happy on July 30, 2012, 01:08:48 PM

Lay The Favourite / แทงไม่กั๊ก จะรักหรือจะรวย
นักแสดง - บรู๊ซ วิลลิส, แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์, วินซ์ วอห์น
ผู้กำกับ - สตีเฟ่น เฟรียร์ส
ประเภท - เบาสมอง
กำหนดเข้าฉาย 23 สิงหาคม 2012 เฉพาะเครือ SF เท่านั้น


เรื่องย่อขนาดสั้น

               เบ็ธ เรย์เมอร์ (รีเบ็กก้า ฮอล) เป็นหญิงสาวสวยที่ตื่นเต้นและมีอารมณ์รุนแรง สาวน้อยผู้โอบอ้อมอารีคนนี้เลิกทำงานนักเต้นระบำเปลื้องผ้าในฟลอริดา เพื่อไล่ตามความฝันของเธอ ในการได้เป็นสาวเสิร์ฟค็อกเทลในลาสเวกัส เมื่อเธอหางานไม่ได้ เธอก็โชคดีที่ได้พบกับดิงค์ (บรูซ วิลลิส) นักพนันกีฬานิสัยแปลกประหลาด ผู้มองเห็นศักยภาพและความสามารถที่ซ่อนอยู่ใต้โฉมหน้าที่สดใสของเบ็ธ ดิงค์เสนองานให้เบ็ธเป็นคนวางเงินพนันและรับโทรศัพท์ และการเสี่ยงดวงของเขากับเบ็ธก็ได้ผล เธอพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นอัจฉริยะด้านการพนันและเธอก็กลายเป็นเครื่องรางนำโชคของดิงค์อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนมีบางสิ่งเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา และมันก็ไม่ใช่เรื่องของงานซะด้วย…แล้วทิวลิป (แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์) ภรรยาขี้หึงอดีตสาวโชว์เกิร์ลของดิงค์ก็ก้าวเข้ามา เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไล่เบ็ธออก โชคของดิงค์ก็เหือดแห้งเมื่อเธอมุ่งหน้าไปนิวยอร์กเพื่อทำงานให้กับนักพนันคู่แข่งที่ชื่อ โรซี (วินซ์ วอห์น) เมื่อเธอร่วมงานกับโรซีในสิ่งที่ทำให้เธอก้าวไปสู่อีกด้านหนึ่งของกฎหมาย ดิงค์และทิวลิปก็ต้องแข่งกับเวลาเพื่อช่วยให้เบ็ธช่วยเหลือตัวเองและเติบโตขึ้นในที่สุด ใน LAY THE FAVORITE ผู้กำกับชื่อดัง สตีเฟน เฟรียส์ได้เผยความสามารถของเขาในการร้อยเรียงคอเมดีและดรามาเข้าด้วยกันอย่างเฉียบคม เพื่อสร้างเรื่องราวที่ลุ้นระทึกของการพนัน ความรักและมิตรภาพที่ไม่น่าเป็นไปได้ ในสถานที่ที่เหลือเชื่อที่สุด จากบทภาพยนตร์โดยดี.วี. เดอวินเซนทิส (High Fidelity, Grosse Pointe Blank) จากอนุทินของเบ็ธ เรย์เมอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมแสดงโดยโจชัว แจ็คสันและลอรา พรีพอน






