FB on July 07, 2012, 01:42:43 PM
Movie Guide: ยักษ์

ทีเซอร์ ยักษ์ [Yak : Official Teaser]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=TABKqUt2kVc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=TABKqUt2kVc</a>

เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ Ost.ยักษ์ (Official Audio)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=UdlCWAUDvAE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=UdlCWAUDvAE</a>









         "ว่ากันว่าอวตารของนารายณ์มีมากมายนับไม่ถ้วน  ก่อเกิดเรื่องราวรามเกียรติ์กว่า 10 ล้านรูปแบบ และนี่คือรูปแบบที่ "สิบล้านเอ็ด"รามเกียรติ์ในยุคหุ่นยนต์"
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล / บ้านอิทธิฤทธิ์/ ซูเปอร์จิ๋ว / เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส /
          สุดภูมิใจที่ได้ร่วมกันสร้างฝันครั้งใหญ่ยิ่งกับ. .อภิมหากาพย์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยที่มีชื่อสั้นๆว่า "ยักษ์"
          ด้วยแรงบันดาลใจจากตัวละครคลาสสิคในมหากาพย์รามายณะ หนุมาน, ทศกัณฐ์ ฯลฯ จุดประกายไอเดีย ..
          ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือก่อนกำกับทุกภาพให้โลดแล่นเป็นการ์ตูนโดย
          . . . ประภาส ชลศรานนท์ . . .
          เตรียมพบกับมิตรภาพต่างไซส์ ที่จะมากุมหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
          . . . ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ . . .
« Last Edit: August 01, 2012, 07:40:55 AM by FB »

FB on August 08, 2012, 03:13:34 PM
แสตมป์, Room 39 ร่วมแจม โปรเจ็คท์ “ยักษ์” ส่ง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” เพลงสนุกสนานน่ารักโดนใจคนทุกวัย






Mv.เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ - Room 39(Official Ost.ยักษ์)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ</a>






          “ยักษ์” ภาพยนตร์อนิเมชั่นสายเลือดไทย โปรเจ็คท์ใหญ่บิ้กเบิ้มงานร่วมทุนสร้าง จาก สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, บ้านอิทธิฤทธิ์ และ ซุปเปอร์จิ๋ว ดำเนินงานสร้างโดย เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส ผลงานการกำกับของ จิก-ประภาส ชลศรานนท์ ครีเอทีฟ นักคิด-นักเขียน ฝีมือฉกาจร่วมมือกับ เอ็กซ์- ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ อนิเมเตอร์ระดับแถวหน้าของประเทศไทย หลังจากปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างให้เป็นที่ฮือฮา ในเรื่องของคอนเซ็ปท์ที่จับรามเกียรติ์มาเป็นหุ่นยนต์ เรียกกระแสความสนใจจากผู้ชมมาได้สักพัก ก็เริ่มปล่อยทีเด็ดพิเศษอีกระลอก ด้วยการปล่อยเพลง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” เพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาซึ้งๆ แฝงไปด้วยความน่ารักของมิตรภาพ จากผลงานการผนึกกำลังของสุดยอดนักร้องไอดอลแห่งยุคนี้

          ซึ่งงานนี้หัวเรือใหญ่ของงานอย่างพี่ จิก ประภาส เป็นผู้เลือกศิลปินมาร่วมทำงานด้วยตัวเอง โดยเลือก แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาแต่งเนื้อร้องและทำนองเพราะชอบภาษาการแต่งเพลงของแสตมป์ที่เรียบง่ายและนุ่มลึก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเลือกวง Room39 ศิลปินรุ่นใหม่ขวัญใจชาวโซเชียลเน็ตเวิร์คมาเป็นผู้ร้องเพลง แบบไม่มีคู่แข่งอื่น เพราะนอกจากเป็นวงดนตรีรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ วงนี้ยังเป็นวงดนตรีแบบกลุ่มเพื่อน ตรงตามคอนเซ็ปท์ของเรื่องที่ว่าด้วยมิตรภาพ แถมเป็นแก๊งผู้ชายสองคนผู้หญิงหนึ่งตรงกับคาร์แร็คเตอร์หลักในเรื่องได้อย่างพอดี

          ส่วนทางด้านแสตมป์ ก็เผยถึงความรู้สึกที่มอบหมายให้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่นครั้ง แรกในชีวิตว่า “งานของผมครั้งนี้ก็คือการแต่งเพลงธีม เพลงที่เป็นตัวสรุปเนื้อหาทั้งหมดของหนังครับ ตั้งแต่ทราบว่าพี่จิกจะทำหนังอนิเมชั่น ก็รู้สึกว่า เอาแล้วล่ะเมืองไทยคงจะมีภาพยนตร์อนิเมชั่นเจ๋งๆ จ๊าบๆ แล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากเลย เพราะงานของพี่จิกนี่อย่างแรกเลยงานเป็นสากล คือทำแล้วไม่ได้ทำดูแค่เมืองไทย แต่จะต้องดูได้ระดับโลก ก่อนแต่งเพลงผมก็ได้เข้ามาดูหนังบางส่วนก่อนครับ พอดูปุ๊บก็ได้ไอเดียว่า ถ้าเราเอาเรื่องของภพชาติมาแต่งเป็นเพลงน่ารักๆ มันก็จะมีทั้งความเป็นไทย และมันก็ดูเท่ดีด้วยนะที่ได้พูดในหนังอนิเมชั่น เราก็เลยเอามาแต่ง จะมีท่อนหนึ่งร้องไว้ว่า ‘จะแสนนานแค่ไหน กี่ภพชาติหมื่นปี เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนเธอ’ ผมว่าจ๊าบดีนะ (หัวเราะ)

          ส่วนคนร้องผมดีใจมากครับที่ได้ Room 39 มาร้อง เพราะนอกจากเขาจะตรงกับคาร์แร็คเตอร์ในเรื่องแล้วเขายังถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ยอดเยี่ยม ตอนที่ผมร้องไกด์เอง ผมก็ว่าก็เป็นเพลงที่โอเคแล้ว แต่พอทอม, มน, พี่โอ ร้องผมก็รู้สึกว่าเพราะเลย เป็นเพลงที่เหมาะกับพวกเขา เสียงของ Room39 เวลามาอยู่กับดนตรีที่เป็นอะคูสติคหรือว่า น้อยๆ ชิ้นแบบนี้มันเกิดเลย ความหมายต่างๆ ของเพลงมันจะ โดดเด้งออกมาก็ต้องขอบคุณ Room 39 มากครับ ที่ตั้งใจร้องมากขนาดนี้”          

          ฝ่ายวง Room39 ก็เผยถึงความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงานครั้งนี้ว่า (มน) “พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆ นะคะที่พี่จิกเลือกพวกเรามาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ พี่จิกบอกว่าพวกเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลย (หัวเราะ) สมาชิกของวงเรามีสามคน เป็น ผู้หญิง ผู้ชายตัวโต กับ ผู้ชายตัวเล็กเหมือนในหนังพอดีเลยค่ะ”

          (โอ) “การทำงานกับแสตมป์ก็เป็นไปอย่างสนุกสนานครับ เพราะเรารู้จักกันอยู่แล้ว ตอนทำงานเลยเป็นกันเองมากครับ”

          (ทอม) “เพลงนี้เป็นเพลงที่น่ารักครับเป็นเพลงที่สื่อถึง มิตรภาพความรักระหว่างเพื่อนได้ดีจริงๆ ผมดีใจที่ได้ร้องเพลงนี้ พวกเรา Room 39 ก็ขอฝากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องยักษ์ และเพลง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” ด้วยนะครับ เราก็มีโอกาสได้ดูอนิเมชั่นเรื่องนี้บางส่วนในขั้นตอนการทำเพลงก็รู้สึกทึ่งมาก อยากให้ทุกคนได้มีความสุขเหมือนพวกเรานะครับ ที่ได้มาร่วมโปรเจ็คที่รวมความพิเศษนี้ ทั้งหนังพิเศษ เพลงพิเศษ แล้วก็ทีมงานแบบพิเศษ ครับ “

          ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง “ยักษ์” ว่าด้วยเรื่องรามเกียรติ์ในยุคหุ่นยนต์ เล่าความสัมพันธ์ของหุ่นยักษ์และหุ่นกระป๋อง ที่บังเอิญมีเหตุต้องมาตัวติดกันแบบไม่ตั้งใจ ทั้งคู่ออกเดินทางเพื่อหาทางแยกออกจากกันให้ได้ ผ่านเรื่องราวผจญภัยที่จะตั้งคำถามว่า “หน้าที่” และ “มิตรภาพ” อย่างไหน สำคัญกว่ากัน

          ติดตามฟังเพลง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” ได้ที่คลื่นวิทยุชั้นนำทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์จาก www.facebook.com/sahamongkolfilmint หรือ www.youtube.com/sahamongkolfilmint และติดตามความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ได้ที่ www.facebook.com/YakTheMovie

          ตุลาคม นี้ ระวังจะตกหลุม “ยักษ์”
« Last Edit: August 18, 2012, 06:41:22 AM by FB »

FB on August 18, 2012, 07:45:48 AM
MV เพลง เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ เพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่น “ยักษ์”

          MV เพลง : เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ
          เพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่น “ยักษ์”
          <a href="http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ</a>         

          อภิมหากาพย์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยที่มีชื่อสั้นๆ ว่า "ยักษ์" ด้วยแรงบันดาลใจจากตัวละครคลาสสิคในมหากาพย์รามายณะ หนุมาน, ทศกัณฐ์ ฯลฯ จุดประกายไอเดีย ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือก่อนกำกับทุกภาพให้โลดแล่นเป็นการ์ตูนโดย ประภาส ชลศรานนท์
          4 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

          เพลง : เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ
          เพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่น : ยักษ์ ( YAK : The Giant King )
          คำร้อง ทำนอง : สแตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
          ขับร้อง : Room 39
          มิวสิควีดีโอ โดย นิ้วกลม

FB on August 24, 2012, 04:37:13 PM
“นิ้วกลม” กำกับมิวสิควีดีโอ “ยักษ์” “Room 39” ร่วมโชว์มิตรภาพผ่านเพลง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ”



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=40vsqsd6TGQ</a>

          เรียกว่าเป็นงานที่รวมยอดฝีมือทั่วฟ้าเมืองไทยเลยจริงๆ กับ “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิเมชั่น โปรเจ็คท์ใหญ่งานร่วมทุนสร้าง จาก สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, บ้านอิทธิฤทธิ์ และ ซุปเปอร์จิ๋ว ดำเนินงานสร้างโดย เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส เพราะนอกจากสองผู้กำกับอย่าง จิก-ประภาส ชลศรานนท์ นักคิดนักเขียนมือฉกาจ ที่มาผนึกกำลังร่วมกับ เอ็กซ์- ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ อนิเมเตอร์ระดับแถวหน้าของประเทศไทยแล้วเรื่องนี้ยังเป็นการรวมสุดยอดบุคคลในวงการบันเทิงมากฝีมือจากแขนงต่างๆ มาร่วมกันสร้างฝันครั้งใหญ่นี้ให้สมบูรณ์

ล่าสุดหลังจากปล่อยเพลง “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ”เพลงประกอบภาพยนตร์ผลงานการแต่งเนื้อร้องของแสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และขับร้องโดย Room39 ให้ได้ฟังกันจนติดหูไปแล้ว ก็ได้เวลาปล่อย มิวสิควีดีโอเก๋ๆ ให้ได้ชมกัน โดยเป็นผลงานกำกับมิวสิควีดีโอจาก “นิ้วกลม” สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ครีเอทีฟ- นักเขียนชื่อดังแห่งยุคนี้ ซึ่งพี่ จิก ประภาส เผยถึงที่มาของการทำงานร่วมกันครั้งนี้ว่า ชอบแนวคิดของนิ้วกลมที่เป็นนักทำโฆษณาที่มีความคิดเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ดี สามารถสร้างงานที่สัมผัสคนดูได้ และตีความเรื่องมิตรภาพใจความหลักของหนังเรื่องนี้ออกมาได้น่าประทับใจ

          ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิควีดีโอนี้ก็เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพ ตามคอนเซ็ปท์ มีนักแสดงต่างไซส์ ต่างเพศ ต่างวัย หลากหลายคู่มาร่วม ถ่ายทอดความเป็นเพื่อนกันในแบบต่างๆ โดย และมีไฮไลท์อยู่ที่ วง Room39 ทั้งสามคน เจ้าของเสียงร้องเพราะๆ ได้มาร่วมแสดงใน MV นี้ด้วย ฝ่ายนิ้วกลม ก็เผยถึงการทำงานครั้งนี้ว่า

          “คอนเซ็ปท์ก็มาจากตัวเนื้อเรื่อง ผมตีโจทย์ ว่ามันอาจจะมีเพื่อนบางคนที่เกิดร่วม มิตรภาพกันมาหลายชาติแล้วก็ยังคงเกิดวนเวียนอยู่อย่างนั้น ก็เลยสื่อแสดงออกมาด้วยคนหลายๆคู่ แต่ก็คงยังมาเป็นเพื่อนกันผ่านยุคผ่านสมัย เราก็เอามาทำให้มันดูทันสมัยขึ้น และเรียบง่ายครับ ถ้าดู MV ทั้งหมดแล้วก็จะเข้าใจว่าแต่ละคู่เกิดมา ต่างเวลากัน แต่ว่าทั้งหมดนี้ อาจจะเกิดกันมา ร้อยชาติพันชาติเหมือนเพลง แต่ก็คงยังเป็นเพื่อนกันอยู่ จนถึงวันนี้ การเตรียมงานก็นานมากเหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) 4-5 เดือนเห็นจะได้ครับแต่การทำงานครั้งนี้ผมดีใจมากครับที่ ได้ทำงานร่วมกับวง Room 39 ตอนที่บอกญาติมิตรว่าจะได้ทำงานกับวงนี้เขาก็กรี๊ดกัน เพราะว่าเขาดูคลิปของวงนี้อยู่เป็นประจำ น้องๆ เป็นคนน่ารักทุกคนครับ ก็ขอฝากหนังเรื่องยักษ์นะครับ เพราะว่าทีมงานก็ตั้งใจทำกันมากเลย และMV ตัวนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะครับ ก็ขอให้เท่ายอดคลิกเข้าดูของวง Room39 ทั้งหมดรวมกันก็พอนะครับ ประมาณ 100 กว่าล้าน (หัวเราะ) ขอบคุณครับ”

          ส่วน Room39 ที่ได้มาถ่าย MV สำหรับหนังแอนิเมชั่นเป็นครั้งแรก ก็ตื่นเต้นไม่ใช่น้อยที่ได้ทำงานแบบพิเศษครั้งนี้ ก็เผยความรู้สึกว่า
          
          “วันนี้เรามาถ่ายมิวสิควีดีโอที่สตูดิโอเวิร์คพอยท์นะครับ ข้างหลังนี้เป็นบลูสกรีน เป็นครั้งแรกของพวกเราเลยครับที่ได้ทำ MV เกี่ยวกับแอนิเมชั่น ไม่เคยทำมาก่อนเลย เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่น่ารักครับ สื่อถึง มิตรภาพความรักระหว่างเพื่อนได้ดีจริงๆ ครับพวกผมก็ดีใจที่ได้ร้องเพลงนี้นะครับ แถมพวกเราก็มีกันสามคนเหมือนในหนังพอดีเลย (หัวเราะ) สำหรับการทำงานกับพี่เอ๋ ก็รู้สึกภูมิใจครับ เป็นเกียรติของพวกเรามากๆ เลย พวกเราติดตามอ่านหนังสือของพี่มาตลอด แล้วก็วันนี้ก็ได้ร่วมงานกันจริงๆแล้ว ยังไงก็อย่าลืมรอชมนะครับ ภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่องยักษ์ และก็ฝาก MV นี้ด้วยนะครับ รับรองว่าน่าชมน่าดูแน่นอน”

          ติดตามชมความน่ารัก ของมิวสิควีดีโอ “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” ได้ที่ www.facebook.com/sahamongkolfilmint หรือ www.youtube.com/sahamongkolfilmint และติดตามความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ได้ที่ www.facebook.com/YakTheMovie

          เตรียมตัวเตรียมใจหลงรัก “เพื่อน (ยักษ์) รักต่างไซส์” ได้ตุลาคมนี้
« Last Edit: August 25, 2012, 07:59:08 AM by FB »

FB on August 24, 2012, 04:59:50 PM
Movie: ยักษ์





          “มีรามเกียรติ์เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ทุกแห่งหน ทุกผู้คน ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของหุ่นยนต์”
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล/บ้านอิทธิฤทธิ์ /ซูเปอร์จิ๋ว/เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส
          สุดภูมิใจที่ได้ร่วมกันสร้างฝันครั้งใหญ่ยิ่งกับอภิมหากาพย์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยที่มีชื่อสั้นๆว่า
          ยักษ์

          ด้วยแรงบันดาลใจในตัวละครคลาสสิคจากมหากาพย์รามายณะ ราม, หนุมาน, ทศกัณฐ์ ฯลฯ
          จุดประกายไอเดีย ให้เขียนเรื่องขึ้นมาใหม่ก่อนกำกับทุกภาพให้โลดแล่นเป็นการ์ตูนโดย
          ประภาส ชลศรานนท์
          พร้อมร่วมเดินทางสร้างสรรค์จินตนาการภาพและเสียงให้เคลื่อนไหวอย่างมหัศจรรย์
          จากหลากหลายศิลปินแห่งยุคในแขนงต่างๆ มาร่วมเนรมิตยักษ์ที่เรารักให้แผลงฤทธิ์บนผืนโลกใบนี้
          4 ตุลาคมนี้ ถึงเวลาที่เรามั่นใจและเชื่อว่าทุกคนจะรัก “ยักษ์” เหมือนที่เรา “รัก”
 
          แนวหนัง แอนิเมชั่น -แอ็คชั่น-ผจญภัย
          ผู้สร้าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล / บ้านอิทธิฤทธิ์ / ซูเปอร์จิ๋ว / เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส
          จัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
          บริษัทดำเนินการสร้าง บ้านอิทธิฤทธิ์และเวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส
          กำกับภาพยนตร์ ประภาส ชลศรานนท์
          ร่วมกำกับภาพยนตร์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์
          อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, ประภาส ชลศรานนท์, ชัยพร พานิชรุทติวงศ์, วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ
          ควบคุมการสร้าง พาณิชย์ สดสี
          ที่ปรึกษา ปรัชญา ปิ่นแก้ว
          ดำเนินการสร้าง กาญจนา ไทยถานันดร์
          กำกับแอนิเมชั่น ชัยพร พานิชรุทติวงศ์
          เรื่อง ประภาส ชลศรานนท์
          บทภาพยนตร์ ประภาส ชลศรานนท์,พัลลภ สินธุ์เจริญ,วิรัตน์ เฮงคงดี,ณัชพล เรืองรอง
          ลำดับภาพ สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์
          กำกับเสียงพากย์ พัลลภ สินธุ์เจริญ
          บันทึกเสียง TECHNICOLOR
          ฟิล์มแล็ป TECHNICOLOR
          ดนตรีประกอบ จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน
          ออกแบบเสียง ธีรศักดิ์ ไชยยศ
          ออกแบบงานสร้างและกำกับศิลป์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์
          ให้ชีวิตให้เสียงโดย สันติสุข พรหมศิริ, เกียรติศักดิ์ อุดมนาค, ด.ญ.ชนินาภ ศิริสวัสดิ์, บริบูรณ์ จันทร์เรือง, ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, แจ๊ป เดอะริชแมนทอยและนักแสดงรับเชิญ อุดม แต้พานิช

เรื่องราวของ “ยักษ์
          หลังสงครามอันยิ่งใหญ่ระหว่างหุ่นกระป๋องฝ่ายราม กับ หุ่นยักษ์ ฝ่ายทศกัณฐ์จบลงแบบล้างเผ่าพันธุ์ปล่อยทิ้งให้สนามรบกลายเป็นเพียงสุสานซากเศษโลหะและเป็นขุมทรัพย์ให้กับบรรดาหุ่นค้าของเก่า และแล้วเรื่องราวมิตรภาพและการเดินทางผจญภัยของเจ้าหุ่นยนต์ 2 ตัวที่ดูๆ ไปแล้วไม่มีสิ่งใดที่จะเหมือนกันสักนิดเดียวก็ได้เริ่มต้นขึ้นในอีกหลายล้านวันต่อมา
          เจ้าหุ่นตัวหนึ่งใหญ่ยักษ์สมร่างชื่อ “น้าเขียว” บ่งบอกตามลักษณะสีอันเป็นเอกลักษณ์ ดูน่าเกรงขาม กับ “เจ้าเผือก” หุ่นกระป๋องมินิตัวเล็กประเมินจากสภาพจากพวกค้าหุ่นยนต์เก่าบอกได้คำเดียวว่าไร้ราคา แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าหุ่น2ตัวต่างตื่นขึ้นมาจากการถูกขุดขึ้นพร้อมกับสภาวะหน่วยความจำเสื่อม ไม่จำอดีตไม่รู้อนาคต แถมยังมีโซ่พิเศษที่ตัดเท่าไหร่ก็ตัดไม่ขาดผูกล่ามติดกัน
          หนำซ้ำงานนี้พอทั้งคู่ตื่นขึ้นมาก็อาละวาดซะจนเมืองขายของเก่ากระเจิดกระเจิงราบเป็นหน้ากลอง ทำให้ทั้งคู่ต้องหนีและกลายเป็นร่วมผจญภัยไปด้วยกันอย่างไม่มีทางเลือก ทีแรกดูเผินๆต่างฝ่ายต่างเป็นส่วนเกินของกันและกัน แต่ตลอดการเดินทางกลับมีเรื่องราวหลากหลายเกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่กลายเป็นฮีโร่โดยไม่รู้ตัว สร้างความผูกผันให้กับทั้งน้าเขียวและเจ้าเผือกก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ทำให้ส่วนเกินกลายแปรเปลี่ยนเป็นส่วนเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของทั้งคู่ และจนวันหนึ่งที่พวกเขาพร้อมจะเป็นเพื่อนสนิทด้วยความเต็มใจ กลับเป็นวันที่ต้องรู้ว่า... แท้จริงแล้วตัวตนของพวกเขาคือใคร หน้าที่และภารกิจที่ได้รับมอบหมายจะต้องดำเนินต่อไป ทำให้ต้องเลือกระหว่าง มิตรภาพกับหน้าที่ สิ่งใดสำคัญกว่ากัน
« Last Edit: September 05, 2012, 09:05:35 AM by FB »

FB on August 24, 2012, 05:00:29 PM
4 ตุลาถึงเวลาที่พวกเขาทั้ง 5 จะพา “ยักษ์” ออกเดิน



           “ยักษ์”โปรเจ็คต์ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า100ล้านบาทที่ค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” จับมือร่วมกับ3พันธมิตรอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์ โปรดักชั่นเฮาส์ทีมผลิตแอนิเมชั่นที่คร่ำหวอดและอยู่เบื้องหลังงานโฆษณา,มิวสิควิดีโอและภาพยนตร์ต่างๆ มานับไม่ถ้วน บ.ซูเปอร์จิ๋ว ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์วาไรตี้ขวัญใจเด็กๆและคุณพ่อคุณแม่ยืนหยัดยาวนานมากว่า21ปีและบ.เวิร์คพอยท์พิคเจอร์สในการผนึกกำลังสร้างสรรค์ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นสายเลือดไทยที่กลั่นจากสมองและสองมือกำกับของ พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ครีเอทีฟนักคิดนักเขียนนักแต่งเพลง ฯลฯ อันดับต้นๆ ของประเทศที่คิดฝันอยากทำการ์ตูนมาค่อนชีวิต ผ่านลายเส้นดีไซน์การออกแบบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ (ชนะเลิศ FIRST PRIZE:SIGGRAPH 1998 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลออสการ์สำหรับนักศึกษา)การประกวดผลงานแอนิเมชั่น ประเภทนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยใช้เวลากว่า 6 ปีจนถึงวันนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะร่วมกันพา “ยักษ์” ออกเดินเข้าไปอยู่ในใจคอการ์ตูนแอนิเมชั่นอย่างภาคภูมิใจ 4 ต.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วไทยทั้งในแบบเสียงไทยและเสียงภาษาอังกฤษ
 
          เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ผู้สร้างแอนิเมชั่น “ยักษ์”
          หัวเรือใหญ่แห่งค่ายหนังใหญ่ยักษ์ “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล”
          “ตั้งแต่คุณจิกมาเสนอชวนทำโปรเจ็คต์ยักษ์ด้วยกันว่าอยากหยิบรามเกียรติ์มาทำหนังโดยเอาทศกันฐ์ หนุมานมาทำเป็นหุ่นแล้วสู้กัน แน่นอนว่าเรื่องทศกันฐ์มันดีแน่ ใครๆ ก็รู้จักไม่ใช่แค่เมืองไทยด้วย เพราะเรื่องรามเกียรติ์เป็นเรื่องของเอเชีย ผมยังคิดในใจว่าการ์ตูนที่จะสร้างจะออกมาเป็นอย่างไรนี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เราร่วมกับคุณจิกประภาส ชลศรานนท์ และเวิร์คพอยท์พิคเจอร์โดยเขาได้ไปชักชวนพรรคพวกมาร่วมทุนด้วยอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์, ซูเปอร์จิ๋ว เราลงทุนไป 100 กว่าล้าน รอจนถึงวันนี้การ์ตูนเสร็จแล้ว ลองคิดในใจดูว่าเรารอมา 5-6 ปีกว่าจะได้เห็นภาพนี้ ยังจำได้วันที่คุณจิกชวนผมดูหนัง โอ้โห! คิดไม่ถึงว่าทางคุณจิกจะทำออกมาได้ดีอย่างนี้ ภาพทุกภาพสวยมากมีครบทั้งฉากบู๊ฉากรบตอนสนุกต่อสู้ผจญภัยแล้วตัวหนังก็สนุกมาก เป็นหนังการ์ตูนที่ครบรสพูดได้ว่ารู้สึกพอใจมาก อยากเชิญชวนให้คนดูทุกคนลองมาดูหนังการ์ตูนคนไทยเรื่องนี้ ว่าคนไทยเราก็มีฝีมือนะอย่างน้อยๆ ช่วยให้กำลังใจคนไทยบ้างที่ทุ่มเททำผลงานออกมาได้ขนาดนี้ เพื่อที่จะได้มีคนไทยที่ยังทำหนังการ์ตูนต่อไปได้อีก ส่วนตัวผมรู้สึกภูมิใจและพอใจอย่างมาก คุณจิกทำได้ดีมากๆ”

          “โอ๋-พาณิชย์ สดสี” หัวเรือใหญ่ “เวิร์คพอยท์พิคเจอร์ส”
          ผู้ควบคุมงานสร้างแอนิเมชั่น“ยักษ์”
          “คือการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์เป็นหนังที่เป็นเรื่องราวของเพื่อน เราได้แรงบันดาลใจมาจากรามเกียรติ์ แต่ว่าไม่ใช่รามเกียรติ์เอามาสร้างใหม่นะ มันเป็นเรื่องเล่าอีกอย่างเลย มันคือศัตรูเก่าที่รบกันมาทุกเวอร์ชั่นของทุกประเทศในเอเชีย เล่าใหม่ในเวอร์ชั่นที่เป็นเพื่อนกัน ศัตรูที่ความทรงจำหายไปมาเป็นเพื่อนกัน ความทรงจำกลับคืนมาจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อคนเป็นเพื่อนกันจำได้ว่าเป็นศัตรูแล้วจะเป็นยังไง เล่าอีกแบบหนึ่งเลย เล่าแบบงานเขียนของพี่จิก เล่าโดยเพลงของพี่จิก เล่าโดยความรู้สึกที่อยากเล่าแบบพี่จิก เล่าโดยลายเส้นการ์ตูนของเอ็กซ์มีความเฉพาะตัวมาก มันน่าจะเป็นส่วนผสมที่ดีมากๆ สำหรับพี่รู้สึกว่านอกจาก บทภาพยนตร์ที่สนุก การออกแบบงานสร้างที่ งดงาม แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ เนื้อหาดูแล้วมีอะไรให้คนดูในแง่ ความลึกของเรื่องราวและอารมณ์มากๆ เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ชมจะสนุกสนานไปกับหนังเอนิเมชั่น”

          วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ –ผู้สร้างร่วมภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ยักษ์”
          พี่ซุป “ซูเปอร์จิ๋ว” ผู้เชื่อมั่นในพลังของการ์ตูนแอนิเมชั่น
          “ความทรงจำที่ประทับใจสมัยอดีตของผมก็คือทุกเย็นก่อนกลับบ้าน ครูจะให้นักเรียนทั้งห้องท่องอาขยาน "บัดนั้น พระยาภิเภกยักษีเห็นพระองค์ทรงโศกโศกี อสุรีกราบลงกับบาทาทูลว่าพระลักษณ์สุริยวงศ์ยังไม่ปลงชีวังสังขา อันโมขศักดิ์อสุรา พรหมาประสิทธิ์ประสาทไว้" เราผูกพันกับ รามเกียรติตั้งแต่วันนั้นโตขึ้นมา ความบันเทิงที่สุดของเราก็คือ การดูการ์ตูนทอม แอนด์ เจอรี่, หน้ากากเสือ, โดราเอม่อน ฯลฯเราเป็นเด็กที่โตมากับการ์ตูนต่างชาติ เมื่อถึงวัยทำงาน21ปี ที่มีโอกาสงานสร้างสรรค์รายการซูเปอร์จิ๋ว ประสบการณ์ที่ผูกพันกันทำให้เราเกิด "Dream" มีความฝันว่า วันหนึ่งเราอยากทำแอนิเมชั่นสัญชาติไทยให้ลือลั่นสักครั้งในชีวิต ผมแทบจะตอบรับในทันทีที่ได้รับได้รับคำชวนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คต์ภาพยนตร์"ยักษ์"เพราะศรัทธา ในทุกผลงานของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เชื่อมือการแอนิเมชั่นของคุณเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ และเชื่อมั่นในมุมมองของสหมงคลฟิลม์ฯ หลายปีที่ผ่านมานี้ยักษ์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และพร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้ชม ถึงวันนี้ความตื่นเต้นของเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
          อยากให้ทุกคนได้ดูได้ชมได้แรงบันดาลใจจากการชมภาพยนตร์"ยักษ์"แอนิเมชั่น สำหรับคนทุกเพศทุกวัยผมเชื่อว่าทุกคนจะรัก และภูมิใจกับ "ยักษ์ "ไปด้วยกันครับ

          เอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์
          ร่วมกำกับภาพยนตร์และกำกับแอนิเมชั่น “ยักษ์” ผู้ก่อตั้ง “บ้านอิทธิฤทธิ์”
          “เสน่ห์ของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่บท เป็นสิ่งแรกที่ทำให้ผมและทีมงานอยากทำเลยและบทที่พี่จิกเขียน มันแข็งแรงพอที่จะมาทำการ์ตูน แล้วคาแร็คเตอร์ที่ผมนำไปให้พี่จิกดูมันเข้ากันได้พอดี จนเรามาช่วยกันทำให้มันออกมาสมบูรณ์มากขึ้น เอาความเป็นสากลกับความเป็นไทยมาผสมกัน ที่สำคัญผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่การ์ตูนนะ ผมเคยคุยกับพี่จิกว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันเป็นการ์ตูนคน มันเป็นการ์ตูนคนแสดง เราจะทำการเคลื่อนไหวอิงจากคนจริงๆ หมายถึงการเคลื่อนไหวมันจะเป็นตามจริง เช่น ยักษ์วิ่ง-เดินก็เดินหนักๆ ช้าๆ จริงๆ ยักษ์เศร้าก็เศร้าจริงๆ มันจะเป็นงานที่ไม่ใช่การ์ตูนที่เด็กมาก เราจะไม่ให้การเคลื่อนไหวดูเป็นการ์ตูนเกินไป แต่ถ้าอันไหนเป็นฉากสนุกๆ เราจะทำการเป็นเคลื่อนไหวเป็นแบบการ์ตูนไว้บ้างเช่นฉากร้องเพลง แต่อะไรที่แสดงอารมณ์เยอะๆ ผมจะให้แอนิเมเตอร์อิงจากจากการเคลื่อนไหวของคนพากย์ให้ใกล้เคียงที่สุดครับ ถึงจะเป็นหุ่นแต่เราต้องทำให้คนเชื่อก่อนว่าตัวนี้มันไม่ใช่แค่อนิเมชั่นนะ มันเป็นหุ่นที่มีชีวิตจริงๆ มีการเคลื่อนไหวแบบคนจริงๆ มีอารมณ์มีความรู้สึกต่างๆ มีโกรธกัน มีงอนกัน มีสู้กัน มีความเจ็บปวด เป็นหนังที่จะเล่าถึงความรู้สึกของเพื่อนเน้นความสัมพันธ์ อารมณ์สูงมาก”
« Last Edit: August 25, 2012, 08:11:42 AM by FB »

FB on August 24, 2012, 05:01:06 PM
          ประภาส ชลศรานนท์ ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยง “ยักษ์”
          “ทุกงานที่ผมทำมันมักจะมีตัวเราเข้าไปอยู่เหมือนเพลงของเฉลียง เหมือนเรื่องสั้น เหมือนบทละคร แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็มีตัวเราเข้าไปอยู่ สิ่งแรกที่ผมตั้งใจให้คนดูได้ก็คือความสนุกและความตื่นใจ ความตื่นใจเวลาดูหนังนี่มันเป็นความสุขนะ และผมก็คิดว่าคนดูแต่ละวัยจะได้อะไรเพิ่มนอกจากความสนุก มีหลายความคิดที่ผมสอดแทรกไว้ในหนัง หัวใจของยักษ์คือเรื่องมิตรภาพเรื่องหน้าที่ ทำไมผมถึงอยากพูดเรื่องนี้ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ มันทำให้เราเดินต่อในชีวิตอย่างราบรื่น คำถามมากมายที่ผมตั้งไว้ในหนังไม่ว่าจะเป็น เราเกิดมาทำไม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหน้าที่ของเราคืออะไร หรือถ้าเราถูกกำหนดให้มีหน้าที่รบกันไปตลอด ที่แท้แล้วมันคือหน้าที่ของเราจริงๆ หรือเปล่า ?
          ที่ชื่อเรื่องยักษ์เพราะยักษ์ภาษาไทยมันไม่ได้แปลว่าใหญ่อย่างเดียว มันแปลว่าดุร้ายด้วย ยักษ์มันแทนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคน พลังมหาศาลอย่างยักษ์นี่ถ้าเราคุมมันได้มันก็จะเป็นพลังที่ยอดเยี่ยม สังเกตดีๆ ในหนังยักษ์จะมีบางช่วงที่มีเหตุฉุกเฉินพลังของเขาจะออกมาเอง หรือว่าพอเขาจะช่วยเพื่อนไอ้พลังอันยิ่งใหญ่ตัวนี้ก็จะออกมา ยักษ์มันเป็นทั้งความรักและความโกรธ เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย นี่คือพลังที่แอบอยู่ในมนุษย์ทุกคน ถ้าคุมมันไม่อยู่มันก็จะออกมาคุมเราเอง”

ทำไมต้องยักษ์? พลิกรูปแบบรามเกียรติ์ในอวตารที่สิบล้านเอ็ด
          ด้วยความชื่นชอบและหลงใหลในตัว “ทศกัณฐ์”ราชันย์แห่งผองยักษ์ ตัวละครเอกแห่งมหากาพย์รามายณะสุดยอดวรรณกรรมของชาวเอเชียที่
          “ประภาส ชลศรานนท์”มองว่านี่คือสุดยอดงานครีเอทีฟที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ชิ้นเอกที่ปรากฏขึ้นบนผืนพิภพ พูดได้ว่ามนต์เสน่ห์ของ “ทศกัณฐ์” ยักษ์ 10 หน้า 20 แขน 20 มือและเหล่าตัวละครอันหลากหลายรวมทั้ง “หนุมาน” ทหารเอกของพระราม ที่ซนยังกะเด็กแต่ถึงกระนั้นก็คือฮีโร่ที่เต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์ชนิดที่ยากจะหาใครเทียบทานโดยเฉพาะหางหนุมานที่มัดภูเขาบรรพตได้ทั้งลูกรวมไปถึงบรรดาฉากรบแห่งจินตนาการต่างๆ ในมหากาพย์รามายณะคือภาพจำที่ติดตามาตลอดชีวิตและหวังไว้ว่าวันหนึ่งจะต้องนำสิ่งที่ตนเองรักนำมาทำอะไรสักอย่าง
          จนกระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้วโปรเจ็คต์ “ยักษ์” ก็ถือกำเนิดขึ้นในรูปแบบของภาพยนตร์โดยมีประภาส ชลศรานนท์รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ จากแนวคิดและไอเดียของตนเองร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับพัลลภ สินธุ์เจริญ เพียงทว่าไม่ใช่ภาพยนตร์คนแสดงแต่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นอย่างเต็มรูปแบบ หลายคนอาจแปลกใจที่ครีเอทีฟนักคิดนักเขียนระดับแถวหน้าของประเทศลุกขึ้นมากำกับหนังการ์ตูน แต่ถ้าใครที่ได้สัมผัสและรู้จักตัวตนของประภาสแล้วจะรู้ว่าเขาคิดเขาฝันที่จะทำหนังการ์ตูนมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี
          “เรื่องการทำการ์ตูนแอนิเมชั่นเป็นสิ่งที่อยากทำมามากกว่าสิบปีแล้ว แต่มันยังหามือคู่ใจไม่ได้ และโดยเทคนิควิธีการในขั้นตอนการทำแอนิเมชั่น พอเราได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาจริงๆ จังเลยรู้ว่า หนึ่งมันต้องใช้เงินเยอะมาก สองเราต้องไปใช้ทีมงานในต่างประเทศด้วย เพราะถ้าจะพึ่งคนเขียนคนวาดแค่ในประเทศไทยอย่างเดียวก็คงไม่พอ คือเราก็ศึกษาหาข้อมูลมาตลอดนะ แต่เรารู้ว่ายังทำไม่ได้ก็ไม่คิดอะไร ก็หันไปทำอย่างอื่นก่อนจนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ (ดีกรีชนะเลิศ FIRST PRIZE:SIGGRAPH 1998 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลออสการ์สำหรับนักศึกษา การประกวดผลงานแอนิเมชั่น ประเภทนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก) ซึ่งเพิ่งกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ แล้วตอนนั้นเทคโนโลยีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการทำแอนิเมชั่นพัฒนาไปไกล แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดว่าโอกาสที่จะได้ทำการ์ตูนเริ่มจะมีความเป็นไปได้ และเป็นที่มาที่ทำให้ตัดสินใจเปิดบริษัทบ้านอิทธิฤทธิ์ขึ้นพร้อมกับโปรเจ็คต์ที่จะทำการ์ตูนแอนิเมชั่น”

