happy on August 05, 2012, 07:33:32 PM
จัดจำหน่ายโดย เอ็ม พิคเจอร์ส
ภาพยนตร์เรื่อง The Dinosaur
ชื่อภาษาไทย ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก
เว็ปไซด์ตัวอย่างภาพยนตร์
ภาพยนตร์แนว ผจญภัย – ลึกลับ
จากประเทศ อังกฤษ
กำหนดฉาย 23 สิงหาคม 2555
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ Sid Bennett (ซิด เบนเน็ตต์)
อำนวยการสร้าง Nick Hill (นิค ฮิล)
นักแสดง Matt Kane (แมทท์ เคน) จาก We Are Your Friends, Niagara
Richard Dillane (ริชาร์ด ดิลเลน) จาก James Boned 007, Argo, Dead in Tombstone
Natasha Loring (นาตาชา ลอริง) จาก Beaver Falls, The Runaway, Women in Love
Peter Brooke (ปีเตอร์ บรู๊ค) จาก Wrong Turn5, Hippie Hippie Shake, Red Lights, Sherlock
Stephen Jennings (สตีเฟน เจนนิงส์) จาก Labyrinth, Death Race2, Auftrag in Afrika
จุดเด่น
The Dinosaur ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก เป็นภาพยนตร์ ผจญภัย-ลึกลับ ที่น่าทึ่ง และใช้ Visual Effect สุดตระการตาราวกับ Jurassic Park ปะทะ Cloverfield ซึ่งมีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวตื่นเต้นผจญภัย โดยที่มีเนื้อหาแปลกแหวกแนวชวนน่าติดตาม และที่สำคัญดูง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งหลายคนคิดว่าไดโนเสาร์มันสูญพันธุ์ไปแล้วจริงๆ รึเปล่า? แต่อีกหลายคนก็คิดเสมอว่าพวกมันยังมีชีวิตอยู่จริงที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ The Dinosaur จะนำผู้ชมเดินทางไปพบคำตอบที่หลายคนค้นหา ไปพร้อมกับเหล่าทีมสำรวจสัตว์โบราณที่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุจากการพุ่งชนของฝูงนกดึกดำบรรพ์ ทำให้เฮริคอปเตอร์ตกลงกลางหุบเขาในป่าคองโก โชคดีที่ไม่มีใครถึงแก่ชีวิต ทุกคนต้องเอาตัวรอดจากซากเฮลิคอปเตอร์พร้อมสัมภาระและกล้องวีดีโอ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในดินแดนลี้ลับแห่งนี้
เรื่องย่อ
The Dinosaur เป็นภาพยนตร์ไดโนเสาร์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดนับตั้งแต่ Jurassic Park ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของการค้นพบสิ่งลึกลับที่สุดของสายพันธุ์สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เรียกว่า “ไดโนเสาร์” ที่ใครๆหลายคนคิดว่ามันสูญพันธ์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ทีมนักสำรวจสัตว์โบราณจากสมาคมสัตว์ประหลาดวิทยาจากประเทศอังกฤษ ที่นำทีมโดย โจนาธาน มาร์แชนท์ พร้อมด้วยทีมงานถ่ายทำเดินทางมุ่งหน้าสู่ดินแดนลี้ลับที่มีชื่อว่า “คองโก” เพื่อค้นหาสัตว์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้ แต่จู่ๆ ทีมนักสำรวจต้องประสบชะตากรรมอย่างที่คาดไม่ถึง เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาร่วงลงใจกลางป่าคองโก เพราะถูกพุ่งชนด้วยฝูงนกดึกดำบรรพ์ จึงเป็นที่มาของการผจญภัยอันสุดแสนจะลุ้นระทึกท่ามกลางดินแดนลี้ลับที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตก่อนประวัติศาสตร์ “คองโก” ที่ๆ เต็มไปด้วยความอันตรายจากสัตว์ดุร้าย และการค้นพบสัตว์ลึกลับครั้งสำคัญที่มีชื่อว่า “โมเคลลี มเบมเบ้” ที่เชื่อว่าสืบเชื้อสายตรงมาจากไดโนเสาร์ มันเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดล็อคเนสแห่งทวีปแอฟริกา ทีมนักสำรวจยังคงเดินทางไขปริศนาที่ซ่อนอยู่ในดินแดนลี้ลับอย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนกับว่ายิ่งพวกเขาเข้าไปในป่าลึกมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งตัดขาดโลกปัจจุบันมากขึ้นเท่านั้น ดินแดงแห่งมนต์อาถรรพ์ของป่าลี้ลับและสัตว์ดึกดำบรรพ์ผู้แปลกหน้าแห่งแดนคองโกเหล่านี้ จะเป็นผู้กลืนชะตาชีวิตของทีมสำรวจจริงหรือไม่??
ความลับของ “คองโก” กำลังจะถูกเปิดเผยขึ้นในไม่ช้าจากปากคำให้การณ์ของสองชาวประมงจากคองโก ที่บังเอิญพบเป้สะพายหลังลอยตามแม่น้ำมา ภายในนั้นมีกล้องวีดีโอและฮาร์ดดิสก์ที่บรรจุภาพวิดีโอกว่า 100 ชั่วโมง ซึ่งในนั้นเป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวการหายสาบสูญของคณะสำรวจที่หลงเข้าไปในป่าคองโก และเป็นสิ่งเดียวเพื่อยืนยันว่าเหล่าไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่
เตรียมพบคำตอบทุกเรื่องปริศนาที่ทุกคนสงสัยได้ใน The Dinosaur ภาพยนตร์ แอ็คชั่น-ลึกลับ ที่จะทำให้คุณลุ้นไปทุกเฟรมตั้งแต่ต้นจนจบแบบเต็มตาๆProducer Nick Hill_Director Sid Bennett_DOP Tom Pridham เกี่ยวกับงานสร้าง
การทำงานกับไดโนเสาร์ ผู้กำกับซิด เบนเน็ตต์คุ้นเคยกับโลกของการผจญภัยมหัศจรรย์เป็นอย่างดี เพราะเขาเคยกำกับซีรีส์ไอทีวีเรื่อง Prehistoric Park สำหรับอิมพอซซิเบิล พิคเจอร์ส ซึ่งอำนวยการสร้างซีรีส์บีบีซีเรื่อง Walking with Dinosaurs อีกด้วย
“ซีรีส์พวกนี้ได้ผสมผสานเนื้อเรื่องดีๆ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่น่าสนใจจาก Natural History และ CGI ที่น่าอัศจรรย์ใจ เข้าด้วยกัน” เขากล่าว เบนเน็ตต์เชื่อว่า อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศระดับแนวหน้าของโลกในเรื่องของการผลิตภาพ CG สำหรับจอแก้ว และรู้สึกว่าเขาอยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่เหมาะสมกับการใช้ทรัพยากรเหล่านั้นในการสร้างภาพยนตร์แล้ว แน่นอนว่าถ้ามีรายการไหนต้องการไดโนเสาร์ คนก็จะไปมองหาที่อังกฤษเสมอครับ” เขาบอก “หนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Jurassic Park นั่นเป็นสิ่งที่ฮอลลีวู้ดมี แต่สิ่งที่เรามีคือทักษะที่วิเศษสุดในอังกฤษ ในการทำงานกับ CGI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจอแก้ว และมันก็มักจะได้รับการยกย่องเสมอ”
“ประสบการณ์นี้ทำให้ผมตระหนักว่าเรามีคนมากความสามารถมากมายในอังกฤษ ที่จะสร้างบางสิ่งที่พิเศษสุดให้กับหนังได้ The Dinosaur เลยถือกำเนิดขึ้นครับ คุณจะต้องคิดนอกกรอบ และนั่นก็คือ The Dinosaur เราจะคิดเรื่องราวที่แตกต่างออกไป หรือวิธีการนำเสนอโลกใบนี้ที่แตกต่างออกไปได้ยังไงกันล่ะครับ”
ในการใช้ทักษะของตัวเขาเองในฐานะผู้สร้างสารคดี เบนเน็ตต์ได้เลือกใช้วิธีของ ‘ฟุตเตจที่ถูกพบ’ ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักอย่างดีแล้ว เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยไดโนเสาร์สำหรับครอบครัวของเขา แม้ว่าเขาจะหวังว่า The Dinosaur จะนำเสนอไอเดียนี้ในรูปแบบที่แปลกใหม่
“เท่าที่ผมรู้ นี่เป็นครั้งแรกที่หนังแนวนี้ มีเป้าหมายที่กลุ่มคนอายุขนาดนี้ ทั้งผู้ชมที่อายุน้อยกว่า และครอบครัวด้วยครับ” เขากล่าว นับตั้งแต่ The Blair Witch Project ไปจนถึง Cloverfieldและ Paranormal Activity “ไม่มีหนังเรื่องไหนถูกนำเสนอสำหรับผู้ชมที่อายุน้อยมาก่อนเลย”