เรื่องสั้นขนาดยาว

                 เมื่อตระหนักว่าชีวิตนักเต้นระบำเปลื้องผ้าไม่ใช่อาชีพที่เหมาะกับเด็กสาวหัวดี ผู้โอบอ้อมอารี เบ็ธ เรย์เมอร์ (รีเบ็กก้า ฮอล) สาวน้อยชาวฟลอริดา ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการมุ่งหน้าไปเวกัสเพื่อไปเป็นสาวเสิร์ฟค็อกเทล ด้วยการสนับสนุนจากพ่อผู้ติดการพนันงอมแงมของเธอ แต่การหางานไม่ง่ายเลย และเบ็ธก็ไม่อยากกลับไปเต้นเหมือนก่อนเสียด้วย แต่แล้ว ฮอลลี (ลอรา พรีพอน) เพื่อนใหม่ของเธอก็ได้แนะนำงานที่ไม่ธรรมดาให้กับเบ็ธที่ดิงค์, อิงค์.
             ออฟฟิศโทรมๆ แห่งนี้เป็นที่ทำงานของดิงค์ (บรูซ วิลลิส) นักพนันอาชีพ ผู้ไร้ระเบียบแต่ก็เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เขาชำนาญในเรื่องการพนันกีฬาเป็นพิเศษ แม้ว่าศัพท์แสลงของแต้มต่อ สถิติหรือตารางคะแนนอาจฟังเหมือนภาษากรีกสำหรับเบ็ธ แต่ดิงค์ก็ถูกชะตากับเธอ งานของเบ็ธคือการไปวางพนันที่คาสิโนต่างๆ ด้วยตัวเธอเอง เพื่อให้ได้โอกาสที่ดีที่สุดในที่ที่เจ้านายเธอคิดว่าเขามีแต้มต่อ เช่นเดียวกับเบ็ธ ดิงค์ก็เคยทำงานในด้านมืดของกฎหมายมาก่อน แต่ในเวกัส อาชีพของเขาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เขาก็เลยเห็นใจกับอดีตที่ด่างพร้อยของเธอ และเขาก็ประทับใจเป็นพิเศษกับความทรงจำและความสามารถด้านตัวเลขที่หาตัวจับยากของเบ็ธ
             แม้ว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดี แต่เบ็ธก็ถูกเตือนว่าอย่าใกล้ชิดเกินไปกับดิงค์ ผู้ซึ่งทิวลิป ภรรยาสาวสวยผู้เย็นชาของเขา (แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์) เพิ่งกลับมาจากการท่องเรือสำราญในยุโรป ดิงค์ ผู้วิตกจริตตลอดกาล เชื่อว่าทิวลิปเป็นตัวซวย แต่เบ็ธดูเหมือนจะเป็นเครื่องรางนำโชค ทิวลิป ที่ริษยาความสนใจที่ดิงค์มอบให้กับพนักงานใหม่รายนี้ บังคับให้ดิงค์ไล่เบ็ธออก
             ในยามหมดอาลัยตายอยาก เบ็ธได้พบกับ เจเรมี (โจชัว แจ็คสัน) ชายธรรมดาคนหนึ่งและทิ้งโลกของดิงค์ไว้เบื้องหลัง แต่ดิงค์กำลังดวงตกอย่างต่อเนื่อง เมื่อพนักงานคนอื่นของเขาไม่ว่าง เขาก็ต้องอาศัยฮอลลี ผู้พึ่งพาไม่ได้ ให้ไปวางพนันแทนเขา นำมาสู่ผลเสียหายร้ายแรง ดิงค์ทำข้อตกลงกับทิวลิปในการจ้างเบ็ธกลับมาใหม่ (โดยสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง) แต่การกลับมาของเบ็ธดูเหมือนจะทำให้เขาดวงตกหนักข้อกว่าเดิม ดิงค์ก็เลยไล่เบ็ธออกอีกครั้ง เธอย้ายไปนิวยอร์กเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับเจเรมี และเริ่มทำงานให้กับโรซี (วินซ์ วอห์น) นักพนันผิดกฎหมาย เบ็ธไม่ฟังคำเตือนของดิงค์ และเมื่อแผนการของโรซีซับซ้อนขึ้น เบ็ธก็เริ่มลากเจเรมีเข้ามาในชีวิตเธอ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงตรงหน้าเธอ เบ็ธก็หันไปขอคำแนะนำจากดิงค์ว่าจะทำยังไงให้ตัวเธอและแฟนหนุ่มของเธอหลุดพ้นจากปัญหาด้านกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เธอต้องพึ่งพาคือสัญชาตญาณคมกริบของตัวเอง ถ้าหากเธออยากจะโชคดีและเอาตัวรอดให้ได้อีกซักครั้ง

