต่าง ๆ ก็ถามหา ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง แม้กระทั่งอัมพาต

              มาป้องกันโรคาโรชิกันดีกว่า

                  จริง ๆ เราสามารถป้องกันโรคนี้ได้ง่าย ๆ แค่คุณรู้จักจัดสรรเวลาในการทำงานให้ถูกต้อง ต้องรู้ว่าเวลาไหนที่ควรจะพักผ่อนได้แล้ว ไม่ควรตรากตรำทำงานหนักมากเกินไป ต้องรู้จักปรับเวลาการทำงาน และการพักผ่อนให้สมดุลกัน ตระหนักไว้ก่อนเลยว่า สุขภาพเราสำคัญที่สุด ถ้าเป็นอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มกันเลยนะ

                  อย่างเช่น แต่ละวันที่คุณนั่งทำงานอยู่ ก็ควรจะพักผ่อนบ้าง ทุก ๆ ชั่วโมง สองชั่วโมง ควรหาวิธีผ่อนคลายให้ตัวเอง เช่น เดินออกไปสูดอากาศข้างนอก หรือหลับตา นั่งนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อผ่อนคลายความเครียดก็น่าจะดี และถ้าเลิกจากงาน วันหยุดสุดสัปดาห์ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ลองหากิจกรรมอื่น ๆ ทำ เช่น เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ก็จะช่วยได้มากเลย แต่ถ้าใครเริ่มมีอาการเครียดมาก ๆ ไม่รู้ว่าจะผ่อนคลายความเครียดได้อย่างไร และหาทางออกไม่ได้ ลองปรึกษาแพทย์ หรือขอคำปรึกษาที่สายด่วนสุขภาพจิต 1667 ก็ได้ค่ะ