ตั้งแต่ต้น เบนเน็ตต์ได้สร้างเรื่องราวของเขาบนพื้นฐานของการที่ทีมงานถ่ายทำสารคดีอาชีพได้ถูกส่งเข้าไปสำรวจการพบเห็นสัตว์ประหลาดโบราณลึกลับ
“และถ้าคุณเป็นทีมงานถ่ายทำสารคดีจริงๆ คุณก็จะต้องมีช่างกล้องฝีมือดี” เขาตั้งข้อสังเกต “และคุณก็จะต้องมีช่างเสียง คุณภาพการถ่ายทำต้องมีมาตรฐานสูงมากๆ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจะไม่ได้มีกล้องหลักแค่ตัวเดียว แต่จะมีกล้องมินิคุณภาพสูงหลายตัวที่ถ่ายทำสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกันครับ”
“ด้วยกล้องที่หลากหลายในปัจจุบัน มันเลยเกือบจะเหมือนกับงานของกล้องภาพยนตร์ปกติเพราะคุณจะได้มุมกล้องที่แตกต่างกันและจะไม่ถูกจำกัดด้วยกล้องสั่นๆ หรืออะไรแบบนั้นน่ะครับ”
“แน่นอนว่าเมื่อเหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย คนวิ่งหนีไปพร้อมกล้อง มันก็จะส่งผลกระทบต่อสไตล์ของหนังครับ” ผู้กำกับกล่าวต่อ “แต่ในแง่ดีนะครับ มันทำให้หนังตื่นเต้นขึ้นเยอะและเราก็มีทางเลือกสำหรับมุมกลล้องที่แตกต่างกัน อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ มันไม่ได้เป็นหนัง ‘ฟุตเตจที่ถูกพบ’ ทั่วๆ ไป เราได้นำมันไปสู่ทิศทางใหม่ครับ”
นิค ฮิล ผู้อำนวยการสร้างของเรื่อง กล่าวว่า มุมมองที่เบนเน็ตต์มีต่อ ‘ภาพที่ถูกค้นพบ’ เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เขาตัดสินใจร่วมงานนี้
“เรารู้สึกว่า ‘ภาพที่ถูกค้นพบ’ กลายเป็นรูปแบบที่คนจดจำได้ไปแล้ว” ฮิลกล่าว “และมันก็ไม่ใช่แค่วิธีการสร้างหนังแบบประหยัดเท่านั้น จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่วิธีการสร้างหนังที่ประหยัดเลยครับ ลองดูอย่าง Cloverfield ดูสิครับ มันใช้ทุนสร้างมหาศาล ทั้งๆ ที่ใช้ไอเดียของ ‘ภาพที่ถูกค้นพบ”
“แต่สิ่งที่น่าสนใจคือภาพแบบนี้เป็นภาษาที่คนอายุน้อยคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะภาพเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้เห็นมักถูกถ่ายด้วยโทรศัพท์”
“ เมื่อหลายปีก่อน มีคนบอกผมว่า โนเกียเป็นบริษัทกล้องที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลก และมันก็เมคเซนส์ครับ” ฮิลบอก “นี่เป็นภาษาของเด็กๆ พวกเขาเข้าใจการถ่ายทำแบบนี้และการสื่อสารทางลัดที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เราก็เลยคิดว่าเราจะใช้ไอเดียนั้นมาสร้างเป็นหนังที่ไม่ธรรมดาน่ะครับ” โมเคลลี มเบมเบ้ เมื่อรูปแบบและไอเดียสำหรับเรื่องราวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างก็ต้องการภารกิจที่จะเป็นเป้าหมายของทีมงานถ่ายทำสารคดี ภารกิจที่จะนำทีมสำรวจเข้าสู่สิ่งแวดล้อมที่ห่างไกลและไร้ผู้คนพักอาศัย ที่ซึ่งพวกเขาอาจจะเจอสิ่งมีชีวิตก่อนประวัติศาสตร์ได้
“ผมจำได้ว่าเคยอ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับกลุ่มนักสำรวจจริงๆ” เบนเน็ตต์เล่า “เป็นกลุ่มนักสำรวจชาวอังกฤษที่แปลกประหลาด พวกเขาจะไปตามที่ต่างๆ ในโลกและพยายามค้นหาความจริงว่าสิ่งมีชีวิตลึกลับต่างๆ นั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า”