happy on July 30, 2012, 01:15:51 PM

เกี่ยวกับงานสร้าง

               อย่างที่คนเคยหยอดเหรียญใส่ตู้สล็อตแมชชีนรู้ดี โชคอาจเป็นคู่เต้นที่เล่นตัวก็ได้ แต่ก็มีคนอย่าง เบ็ธ เรย์เมอร์ ผู้ดูเหมือนจะสามารถสร้างโชคของตัวเองในยามที่จำเป็นที่สุด อย่างเหนือความคาดหมาย เพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เรย์เมอร์เป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า ผู้ซึ่งความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอคือการได้เป็นสาวเสิร์ฟค็อกเทล แต่ตอนนี้ เธอกลายเป็นนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ ผู้จบปริญญาโทจากโคลัมเบีย และเป็นประเด็นหลักของภาพยนตร์เรื่อง Lay the Favorite ที่สร้างจากอนุทินเรื่อง Lay the Favorite: A Memoir of Gambling ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย สตีเฟน เฟรียส์ ผู้กำกับมือเก๋าผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ (“Dangerous Liaisons”, “The Queen,” “Dirty Pretty Things,” “The Grifters”) นำแสดงโดยรีเบ็กก้า ฮอล (“Vicky Cristina Barcelona,” “Please Give”) ในบทเบ็ธ เรย์เมอร์ ร่วมแสดงโดยบรูซ วิลลิส, วินซ์ วอห์น, แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์, ลอรา พรีพอน, โจชัว แจ็คสันและคอร์บิน เบิร์นสัน
   มือเขียนบท ดี.วี. เดอวินเซนทิส (ผู้ร่วมเขียนบท “High Fidelity” ที่กำกับโดยเฟรียส์และ “Grosse Point Blank”) ถูกใจกับประเด็นและตัวละครเอกของเรื่อง “ผมไม่เคยพบใครเหมือนเธอเลย” เขาพูดถึงเบ็ธ เรย์เมอร์ตัวจริง “เธอเป็นคนที่มั่นใจที่สุดที่ผมเคยพบ ซึ่งนั่นเป็นเสนห์ตามธรรมชาติของเธอ เธอคงจะเกิดมาเป็นแบบนี้เลยล่ะครับ เธออ่อนหวานมากๆ และมีมุมมองเกี่ยวกับโลกที่น่าสนใจจริงๆ เธอสามารถพบสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ที่จะนึกถึงมันและหัวเราะกับมันได้” น่าแปลกที่ตอนแรกเดอวินเซนทิสได้รับเพียงแต่เค้าโครงหนังสือของเรย์เมอร์เท่านั้น “จริงๆ แล้ว ดี.วี. เขียนบทไปพร้อมๆ กับที่เบ็ธเขียนอนุทินของเธอน่ะครับ” ผู้อำนวยการสร้างแอนโธนี เบร็กแมนกล่าว “เขาจะโทรหาเธอแล้วถามทำนองว่า ‘เกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์นี้ล่ะ’ ผมไม่แน่ใจว่าใครแซงใครก่อน แต่สุดท้าย พวกเขาก็เขียนเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกันครับ”
             สำหรับเดอวินเซนทิส ความท้าทายอยู่ที่การให้น้ำหนักไปที่อนุทินของเรย์เมอร์ (ซึ่งมีเหตุการณ์จากชีวิตที่ไม่ธรรมดาของเธอมากเกินกว่าที่จะนำมานำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้) และบันทึกเสียงและบุคลิกในฐานะนักเขียนที่โดดเด่นของเธอ “ผมแค่ขโมยจากเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” เขายอมรับ “เพราะมันเยี่ยมเหลือเกิน วิธีที่เบ็ธตัดสินใจ วิธีที่เธอมองดูโลกใบนี้และเข็มทิศศีลธรรมของเธอน่ะครับ”
              สำหรับมือเขียนบท การสร้างเบ็ธเวอร์ชันภาพยนตร์หมายถึงการสร้างคนที่ “ชาญฉลาด สร้างสรรค์ อารมณ์รุนแรง หลงทาง และดูเหมือนจะไม่มีอำนาจควบคุมตัวเองซักเท่าไหร่ เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างวิเศษสุด ผู้ที่มักจะตัดสินใจผิดพลาดเสมอ” เดอวินเซนทิสพูดถึงเบ็ธในช่วงเริ่มต้นเรื่อง “แต่เธอก็เป็นคนที่เข้าใจว่ามันยังมีหนทางใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้ ด้วยความที่เธอเป็นคนเข้มแข็ง เธอต้องไขว่คว้าอะไรที่เกินตัว ซึ่งบางครั้ง ก็นำมาสู่ความเสียหายยับเยิน แต่มันก็ดึงเธอออกมาสู่โลกกว้าง และท้ายที่สุด มันก็ทำให้เธอได้พบดิงค์ครับ”
              การได้พบกับดิงค์ นักพนันอาชีพที่ประสบความสำเร็จแต่วิตกจริต ผู้เริ่มปล่อยให้อาชีพพิสดารของเขากระทบกับชีวิตคู่ กระตุ้นให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา (ตามมาตรฐานฮอลลีวูด) ซึ่งทั้งเย้ายวนและโรแมนติก แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สมหวัง เป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเป็นมิตรภาพแน่นแฟ้นและความเคารพซึ่งกันและกันจากคนสองคนที่ไม่น่าเป็นเพื่อนกันได้ “ไอเดียที่ว่าคนสองคนนี้ได้พบกันและกันเป็นเรื่องพิเศษสุดเพราะพวกเขาไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้เลย” เดอวินเซนทิสกล่าว
