การทำงานเป็นกะมีความเสี่ยงกับการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองอุดตันมากกว่าผู้ทำงานเป็นเวลาทั้งวัน ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงวารสารการแพทย์อังกฤษพบว่าการทำงานเป็นกะจะทำให้นาฬิการ่างกายผิดปกติ และมีความเชื่อมโยงกับโรคความดันโรหิตสูง
การจำกัดในเวลาทำงานกะกลางคืนจะช่วยให้ผู้ทำงานรับมือได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ทีมนักวิจัยประเทศนอร์เวย์และแคนนาดาได้วิเคราะห์ผลการศึกษา 34 การศึกษา พบว่า 17,358 คนเป็นโรคหลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจอุดตันรวมถึงภาวะที่หัวใจหยุดเต้น 6,598 คนมีอาการหัวใจวาย 1,854 คนภาวะขาดเลือดเลี้ยงสมอง
โรคต่างๆเหล่านี้จะพบในคนทำงานเป็นกะมากกว่าคนทำงานเวลาปกติ The BMJ study ได้คำนวณการเชื่ยมโยงต่อความเสี่ยงพบว่ามีความเพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ต่ออาการหัวใจวาย 24 เปอร์เซ็นต์ต่อความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และ มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองอุตัน แต่การทำงานเป็นกะไม่เชื่อมโยงต่ออัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะเพิ่มขึ้น
นักวิจัยได้สืบถึงสถานะสังคมและเศรษฐกิจของผู้ทำงาน ด้านโภชนาการสุขภาพโดยทั่วไปของพวกเขา แดน แฮคกัม รองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์ในแคนนาดา กล่าวว่าผู้ที่ทำงานเป็นกะมีแนวโน้มจะรับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่ทำงานกะกลางคืนระบบประสาทจะต้องทำงานตลอดไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งจะทำให้เป็นโรคอ้วนและคอเลสเตอรอล
ผู้เขียนกล่าวว่าโปรแกรมคัดกรองสามารถช่วยระบุปัจจัยเสี่ยงสำหรับคนทำงานเป็นกะได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูงและระดับคอเลสเตอรอล
และกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับอาการที่แสดงออกถึงปัญหาโรคหัวใจในช่วงต้นอีกด้วย
เจน ไวท์ นักวิจัยและผู้จัดการด้านบริการข้อมูลสถาบันความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กล่าวว่าปัญหาที่ซับซ้อนในการทำงานเป็นกะ มันจะรบกวนความยากอาหารและระบบการย่อยอาหารที่ต้องพึ่งความสงบ และยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มโอกาสความผิดพลาดจากการทำงานและยังมีผลเสียต่อสุขภาพด้วย
เจน ไวท์ กล่าวว่าผลกระทบต่อการทำงานเป็นกะควรได้รับการจัดการที่ดี การหลีกเลี่ยงกะกลางคืน และกำหนดการเปลี่ยนกะมากที่สุด 12 ชั่วโมงและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงงานโดยมีการจัดให้พักผ่อนขั้นต่ำอย่างน้อย 2 คืนเต็มก่อนจะมีกะกลางคืนถัดมา โดยวิธีการแก้ปัญหานี้จะช่วยให้ผู้ทำงานรับมือกับการเปลี่ยนกะได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะทำงานกลางคืนหรือทำงานในเวลากลางวันแบบปกติ การรับปประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกาย และการไม่สูบบุหรี่สร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับสุขภาพหัวใจ