FB on May 23, 2012, 07:17:22 PM
“นิชคุณ หรเวชกุล” นักร้องระดับเอเชีย เปิดใจรับเล่นหนังไทยเรื่องแรก “รัก 7 ปี ดี 7หน” กับ “จีทีเอช”



           นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องไทยที่โด่งดังระดับเอเชีย เปิดใจรับเล่นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก กับค่าย จีทีเอช ในภาพยนตร์ “รัก 7 ปี ดี 7 หน” หนังรัก 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ ในเรื่องเดียวกัน เพื่อฉลอง 7 ปี จีทีเอช เรื่องแรก ชื่อตอนว่า “14” กำกับโดย กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี, ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ เรื่องที่สอง ตอน “21/28” กำกับโดย ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม และเรื่องที่สาม ตอน “42.195” ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี ของผู้กำกับมือรางวัล เก้ง-จิระ มะลิกุล นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล, สู่ขวัญ บูลกุล และ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ

          การสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ ได้ ท๊อป-นภัทร โชคจินดาชัย พิธีกรรายการ “PLAY GANG” จากช่อง PLAY CHANNEL รับหน้าที่เป็นตัวแทนสื่อมวลชนในการสัมภาษณ์เปิดใจเรื่องภาพยนตร์ในทุกคำถาม

          ท็อป: อยากจะทราบว่าอะไรที่เป็นปัจจัยหลักของนิชคุณที่ตัดสินรับเล่นหนังเรื่องแรกกับ GTH เรื่องรัก 7 ปี ดี 7 หน ครับ
          นิชคุณ : ปกติแล้วคุณเป็นแฟนหนังของ GTH อยู่แล้ว ตั้งแต่เรื่อง ชัตเตอร์ เรื่องแรกเลยนะครับ แล้วก็พอดีเขาติดต่อเข้ามาว่าอยากให้ผมไปเล่นหนัง ก็ดีใจมากแล้วเขาก็บอก ว่าพี่เก้ง เป็นคนกำกับหนัง ก็เลยตอบตกลงเลยนะครับ แต่ว่าพอดีมีคิวที่ติดอยู่ที่ทางบริษัทกับทางวง ก็มีแสดงคอนเสิร์ตเล็กน้อยก็เลยช้าหน่อยอ่ะครับ
          ท็อป : หลังจากที่ พี่คุณ ตอบรับแล้วเนี่ย ได้บทมาอ่านแล้วชอบเลยหรือป่าว
          นิชคุณ : ได้บทมาอ่านแล้วชอบเลยครับ เพราะว่าเป็นหนังที่น่าสนใจมากแล้วก็ไม่ใช่แค่บอกว่าน่ารัก กุ๊กกิ๊กๆธรรมดา แต่เป็นหนังที่ให้ข้อคิดดีๆแล้วก็ คุณ เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนได้ และหวังว่าทุกคนจะชอบหนังเรื่องนี้กันครับ
          ท็อป : แล้วตัวละครในเรื่องนี้ พี่คุณ คิดว่ามีความเหมือนหรือว่าแตกต่างจากตัวพี่คุณอย่างไรครับ
          นิชคุณ : จริงๆแล้วพี่เก้งเขาบอกว่าให้ คุณ แสดงเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะว่านี้คือหนังเรื่องแรกของผม แล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองแสดงดีหรือไม่ดีขนาดไหน ก็เลยพยายามทำให้เหมือนตัวเองมากที่สุดอ่ะนะครับ แล้วก็พี่เก้งเขาเขียนบทนี้มาเพื่อให้ผม เพื่อให้ คุณ โดยเฉพาะก็เลยเล่นเป็นตัวเองนิดหนึ่ง ก็..น่าจะเหมาะใช่ไหมครับ
          ท็อป : ในเรื่องนี้พี่คุณรับบทเป็นนักวิ่งมาราธอนด้วย พี่คุณ ได้อะไรกับการวิ่งมาราธอนแล้วก็รู้สึกอย่างไรบ้างครับ
          นิชคุณ : ได้หุ่นที่เพรียว สวยงามขึ้นนะ แล้วก็ได้วิ่งครับ ปกติเป็นคนไม่ชอบวิ่งอยู่แล้ว เพราะคุณผอมอยู่แล้ว แต่พอได้มาเล่นเรื่องนี้แล้วเราต้องวิ่ง ผมได้ไปฝึกวิ่งกับโค้ช ประเสริฐ ที่ทางGTH จัดมาให้ครับ การวิ่งทำให้ผมค้นพบถึงเสน่ห์บางอย่างของการวิ่งได้เลยว่า ทำไมคนเราถึงยอมสละเวลามาวิ่งในระยะทาง 42.195 กิโลเมตรในงานวันวิ่งมาราธอน นอกจากวิ่งเพื่อให้สุขภาพดีแล้ว ยังเป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นคนเดียวได้ ได้ค้นพบอะไรบางอย่างจากการวิ่งด้วยครับ
          ท็อป : พอพี่คุณได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ คิดว่าหนังมีเสน่ห์มั้ย หลายคนติดใจที่ได้มาสัมผัส
          นิชคุณ : การถ่ายหนังก็ มีเสน่ห์นะครับ คิดว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป ถ้าสมมติค้นพบตัวเองเจอว่าเราเป็นคนยังไง เราควรจะเล่นบทนี้ยังไงอะไรอย่างนี้ แต่ยังอีกไกลสำหรับผมแต่ก็อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีในวันหนึ่ง ก็ถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากของผมนะครับ ที่ได้มาเริ่มต้นที่เมืองไทยด้วย และยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ ที่ได้พี่เก้ง พี่สู่ขวัญ มาเป็นผู้ช่วย ผู้ผลักดันให้จุดเริ่มต้นของการแสดงหนังเรื่องแรกของผมผ่านไปด้วยดี ผม ดีใจและเป็นเกียรติมากครับ
          ท็อป : ทราบมาว่า เป็นเรื่องแรกที่พี่คุณแสดงอย่างเต็มตัวเลย มีความยากง่ายอย่างไรบ้างครับ
          นิชคุณ : ยากครับ ยากมากแล้วก็กดดันมาก เพราะว่าเป็นหนังที่พี่เก้งกำกับด้วยแล้ว คุณก็ไม่อยากทำให้พี่เก้งต้องผิดหวังที่มาเลือกผมให้เป็นตัวพระเอก วันแรกๆ ผมพยายามแสดงให้เต็มที่พยายามแบบเต็มที่มาก จนพี่เก้งบอก “เลิกแสดงได้แล้ว เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด” ก็ใช้เวลาปรับตัวสักพักหนึ่งเหมือนกัน เรารู้สึกว่าการแสดงเป็นอะไรที่มีเสน่ห์แล้วมันน่าสนใจอ่ะครับ อยากแสดงไปเรื่อยๆ
          ท็อป : ร่วมงานกับพี่เก้งเป็นอย่างไรบ้าง
          นิชคุณ : พี่เก้งเป็นคนใจดีมากเลย เหมือนคุณพ่อมากำกับหนัง รู้สึกสบายใจเวลาทำงานกับพี่เก้งสบายใจเพราะพี่เก้งเป็นคนใจดี ช่วยสอนตลอดเวลา รู้สึกดีที่ได้มาร่วมงานกับพี่เก้งและรู้สึกเป็นเกียรติด้วยครับ
          ท๊อป : หนังให้ประสบการณ์อะไรกับพี่คุณมากไปกว่าการแสดงไหม
          นิชคุณ : จุดเริ่มต้นของการถ่ายหนังเรื่องนี้ ผมอยากรู้ว่าตัวเองแสดงได้มั้ย ชอบการแสดงหรือเปล่า และหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า ผมชอบการแสดง แล้วก็อยากเก่งในด้านนี้ด้วย ตอนนี้พยายามฝึกภาษาไทยให้มากขึ้นครับ
          ท็อป : อยากให้พูดถึงการทำงานร่วมกับคุณสู่ขวัญแล้วโอปอล์
          นิชคุณ : การร่วมงานกับพี่สู่ขวัญ ผมถือว่าโชคดีมาก ตอนแรกที่มาเข้าฉากด้วยกันเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าพี่เขาไม่เคยแสดงมาก่อน พี่ขวัญเป็นมืออาชีพมากในเรื่องการแสดง ตรงต่อเวลาแล้ว เราช่วยส่งบทกันมาก เวลาใครติดขัดตรงไหน เราจะช่วยกัน เป็นพี่ที่น่ารักจริงๆ ส่วนพี่โอปอล์นี่ก็ตามที่เขาบอกนะครับแย่งซีนไปหมดเลย ตลก ขำ สนุก เข้าฉากด้วยกันสนุกมาก ขนาดถ่ายด้วยกันแค่นิดเดียวยังสนุกเลยครับ เสียดายมาก ที่คุยกันนิดเดียว
          ท็อป : อยากทราบถึงความประทับใจที่พี่คุณมีต่อหนังเรื่องนี้ รัก 7 ปี ดี 7 หน
          นิชคุณ : ประทับใจมากครับ ตั้งแต่อ่านบทแล้ว ยิ่งได้ทำงานกับพี่เก้ง ผู้กำกับที่ผมชื่นชอบ ได้ทำงานกับพี่สู่ขวัญ และหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่หนังรัก กุ๊กกิ๊กธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เป็นหนังที่ผมเชือว่า มันจะให้ข้อคิด และแรงบันดาลบางอย่างกับทุกๆ คน แล้วก็ตั้งแต่ได้เจอพี่เก้ง พี่สู่ขวัญนะคับ ก็เป็นหนังที่อยากที่บอกอ่ะคับคือไม่ใช่แค่น่ารัก กุ๊กกิ๊กธรรมดา เป็นหนังที่ให้ข้อคิดและเป็นแรงบันดาลใจกับทุกคนว่าในชีวิตของเราเนี่ยถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่ามันจะตกต่ำ หรือ จะเศร้าขนาดไหน แต่ถ้าสมมติเราเปิดใจรับสิ่งดีๆที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเราเนี่ย ซึ่งมีอยู่ทุกวัน แค่เราเปิดใจรับ ชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อได้นะครับ
          ท็อป: นอกจากเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว ยังโปรเจ็คอื่นๆ อีกมั้ย
          นิชคุณ : อาทิตย์หน้ามีคอนเสิร์ตทัวร์ที่ญี่ปุ่นครับ แล้วก็จะมีออกอัลบั้มที่ญี่ปุ่นเหมือนกันแล้วก็มีออกอัลบั้มที่เกาหลีน่าจะภายในปีนี้ ก็ขอให้ทุกคนติดตามกันด้วยนะครับ
          ท็อป : หนังเรื่องแรกกดดันมั้ย เพราะคนดูอาจคาดหวัง
          นิชคุณ : กดดันมากครับ เพราะผมกลัวจะแพ้หนังเรื่องอื่นของ GTH (หัวเราะ) พยายามทำจะสถิติให้ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ห่วงเท่าไร เพราะยังมีอีก 2 เรื่องที่คอยช่วยอยู่ เรื่องของ พี่คริส พี่ซันนี่ อีกเรื่องของน้องเก้า และ ปันปัน ความกดดันเลยลดลง ก็แค่คาดหวังว่าคนดูจะชอบครับ
          ท็อป : อยากให้พี่คุณพูดถึงมุมมองของความรักในเรื่องนี้
          นิชคุณ : ความรักของเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า ความรักของคนเรา ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องหวังอะไรจากกันและกัน แค่อยู่ข้างๆกัน เป็นเพื่อนกัน คอยสนับสนุนกันคอยเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจให้กันและกัน แค่นั้นมันก็เป็นความรักได้ครับ
          ท็อป : หนังเรื่องนี้เป็นหนังภาคภูมิใจที่สุดมั้ย เพราะว่าได้กลับมาเมืองไทยแล้วก็เห็นว่าได้อยู่เมืองไทยนานที่สุดในรอบ 4-5 ปี
          นิชคุณ : เป็นหนังที่ผมภาคภูมิใจมากครับ หนังเรื่องนี้ทำให้ผมอยู่เมืองไทยได้ยาวนาน 20 วัน เป็นครั้งแรกในเวลา 4-5ปี ที่ได้กลับมาเมืองไทยยาวๆขนาดนี้ เป็นความรู้สึกที่ดีมาก แล้วผมก็จะรอดูผลของหนังเรื่องนี้อยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร พี่เก้งให้ผมได้ดูหนังบ้าง เพราะต้องมาอัดเสียงเพิ่ม เท่าที่ได้ดูเป็นหนังที่น่าดูมาก หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ
          ท็อป : สุดท้ายอยากให้ฝากหนังเรื่องนี้ รัก 7 ปี ดี 7 หน
          นิชคุณ : ผมขอฝากหนังเรื่องนี้ รัก 7 ปี ดี 7 หน กับแฟนๆ ชาวหนังของ GTH แล้วก็แฟนๆของผมด้วยนะครับ รัก 7 ปี ดี 7 หน เป็นหนังรัก 3 เรื่อง ของ 3 ผู้กำกับ ซึ่งทั้ง 3 ตอนเป็นอะไรที่น่าดูมาก ทุกตอนกล่าวถึงความรักในแต่ละช่วงอายุ ก็อยากให้ทุกคนมาดูกัน และ ก็หวังว่าทุกคนจะได้ข้อคิดดีๆจากหนังเรื่องนี้ไป และก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง

          รัก 7 ปี ดี 7 หน หนังรัก 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ กำหนดฉาย 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 23, 2012, 08:33:27 AM by FB »

FB on May 31, 2012, 09:18:31 AM
“นิชคุณ” ประเดิมวิ่งมาราธอนครั้งแรก ในหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ตอน “42.195”



          นิชคุณ หรเวชกุล ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังระดับเอเชีย รับเล่นหนังไทยเรื่องแรกในหนังรัก 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ เพื่อฉลอง 7 ปี จีทีเอช “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ในตอนที่ชื่อว่า “42.195” ที่ได้ เก้ง- จิระ มะลิกุล กลับมากำกับหนังอีกครั้งในรอบ 7 ปี ซึ่งเรื่องนี้ นิชคุณ ต้องไปฝึกซ้อมวิ่งมาราธอน

          นิชคุณ เผยว่า “ผมชอบบทหนังเรื่องนี้มาก วันแรกที่พี่เก้งเอามาให้อ่าน ผมก็สนใจทันทีว่า วิ่งมาราธอนกับชีวิตคนเรามันไปด้วยกันได้อย่างไร หนังเรื่องนี้ทำให้ผมได้ไปวิ่ง ซึ่งจริงๆ แล้ว วิ่งเป็นกีฬาที่ผมไม่ค่อยชอบ เพราะผมผอมอยู่แล้ว แต่พอพี่เก้ง ให้ผมได้ไปวิ่งกับโค้ช ประเสริฐ ที่จีทีเอช จัดมาให้ ผมเริ่มชอบการวิ่ง วิ่งมีเสน่ห์บางอย่าง ผมรู้แล้วว่า ทำไมคนเราถึงได้สละเวลามาวิ่งมาราธอนในระยะทาง 42.195 กิโลเมตร เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว วิ่งยังเป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นคนเดียวได้ เวลาที่เราวิ่งผมค้นพบอะไรบางอย่างจากการวิ่ง นั่นคือ คนเราถ้ามุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว เราสามารถทำมันได้ ทุกฝีก้าวที่เราก้าวไป ไม่ใช่เพียงแค่ชัยชนะ แต่นั่นคือการเอาชนะตัวเองที่จะวิ่งไปให้ถึงเป้าหมาย และ 2 ข้างทางเราได้พบเจออะไรมากมายจริงๆ พี่เก้ง เป็นผู้กำกับที่ลึกซึ้งและสุดยอดมาก พี่สู่ขวัญ เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทมาก รวมถึงพี่โอปอล์ เป็นนักแสดงที่ตลก และสนุกมาก สร้างสีสันให้กับหนัง หนังเรื่องนี้ผมทุ่มเทมากครับ มันไม่ใช่แค่หนังรัก แต่มันเป็นหนังรักที่ให้พลังครับ”

          “รัก 7 ปี ดี 7หน “ 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ เรื่องแรก ชื่อว่า “14” กำกับการแสดงโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี, ปัน ปัน- สุทัตตา อุดมศิลป์ เรื่องที่สอง “21/28” กำกับโดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ,คริส หอวัง และเรื่องที่สาม “42.195” กำกับโดย จิระ มะลิกุล นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล , สู่ขวัญ บูลกุล และ โอปอล์- ปาณิสรา พิมพ์ปรุ กำหนดฉาย 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 23, 2012, 08:34:41 AM by FB »

FB on June 07, 2012, 05:24:30 PM
“คริส หอวัง” นางเอกคู่บุญผู้กำกับ “ปิ๊ง-อดิสรณ์” ทุ่มสุดตัวหนัง “รัก 7ปี ดี 7 หน”



          คริส หอวัง นางเอกคู่บุญ ผู้กำกับ ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม แจ้งเกิดจากหนัง “รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ” กลับมาครั้งนี้ คริส ทุ่มสุดตัว ในหนังรัก 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ เพื่อฉลอง 7 ปี จีทีเอช “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ในเรื่องที่มีชื่อตอนว่า “21/28”

          คริส เผยว่า “ดีใจมากค่ะ ที่พี่ปิ๊ง และ จีทีเอช เลือกให้คริสมาเล่นหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช ในตอนที่ชื่อ 21/28 คริสชอบบทเรื่องนี้มาก วันแรกที่พี่ปิ๊งส่งบทให้ อยากเล่นเลย เพราะเราได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง และยังได้เล่นคู่กับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซึ่งซันนี่ เล่นดีมาก ช่วยรับส่งอารมณ์ทางการแสดงให้กับเราเป็นอย่างดี เป็นการทำงานที่สนุกมาก มันเป็นหนังที่เล่นแล้วรู้สึกอิน อาจเป็นเพราะวัยซันนี่ กับเราใกล้เคียงกัน การแสดงไปในทิศทางเดียวกัน หนังเรื่องนี้เราต้องเล่นกันเป็นทีมเวิร์ค ได้กลับมาร่วมงานกับพี่ปิ๊งอีกครั้งดีใจมากค่ะ คริส อยากฝากหนังเรื่องนี้ด้วยนะคะ นอกจากมีตอนของคริสแล้ว ยังมีตอนของเก้า ปัน ปัน และนิชคุณ พี่สู่ขวัญ โอปอล์ ซึ่งสนุกและดีทั้ง 3 เรื่อง เป็นกำลังใจให้กับหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ด้วยนะคะ 26 กรกฎา ไปให้กำลังใจกัน ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ”
« Last Edit: June 23, 2012, 08:35:36 AM by FB »

FB on June 17, 2012, 02:13:26 PM
“เก้ง-จิระ” ปิ๊งไอเดียชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงทุก 7 ปี มาทำหนังฉลอง 7ปี “จีทีเอช” หนังรัก 3 เรื่อง 3 ผกก. “รัก 7 ปี ดี 7 หน”

    

      ค่ายหนังอารมณ์ดี “จีทีเอช” เปิดโปรเจ็คพิเศษปี 2555 เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 7 ปี “จีทีเอช” กับภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเรื่องใหม่ โดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ที่จะมาถ่ายทอดความหมายของคำว่า “Love & Life” ในแต่ละช่วงวัย เรื่องแรก “14” กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี, ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ เรื่องที่สอง “21/28” กำกับโดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง เรื่องที่สาม “42.195” กำกับโดย จิระ มะลิกุล นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล, สู่ขวัญ บูลกุล และ ปาณิสรา พิพม์ปรุ

          จิระ มะลิกุล 1ใน 3 ผู้กำกับ เผยว่า “ในวาระที่ จีทีเอช ครบรอบ 7 ปี เราคิดกันว่าน่าจะมีการรวมดาราดังของเรา และมองว่าความรักกับเลข 7 มันน่าจะไปด้วยกันได้ ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งของคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ แกเขียนเกี่ยวกับเลข7 ว่า ชีวิตคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 7ปี อีกทั้งฝรั่งยังเชื่อเรื่อง “7 Years itch” หรืออาถรรพ์เลข7 และยังไปพ้องกับหลักทางโหราศาสตร์ ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นโคจรไปด้วยการกำกับของดวงดาว โดยมีดาวมฤตยูซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงคอยกำหนด ดาวมฤตยูจะย้ายเปลี่ยนราศีไปในทุก 7 ปี ถ้าสังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่า ชีวิตคนเราพบกับความพลิกพันครั้งใหญ่ในทุก 7 ปี เช่นกัน

          จากวัยเด็กเมื่อ 7ขวบ เราอยู่กับครอบครัว 8-14 ปี เราเริ่มห่างจากพ่อแม่ไปอยู่กับเพื่อน 15-21 ปี เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอยากมีแฟน ความรักครั้งแรก พอ21-28 ปี เริ่มต้นวัยทำงาน ค้นหาตัวเอง ใช้ชีวิตตามอุดมคติ 29-35 ปี เริ่มมองการแต่งงาน ซื้อบ้านหลังแรก 35-42 ปี เริ่มเป็นผู้ใหญ่ เริ่มเกิดการสูญเสีย ชีวิตมีการผลัดพราก ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปด้วยตัวของมันเอง และเมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง แล้วความรักจะคงอยู่ได้อย่างไร เราชอบไอเดียนี้ จึงอยากทำหนังรักของคน 3 รุ่น เป็นหนัง 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ

          เรื่องแรก “14” เรื่องราวของวัยรุ่นกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งผู้กำกับที่เหมาะสมที่สุด คือ กอล์ฟ-ปวีณ และเราได้ เก้า กับ ปัน ปัน มาแสดงในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องที่สอง “21/28” จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ปิ๊ง-อดิสรณ์ ผู้กำกับ ขวัญใจหนุ่ม-สาวออฟฟิศ มากำกับเรื่องราวในตอนของหนุ่ม-สาวที่กำลังตามหาความรักในอุดมคติ ช่วงเวลาที่เราเป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด นำแสดงโดย ซันนี่ และคริส หอวัง เรื่องสุดท้าย “42.195” ผมรับหน้าที่กำกับเรื่องราวของสาววัย 42 ปี ที่พบปัญหาใหญ่ในชีวิต แต่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาเป็นกำลังใจให้เธอก้าวผ่านมรสุมชีวิตครั้งนี้ด้วยการวิ่งมาราธอน เพื่อให้เธอได้พบกับชีวิตใหม่ หนังเรื่องนี้ผมค้นพบปรัชญาการใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ว่า การก้าวไปข้างหน้าให้ผ่าน 7 ฟุตข้างหน้า เพื่อจะพบการเปลี่ยนแปลงใน 7 ฟุตถัดไป เพราะว่าชีวิตเราเปลี่ยนแปลงทุก 7 ปี หนังเรื่องนี้เป็นการรวบรวมดาราดังของค่ายจีทีเอช และยังเป็นหนังรักที่สร้างแรงบันดาลบางอย่างให้กับผู้ชม อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
« Last Edit: June 23, 2012, 08:36:04 AM by FB »

FB on June 22, 2012, 04:40:57 PM
“กอล์ฟ-ปวีณ” กำกับหนังรักครั้งแรกใน “รัก 7 ปี ดี 7 หน” หนัง 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ ให้ความรู้สึก หนังรักมีเสน่ห์





          กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จจากหนังผี “บอดี้..ศพ19”, 4 แพร่ง ตอน “ยันต์สั่งตาย” และ 5 แพร่ง ตอน “หลาวชะโอน” กลับมาครั้งนี้ กอล์ฟเตรียมพิสูจน์ฝีมือ กับการกำกับหนังรักเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์ 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ ฉลอง 7 ปี จีทีเอช “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ซึ่งกอล์ฟ รับหน้าที่กำกับในตอน “14” เรื่องราวของวัยรุ่นกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี และ ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์

          กอล์ฟ-ปวีณ เผยว่า “ผมดีใจมากครับที่ได้มาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังครบรอบ 7 ปี จีทีเอช เรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน ซึ่งหนังเรื่องนี้กล่าวถึงความรักในช่วง 3 อายุ ซึ่งผมรับหน้าที่กำกับ ตอน “14” เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง หนังเล่าผ่าน ชีวิตวัยรุ่นทุกวันนี้ที่ไม่ได้คุยกันปกติเพียงอย่างเดียว ยังคุยผ่านทาง เฟซบุ๊ค, อินสตาแกรม ซึ่งบางครั้งการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คมากเกินไปมันก็ส่งผลต่ออะไรบางอย่าง ครั้งนี้ผมได้เก้า-จิรายุ กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งหลังจาก 5 แพร่ง เก้าเป็นเด็กที่การแสดงดีมาก ส่วนปัน ปัน ผมชอบน้องเขาจากลัดดาแลนด์ พอมาเล่นหนังรัก ปัน ปัน ก็ยังทำได้ดีมาก ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นการกำกับหนังรักเป็นครั้งแรกของผมด้วย ที่ผ่านมาทำแต่หนังผี บอดี้..ศพ19, 4 แพร่ง, 5แพร่ง ซึ่งหนังผีจะมีการด้นสดน้อยมาก ทุกอย่างจะเป๊ะ เดินไป 3 ก้าวเจอผี แต่พอมาทำหนังรักทุกอย่างมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า อารมณ์ของนักแสดงที่เล่นด้วยกัน เมื่อเคมีของทั้ง 2 คน เก้า-ปัน ปัน เข้ากัน เล่นกันได้ดี การแสดงมันส่งพลังถึงตัวผม ถึงคนในกองถ่ายที่หันไปมองยิ้มกันทุกคน ซึ่งบรรยากาศแบบนี้มันหาไม่ได้ในหนังผี ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาสู่ผู้ชมมันคือเสน่ห์ของหนังรัก ผมอยากให้ทุกคนลองเข้าไปชมหนังเรื่องนี้กันนะครับ มันเป็นหนังรักที่ให้พลังอะไรบางอย่าง 26 กรกฎา เป็นกำลังใจให้พวกเรา รัก 7 ปี ดี 7หน ทุกโรงภาพยนตร์ นะครับ”

          “รัก 7 ปี ดี 7หน” 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ กำหนดฉาย 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: June 23, 2012, 08:36:44 AM by FB »

FB on June 22, 2012, 04:42:39 PM
“จีทีเอช” เปิดตัวหนังฉลอง 7 ปี “รัก 7 ปี ดี 7 หน” พร้อมเผยสิ่งดีๆ 7 สิ่งที่จะมอบให้ผู้ชมในปีนี้



          ค่ายหนังอารมณ์ดี “จีทีเอช” จัดงานแถลงข่าว ไลน์อัพสิ่งดีๆ 7 สิ่งที่จะมอบให้กับผู้ชม พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์ฉลอง 7 ปี จีทีเอช “ รัก 7 ปี ดี 7 หน” หนัง 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, เก้ง-จิระ มะลิกุล โดยมีนักแสดงนำ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง, เก้า-จิรายุ ละอองมณี, ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์, สู่ขวัญ บูลกุล,โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ มาร่วมพูดคุยที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส

          งานนี้ได้ดีเจ.สุดฮอต เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ รับหน้าที่พิธีกร พูดคุยถึงหนัง และเปิดโปรเจ็คสิ่งดีๆ 7 สิ่ง ที่จะมอบให้กับผู้ชมในปีนี้ โดยมี ดารานักแสดงจาก จีทีเอช มาพรีเซ็นต์ไลน์อัพ คู่แรก “มาดามมด” ควงคู่มากับ ”แจ็ค แฟนฉัน” เปิดตัวช่อง “เพลย์แชนแนล” เคเบิ้ลทีวีที่กำลังมาแรง ตามด้วย “สิน-ยงยุทธ ทองกองทุน ควงคู่นางเอก 150 ล้าน “ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” เปิดตัว “หมวดโอภาสเดอะซีรี่ส์ปี2” จากนั้น สาวน้อยตัวเล็ก “จีน่า-ณิชาภัทร” มาพร้อมกับ “พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” มาเปิดตัว Merchandise ช็อปร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์จากภาพยนตร์ อาทิ เสื้อ, กระเป๋า, รองเท้า ฯลฯ ให้ได้เลือกช้อป, ตามด้วย “ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ” และ “เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ์” มาพรีเซ็นต์คอนเสิร์ตที่จะจัดในปลายปีนี้ จากนั้น “พีช-พชร จิราธิวัฒน์” ขอโชว์เดี่ยว พรีเซ็นต์ Movie App สิ่งใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ ตามด้วย เพื่อนรักคู่ซี้ “โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ” มาพร้อมกับ “มุก-ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ” พรีเซ็นต์ ละครเวที “ลำซิ่งซิงเกอร์” ที่ได้เต๋อ-ฉันทวิชช์ เป็นพระเอก เปิดแสดงให้ชมปลายปีนี้

          ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์ฉลอง 7 ปี จีทีเอช ภาพยนตร์รักที่จะสร้างแรงบันดาลให้กับผู้ชม งานนี้ เอกกี้ เชิญ 3 ผู้กำกับ เก้ง-จิระ มะลิกุล, ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา พร้อมด้วยนักแสดงนำในเรื่อง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง, จิรายุ ละอองมณี, สุทัตตา อุดมศิลป์, สู่ขวัญ บูลกุล และ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ มาร่วมพูดคุยถึงหนังเรื่องนี้ หนัง 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ และ 7 นักแสดง ซึ่งเป็นหนังที่ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ ซันนี่ ยอมลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก เรียนว่ายน้ำ, สู่ขวัญ, นิชคุณ ต้องไปซ้อมวิ่งมาราธอน จนเกือบถอดใจ, เก้า ไปฝึกเรียนพิมพ์ดีด, ปัน ปัน ฝึกเล่นอะคูเลเล่, คริส ยอมโกรกผมสีแดง เรียกว่าเป็นงานที่ทุกคนตั้งใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด จนทำให้ได้ใจ3 ผู้กำกับไปเต็มๆ จากนั้นได้ชม มิวสิกวิดีโอเพลง “อยากรักไม่ต้องกลัวคำว่าเสียใจ” เพลงประกอบหนัง ที่ได้ ดา เอ็นโดรฟิน มาร้องเพลงและร่วมแสดง MV ร่วมกับดาราดัง ปิดท้ายด้วย ตัวอย่างหนังสุดซึ้งประทับใจ ที่ฉายให้ชมเป็นครั้งแรก จากนั้น ผู้บริหาร วิสูตร พูลวรลักษณ์, จินา โอสถศิลป์ พร้อมนักแสดงที่มาร่วมงาน มณีรัตน์ คำอ้วน, แพตตี้ อังศุมาลิน, เปอร์-สุวิกรม,ไมเคิล-ศิรชัช และลูกค้าใจดี ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก
« Last Edit: June 23, 2012, 08:37:38 AM by FB »

FB on June 22, 2012, 04:43:57 PM
“เก้ง-จิระ” ยกย่อง “ดา เอ็นโดรฟิน” เจ้าแม่เพลงโซล เลือกร้องเพลงประกอบหนัง “รัก 7 ปี ดี 7หน”

 

          เก้ง-จิระ มะลิกุล โปรดิวเซอร์มือหนึ่งค่าย จีทีเอช และ 1 ในผู้กำกับหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช “รัก 7 ปี ดี 7 หน” 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ เลือกนักร้องสาวเสียงดี “ดา เอ็นโดรฟิน” มาร้องเพลง “อยากรักต้องไม่กลัวคำว่าเสียใจ” เพลงประกอบภาพยนตร์ รัก 7 ปี ดี 7หน หลังจากได้ฟังเสียงดาร้องเพลง เก้ง-จิระ ยกย่องดา เป็นเทพธิดาเพลงโซล

          จิระ มะลิกุล เผยว่า “เราทำเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 7 ปี จีทีเอช ที่ทำงานกันมา การทำหนังของเราทุกเรื่อง ไม่แตกต่างกับขั้นตอนการมีความรักเลย หนังทุกเรื่อง ผ่านความผิดหวัง ผ่านความเสียใจที่ต้องใช้ความอดทน ผจญกับขั้นตอนของการทำงาน ที่ทำให้เราท้อแท้ แต่เรายังไม่เคยท้อถอย จนมาถึงทุกวันนี้ 7 ปี มันทำให้เรามีรางวัล ไม่ใช่รางวัลจากสถาบัน แต่เป็นรางวัลในใจที่เราผ่านมันมาได้ และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะมีความรักกี่ครั้ง หรือ จีทีเอช จะหมุนไปอีกกี่ 7 ปี เราจะไม่ลืมว่า ในการมีชีวิต ในการทำงาน ในการมีความรักของเรา เราจะสู้ อดทน และไม่ลืมคำว่าเสียใจ และเพลงนี้ก็ยังเป็นเพลงประกอบหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน

          ซึ่งเพลงนี้พูดถึงความหมายของหนังทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งเป็นนิยามความรักของคน 3 วัย ในช่วง วัยรุ่น 14 วัยทำงาน 21-28 และในช่วงวัย 40 แล้วในที่สุดคือไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไป มันจะมีบางอย่างที่แทบจะเหมือนกันในการมีความรักของคนทุกวัย นั่นคือความรักมักมาพร้อมความผิดหวังและเสียใจ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ก็ไม่พ้นคำว่าเสียใจ เพราะความไม่สมหวังในความรักเป็นขั้นตอนหนึ่งของการมีความรัก ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่ทั้งหลาย คือคนที่สามารถจะ อดทน กล้าหาญ เผชิญความผิดหวัง ความเสียใจ ในการใช้ชีวิตในช่วงของความรักมาได้

          ซึ่งเพลงนี้ เราอยากลองทำเพลงเท่ห์ๆแบบเพลงโซลดูบ้าง เพลงเลยจะมีจังหวะสนุก มีความหมาย มีความรู้สึกเข้ากับหนังทั้ง 3 เรื่องมาก โดยมีคุณเอ-วัฒนกร มาทำดนตรีให้ เพลงนี้ใช้เครื่องดนตรีแค่ 3 ชิ้น คือ กลอง เบส คีย์บอร์ด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเพลงนี้คือเสียงร้องของ ดา เอ็นโดรฟิน แค่เสียงดาแบบไม่มีดนตรีก็เพราะแล้ว เมื่อใช้เสียงของดาเป็นตัวนำ วิธีการร้องที่โชว์พลังเสียง รวมกับเครื่องดนตรี 3 ชิ้น นั้น ดาถือเป็นนักร้องเพลงโซลที่ยอดเยี่ยมมาก และในเมืองไทยก็ยังไม่ค่อยมีใครทำเพลงแนวนี้มากนัก ใครได้ฟังเพลงนี้แล้ว คงเรียก ดา ว่าเป็นเทพธิดาแห่งเพลงโซล ได้เลย ส่วนเนื้อร้องเราได้ คุณกบ-ขจรเดช (Big Ass) มาแต่งเนื้อร้อง ซึ่งถือเป็นเกียรติมากที่คุณกบชอบหนังเรื่องนี้แล้วแต่งเพลงให้เรา คุณกบได้ดูหนังทั้ง 3 เรื่องแล้วอินมาก อินกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลง และใช้ตัวเนื้อเรื่องเป็นหลักในการเขียนเป็นเนื้อเพลงนี้ขึ้นมา ตัวละครในหนังรักมักจะผิดหวัง ซึ่ง ความผิดหวัง และ ความเสียใจ ในเรื่องของความรัก จริงๆแล้วมันเป็นเมนคอร์สของความรักเลยครับ”
« Last Edit: June 23, 2012, 08:38:06 AM by FB »

FB on June 30, 2012, 04:08:24 PM
“สู่ขวัญ” ทุ่มสุดตัวหนังเรื่องแรก “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ฝึกวิ่งมาราธอน จนเกือบถอดใจ ภูมิใจได้ร่วมกับพี่เก้ง-นิชคุณ







           สู่ขวัญ บูลกุล ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ก้าวสู่จอเงินครั้งแรก ในภาพยนตร์ฉลอง 7 ปี จีทีเอช 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ “รัก 7 ปี ดี 7หน” ของ 3 ผู้กำกับ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ตอน “14” , ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ตอน “21/28” และ เก้ง-จิระ มะลิกุล ตอน “42.195” ซึ่งขวัญ แสดงในตอนของพี่เก้ง คู่กับ นิชคุณ หรเวชกุล และ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ ซึ่งหนังเรื่องนี้ ขวัญต้องไปฝึกวิ่งมาราธอน 1 ปี จนเกือนถอดใจ

          สู่ขวัญ เผยว่า “รัก 7 ปี ดี 7หน เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของขวัญ และเป็นการวิ่งอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเหมือนกัน จุดสำคัญที่ทำให้ขวัญตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะว่าพี่เก้งคือผู้กำกับในดวงใจ ขวัญเชื่อมั่นในมุมมองและจินตนาการของพี่เก้ง และอยากลองทำอะไรใหม่ๆ สักครั้งในชีวิต เพราะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนสามารถทำให้บางคนที่อยู่ในความทุกข์ ลุกขึ้นและก้าวเดินต่อไปในชีวิตได้ หนังเรื่องนี้ทำให้ขวัญ เปลี่ยนความคิด จากที่ขวัญเคยบอกตัวเองว่า กีฬาวิ่งจะเป็นกีฬาสุดท้ายที่เราเลือก ขวัญเคยท้อมากขนาดบอกพี่ประเสริฐ โค้ชที่จีทีเอชส่งมาฝึกให้วิ่ง ว่าขวัญวิ่งไม่ไหวแน่ๆ วิ่งได้ 5 ก.ม.มากสุดแล้ว ถึงขนาดบอกให้พี่เก้งเปลี่ยนบท ผ่านไปประมาณเดือนครึ่ง ขวัญค้นพบอะไรบางอย่างจากการวิ่ง ไม่รู้สึกทรมาณ ไม่รู้สึกถูกบังคับ หลังจากนั้นการวิ่งกลายเป็นความสุข เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ ที่เฝ้ารอคอยว่าพรุ่งนี้จะได้วิ่งอีกแล้ว กลายเป็นหนึ่งปีที่มีความสุข ที่ได้มาวิ่ง ได้มาเล่นหนัง ได้ทำงานร่วมกับน้องคุณ โอปอล์ พี่เก้ง และทีมงานจีทีเอชทุกคน ทุกวันนี้วิ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตขวัญไปแล้ว อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับหนังเรื่องนี้ หนังรักที่จะให้พลังอะไรบางอย่างกับผู้ชม 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ”

          “รัก 7 ปี ดี 7หน” หนัง 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ 26 ก.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: July 05, 2012, 04:07:23 PM by FB »

FB on June 30, 2012, 04:10:21 PM
“เก้า-ปันปัน-ซันนี่-คริส-สู่ขวัญ” นำทัพดาราจีทีเอช “เก้า-ปันปัน-ซันนี่-คริส-สู่ขวัญ” นำทัพดาราจีทีเอช

 





          อบอุ่นและยิ่งใหญ่สมการรอคอย สำหรับมิวสิควิดีโอเพลง “อยากรักต้องไม่กลัวคำว่าเสียใจ” เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน 3 เรื่องรัก3เรื่องผู้กำกับ ค่ายจีทีเอช เสียงร้องของสาวมาดเท่ ดา เอ็นโดรฟิน งานนี้ ทำเอาสตูดิโอ 61 แน่นขนัดไปด้วยดารานักแสดงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ นำขบวนโดยนักแสดงหลักในหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ได้แก่ จิรายุ ละอองมณี, สุทัตตา อุดมศิลป์, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง, สู่ขวัญ บูลกุล พร้อมเหล่านักแสดงที่เคยร่วมงานกับจีทีเอช ไม่ว่าจะเป็น เต๋อ-ฉันทวิชช์, หนูนา-หนึ่งธิดา, อาเปี๊ยก โปสเตอร์, ไอซ์-ปรีชญา, แจ็ค แฟนฉัน, ต่าย-ชุติมา, เอ๋-มณีรัตน์, เผือก-พงศธร, มาดามมด, บ๊อบบี้-นิมิตร, มาร์ช-จุฑาวุฒิ, เอิร์ธ-ธวัช, ฝน-ศนันธฉัตร, เฟม-ชวิน, จินา, ไมเคิล, ต้นหน, มอเตอร์ ฯลฯ มาร่วมเข้าฉากกันอย่างคับคั่ง

          บรรยากาศการทำงาน ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังสนุกสนานสุดๆ เพราะเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของเหล่านักแสดง แต่ละคนเลยทุ่มเทฝีมือกันอย่างเต็มที่ โดยทีมงานเนรมิตฉากสุดอลังการ ให้สมกับการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ เรียกว่างานนี้จัดเต็มทั้งโปรดักชั่นและพลังความสามัคคี

          งานนี้ เมษ ธราธร ผู้กำกับร้อยล้านจากหนังเอทีเอ็ม เออรักเออเร่อ ก็ขอมีส่วนร่วมลงมือลงแรงกำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ด้วยคน แถมความพิเศษเมื่อ พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล ผู้กำกับชื่อดัง ขอมาโชว์ฝีมือร่วมเป็นตากล้องกิตติมศักดิ์อีกด้วย และผู้กำกับรัก 7 ปี ดี 7 หน กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา และ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ก็มาร่วมให้กำลังใจน้องๆนักแสดงอย่างใกล้ชิด

          เมษ ธราธร กล่าวว่า “สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลงอยากรักไม่ต้องกลัวคำว่าเสียใจ เริ่มแรกพี่เก้งให้ไอเดียมาว่า อยากให้บรรยากาศเป็นเหมือนการเฉลิมฉลอง อยากให้มีเค้กก้อนใหญ่ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมตกแต่งสีสัน ซึ่งการถ่ายทำเอ็มวีเพลงนี้ค่อนข้างโหดมาก เพราะเป็นการรวมดาราของจีทีเอชไว้เยอะมากที่สุด ซึ่งแต่ละคนก็น่ารักมาก ยอมสละคิวมาให้เพื่อการถ่ายทำครั้งนี้ ถือเป็นเอ็มวีที่ยิ่งใหญ่มาก ทั้งการเซทฉากต่างๆก็สุดอลังการ และครั้งนี้ยังเป็นการรวมทีมงานมือเจ๋งๆจากฝ่ายต่างๆมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง ผมภูมิใจมากครับที่พี่เก้งเลือกให้มาทำงานใหญ่ครั้งนี้ เพื่อให้สมกับการฉลอง7 ปี จีทีเอช เลยต้องทำการบ้านอย่างหนัก พยายามฟังเนื้อหาของเพลงเพื่อจับใจความเนื้อหา ซึ่งคนแต่งเพลงนี้สุดยอดมาก แถมดา เอ็นโดรฟิน ร้องเพลงนี้ได้มีพลังมาก รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับดา เพราะเป็นศิลปินที่ชื่นชอบมานาน และ ภูมิใจกับค่ายจีทีเอช ที่นักแสดงทุกคนทุ่มเทให้กับงานนี้มาก แม้จะโดนเค้กเลอะเทอะเปรอะเปื้อน แต่ทุกคนก็ทำเต็มที่ และแฮปปี้ที่ได้มาปาร์ตี้ด้วยกัน ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจคพิเศษเพื่อร่วมฉลอง 7 ปี จีทีเอชที่น่าประทับใจสุดๆเลยครับ”

          ติดตามชมมิวสิกวิดีโอเพลง “อยากรักต้องไม่กลัวคำว่าเสียใจ” เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน ได้ในวันที่ 27 มิถุนายน 2555 เวลา 18.00น. ทางรายการเพลย์แกงค์ ช่องเพลย์แชนแนล
« Last Edit: July 05, 2012, 04:51:33 PM by FB »

FB on July 03, 2012, 06:26:43 PM
“รัก 7 ปี ดี 7หน” หนังที่ทำให้ “เก้า-จิรายุ” แปลงร่างเป็นหนุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์ค เต็มตัว!!
  