              ความสัมพันธ์นั้นและเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาจากยาจกไปเป็นเศรษฐีของเรย์เมอร์นี่เองที่ดึงดูดความสนใจของสตีเฟน เฟรียส์ เดอวินเซนทิสได้พูดถึงโปรเจ็กต์นี้ให้เฟรียส์ฟังเล่นๆ แต่ผู้กำกับผู้นี้ดูเหมือนจะมีสัญชาตญาณในการพนันที่เหมือนกับเบ็ธ ขณะที่บทภาพยนตร์เดินหน้าสู่ขั้นตอนงานสร้าง เดอวินเซนทิสซาบซึ้งกับการที่ได้มือที่มั่นคงของเฟรียส์มากุมบังเหียนเรื่องนี้ “ผมแค่ทำในสิ่งที่เขาบอกให้ทำครับ” มือเขียนบทบอก “เขาช่างพิเศษสุดและมีสัญชาตญาณเฉียบคม…เขารักนักแสดงและไว้วางใจให้พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเอง และกับมือเขียนบทก็เหมือนกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลได้มากเพราะคุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองมีค่าและสิ่งที่คุณทำเป็นเรื่องสำคัญ เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่ผมเคยพบหรือร่วมงานด้วยมาก่อน และการเขียนก็ไม่เคยหยุดเลยครับ” เฟรียส์กล่าวสอดคล้องกับความคิดนั้นและอธิบายว่า วิธีการร่วมมือของเขายังคงเดินหน้าต่อแม้เมื่อกล้องเริ่มเดินแล้ว
             “ผมรู้ว่าผู้กำกับคนอื่นๆ กลัวการที่มือเขียนบทมาอยู่ในกองถ่าย” เขาบอก “แต่สำหรับผม นั่นเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่สุดในโลก สิ่งที่คุณทำมีเพียงแค่สร้างหนัง ไม่มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนไปกว่านั้น คุณต้องการคนทำงานอีกคนหนึ่งมาแบ่งเบางาน และเราก็มักปรับแก้บทกันอยู่บ่อยๆ ดังนั้น สำหรับผมแล้ว การให้ดี.วี. มีส่วนร่วมตลอดทั้งกระบวนการก็เป็นการตัดสินใจที่ปกติธรรมดาครับ"
             การหาคนมารับบทเบ็ธ เรย์เมอร์กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยากเย็นที่สุดของเฟรียส์ เขากล่าวว่า เขาได้เลื่อนการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทนี้ออกไปกว่าหนึ่งปี ด้วยความต้องการหานักแสดงหญิงที่เพอร์เฟ็กต์และเขาก็อนุมานเอาเองว่าบทนี้น่าจะตกเป็นของหญิงสาวชาวอเมริกัน “ผมมอยากได้นักแสดงชาวอเมริกันเพราะผมก็คิดเหมือนเด็กๆ ว่า ‘ถ้าบทบอกว่าอเมริกัน ผมก็ควรจะหาอเมริกัน’ แต่เอเจนท์ของรีเบ็กก้า ฮอลเมื่อนานมาแล้วได้เสนอชื่อเธอขึ้นมา ในที่สุด ผมก็ได้พบเธอและเอเจนท์เธอก็ตื๊อผมให้เรียกเธอไปออดิชัน และผมก็จำใจตกลง แต่เธอน่าอัศจรรย์ใจมาก ผมช่างเป็นคนโง่จริงๆ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมเลือกแองเจลิก้า ฮูสตันสำหรับ ‘The Grifters’ ผมปฏิเสธที่จะเลือกเธอมาเป็นปี แต่เธอก็วิเศษสุดเหมือนกัน นับว่าผมมีประวัติความงี่เง่าที่ใช้การได้เลยนะครับ!”
             “ฉันรู้ตั้งแต่นาทีแรกที่ได้อ่านบทว่ามันจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษสุด เป็นประสบการณ์ดีๆ สำหรับการทำงานน่ะค่ะ” รีเบ็กก้า ฮอลเล่า “ฉันรู้ด้วยว่าไม่น่าจะมีใครนึกถึงฉันสำหรับบทนี้ สตีเฟนแทบจะหัวเราะใส่หน้าฉันด้วยซ้ำตอนที่ฉันบอกว่าฉันอยากเล่นบทนี้ และสิ่งที่เขาพูดตอนแรกคือ ‘ผมจะไม่มีวันเลือกคุณหรอก’ ซึ่งทำให้ฉันดิ้นรนอยากได้บทนี้มาก ท้ายที่สุดเขาก็ยอมให้ฉันออดิชัน ดังนั้น ปัญหาตั้งแต่แรกของฉันก็คือฉันรู้ว่าฉันอยากเล่นบทนี้ใจจะขาดแล้วฉันจะทำยังไงถึงจะทำให้คนอื่นเชื่อได้ล่ะ”
             บทดิงค์ไม่ได้ชวนให้นึกถึงหนึ่งในนักแสดงบู๊ที่โด่งดังที่สุดของฮอลลีวูดเลย เพราะดิงค์ต้องกลืนเป็ปโต้ บิสมอลเพื่อผ่อนคลายอาการปั่นป่วนท้อง และยอมละเลิกจากความวุ่นวายและอันตรายในชีวิตอาชญากรของเขาในฐานะคนรับพนันในนิวยอร์กมาสู่ชีวิตที่ค่อนข้างจะปลอดภัย (และถูกกฎหมาย) ในฐานะนักพนันลาสเวกัส นอกจากนี้ เขายังแต่งงานกับภรรยาสาวสวย ที่ชอบบงการชีวิตเขา และเขาก็มักใช้ชีวิตอย่างหุนหันพลันแล่นมากกว่าที่จะคิดคำนวณอย่างใจเย็น แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับงานสร้างเรื่องนี้ต่างก็ตื่นเต้นกับการเลือกบรูซ วิลลิสมารับบทนี้