FB on August 24, 2012, 05:02:20 PM
“ยักษ์” แอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมจาก ประภาส ชลศรานนท์ เปิดตัวใหญ่สมชื่อ รวมสุดยอดศิลปิน-ดาราร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

 

          เปิดตัวกันไปอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสายเลือดไทย งานร่วมทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท จาก สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, บ้านอิทธิฤทธิ์ และ ซูเปอร์จิ๋ว ดำเนินการสร้างโดย เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส ผลงานการกำกับของ ประภาส ชลศรานนท์ นักคิด-นักเขียน ผู้เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่มากมาย ร่วมกับ เอ็กซ์- ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ แอนิเมเตอร์ไทยมือรางวัลระดับโลก โดยในงานยังเป็นการเปิดตัวทีมงานระดับหัวกะทิในวงการบันเทิง ทั้งนักพากย์ และ ศิลปินผู้ทำเพลงประกอบ มาร่วมพูดคุยถึงที่มาของโปรเจ็คต์ และประสบการณ์ต่างๆ ในการทำงานที่ใช้ความทุ่มเท กว่า 6 ปีเต็ม พิถีพิถันสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดีที่สุด พร้อมจะส่งออกสู่สายตาผู้ชมชาวไทยและต่างประเทศ ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 9 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา

          เริ่มงานด้วยเหล่าผู้ให้กำเนิดยักษ์ คุณ ประภาส, คุณเอ็กซ์- ชัยพร, คุณ พาณิชย์ สดสี โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ และ คุณ พัลลภ สินธุ์เจริญ ผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ ขึ้นแนะนำที่มาของการร่วมมือกันสร้างงานครั้งนี้โดยเผยถึงจุดกำเนิดไอเดียของเรื่องยักษ์นี้ว่ามาจากความชื่นชอบในตัวทศกัณฐ์ที่เป็นยักษ์ตัวโปรดของคุณ ประภาส จนเกิดการพัฒนาบทหยิบรามเกียรติ์มากลั่นกรองเล่าออกมาในแบบใหม่ฉบับหุ่นยนต์ที่จะทำให้ทุกคนประทับใจไปกับมิตรภาพของเพื่อนซี้ต่างไซส์ จากหุ่นยักษ์ และ หุ่นกระป๋อง ซึ่งงานสร้างครั้งนี้ก็ยังมีโอกาสได้ไปฉายโชว์ที่ต่างประเทศได้ให้ชาวต่างชาติได้ทึ่งกับศักยภาพของคนไทยจนสนใจติดต่อไปฉายต่างประเทศอีกด้วย พร้อมกันนี้ได้มีการนำเสนอ ภาพยนตร์ตัวอย่างฉบับสมบูรณ์ในระบบดิจิตอลให้เหล่าสื่อมวลชนได้ชมกันเป็นครั้งแรก

          จากนั้นเป็นการเปิดตัวทีมนักแสดงที่มาร่วมสร้างเสียงให้ชีวิตเหล่าคาแร็คเตอร์ ได้แก่ สันติสุข พรหมศิริ ผู้ให้เสียง “น้าเขียว” ปวันรัตน์ นาคสุริยะ ผู้ให้เสียง “สดายุ” บริบูรณ์ จันทร์เรือง ผู้ให้เสียง “กุม” แจ๊ป เดอะ ริชแมนทอย ผู้ให้เสียง “ก๊อก” น้องออมสิน ชนินาถ ศิริสวัสดิ์ ผู้ให้เสียง “สนิมน้อย” ทอดด์ ทองดี ผู้กำกับและควบคุมการพากย์ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งทุกคนต่างก็แนะนำตัวละครและเล่าประสบการณ์การพากย์แอนิเมชั่นครั้งนี้กันอย่างสนุกสนาน และพิเศษด้วยคลิปวีดีโอ จากเสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ผู้ให้เสียง “เผือก” ที่ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ก็ส่งภาพมาทักทายทุกคน พร้อมทั้งเผยความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนร่วมในงานยักษ์ครั้งนี้ ต่อด้วยอีกหนึ่งความพิเศษของภาพยนตร์ก็คือเหล่าทีมเพลงที่เรียกว่าเป็นการรวมศิลปินสามทหารเสือผู้เป็นขวัญใจวัยรุ่นแห่งยุค ได้แก่ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ผู้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” และ นิ้วกลม (สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์) ผู้กำกับ MV เพลงนี้ ได้พูดคุยถึง ที่มาของการเข้ามาร่วมงานกันและพูดถึงความประทับใจที่ได้วง Room 39 มาร้องเพลงอีกด้วย มาถึงช่วงท้าย คุณวิวัตน์ วงศ์ภัทรฐิติ หรือ พี่ซุป แห่ง ซูเปอร์จิ๋ว หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ได้พูดถึงกิจกรรมการตลาดสนุกๆ ของ “ยักษ์” ที่พร้อมเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย Yak Festival ที่จะเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้

          ปิดท้ายงานด้วยการถ่ายภาพร่วมกันกับผู้บริหารและผู้ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ โดยได้รับเกียรติจาก เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนะประเสริฐ ประธานบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดและผู้อำนวยการสร้าง คุณกฤษฏา ล่ำซ่ำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย คุณทรงกฤช บุญญาบารมี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและเทคนิคหล่อลื่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คุณปาจรีย์ เตชะเกรียงไกร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท ดูแม็กซ์ จำกัด โดยผลิตภัณฑ์ดูเม็กซ์ ไฮคิว ซุปเปอร์ โกลด์ คุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกรรมการ บริษัทเอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับทีมสร้างภาพยนตร์, ผู้กำกับ, ทีมนักพากย์ และทีมเพลง เพื่อเป็นเกียรติและเป็นที่ระลึกในงานเปิดตัวภาพยนตร์ครั้งนี้

          เตรียมพบกับมิตรภาพต่างไซส์ที่จะมาพิชิตใจคนทั้งประเทศ
          “ยักษ์” 4 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: August 25, 2012, 07:56:10 AM by FB »

FB on August 25, 2012, 07:55:39 AM
ตัวอย่าง “ยักษ์”

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rZyuReZa9dw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rZyuReZa9dw</a>



          เรื่องราวการผจญภัยของเจ้าหุ่นกระป๋อง 2 ตัว ที่ถูกล่ามติดกันไว้ด้วยโซ่ที่ผลิตจากวัสดุพิเศษ ที่ตัดอย่างไรก็ไม่ขาด เจ้าหุ่นตัวใหญ่ ถูกเรียกว่า "น้าเขียว" และ เจ้าตัวเล็กสีม่วง ถูกเรียกว่า "เจ้าเผือก"เรื่องราวความสนุกจึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้ง 2 จะต้องออกเดินทางเพื่อตามหาความทรงจำ ที่เกิดขึ้นพร้อมมิตรภาพ เสียงหัวเราะ และความสนุกสนาน

          "มีรามเกียรติ์เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ทุกแห่งหน ทุกผู้คน ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของหุ่นยนต์"
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล / บ้านอิทธิฤทธิ์ / ซูเปอร์จิ๋ว / เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส
          สุดภูมิใจที่ได้ร่วมกันสร้างฝันครั้งใหญ่ยิ่งกับอภิมหากาพย์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นไทยที่มีชื่อสั้นๆ ว่า"ยักษ์"

          ด้วยแรงบันดาลใจในตัวละครคลาสสิคจากมหากาพย์รามายณะ ราม, หนุมาน, ทศกัณฐ์ ฯลฯ
          จุดประกายไอเดีย ให้เขียนเรื่องขึ้นมาใหม่ก่อนกำกับทุกภาพให้โลดแล่นเป็นการ์ตูนโดย
          ประภาส ชลศรานนท์

          พร้อมร่วมเดินทางสร้างสรรค์จินตนาการภาพและเสียงให้เคลื่อนไหวอย่างมหัศจรรย์
          จากหลากหลายศิลปินแห่งยุคในแขนงต่างๆ มาร่วมเนรมิตยักษ์ที่เรารักให้แผลงฤทธิ์บนผืนโลกใบนี้

          4 ตุลาคมนี้ ถึงเวลาที่เรามั่นใจและเชื่อว่าทุกคนจะรัก "ยักษ์" เหมือนที่เรา "รัก"

          ติดตามความเคลื่อนไหวก่อนใครที่ www.facebook.com/yakthemovie
« Last Edit: September 02, 2012, 08:52:27 AM by FB »

FB on September 01, 2012, 01:01:52 PM
         “เสี่ยเจียง” ยกนิ้วชม “จิก ประภาส” กลั่นไอเดียสมองกำกับ “ยักษ์”
          ผนึก3พันธมิตรทุ่มกว่า 100 ล้านซุ่ม 6 ปีเต็มสมบูรณ์พร้อมฉาย 4 ต.ค.
          สุดภูมิใจภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ทีมงานทุกคนถือบัตรประชาชนคนไทย



          ปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างขนาดสั้นด้วยความยาวไม่ถึงนาทีเรียกน้ำย่อยในหมู่สังคมออนไลน์ที่ต่างพากันเข้าไปคลิ๊กไลก์จนยอดผู้ชมต่างล้นทะลักในเวลาเพียงไม่กี่วันจนสร้างกระแสความสนใจให้เหล่าคอหนังได้ฮือฮากันไปไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายคนที่ได้ชมต่างตื่นตะลึงเมื่อรู้ว่านี่คือผลงานของคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับ “ยักษ์” โปรเจ็คต์ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาทเรื่องล่าสุดจากสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลที่คราวนี้จับมือร่วมกับพันธมิตรอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์ โปรดักชั่นเฮาส์ทีมผลิตแอนิเมชั่นที่อยู่เบื้องหลังงานโฆษณา, มิวสิควิดีโอและภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย รวมทั้ง บ.ซูเปอร์จิ๋ว ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์วาไรตี้ขวัญใจเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่มาที่ยืนหยัดยาวนานมากว่า 21 ปีและ บ.เวิร์คพอยท์พิคเจอร์ที่ใช้เวลา 6 ปีเต็มในการผนึกกำลังสร้างสรรค์เกิดเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นสายเลือดไทยที่กลั่นจากสมองและสองมือกำกับของ จิกประภาส ชลศรานนท์ ครีเอทีฟนักคิดนักเขียนนักแต่งเพลง ฯลฯ อันดับต้นๆ ของประเทศจนถึงวันนี้เสร็จสมบูรณ์พร้อมแล้วที่จะเตรียมตัวเข้าฉายในวันที่ 4 ตุลาคม โดยงานนี้เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐหัวเรือใหญ่แห่งค่ายสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มากว่า 40 ปี และประสบความสำเร็จในการสร้างภาพยนตร์มาแล้วในทุกๆ แนวทางไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่างองค์บาก,ต้มยำกุ้ง,หรือภาพยนตร์รักโรแมนติคอย่างสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก,เดอะเลตเตอร์จดหมายรัก,รักแห่งสยาม หรือภาพยนตร์คอมมิดี้อย่างแหยมยโสธร1-2, วงษ์คำเหลา, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม, สาระแนห้าวเป้ง ฯลฯ มั่นใจว่าภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง “ยักษ์” ที่หยิบเอาเหล่าตัวละครคลาสสิคในมหากาพย์รามายณะที่ถือกันว่ายิ่งใหญ่และโด่งดังที่สุดแห่งเอเชียอย่าง “หนุมาน” และ “ทศกัณฐ์” มาออกแบบและตีความใหม่ในรูปลักษณ์ของหุ่นกระป๋องและหุ่นยักษ์พร้อมนำเสนอออกมาเป็นเรื่องราวการผจญภัยท่ามกลางมิตรภาพและความสนุกสนานในโลกของหุ่นยนต์จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ทางด้านภาพยนตร์ไม่ต่างจากภาพยนตร์ที่คนแสดงเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เสี่ยเจียงได้ดูภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วรู้สึกภูมิใจและยอมยกนิ้วให้กับความอัจฉริยะของจิก-ประภาสเจ้าของไอเดียผู้ให้กำเนิด “ยักษ์” และทีมงานทั้งหมดที่ต่างระดมความสามารถและระดมพลังใจตลอด 6 ปีอย่างไม่ย่อท้อจนงานทั้งหมดสำเร็จลุล่วงมาด้วยดีและที่สำคัญทุกคนล้วนถือบัตรประชาชนคนไทยทั้งสิ้น

          “ก็ตั้งแต่พี่จิกเขามาเสนอมาคุยตั้งแต่เริ่มแรกก่อนที่จะทำโปรเจ็คต์ยักษ์ด้วยกันแล้วว่าอยากหยิบเอารามเกียรติ์มาทำหนังโดยเอาทศกันฐ์มาทำเป็นหุ่นแล้วสู้กัน ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องทศกันฐ์มันดีแน่ เพราะใครๆ ก็รู้จัก ไม่ใช่แค่เมืองไทยด้วยเพราะเรื่องรามเกียรติ์เป็นเรื่องของเอเชีย แล้วตัวหนังแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์เองตัวหนังก็น่าดูมาก สนุกมาก นี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เราร่วมกับคุณจิกประภาส ชลศรานนท์ และเวิร์คพอยท์พิคเจอร์โดยเขาได้ไปชักชวนพรรคพวกเขามาร่วมทุนด้วยอย่างบ้านอิทธิฤทธิ์, ซูเปอร์จิ๋ว เราลงทุนไป 100 กว่าล้าน วันที่คุณจิกเขาชวนผมดูหนังที่ทำเสร็จออกมาแล้ว โอ้โห พูดได้ว่าผมรู้สึกพอใจมาก การ์ตูนทำออกมาภาพทุกภาพสวยมาก คิดไม่ถึงว่าทางคุณจิกจะทำออกมาได้ดีอย่างนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เราภูมิใจและพอใจอย่างมาก การ์ตูนเรื่องนี้เชื่อผม ทุกคนดูได้หมด มีทุกอย่าง มีทุกรสชาติ เรื่องนี้คุณจิกทำได้ดีมากๆ จากวันแรกที่เขาเล่าให้ผมฟัง ผมยังคิดในใจว่าการ์ตูนจะสร้างให้ได้อย่างนี้ยังไง รอจนถึงวันนี้การ์ตูนเสร็จแล้วแต่คุณคิดในใจดูว่าเรารอมา 5-6 ปีกว่าจะได้เห็นภาพนี้ มันมีทั้งฉากบู๊ฉากรบตอนสนุกต่อสู้ผจญภัยทุกอย่างผมว่ายักษ์เป็นหนังการ์ตูนที่ครบรส คุณดูแล้วต้องสบายใจดูแล้วจะไม่เครียด ผมอยากเชิญชวนให้คนดูทุกคนลองมาดูหนังการ์ตูนคนไทยบ้าง ว่าคนไทยเราก็มีฝีมือนะอย่างน้อยๆ ช่วยให้กำลังใจคนไทยบ้างที่ทุ่มเททำผลงานออกมาได้ขนาดนี้ เพื่อที่จะได้มีคนไทยที่ยังทำหนังการ์ตูนต่อไปอีกได้ นี่ไม่ใช่หนังธรรมดา เพราะหนังธรรมดาใช้เวลาแค่3เดือน แล้วที่สำคัญพูดได้ว่าทั้งหมดคือฝีมือของทีมงานที่เป็นคนไทย ที่ล้วนถือบัตรประชาชนคนไทย อยากให้ทุกคนมาชื่นชมและให้กำลังใจคนทำการ์ตูนเรื่องนี้กัน”
« Last Edit: September 02, 2012, 08:15:06 AM by FB »

FB on September 05, 2012, 09:03:41 AM
ยักษ์ ชวนอวดภาพ “เพื่อนซี้ต่างไซส์” ซี้กันได้จะต่างไซส์ก็ไม่แคร์ ลุ้นรางวัลจี้ทองคำ มูลค่า 10,000 บาท !



          “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสายเลือดไทย ผลงานร่วมทุนสร้างจาก บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมมือกับ บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ จำกัด , บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด และดำเนินงานสร้างโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส จำกัด ผลงานการกำกับของ ประภาส ชลศรานนท์ ร่วมกับ เอ็กซ์- ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ พร้อมจะออกอาละวาดความสนุกโชว์มิตรภาพที่จะพิชิตใจผู้ชมทั้งประเทศ 4 ตุลาคมนี้

          และภาพยนตร์ “ยักษ์” ได้ปล่อยกิจกรรมสนุกๆพร้อมชวนคนรักเพื่อนทุกท่านร่วมกิจกรรมประกวดภาพถ่าย “เพื่อนซี้ต่างไซส์” ซี้กันได้จะต่างไซส์ก็ไม่แคร์ ลุ้นรางวัล จี้ทองคำ “ยักษ์ มูลค่า 10,000บาท! (1 รางวัล) เพียงอวดภาพถ่ายของคุณกับเพื่อนซี้ ไม่ว่า จะ2 ขา หรือ 4 ขา ก็ไม่จำกัด แล้วส่งภาพถ่ายมาที่ www.facebook.com/yakmovie ได้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 ตุลาคมนี้เท่านั้น ประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 23 ตุลาคม 2555 ทางหน้าแฟนเพจ yakmovie และทางโทรศัพท์

          พิเศษสุดๆ!! ทุกภาพที่ได้รับการคัดเลือกจะได้อวดโฉมใน MV “เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ” โดย Room39 (เวอร์ชั่นเพื่อนซี้) อีกด้วย

          มีมิตรภาพดีๆ ก็ไม่ต้องอายใคร รีบส่งมาอวดกันได้ส่งก่อนมีสิทธิ์ก่อนนะจ้ะ!

FB on September 05, 2012, 09:04:53 AM
“ยักษ์” ชวนน้องๆ ประกวดวาดภาพ โชว์ไอเดียเด็ดไม่ซ้ำใคร หัวข้อ “อะไรที่ปลายโซ่” ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท!



      “ยักษ์” สุดยอดภาพยนตร์แอนิเมชั่นแห่งความภูมิใจของคนไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานสุดยอดวรรณกรรมแห่งเอเชีย“รามเกียรติ์”โดยหยิบยกตัวละครสุดคลาสสิค มาสร้างสรรค์เป็นเรื่องราวแห่งมิตรภาพและการผจญภัยของหุ่นกระป๋องและหุ่นยักษ์ที่จะทำให้คนดูได้สัมผัสถึงคำว่า “มิตรภาพ” ผลงานการกำกับของ ประภาส ชลศรานนท์ ร่วมกับ เอ็กซ์- ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ พร้อมจะออกอาละวาดความสนุกในโรงภาพยนตร์ 4 ตุลาคมนี้ แต่ก่อนจะไปชมยักษ์ล่าสุด บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมมือกับ บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ จำกัด , บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด และ บริษัท เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส จำกัด ขอเชิญน้องๆ นักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1 - ป.3) และระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4 - ป.6) ร่วมโชว์ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถด้านศิลปะ ในโครงการ การประกวดภาพระบายสีภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ยักษ์” ภายใต้หัวข้อ “อะไรที่ปลายโซ่” เพื่อชิงทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท !

          กิจกรรมครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ น้องๆทุกคนถ่ายทอดจินตนาการไร้ขอบเขต โดยวาดรูปแต่งเติมตามจินตนาการ ในหัวข้อ อะไรที่ปลายโซ่ พร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพ ถึงเรื่องราวที่ตนเองวาด โดยสามารถระบายสีได้ตามใจไม่จำกัดชนิดของสีที่ใช้ และสามารถแต่งเติมเทคนิคการวาดภาพอื่นๆ มาใช้ประกอบได้ ส่งผลงานมาร่วมสนุกได้ที่ บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด เลขที่ 230 อาคาร ซี เอส ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถ. รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 เพื่อชิงทุนการศึกษา และ ของรางวัลที่ระลึกจากภาพยนตร์เรื่อง “ยักษ์”

ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 กันยายน 2555 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yakmovie.com หรือ http://www.facebook.com/YakMovie สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอมรรัตน์ มาเบ้า (ติ๊ก) Tel. 02-274-0671-4 ต่อ142, 085-918-3560 Fax. 02-274-0670 ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ 10.00 – 18.00 น.

FB on September 05, 2012, 09:17:20 AM
“จิก-ประภาส” ฝันอยากทำการ์ตูนมากกว่า 10 ปีแท็คทีม “เอ็กซ์-ชัยพร” แอนิเมเตอร์ไทยชนะเลิศ SIGGRAPH ประเดิมทำ “ยักษ์” ยอมทุ่มเวลา 6 ปี


 
          เริ่มเห็นสีสันหน้าตาตัวคาแรคเตอร์น่ารักน่าชัง ของการ์ตูนแต่ละตัวกันบ้างแล้วสำหรับ “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มโตสมชื่อที่ทาง บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลจับมือร่วมกับ บ้านอิทธิฤทธิ์,ซูเปอร์จิ๋วและเวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส 3 พันธมิตร ทุ่มทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท ร่วมกันเนรมิตรจากไอเดียที่กลั่นออกมาจากสมองและสองมือกำกับของ “จิก ประภาส ชลศรานนท์” ที่คิดฝันอยากทำการ์ตูนมากว่า 10 ปี แต่ติดปัญหาเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในยุคนั้นรวมไปถึงแอนิเมเตอร์มือดีที่จะมาถ่ายทอดตัวหนังสือให้โลดแล่นเป็นภาพจนกระทั่งมาเจอกับเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์แอนิเมเตอร์ไทยฝีมือระดับแชมป์จนตัดสินใจเปิดบ.บ้านอิทธิฤทธิ์เพื่อผลิตงานแอนิเมชั่นโดยตรง

          “เรื่องการทำการ์ตูนแอนิเมชั่นเป็นสิ่งที่อยากทำมามากกว่าสิบปีแล้ว แต่ตอนนั้นยังหามือคู่ใจไม่ได้ และโดยเทคนิควิธีการในขั้นตอนพอเราได้เข้าไปศึกษาจริงจังรู้ว่าต้องใช้เงินเยอะมาก และต้องใช้ทีมงานในต่างประเทศด้วย เพราะถ้าพึ่งคนเขียนคนวาดแค่ในไทยมันไม่พอ ที่ผ่านมาเลยยังไม่ได้ทำแต่ก็ศึกษาข้อมูลมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ (ดีกรีชนะเลิศ FIRST PRIZE:SIGGRAPH 1998 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลออสการ์สำหรับนักศึกษา การประกวดผลงานแอนิเมชั่น ประเภทนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก) ซึ่งเพิ่งกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ แล้วตอนนั้นเทคโนโลยีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการทำแอนิเมชั่นพัฒนาไปไกล แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดว่าโอกาสที่จะได้ทำการ์ตูนเริ่มจะมีความเป็นไปได้ และเป็นที่มาที่ทำให้ตัดสินใจเปิดบริษัทบ้านอิทธิฤทธิ์ขึ้นพร้อมกับโปรเจ็คต์ที่จะทำการ์ตูนแอนิเมชั่น”

          และเพื่อให้โปรเจ็คต์แอนิเมชั่นยักษ์ออกมายิ่งใหญ่สมความตั้งใจของจิกประภาสที่คิดฝันมาตลอดชีวิตตามแนวทางและมาตรฐานที่วางไว้ การหยิบเอาตัวละครคลาสสิคในมหากาพย์รามายณะอย่าง ทศกัณฐ์, หนุมาน, กุมภกรรณ, ราม, สดายุ ฯลฯ ถูกนำมาตีความใหม่ในโลกของหุ่นยนต์ (รูปลักษณ์ของหุ่นยนต์ยักษ์ และหุ่นยนต์กระป๋องที่) ผ่านการดีไซน์ใหม่ภายใต้ลายเส้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ เอ็กซ์-ชัยพร ไปจนถึงการเนรมิตฉากใหญ่อลังการนับ 10 ฉากรวมไปถึงตัวละครอื่นๆนับร้อยนับพันตัว ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานขณะเดียวกันก็ลึกซึ้งกินใจตามสไตล์ของงานเขียนในแบบประภาส ชลศรานนท์ที่พิถีพิถัน และให้ความสำคัญกับตัวบทภาพยนตร์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอยางยิ่งเราจะได้เห็นฉากมิวสิคคัลที่ตัวการ์ตูนต้องร้องเพลงในฉาก ฯลฯ และอื่นๆ อีกมากมายฯลฯ ซึ่งส่งผลให้ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นยักษ์ใช้เวลาถึง 6 ปี ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานปกติของแอนิเมชั่นระดับโลก

          “ปกติแอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งจะใช้เวลาประมาณนี้อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนของ Pixar เองก็ใช้เวลาประมาณนี้ 5-7 ปี เพราะว่ามันเป็นแอนิเมชั่น พอพี่จิกมาชวนทำก็ไม่ได้ตกใจเลยนะเตรียมใจแล้วมากกว่า หนังแอนิเมชั่น 2D บางเรื่องใช้เวลานานถึงสิบปีก็มี แต่ผมไม่ได้กังวลนะเพราะว่ามันเป็นหุ่นยนต์ ทิศทางในการทำเรามีชัดเจนอยู่แล้ว หกปีนี้ก็จะมีช่วงที่ต้องพัฒนาเรื่องต่างๆ ควบคู่ไปด้วย ทั้งเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์, แอนิเมเตอร์ที่จะรับมาทำก็ต้องดูฝีมือกันก่อนว่าทำไว้ได้อย่างที่เราวางแผนไว้หรือไม่ และก็ทำบทด้วยทำควบคู่กันไป”

          เป็นความรู้สึกของเอ็กซ์ ชัยพร ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของผู้กำกับแอนิเมชั่นและเป็นผู้กำกับร่วมในโปรเจ็คต์ยักษ์คู่กับเจ้าของไอเดียอย่าง จิก ประภาส ที่มีส่วนสำคัญให้ “ยักษ์” กลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเต็มรูปแบบที่เสร็จสมบูรณ์ในท้ายที่สุด ในขณะที่ พาณิชย์ สดสี ผู้ควบคุมงานสร้างแอนิเมชั่นยักษ์ที่ผ่านการทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ในฐานะมันสมองระดับหัวกะทิ คู่กับจิกประภาสมากว่า 2 ทศวรรษในส่วนของรายการทั้งหมดในนามของบ.เวิร์คพอยท์เอนเทอร์เทนเมนท์ และเป็นหัวเรือใหญ่ของ “เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส” ที่ร่วมดำเนินงานสร้างในโปรเจ็คต์ยักษ์ ซึ่งรู้แนวคิดสไตล์และวิธีการทำงานตลอดจนวิสัยทัศน์ของผู้ให้กำเนิดยักษ์ได้เป็นอย่างดีขยายความให้ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นในเหตุผลที่ตอกย้ำถึงมาตรฐานการทำงานในแบบประภาส ชลศรานนท์เพื่อให้ผลงานออกมาสมกับความอลังการของโปรเจ็คต์

“ต้องบอกว่าพี่จิกเองแกมีมาตรฐานสูงมากๆ ขนาดลองอะไรไปเยอะคิดว่ามันดีแล้ว แต่พอวันหนึ่งแกคิดอะไรได้ใหม่ขึ้นมาอีก แกเปลี่ยนแกรื้อทิ้งดื้อๆ จะบอกว่าแกมีความต้องการที่ชัดเจน ลองก็ส่วนลอง พอได้สิ่งๆ นั้นมาแล้วมันไม่ใช่แกยอมทิ้งเวลาเป็นปีเพื่อสร้างใหม่ที่คิดว่ามันใช่ที่สุดในความคิดของแก แกไม่ยอมเอาสิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ไว้ในหนังเลย ซึ่งจะบอกว่ามันก็ยากในหลายๆ อันจะบอกว่ามันทิ้งอะไรไปเยอะ ไอ้ที่ทิ้งดีนะไม่ใช่ไม่ดีแต่ไม่ตรงกับสิ่งที่แกคิด เราเห็นในความพยายามของแกคือต้องคนพลังเยอะมาก ต้องไม่เสียดายด้วย ยกตัวอย่างมีอยู่ฉากหนึ่งมิวสิคคัลเลย เป็นฉากร้องเพลงประมาณว่าหุ่นยักษ์ถูกขุดขึ้นมา ชาวเมืองร้องเพลงกัน เป็นฉากที่ทำโพรเซสนาน ร้องเพลงคอมโพสต์เพลงทำมา เขียนแอนิเมทตัดต่อเสร็จดีมากเลย เป็นใครใครก็ชอบ แต่ในหนังไม่มีนะ แกทิ้งแกว่าไม่ใช่ มันเยอะไปมารื่นเริงอะไรตอนนี้ ซีนนั้นถ้าดูเป็นตอนๆ ดีมากเลย สนุกด้วย แต่ถ้ามาอยู่ในหนังในความคิดของพี่จิกแกคิดว่าเยอะไป มันทำให้เรื่องอืด แล้วแค่ฉากนี้ฉากเดียวนะเขียนกันอยู่หกเจ็ดเดือนนะ ไม่ใช่น้อยๆ มันเป็นซีนยาว เป็นแบบ CROWD SCENE เขียนเมืองทั้งเมือง คนเขียนแอนิเมชั่นทั้งเมืองตัวประกอบโมเดลเป็นร้อย โอ้โหมันน่าเสียดาย เราคิดว่าถ้าเป็นหนังคนคงประมาณซีนสงครามหรือซีนร้องเพลงที่คนทั้งเมืองลุกขึ้นมาเต้นนะ แล้วกล้องเลื้อยไปเลื้อยมาและโปรดักชั่นใหญ่มาก ในที่สุดไม่เอา”