          ทุ่มเทกันเต็มที่ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “รัก 7 ปี ดี 7 หน” 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ ฉลอง 7 ปี จีทีเอช โดยในตอน “14” เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค กำกับโดย กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย 2 นักแสดงรุ่นเล็ก เก้า-จิรายุ ละอองมณี และ ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ งานนี้ เก้า รับศึกหนัก แปลงร่างเป็นหนุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์คเต็มตัว เพราะต้องลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต!! ทั้งการฝึกเรียนพิมพ์ดีดอย่างเข้มข้น และการหัดท่องโลกทวิตเตอร์ด้วยตัวเอง

          เก้า กล่าวว่า “ในหนังเรื่องรัก 7 ปี ดี 7 หน ผมรับบทเป็นป่วน ในเรื่องนี้ป่วนจะเป็นคนที่ไฮเทคมาก จะเก่งคอมพิวเตอร์มากๆ ทำได้ทุกอย่าง ตัดต่อนั่นนี่ เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชอบโซเชียลเน็ตเวิร์ค อยากอวด อยากแสดงออกให้คนอื่นเห็นทุกสิ่งที่ตัวเองทำ ว่างๆก็อยากหาคนคุยด้วยตลอดเวลา อยู่นิ่งๆไม่ได้ จะต้องหาเรื่องมาโพส ลงโซเชียลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทวิตเตอร์ ยูทูบ เฟสบุค อินสตาแกรม ฯลฯ ซึ่งการมารับบทในเรื่องนี้ ผมต้องหัดฝึกพิมพ์ดีดใหม่ เพราะพื้นฐานผมเองยังจำตัวอักษรบนแป้นพิมพ์ไม่ค่อยได้ จะใช้นิ้วจิ้ม เป็นตัวๆไป ก็เลยต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ นั่งฝึกพิมพ์ให้คล่อง เพราะในเรื่องจะต้องพิมพ์คล่องแบบเซียนคอมพิวเตอร์ ต้องให้ครูมาสอนแบบเข้มข้น แรกๆก็ต้องใช้ความพยายามเยอะมาก ต้องฝึกบ่อยๆกว่าจะชิน จากที่เคยเล่นแต่เฟซบุค ตอนเวิร์คช็อปการแสดง ต้องมาหัดเล่นทวิตเตอร์ ต้องเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มแรก ทำให้รู้ว่าการรีทวิตคืออะไร เพื่อเวลาเข้าฉากจะได้รู้สึกอินกับตัวละครจริงๆ ก็ค่อนข้างลำบากอยู่เหมือนกันครับ เพราะผมไม่รู้จะโพสอะไร แรกๆไม่ถนัด แต่พอลองเล่นไปเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าข้อดีของการเล่นทวิตเตอร์ คือเราได้อัพเดทข่าวสาร และพอได้ทวิต ก็เหมือนเราได้ระบายอะไรออกไป เป็นอีกโลกหนึ่งที่สนุกดีครับ”

          “รัก 7 ปี ดี 7หน” 3 เรื่องรัก 3 ผู้กำกับ กำหนดฉาย 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
« Last Edit: July 05, 2012, 04:50:52 PM by FB »

FB on July 07, 2012, 01:47:43 PM
รัก 7 ปี ดี 7 หน
  
          ภาพยนตร์ในวาระครบรอบ 7 ปี ของค่ายหนัง G T H
          กำกับการแสดงโดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ GTH
          เ ก้ ง - จิ ระ | ปิ๊ ง - อ ดิ ส ร ณ์ | ก อ ล์ ฟ - ป วี ณ
          7 บทบาท 7 นักแสดง
          เ ก้ า | ปั น ปั น| ซั น นี่ | ค ริ ส | นิ ช คุ ณ | สู่ ข วั ญ | โ อ ป อ ล์
          เตรียมพบกับภาพยนตร์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง
          26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          รัก 7 ปี ดี 7 หน
          โปรเจกต์เฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 7 ของค่ายหนัง GTH เจ้าของเครดิตภาพยนตร์ไทยขวัญใจมหาชนอย่าง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ, กวนมึนโฮ, ATM เออรัก เอ่อเร่อ, ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น, Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และ เพื่อนสนิท
          ในปี 2555 นี้ GTH ขอเสนอภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเรื่องใหม่โดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ที่จะมาถ่ายทอดความหมายของคำว่า “Love & Life” ในแต่ละช่วงวัย
          ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นโคจรไปด้วยการกำกับของดวงดาว โดยมีดาวมฤตยูซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงคอยกำหนด ดาวมฤตยูนี้จะย้ายเปลี่ยนราศีไปในทุก 7 ปี สังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่า ชีวิตคนเราจึงพบปะความพลิกผันครั้งใหญ่ในทุก 7 ปีเช่นกัน จากวัยเด็กเมื่อ 7 ขวบสู่ 14 เมื่อแรกรุ่น ก้าวขึ้นเป็นหนุ่มสาวย่าง 21 กระโดดเข้าสู่โลกของการงานและสร้างครอบครัวเมื่อครบ 28 มีลูกตอน 35 เจ็บป่วยยามใกล้ 42 พลัดพรากและจากลาในช่วงอายุ 49, 56, 63 หลังจากนั้นคือการขยับเข้าใกล้ความตายในปั้นปลาย
          และเมื่อชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง
          แล้วความรักจะคงอยู่ได้อย่างไร

รัก 7 ปี ดี 7 หน แนะนำนักแสดง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=89Dca_i7-1w" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=89Dca_i7-1w</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=xJ7zWigv1cw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=xJ7zWigv1cw</a>
« Last Edit: July 12, 2012, 03:43:00 PM by FB »

FB on July 07, 2012, 01:48:44 PM
          ในวาระรอบ 7 ปีที่ 1 ของ GTH ต่อไปนี้คือ 3 เรื่องราวรักในแต่ละรอบ 7 ปีที่เราอยากนำผู้ชมก้าวเข้าไปสำรวจมัน
          เริ่มจาก “14” โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ห้าแพร่ง) ความรักของ ป่วน (จิรายุ ละอองมณี) และ มิลค์ (สุทัตตา อุดมศิลป์) ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ฉับพลันที่ป่วนตัดสินใจเปลี่ยน Status ใน Facebook เป็น ‘In Relationship’ ป่วนโพสต์คลิปเผยแพร่ความรักของตัวเองลงใน Youtube อย่างละเอียดยิบด้วยความภาคภูมิใจและเนิร์ดแฟน หลากหลายคอมเม้นต์ ความอยากรู้อยากเห็น และยอด Views ที่พุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง ดึงป่วนให้ถลำลึกลงไปในโลกของฟีดแบ็คจากคนที่เขาไม่รู้จัก ส่วนคนที่เขารักนั้น ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งมีค่าน้อยกว่ายอดคลิก Like ในหน้า Wall Facebook ของเขา
          ต่อด้วย “21/28” ผลงานของ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) เรื่องราวรักนอกจอของอดีตสองซุปเปอร์สตาร์ที่เคยมีหนังร้อยล้านร่วมกันเมื่อ 7 ปีก่อน ปัจจุบันฝ่ายหญิง แหม่ม (คริส หอวัง)ในวัย 28 ยังกระเสือกกระสนหาทางกลับไปยืนแป้นนางเอกอีกครั้ง โอกาสมาถึงเมื่อสตูดิโอเจ้าของหนังประกาศสร้างภาคสอง แต่นั่นหมายถึงต้องได้พระนางคู่เก่าคืนจอ ปัญหาอยู่ที่ จอน (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นั้นสาปส่งวงการหนีไปเป็นผู้ดูแลสัตว์น้ำใน Siam Ocean World ไปแล้ว แหม่มจึงต้องบากหน้าไปตื๊อแฟนเก่าทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่าย ‘ดังแล้วทิ้ง’ เพียงเพื่อจะพบว่าอดีตพระเอกเจ้าของกล้ามซิคแพ็คได้แปรสภาพเป็นไอ้อ้วนหนัก 80 ที่เกลียดเธออย่างกับขี้ไปซะแล้ว
          และเรื่องสุดท้าย “42.195” งานกำกับชิ้นแรกในรอบ 7 ปีของผู้กำกับมือรางวัล จิระ มะลิกุล (15 ค่ำเดือน 11, มหา’ลัยเหมืองแร่) ซึ่งจับเอาเรื่องราวของชีวิตและการวิ่งมาราธอนมาเปรียบล้อกัน เรื่องราวของ หล่อน (สู่ขวัญ บูลกุล) ผู้ประกาศข่าวสาววัย 40 ที่กำลังหลงแผนที่ชีวิต หล่อนประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวงและไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร จนกระทั่งหล่อนได้พบกับ เขา (นิชคุณ หรเวชกุล) นักวิ่งหนุ่มที่ชวนให้หล่อนเข้าแข่งขันมาราธอน ลมหายใจของหล่อนก็เหมือนจะกลับมามีความหมายอีกครั้ง
          บนเส้นทางชีวิต อายุก็ไม่ต่างอะไรกับหลักกิโลเมตรบอกระยะทางในการแข่งขัน14 กิโลเมตรแรก แห่งความสดชื่น กระฉับกระเฉง มุ่งมั่นจะเอาชนะ 21/28 กิโลเมตรถัดมา เมื่อถึงครึ่งระยะทาง จะวิ่งกลับหรือไปต่อ เราต้องตัดสินใจ 42.195 จุดหมายปลายทางแสนไกล ขอแค่มีใครสักคนวิ่งอยู่เคียงข้างเรา หลายครั้งที่คนเราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวสุขก็พลิกเป็นเศร้า เหงาเปลี่ยนเป็นอบอุ่น นี่คือหนังที่พยายามให้กำลังใจกับคนดูทุกคนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเส้นทางมาราธอนชีวิตของคุณ ขอให้คุณสั่งหัวใจตัวเอง “วิ่งต่อไป”
 