             ผู้อำนวยการสร้างมือเก๋า แรนดัลล์ เอ็มเม็ตต์ ผู้เคยร่วมงานกับวิลลิสมาก่อน ทึ่งกับผลงานของเขาใน “Lay the Favorite” “ผมเคยทำงานในแนวหนังที่คนเคยเห็นเขามามากกว่า ทั้งในฐานะดารานักบู๊หรือพระเอก และตอนที่ผมมากองถ่ายวันแรก ผมก็อึ้งไปเลย เขาเป็นคนร่างเล็ก และมีอารมณ์อ่อนไหวมากๆ ผมโตขึ้นมากับบรูซ วิลลิส ได้ดูเขาใน ‘Die Hard’ แต่เขาอยู่ตรงหน้าผมในถุงเท้ากีฬาและกางเกงขาสั้นสีกากี เขาล้วงลึกเข้าไปในตัวละครตัวนี้และกลายเป็นผู้ชายคนนี้จริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน” “ความจริงก็คือเขาเป็นนักแสดงที่โรแมนติกมากๆ ครับ” สตีเฟน เฟรียส์กล่าว “เขาเป็นคนที่สุภาพและเอื้อเฟื้อมากๆ ในตอนที่เขาแสดง เขาก็แสดงด้วยความสมจริงและลึกซึ้ง อย่างน่าเชื่อ ผมยินดีจริงๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา”
             “บรูซทำได้อย่างวิเศษสุดในการนำ ‘ความเป็นบรูซ’ ของเขาเข้าไปในบท” แอนโธนี เบร็กแมนกล่าวเสริม “มันเป็นเรื่องยากกว่าเยอะในการนำบุคลิกแบบแข็งทื่อไปสู่ที่ที่เขาต้องแสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลและความเปราะบาง ในฐานะส่วนหนึ่งของดิงค์ตัวจริง มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยม และผมก็คิดว่ามันจะต้องเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับใครหลายคนที่ได้เห็นบรูซในบทนี้ครับ”
             นอกจากนี้ บทของเดอวินเซนทิสยังเต็มไปด้วยตัวละครที่เจิดจ้า ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่รวมตัวละครน่าสนใจ และมิติและความซับซ้อนของพวกเขาก็ทำให้ต้องมีการคัดเลือกนักแสดงที่เป็นที่รู้จักดีในฐานะนักแสดงสมทบระดับแนวหน้า ทิวลิป ภรรยาของดิงค์ หญิงสาวคนงามผู้ดูแลตัวเองอย่างดี ผู้รู้สึกหึงหวงพนักงานสาวคนใหม่ของสามีมากขึ้นเรื่อยๆ  รับบทโดยแคทเธอรีน ซีต้า โจนส์ ผู้น่ายำเกรง สำหรับตัวเขา เดอวินเซนทิสยอมรับว่าด้วยวัตถุประสงค์ในการขับเน้นอารมณ์ของเรื่องให้เข้มข้นขึ้น การทำให้ทิวลิปเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวและแข็งกร้าวกว่าต้นแบบของตัวละครนี้ในชีวิตจริงเป็นสิ่งจำเป็น “ตัวละครในหนังจะมีท่าทีหึงหวงกว่า ซึ่งไม่น่ารักเหมือนกับทิวลิปตัวจริงครับ” เขาอธิบาย “แต่ด้วยความที่คุณให้แคทเธอรีนมารับบทนี้ ด้วยความที่เธอเป็นคนมีเสน่ห์เหลือเกิน คุณก็รู้ว่าคุณจะมีความเป็นไปได้มากมาย คุณสามารถทำให้ตัวละครตัวนี้ทำในสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดได้เพราะคุณรู้ว่ายังไงก็ตาม คนดูก็จะชอบเธอเพราะสิ่งที่แคทเธอรีนทำกับบทนี้ เพราะเธอตลกเหลือเกินครับ”
             การได้กลับมาร่วมงานกับเฟรียส์อีกครั้งในรอบกว่าสิบปีหลังจากที่ได้ร่วมงานกับเขาในบทบาทสมทบใน “High Fidelity” เป็นงานที่น่ายินดีสำหรับซีต้า โจนส์ ผู้ถูกดึงดูดเข้าหาตัวละครของเธอในทันที “ฉันคิดว่าชื่อของเธอก็สรุปความเป็นตัวละครตัวนี้ให้ฉันได้แล้ว” เธออธิบาย “ทิวลิป ปฏิกิริยาแรกของฉันคือเธอเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผมและเสื้อผ้าของเธอมีสีสัน และเธอก็เป็นคนสดใสไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่แน่นอนว่ามีบางเวลาที่เธอไม่สดใสนัก เธอรักสามีเธอมาก แต่เธอก็เด็ดเดี่ยวและชอบแข่งขันนิดๆ ฉันสนุกมากกับการรับบทตัวละครที่มีหลายเลเยอร์ เธอได้เห็นขาขึ้นและขาลงในการทำงานของสามีเธอมาแล้ว มันเป็นโลกที่ไม่มั่นคงเลย แต่มันก็เป็นโลกเดียวที่เธอรู้จัก” สตีเฟน เฟรียส์พูดถึงพรสวรรค์และลุคที่คลาสสิกของซีต้า โจนส์ว่าจำเป็นต่อการสวมบททิวลิปของเธอ “เธอเก่ง ทรงพลัง มีไหวพริบ ฉลาดและสวยหยาดเยิ้ม เธอเหมือนดาราหนังรุ่นเก่า อย่างริต้า เฮย์เวิร์ธ ที่เลิศหรูจริงๆ ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ ความเลิศหรูและความสง่างามครับ”