          และเมื่อได้เห็นภาพตัวอย่างฉบับเต็มของยักษ์ที่กำลังอาละวาดอยู่ในโรงภาพยนตร์ขณะนี้ก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใดว่าทำไมถึงใช้เวลา 6 ปี ตอนนี้พูดได้คำเดียวว่าอยากดูใจจะขาด 4 ต.ค.นี้ ยักษ์กันทุกโรงภาพยนตร์

FB on September 07, 2012, 03:29:59 PM
“ยักษ์” บุกโรงเรียน! ชวน ประกวดวาดภาพ “อะไรที่ปลายโซ่” น้องๆ สนใจส่งภาพจากจินตนาการกันอย่างล้นหลาม



          หลังจากเผย โครงการ การประกวดภาพระบายสีภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ยักษ์” ภายใต้หัวข้อ “อะไรที่ปลายโซ่” โครงการดีๆจาก บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมมือกับ บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ จำกัด , บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด และ บริษัท เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส จำกัด ที่ขอเชิญน้องๆ นักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1 - ป.3) และระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4 - ป.6) ร่วมโชว์ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถด้านศิลปะ เพื่อชิงทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท ล่าสุด ทีมจัดกิจกรรม “ยักษ์” ก็ได้บุกไปจัดกิจกรรมสนุกๆ กับน้องๆ ระดับประถมศึกษากันถึงโรงเรียน! โดยพาเหล่าเพื่อนพ้องตัวละครหลักจากเรื่องยักษ์ ทั้งพี่เผือก ,น้าเขียว และเจ้ากุมไปสร้างสีสันไปแนะนำให้รู้จักกันอีกด้วย

          ซึ่งงานนี้ก็ได้รับความร่วมมือ และความสนใจจากน้องๆ จากโรงเรียนต่างๆกันอย่างล้นหลาม เด็กๆทุกคน ต่างสนใจและเข้าร่วมวาดภาพจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์กันอย่างดี แต่ละคนก็โชว์ความสามารถ เทคนิคทางศิลปะกันอย่างเต็มที่ แถมยังมีไอเดียเก๋ๆ วาดภาพออกมาได้อย่างแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อีกด้วย ซึ่งน้องๆ คนไหนที่อยากเข้าร่วมประกวดวาดภาพครั้งนี้ ก็สามารถ ส่งผลงานมาร่วมสนุกได้ที่ บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด เลขที่ 230 อาคาร ซี เอส ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถ. รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 เพื่อชิงทุนการศึกษา และ ของรางวัลที่ระลึกจากภาพยนตร์เรื่อง“ยักษ์”

          ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 กันยายน 2555 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yakmovie.com หรือ facebook.com/yakmovie สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอมรรัตน์ มาเบ้า (ติ๊ก) Tel. 02-274-0671-4 ต่อ142, 085-918-3560 Fax. 02-274-0670 ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ 10.00 – 18.00 น.
« Last Edit: September 08, 2012, 07:30:47 AM by FB »

FB on September 14, 2012, 03:32:33 PM
แปลง “หนุมาน” ทหารเอกแห่งรามเป็น “เผือกหุ่นกระป๋อง” ฮา ป่วน กวนซ่าส์ คือคาแรคเตอร์ที่ออกแบบยากสุดใน “ยักษ์”



          นอกเหนือจาก “น้าเขียว” หุ่นยนต์ยักษ์ที่ ถอดแบบมาจาก “ทศกัณฐ์” ยังมีอีกหนึ่งคาแรคเตอร์สำคัญที่เป็นดั่งคู่ปรับ และมิตรคนสำคัญที่จะร่วมผจญภัยไปด้วยกันใน “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิมชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท นั่นคือ “หนุมาน” ทหารเอกคนสำคัญของพระราม ตัวละครสำคัญจากมหากาพย์ “รามายณะ” ที่ครั้งนี้อวตารมาในรูปลักษณ์ของหุ่นยนต์กระป๋องตามแนวคิดและไอเดียของ ประภาส ชลศรานนท์ ที่ให้นิยามว่าเป็นหุ่นกระป๋อง จอมแสบ ฉลาดแกมโกง ซ่าไม่แคร์ไซส์ แท้จริงแล้วคือ หนุมาน ทหารเอกแห่งราม แม้จะตัวเล็กแต่หุ่นยักษ์ทุกตัวในสงครามล้วนครั่นคร้าม

          “อย่างคาแรคเตอร์หนุมานเก่งมากไวมาก ทหารเอกของพระราม ถ้าใครศึกษารามเกียรติ์อย่างดีจะรู้ว่าหนุมานมีนิสัยขี้เล่นแน่นอน เพราะเป็นลิง หรือถ้าอย่างในวงการโขนนี่เป็นที่รู้กันว่าคนที่จะเล่นเป็นลิงนี่ เขาต้องคัดคนที่คล่องตัวมาเล่น หุ่นกระป๋องหนุมานก็เหมือนกัน ตอนแรกที่เรากำหนดให้หุ่นกระป๋องมีล้อนี่เราก็คุยกันหนักเหตุผลใหญ่เลยน่าจะมาจากมันจะทำให้หุ่นที่ตัวเล็กกว่าอย่างเผือกเดินทันหุ่นยักษ์อย่างเขียวได้ แล้วพอเราเลือกหอยเกียรติศักดิ์มาเป็นคนให้เสียงให้ชีวิตตัวนี้มันทำให้เราออกแบบง่ายขึ้น อย่างเสาอากาศของหุ่นกระป๋องหนุมานที่เราเอามาจากทรงผมของหอยแล้ว คิ้วเราก็เอามาจากหัวโขน รวมไปถึงลายมุมปากด้วย ใครที่เคยเห็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังจะนึกออกว่าลายก้นหอยที่อยู่ตามตัวหนุมานนั้นเป็นอย่างไร หนุมานหรือเผือกในการ์ตูนยักษ์จะเป็นหุ่นกระป๋องตัวเล็ก แขนเล็ก เพื่อให้หุ่นกระป๋องที่แขนสั้นๆ เล็กๆ สู้กับหุ่นยักษ์ได้ เราเลยเอาอาวุธจากรามเกียรติ์ใส่เข้าไป ทั้งตรีเพชรสามง่ามที่สามารถฟันเหล็กอย่างทศกัณฐ์เป็นรอยขีดข่วนได้ รวมไปถึงหางที่ยาวเท่าไหร่ก็ได้ของเขา หางของหนุมานในรามเกียรติ์แข็งแรงแสดงอภินิหารได้เท่าไหร่ ผมก็พยายามทำให้ไม่แพ้กัน จะบอกว่าเป็นอาวุธสำคัญที่เท่ที่สุดในเรื่องก็น่าจะได้ หางที่ยาวของหนุมานนี่ตอนไปฉายโชว์ฝรั่งเห็นแล้วชอบมาก”

          และที่สำคัญเป็นตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นที่ เอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ซึ่งรับหน้าที่ในการออกแบบและดีไซน์คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนทุกตัวในภาพยนตร์ยอมรับว่าเป็นตัวที่ออกแบบยากที่สุด

          “ยอมรับเลยครับว่า เผือก หรือหนุมาน เป็นตัวที่ออกแบบยากสุด แก้หลายรอบ ตอนแรกออกแบบมาแล้วมันยังไม่มีความเป็นฮีโร่ เรากำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อดี ยกตัวอย่างในส่วนของคิ้วตอนแรกดูแล้วธรรมดาไป ผมเลยลองหยิบลายจากหัวโขนหนุมานมาลองดัดแปลงดู เป็นกึ่งๆ ลายไทยนิดๆ เหมือนเป็นเหล็กที่โดนตัดออกมาเป็นลายไทย เออมันได้นะ มีความเป็นฮีโร่ เวลาโกรธหรือเวลาสู้จริงๆ เวลาที่ต้องแสดงอารมณ์จริงๆ มีคิ้วที่มันหักๆ อย่างนี้มันจะเพิ่มอารมณ์ให้ได้มากกว่า คิ้วตัวนี้ออกแบบยากสุดครับ แล้วพอดีว่าพี่จิกเลือกที่จะให้คุณหอย เกียรติศักดิ์มาเป็นคนที่จะให้เสียงให้ชีวิตตัวละครตัวนี้ปุ๊บลงตัวเลย ผมเลยได้เอาทรงผมเดดร็อคของเสนาหอยมาเป็นส่วนหนึ่งในตัวหุ่นกระป๋องทำให้แตกต่างจากหุ่นยนต์ตัวอื่น ขณะที่หุ่นยนต์ทั้งโลกถูกบังคับด้วยรามและมีเสาเดียว หนุมานจะแปลกกว่าตรงที่มีสามเขาหักลงมาข้างหนึ่ง”

          เตรียมพบกับเสน่ห์ความน่ารักสุดซ่าในแบบฉบับของ “เผือก หุ่นกระป๋อง และความฉลาด คล่องแคล่วว่องไวและเก่งกล้าสามารถของหนุมานได้ ใน ยักษ์ ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเต็มรูปแบบได้ 4 ต.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: September 15, 2012, 07:17:45 AM by FB »