“มันมีทั้งตัวเยติ สัตว์ประหลาดล็อคเนส สัตว์ประหลาดในทะเลและทะเลสาบของญี่ปุ่น แต่ตัวที่มักถูกพูดถึงบ่อยๆ คือตัว โมเคลลี มเบมเบ้ ซึ่งเชื่อว่าอาศัยอยู่ในคองโก ในบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมอ้างถึงข้อเท็จจริงที่ว่าโมเคลลี มเบมเบ้เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดล็อคเนสของแอฟริกาครับ”
บ่อยครั้งที่นักสำรวจได้เดินทางไปยังคองโกด้วยความหวังที่จะหาหลักฐานการมีตัวตนของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ให้พบ “ในบรรดาสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ปรากฏในเรื่องราวต่างๆ จากทั่วโลก” ผู้กำกับกล่าว “โมเคลลี มเบมเบ้เป็นตัวที่น่าจะมีตัวตนอยู่มากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจจริงๆ ครับ”
เบนเน็ตต์ตั้งข้อสังเกตว่า มีคนกล่าวว่าโมเคลลี มเบมเบ้ อาศัยอยู่ในหนึ่งในป่าที่ลึกที่สุดในโลก “แต่กลับมีคนพบเห็นมันมากเหลือเกิน” เขากล่าวเสริม
“มีข้อมูลบันทึกที่น่าเชื่อถือได้เกี่ยวกับการพบเห็นโมเคลลี มเบมเบ้มากมายย้อนกลับไปตั้งแต่เมื่อสองสามร้อยปีที่แล้ว คนกลุ่มแรกคือพวกมิชชันนารี ซึ่งหลายคนได้สเก็ตช์ภาพมันเอาไว้ แล้วก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านเห็นมันเป็นครั้งคราว และพวกเขาก็กลัวสัตว์ประหลาดตัวนี้มาก”
“มันมีความขัดแย้งในเรื่องรูปร่างหน้าตาของมัน” เขากล่าวเสริม “แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ไม่อาจระบุสายพันธุ์ได้มีชีวิตอยู่บริเวณนั้นจริงๆ”
ผู้กำกับเล่าว่าเขาเคยอ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับทีมนักสำรวจที่จะไปตามล่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้ “คนหลงใหลในเรื่องราวของสัตว์ประหลาดครับ” เขาบอก “พวกนักสัตว์ประหลาดวิทยาเป็นคนที่จะออกไปตามหาสัตว์ลึกลับหรือสัตว์ที่คนคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วยังมีชีวิตอยู่น่ะครับ”
“คนทั่วโลกสนใจในเรื่องนางเงือก สิ่งมีชีวิตในทะเล สัตว์ประหลาดในทะเล และคนก็ออกตามหาสัตว์ประหลาดพวกนี้ด้วยความหวังว่าพวกมันจะอยู่ที่นั่นจริงๆ และพอผมได้ยินเกี่ยวกับทีมสำรวจที่กำลังจะเดินทางไปคองโกเพื่อตามหาโมเคลลี มเบมเบ้ ผมก็คิดว่า ‘ว้าว! มันจะต้องเป็นสารคดีที่วิเศษสุดแน่ๆ’”
“แต่ผมก็คิดว่า ‘แล้วถ้าพวกเขาเจออะไรจริงๆ แล้วล่ะก็ พวกเขาจะทำยังไง พวกเขาจะเตรียมพร้อมมากน้อยแค่ไหน’”
“คุณมีคนกลุ่มหนึ่งที่น่าจะเป็นพวกนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ พวกคนที่น่าจะมีนิสัยแปลกๆ หน่อย หรือบางคนอาจคิดว่าตัวเองเป็นอินเดียนา โจนส์ แต่จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าพวกเขาเห็นอะไรบางอย่างจริงๆ นั่นเป็นไอเดียเริ่มต้นครับ”
« Last Edit: August 05, 2012, 07:51:45 PM by happy »
Logged