happy on July 30, 2012, 01:21:08 PM



               บทโรซี คนรับพนันจอมวางโตในนิวยอร์ก ผู้ซึ่งความทะเยอทะยานมาทำให้เส้นทางของเบ็ธหักเหหลังจากที่เธอจำต้องทิ้งเวกัสและดิงค์ไว้เบื้องหลัง เป็นบทที่เดอวินเซนทิสสร้างขึ้นมาใหม่ และไม่ได้นำเค้าโครงมาจากบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริง การมี “ครู” คนที่สอง ที่ไม่มีอะไรเหมือนกับดิงค์เลย กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเบ็ธจากเด็กใหม่ผู้ทะเยอทะยาน ไปเป็นผู้ชำนาญการ “ผมอยากจะคิดว่า อะไรบ้างที่ไม่ใช่ดิงค์” เดอวินเซนทิสอธิบาย “ผมนึกถึงคนที่อายุน้อยกว่า เร็วกว่า มีศีลธรรมน้อยกว่า สะเพร่ากว่าและควบคุมตัวเองได้น้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่คนเลว โรซีไม่ใช่คนเลวเลยนะครับ เขาไม่ได้ทำร้ายใครจริงๆ แต่เขาไม่แคร์คนอื่นนอกจากตัวเอง ถ้าคุณทำผิดพลาดอย่างร้ายกาจด้วยการนำชะตาชีวิตของคุณไปผูกติดกับเขา อย่างที่เบ็ธทำ คุณก็จะต้องเจอกับปัญหามากมายแน่ๆ” เขาเปรียบเทียบโรซีกับแม็กซ์ เบียลิสต็อค จาก “The Producers” “คนทำอะไรตามอำเภอใจ” ผู้ที่ทั้งน่ารักและอันตราย ในแง่นั้น บทนี้เหมาะสมกับวินซ์ วอห์นอย่างยิ่ง เขาเป็นผู้ถูกเลือกเข้ามาในนาทีสุดท้าย ผู้คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ ผู้สร้างชื่อให้กับตัวเองจากการรับบทตัวละครที่วางโตแต่มีเสน่ห์ ผู้ชำนาญในการขู่ขวัญคนอื่นเพื่อเอาตัวรอดจากทุกสถานการณ์ ซึ่งคล้ายกับเป็นเวอร์ชันที่โตกว่าและประสบความสำเร็จมากกว่าของตัวละครจาก “Swingers” ที่ทำให้วินซ์โด่งดังเมื่อสิบห้าปีก่อน “ผู้ชมเคยชินกับการได้เห็นวินซ์ในคอเมดีตีหัวเข้าบ้าน และเขาก็มีฐานผู้ชมที่ติดตามเขาตลอด แต่ผมคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นอีกแง่มุมและมิติที่ลึกซึ้งในงานของเขา ในแบบที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ในช่วงที่เขาเริ่มเป็นนักแสดงใหม่ๆ เขากลับไปสู่รากเหง้านั้นอีกครั้งกับหนังเรื่องนี้ ผมคิดว่าสตีเฟนดึงเอาแรงปรารถนาที่จะผลักดันตัวเองให้ห่างไกลจากสิ่งที่คนอื่นๆ อาจคาดหวัง ออกมาจากนักแสดงครับ”
             อีกบทที่เดอวินเซนทิสได้สร้างขึ้นคือฮอลลี ผู้ผูกมิตรกับเบ็ธในตอนที่เธอย้ายไปเวกัสและแนะนำให้เธอได้รู้จักกับดิงค์ “ฮอลลีเป็นคนแนะนำให้เบ็ธรู้จักโลกการพนันค่ะ” นักแสดงหญิง ลอรา พรีพอน ผู้เป็นที่รู้จักดีจากการแสดงยาวนานของเธอในบทนำของซีรีส์ “That 70s Show” กล่าว ฮอลลี ผู้สวมรองเท้าบู๊ทคาวบอยและแว่นตานักบิน สะท้อนความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่เธอก็ให้ความรู้สึกปลงตกกับโลกใบนี้ ที่เธอพยายามเตือนเบ็ธหลายครั้ง พรีพอน ผู้ที่เป็นขาไพ่โป๊กเกอร์ตัวยง และมักเดินทางไปเวกัสบ่อยๆ ตื่นเต้นที่ได้แสดงให้เห็นอีกมุมหนึ่งของนครหลวงแห่งการพนันของอเมริกาแห่งนี้ “ตอนที่เราถ่ายทำกันในเวกัส ฉันไม่ได้ไปเล่นพนันเลยค่ะ” เธอกล่าวพลางแสร้งแสดงอาการผิดหวัง และอ้างสาเหตุจากตารางการทำงานของเธอ “แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความเลิศหรู งดงาม แต่มันเป็นแง่มุมจริงๆ ของเวกัสที่ไม่เคยมีใครแสดงให้เห็น และคุณก็จะได้สัมผัสกับคนที่ใช้ชีวิตห่างไกลจากเดอะ สตริปหรือเรื่องราวสำหรับนักท่องเที่ยวแบบนั้นน่ะค่ะ”
             ชิ้นส่วนปริศนาสุดท้ายในแง่ของตัวละครหลักคือเจเรมี “ชายธรรมดา” ตามที่นักแสดงหนุ่ม โจชัว แจ็คสัน (“Dawson’s Creek”) บอก “เขาแค่บังเอิญอยู่ตรงนั้นในช่วงเวลาเลวร้ายในชีวิตเบ็ธ” แจ็คสันอธิบาย “และพวกเขาก็หาประโยชน์จากกันและกัน อย่างที่คนทำกันในเวกัสน่ะครับ” จากตอนแรกที่ตั้งใจให้เขาเป็นสัมพันธ์ชั่วคราว เจเรมีกลับมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในชีวิตของเบ็ธหลังจากที่เธอทิ้งเวกัสเพื่อมุ่งหน้าไปนิวยอร์ก
             “เจเรมีเป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้สำหรับเบ็ธครับ” แจ็คสันบอก “เธอไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตที่ลุ่มๆ ดอนๆ ในชายขอบของสังคม เธอมีทางเลือกที่มั่นคงกว่ากับผู้ชายที่ชอบเธอจริงๆ และชื่นชมในตัวเธอ ถ้าเพียงแต่เธอจะเต็มใจตรงไปตรงมากับเขาเหมือนกัน แต่ในตอนแรก ผมคิดว่าเขาเป็นแค่คนรักชั่วคราวสำหรับเธอ” แต่เมื่อเรื่องราวเดินหน้า ความเอื้อเฟื้อของเจเรมีในการช่วยเหลือเบ็ธในงานใหม่ของเธอทำให้เขาต้องไปพัวพันกับปัญหาที่อาจจะรุนแรงได้ และความชื่นชอบเจเรมีที่เธอเพิ่งตระหนักถึงมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้เบ็ธเลือกทำในสิ่งสุดท้ายที่จำเป็นต่อการปกป้องพวกเขาทุกคนให้พ้นจากเงื้อมือของกฎหมาย
             นักแสดงทุกคนต่างก็กล่าวอย่างตื่นเต้นถึงอิสระที่สตีเฟน เฟรียส์มอบให้กับพวกเขา “ผมศรัทธาในตัวเขาในฐานะผู้กำกับมาก และผมก็เชื่อในวิสัยทัศน์ที่เขามีต่อเรื่องราวนี้ด้วย” โจชัวอธิบาย “เขามีความสามารถที่จะพูดแค่ว่า ‘โอเค ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไร ลองทำแบบนั้นดูก็ได้’ ความเชื่อใจและอิสระให้ความรู้สึกปลดปล่อยอย่างเหลือเชื่อ” “สตีเฟนบอกว่า ‘ลองดูเลย’ น่ะค่ะ” ลอรา พรีพอนบอก “เป็นเรื่องน่าสนใจจริงๆ ที่มีผู้กำกับบอกว่า ‘อย่าถามผมว่าจะแสดงยังไง คุณเป็นนักแสดงนี่’ มันเจ๋งมากเลยค่ะ”
             “ผมเป็นแฟนหนังของสตีเฟน เฟรียส์มาโดยตลอดและเขาก็ไม่เคยสร้างหนังห่วยๆ เลย” แฟรงค์ กริลโล ผู้มีหน้าที่คลายความเครียดในบทแฟรงค์กี้ ลูกจ้างผู้ภักดีของดิงค์ กล่าว “เขาไว้ใจคนที่เขาจ้างมาอย่างมาก ซึ่งก็หมายถึงเขาไว้ใจตัวเองที่เลือกคนเหล่านี้มา เมื่อคุณมากองถ่ายพร้อมกับไอเดียของคุณ เขาก็จะยอมรับมัน แน่นอนว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงอะไรนิดๆ หน่อยๆ แต่เขาก็คาดหวังอย่างเต็มที่ว่านักแสดงจะมาด้วยความพร้อมจะทุ่มเทสุดตัว ซึ่งผมชอบนะ”
             แม้ว่าจะเจอกับปัญหาตอนแรกในการทำให้เฟรียส์เลือกเธอ รีเบ็กก้า ฮอลก็มีแต่คำชมเชยให้กับผู้กำกับของเธอ “ฉันชอบเขาค่ะ เขาเข้าใจการทำงานของนักแสดงอย่างถ่องแท้ และเขาก็มีสัญชาตญาณเฉียบขาดว่าฉากนั้นๆ จะออกมาเป็นอย่างไร เขามีสายตาที่เฉียบคมที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมาเลย เขาจะหยุดถ่ายทำและจะเริ่มต้นอีกเทคใหม่เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ผิดพลาด เขาละเอียดลออขนาดนั้นและมันก็ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยในฐานะนักแสดงด้วย เพราะเขาจะคอยสนับสนุนคุณในทุกแง่มุมค่ะ”
             การปลูกฝังความไว้วางใจแบบนั้นในทีมนักแสดงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเฟรียส์ ผู้เปรียบเทียบการทำงานเป็นเหมือนภาพยนตร์สตูดิโอสมัยเก่า ที่ซึ่งนักแสดงหน้าเดิมๆ มักจะทำงานด้วยกันและรับบทที่คล้ายคลึงกันในหนังเรื่องแล้วเรื่องเล่า มันเป็นการทำงานร่วมกันในแบบที่ทำให้หนังของแฟรงค์ แคปรา, เพรสตัน สเตอร์เกสและบิลลี วิลเดอร์ขึ้นหิ้งคลาสสิก “สตูดิโอเคยมีคณะนักแสดงมาก่อน ซึ่งผมชอบอะไรแบบนั้น” เขาอธิบาย “ตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมจะได้ดูหนังอเมริกันพวกนี้ และคณะนักแสดงจากสตูดิโอพวกนั้นก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน และนักแสดงชุดนี้ก็เหมือนกันครับ” แฟนภาพยนตร์ยังอาจพบสิ่งที่ชวนให้รำลึกถึงความหลังเกี่ยวกับจังหวะและเนื้อหาในไดอะล็อคของเรื่องด้วย “มันเป็นไดอะล็อคที่เหมาะสมครับ” เฟรียส์กล่าวอย่างเรียบๆ “และผมก็ไม่มั่นใจว่าหนังในปัจจุบันนี้ให้เกียรติไดอะล็อครึเปล่า แต่ไดอะล็อคเรื่องนี้เป็นของดีจริงๆ ครับ ผมทำให้นักแสดงพูดอย่างเร็วจี๋ เพราะผมชื่นชอบหนังที่ตัวละครพูดกันเร็วๆ มันทำให้เรื่องราวเดินหน้าอย่างรวดเร็ว และผู้ชมก็จะเร็วตามไปด้วยครับ”
             ในขณะที่ตัวภาพยนตร์เองครอบคลุมพื้นที่มากมาย จากฟลอริดา ไปเวกัส นิวยอร์ก หรือแม้กระทั่งเกาะคูรากัว ที่งดงามในช่วงสั้นๆ การถ่ายทำตามโลเกชันเหล่านั้นด้วยทุนของภาพยนตร์อินดีคงเป็นไปไม่ได้ ผู้อำนวยการสร้างแรนดัลล์ เอ็มเม็ตต์เป็นคนเสนอแนะให้ถ่ายทำฉากภายในส่วนใหญ่ของเรื่องในโลเกชันที่ประหยัดค่าใช้จ่าย และโลเกชันนั้นก็คือนิวออร์ลีนส์ “เมื่อพิจารณาจากงบแล้ว เราสามารถใช้ประโยชน์จากเงินของเราได้มากกว่าด้วยการถ่ายทำในหลุยส์เซียนา” เอ็มเม็ตต์บอก “ผมโทรหาแอนโธนีแล้วบอกว่า ‘ถ้าเราอยากให้สตีเฟนมีเวลาถ่ายทำนานที่สุดและคุ้มค่าที่สุด เราต้องทำแบบนี้’ ตอนแรกทุกคนก็แปลกใจ แต่พอเราผ่านขั้นตอนวางแผนการถ่ายทำแล้ว ทุกคนก็เข้าใจถึงข้อดีของมัน” “เราถ่ายทำสัปดาห์แรกในเวกัส เพื่อให้ได้ภาพภายนอกครับ” แอนโธนี เบร็กแมนอธิบาย “แต่ตอนนี้ มีหนังถ่ายทำในนิวออร์ลีนส์มากกว่าในฮอลลีวูดเสียอีก เพราะพวกเขามีเงื่อนไขในการถ่ายทำที่เป็นประโยชน์อย่างมาก”
             “อากาศที่นั่นร้อน แต่ไม่มีอะไรผิดพลาดครับ” สตีเฟน เฟรียส์พูดถึงการถ่ายทำในนิวออร์ลีนส์ “เราไม่มีปัญหาในการหาโลเกชันหรืออะไรแบบนั้นเลย เราก็เลยสามารถถ่ายทำฉากที่เกิดขึ้นในโลเกชันที่จำเป็นต่อหนังได้” บรรยากาศนอกกองถ่ายก็ไม่มีอะไรเทียบได้เช่นกัน “คงไม่มีอาหารอะไรที่ดีไปกว่าในนิวออร์ลีนส์ หรืออาจเลวร้ายกว่า ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองยังไงน่ะครับ” ดี.วี. เดอวินเซนทิสกล่าวติดตลก “เราโชคดีที่มีทีมงานชุดนี้ ได้ถ่ายที่เมืองนี้และทุกอย่างเลย เราบุกไปที่นั่นระหว่างงานมาร์ดิกราส ซึ่งน่าสนใจทีเดียว แต่การทำงานที่นี่เป็นเรื่องวิเศษสุดครับ”
             “สำหรับผม นี่เป็นหนังฟีลกู๊ดที่สุดเท่าที่ผมเคยเขียนบทมา” เดอวินเซนทิสสรุป “มันเป็นเรื่องของคนที่มีพรสวรรค์และมีคุณสมบัติพิเศษสุด แต่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสกับมันและใช้ประโยชน์จากมันในชีวิตเธอได้อย่างไร และเธอก็บังเอิญเจอคนที่นำทางเธอและช่วยเหลือเธอในสถานที่ที่ไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้มากที่สุดในโลก และมันก็เป็นเรื่องจริง ตอนนี้ เบ็ธ เรย์เมอร์ยังใช้ชีวิตที่เหลือเชื่อของเธออยู่ที่ไหนซักแห่ง และมันคงไม่เกิดขึ้นถ้าเธอไม่ได้ทำงานอย่างหนักและได้พบกับดิงค์ เราโชคดีมากที่ได้ค้นเหล่านี้มาช่วยเราบอกเล่าเรื่องราวนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมโชคดีแค่ไหน” เขาอาจจะโชคดีก็จริง แต่เขาก็ยังมีความศรัทธา การทำงานหนักและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับที่ช่วยให้เบ็ธ เรย์เมอร์สร้างโชคชะตาของเธอเองในตอนแรกด้วย


ทีมงาน
ผู้ควบคุมงานสร้าง
แอ็กเนส เมนเตร
วินเซนต์ มาราวัล
เจมส์ ดับบลิว. สก็อตช์ดูโพล

ผู้ควบคุมงานสร้าง
ริชาร์ด แจ็คสัน
เคอร์ติส แจ็คสัน


ผู้ควบคุมงานสร้าง
แบรนด์ แอนเดอร์สัน
แบรนดอน กริมส์

ผู้ควบคุมงานสร้าง
แอนโธนี กูดัส
ไมเคิล คอร์โซ
ปีเตอร์ แฮมป์เดน
เจมส์ กิ๊บบ์

ผู้กำกับภาพ
ไมเคิล แม็คโดนัฟ

ผู้ออกแบบงานสร้าง
แดน เดวิส

มือลำดับภาพ
มิค อ็อดส์ลีย์

ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย
คริสโตเฟอร์ ปีเตอร์สัน

ประพันธ์ดนตรีโดย
เจมส์ เซย์มัวร์ เบรทท์

คัดเลือกนักแสดงโดย
วิคตอเรีย โธมัส