          รัก 7 ปี ดี 7 หน
          3 เรื่องรัก / 3 ผู้กำกับ / ฉลอง 7 ปี GTH

          14
          ภาพยนตร์โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา
          นำแสดงโดย จิรายุ ละอองมณี, สุทัตตา อุดมศิลป์

          กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา

          รัก 7 ปี ดี 7หน ทำให้ผมรู้ว่าหนังรักนี่มันมีเสน่ห์จริงๆ
          หากย้อนกลับไปทุก 7 ปีของชีวิตผมแล้ว พบว่าการทำหนังครั้งแรกของผมจนถึงเรื่องล่าสุด เติบโตขึ้นเยอะ ข้อผิดพลาดทำให้พัฒนาขึ้น ระยะเวลาที่ผ่านทุก 7 ปี สอนให้เรารู้ว่าเราโตขึ้นเป็นคนแบบไหน ทำให้รู้จักตัวเองขึ้นเรื่อยๆ และเรื่องนี้เป็นหนังรักเรื่องแรกที่ได้กำกับ ก่อนหน้านี้เคยทำแต่หนังผี ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการกำกับ มันต่างกันมาก เพราะหนังผีทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้ ว่าต้องเดินสามเก้าแล้วหันไปเจอเหตุการณ์ ซึ่งการแสดงแบบด้นสดมันจะน้อยมาก แต่พอมาทำหนังรัก ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ซึ่งเก้ากับปันๆทำได้ดี ถ้าเราถ่ายไปเกิดรู้สึกเขินอายแทนเขาเนี่ย แสดงว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งหาไม่ได้ในหนังผี แม้ฉากกุ๊กกิ๊กนิดเดียว หันไปมองคนรอบข้างในกอง ทีมงานยังยิ้มแทนตัวละคร แสดงว่าการแสดงมันได้ผลจริงๆ ส่งพลังถึงเราได้ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของหนังรัก โดยใช้ไอเดียจากพวกโซเชียล เนตเวิร์ค ทั้งหลายมาเป็นแกนเรื่อง โดยมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย ที่คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็น

          ภูมิใจได้ทำหนังเรื่องนี้ หนังที่ให้พลังมากกว่ารัก
          ที่มาของโปรเจ็ค รัก 7 ปี ดี 7 หน เป็นโปรเจ็คฉลอง 7 ปี จีทีเอช พี่เก้งต้องการทำหนังรักในอีกรูปแบบนึง ที่พูดประเด็นลงลึกกว่าที่ จีทีเอชเคยทำหนังรักมา ที่ผ่านมาเราทำหนังรักวัยมัธยม คนทำงานหลากหลายรูปแบบ แต่เรื่องนี้พูดถึงการใช้ชีวิต มันไม่ใช่แค่เราไปดูชีวิตคนๆ หนึ่ง แต่มันมากกว่านั้น ทั้งสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เราเกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่จะใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้า
          ตอน “14” ที่ผมกำกับ เป็นเรื่องราวของ ป่วน (เก้า-จิรายุ) เด็กผู้ชายที่ใช้เทคโนโลยีรอบตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งโซเชียลเน็คเวิร์ค, โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่สามารถทำอะไรได้หลายรูปแบบ ทั้งถ่ายรูป คลิปวีดีโอ เพื่อโพสลงยูทูป ป่วน ไปแอบชอบ มิล์ค (ปัน ปัน-สุทัตตา) รุ่นน้องจนวันนึงได้คบกัน หนังเล่าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทุกอย่างว่าชีวิตคนเราทุกวันนี้ไม่ได้คุยกันปกติอย่างเดียว ยังคุยผ่านหน้า เฟซบุ๊ค, อินสตาแกรม ซึ่งบางครั้งการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คมากเกินไป มันได้ส่งผลและเกิดเรื่องราวบางอย่าง หนังเรื่องนี้ ผมดีใจมากที่ได้ เก้า กับ ปัน ปัน มาแสดงคู่กัน 2 คนนี้เป็นเคมีที่เข้ากันมาก เค้าทั้งคู่สามารถเล่นด้วยกันแล้วมันส่งพลังอะไรบางอย่างมาถึงตัวผม เก้า กับ ปัน ปัน เป็นนักแสดงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ได้มากกว่าสิ่งที่ผมต้องการครับ

          เก้า-จิรายุ ละอองมณี
          อิทธิพลของเลข 7
          นักฟุตบอลคนแรกที่ผมชอบ ชื่อ เชฟ เชนโก้ อยู่ทีม เอซีมิลาน ตอนนั้นเขาเล่นท็อปฟอร์มมาก เพิ่งย้ายมาใหม่ ปีแรกก็ยิงได้เลย ก็เลยปลื้มว่าเขาเก่งมาก ซึ่งเลข 7 เป็นเลขเบอร์เสื้อของเขา และเป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผมชอบดูฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้

          ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง
          ตอน 7 ขวบ ผมได้เล่นละครเรื่องผีขี้เหงา เล่นเป็นเด็กผี เป็นละครเรื่องแรกที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น เริ่มมีคนจำได้ มีเพื่อนล้อ เริ่มเปลี่ยนความคิดที่มีต่อโลก เริ่มมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอน 14 จำได้ว่าเริ่มมีป๊อบปี้เลิฟ และเป็นช่วงอายุที่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เพราะได้เล่นหนัง 5 แพร่ง ทำให้คนเรียกว่าเก้า-จิรายุ ไม่ใช่น้องเก้า การเล่นหนังทำให้ได้ประสบการณ์ดีๆ และเป็นช่วงเวลาดีๆที่อยู่ในอีกความทรงจำ

          รัก 7 ปี ดี 7 หน หนังที่ผมรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ภูมิใจที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้
          ผมเคยเล่นหนังกับพี่กอล์ฟมาแล้ว ใน 5 แพร่ง ตอน “หลาวชะโอน” พี่กอล์ฟเป็นคนที่ละเอียดมาก เป็นผู้กำกับที่ตั้งใจที่จะทำให้สิ่งที่จะออกมาในหนังมันมีความหมายทั้งหมด และนี่ล่ะครับคือสิ่งที่ผมประทับใจในตัวพี่กอล์ฟ เพราะเวลาที่เราได้ทำสิ่งดีที่สุด เวลาไปนั่งดูในโรงหนังแล้วเราจะไม่นั่งเสียดาย พี่กอล์ฟทำให้ผมรู้สึกภูมิใจกับหนังเวลาที่ได้ไปนั่งดู หนังเรื่องนี้ทำให้ผมถนัดเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น จากที่ไม่ถนัดเลย ผมได้ไปเรียนพิมพ์ดีดเพื่อฝึกพิมพ์ข้อความให้คล่อง ป่วน กับผม มีความคล้ายกัน แต่ป่วน เก่งกว่าผมเยอะครับในเรื่องเครื่องมือสื่อสาร

FB on July 07, 2012, 01:49:22 PM
          ปันปัน นางเอกในดวงใจ
          ปันปัน เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากครับ มีความสามารถในด้านการแสดงมาก เวลาเข้าฉากด้วยกัน รู้สึกว่าเขาเล่นดีจัง อยากจะตามเขาให้ทัน เวลาที่เราตั้งใจเล่น ช่วยส่งบทให้กัน เราทั้งคู่เลยทำมันให้ออกมาดี ตามที่ผู้กำกับต้องการ แต่กว่าจะเข้ากันได้ เราก็ต้องไปเวิร์คช้อปกับครูเงาะ ครูเงาะจะให้เราคุยกั ทวิตเตอร์คุยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกัน พอมาเข้าฉากด้วยกันอีกครั้ง ผู้กำกับพอใจเลยครับ


          ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์

          อิทธิพลของเลข 7
          เลข 7 เป็นเลขที่หนูชอบที่สุด เพราะรู้สึกว่าอะไรๆในโลกนี้ก็ 7 ไปหมด เช่นสายรุ้งก็มี 7 สี หนึ่งอาทิตย์ก็มี 7 วัน เวลาหนูจับฉลากขึ้นมาทีไรก็จะได้เป็นเลข 7 ทุกครั้ง เวลาใครให้เลือกตัวเลข หนูก็ชอบเลือกเลขเบอร์ 7 รู้สึกผูกพันกับตัวเลขนี้เป็นพิเศษ ถือเป็นเลขนำโชคในชีวิต

          ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง
          ช่วงที่เห็นได้ชัด คือตอนอายุ 13 จะเข้า 14 ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะได้เล่นหนังเรื่องลัดดาแลนด์ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้จัก เดินห้างก็ไม่มีใครมอง แต่ตอนนี้ทำอะไรก็มีคนรู้ มีแต่คนมอง ก็ต้องปรับตัวด้วยการทำใจ และระวังตัวมากขึ้น คิดให้ดีเวลาจะทำอะไร ในอนาคต ตอนอายุ 21 ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร

          จีทีเอช บ้านหลังแรกอบอุ่น ตัวละครสอนใจ
          หนูรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ตัวละครมิลค์ ได้สอนอะไรบางอย่างให้กับหนู ตอนเล่น ลัดดาแลนด์ ตัวละครสอนให้หนู รักครอบครัว เข้าใจพ่อแม่มากขึ้น แต่เรื่องนี้ มิลค์ สอนให้หนูรู้ว่า โลกของโซเชียลเน็ตเวิร์ค เราไม่สามารถควบคุมได้ ชีวิตจริงของหนู ติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมาก จะคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารมากกว่าหันหน้ามาคุยกัน ตอนนี้หนู หันมาคุยกับคนอื่นมากขึ้น

          ผู้กำกับใจดี นักแสดงเข้าขา ทำให้ได้มาซึ่งงานแสดงที่ดี
          พี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่ใจดี และเก่งด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คมากค่ะ พี่กอล์ฟทำงานละเอียด เข้าใจนักแสดง ใจเย็น เวลาที่หนูเล่นไม่ได้ พี่กอล์ฟจะให้ไปพักก่อน เวลาที่หนูเขินไม่กล้าเล่น พี่กอล์ฟจะส่งหนูกับเก้าไปเวิร์คช้อปกับครูเงาะ ซึ่งหลังจากที่เราทำความรู้จักกันแล้ว สนิทกันแล้ว หนูรู้เลยว่าเรากล้าเล่นมากขึ้น การทำงานสนุกขึ้น
          เก้า เป็นนักแสดงที่ร่วมงานด้วยแล้วไม่กดดัน เวลาที่หนูเล่นไม่ได้เก้าจะให้กำลังใจ จะคอยบอกไลน์กล้อง แม้แต่ฉากเล็กๆ น้อยๆ เก้าจะไม่ปล่อยผ่าน สอนเรื่องมุมกล้อง ฉากเดินในห้าง จะเตือนหนูว่า ตาอย่าหลุดโฟกัส อย่าเดินหลุดกล้อง เก้า ทำให้หนูผ่อนคลายเวลาเข้าฉากด้วย เก้าเป็นนักแสดงที่มืออาชีพจริงๆ

          21/28
          ภาพยนตร์โดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
          นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง

          ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม

          ทุ่มเท ทุ่มเวลา เพื่อให้ได้มาซึ่งบทดีๆ
          บทหนังเรื่องนี้ผมใช้เวลาเขียน 1ปี ระหว่างนั้นต้องเริ่มหานักแสดง เพราะพระเอกในเรื่องต้องเตรียมตัวหลายอย่าง เพิ่มน้ำหนัก ลดความอ้วน ว่ายน้ำ ดำน้ำ ฯลฯ นักแสดงคนเดียวที่ผมนึกถึงคือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซันนี่คือคนเดียวเท่า ที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้กับผมได้ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนักแสดง

          ซันนี่คนนี้ใช่เลยพระเอกของผม
          ทันทีที่ผมได้คุยกับซันนี่ ผมถึงได้รู้ว่า ซันนี่ ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวน้ำ แต่ซันนี่ บอกว่าผม “พี่ครับผมเล่น บทมันท้าทายมาก ผมยอมที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหนังเรื่องนี้ ผมภูมิใจที่ได้เล่นหนังฉลอง 7ปี จีทีเอช” ซันนี่ ยอมเพิ่มน้ำหนัก10 ก.ก. จาก 65 เป็น 75 ก.ก. ยอมไปเรียนว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นกล้าม เพื่อหนังเรื่องนี้
          เมื่อได้ซันนี่ แล้ว นางเอกที่ผมคิดถึงคือ คริส หอวัง เราเคยร่วมงานกันมาแล้วใน รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ หนังรักเรื่องนี้ ต้องการความลึกของตัวละคร เมื่อพระเอกคือซันนี่ นางเอกที่วัยใกล้เคียงกัน และฝีมือการแสดงดี คือคริส หอวังเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่า เคมีของ 2 คนนี้เข้ากัน และเมื่อทั้งคู่ได้มาเข้าฉากในหนังของผม สิ่งที่ทั้ง 2 คนทำให้ผมมันเกินความคาดหมาย ทั้งคู่ได้สร้างโลก สร้างตัวละครของเขาเองขึ้นมา มันดีกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก

          มหัศจรรย์เลข 7 ในชีวิตผม
          รัก 7 ปี ดี 7 หน นอกจากเป็นหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอชแล้ว สถานที่ถ่ายทำหลักของหนังเรื่องนี้ สยามโอเชียลเวิลด์ ก็เปิดมาครบ 7 ปี รวมทั้งซันนี่ยังยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง 7 อย่าง ทั้งเพิ่มน้ำหนัก ลดความอ้วน เล่นฟิตเนส เพาะกล้าม เรียนว่ายน้ำ ดำน้ำ เต้นบอยแบนด์ และซันนี่เป็นดาราที่อยู่ในจีเอช ครบ 7 ปีเหมือนกัน และในชีวิตส่วนตัว เลข 7 ก็เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตผมด้วย ผมชอบนักบอลใส่เสื้อเบอร์ 7 ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีพยัญชนะ 7 ตัวพอดี เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตผม

          ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์

          อิทธิพลของเลข 7
          เป็นเลขที่สวยดี ตั้งแต่เด็กๆชอบเลข 7 เพราะเวลาดูการ์ตูน หรือนักบอลเก่งๆชอบใส่เสื้อเลข 7 เลยคิดว่าใครใส่เบอร์ 7 แล้วเท่ ก็เลยมีความผูกพันกับเลข 7 แต่ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์เลข 7 นะครับ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำมากกว่า จะเลขเท่าไหร่ก็เกิดเรื่องได้

          ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง
          จริงๆทฤษฎีนี้ฟังดูค่อนข้างรู้สึกได้ เหมือนเป็นช่วงที่เราเรียนช่วง 1-7 ปีพอดี พอ 14 ก็มาเปลี่ยนไปเจอเพื่อนใหม่ๆ มันก็ดูเป็นทฤษฎีที่น่าจะจริงอยู่ แต่ตัวผมเองไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง รู้แค่ว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม ได้เจอเรื่องราวมากขึ้น พอนับๆดู ผมเล่นหนังเรื่องแรกของ จีทีเอช พอนับมาปีนี้ก็ครบ 7 ปีพอดีเลยครับ

          5 ปีที่รอคอย กับการกลับมาอีกครั้งในหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช
          ผมห่างหายจากหนังไป 5 ปี เรื่องสุดท้ายคือ สายลับจับบ้านเล็ก ที่กลับมาเล่นเรื่องนี้ เพราะผมรู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทาย วันแรกที่พี่ปิ๊ง บอกว่า เราต้องไปเพิ่มน้ำหนัก ลดน้ำหนักว่ายน้ำ ดำน้ำ ใจแรกเลยผมคิดว่า ไม่เอาดีกว่า เราแก่แล้ว กลัวลดไม่ได้ และผมกลัวน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พอพี่ปิ๊งเล่าเรื่องให้ฟัง ผมไม่กลัวแล้ว ผมอยากเล่น ผมอยากเล่นหนังเรื่องนี้ทั้งที่ผมยังกลัวอยู่

FB on July 07, 2012, 01:49:53 PM
          อดทน พยายาม ทุ่มเท เพื่องานที่รักที่สุดในชีวิต
          ผมเริ่มต้นงานนี้ด้วยสิ่งที่ง่ายที่สุด กินให้อ้วน กินทุกอย่างที่อ้วน น้ำหนักก่อนเล่นหนัง 64 ก.ก. ผมต้องเพิ่มให้เป็น 76 ก.ก. ระหว่างเพิ่มน้ำหนักผมไปเรียนว่ายน้ำ จากนั้นเข้าคอร์สดำน้ำ 2 วัน ลงบ่อจริง 10 ครั้ง ผมต้องแบกน้ำหนักอ้วนไว้ประมาณ 6 เดือน จากนั้นต้องรีบลดน้ำหนัก และเพาะกล้าม ต้องเข้าฟิตเนส สิ่งต่างๆ ที่ผมทำในหนังเรื่องนี้ ในชีวิตจริงของผมไม่มีเหตุผลที่จำเป็นจะต้องทำ แต่เพราะหนังทำให้ผมมีข้ออ้างกับตัวเองว่าเราต้องทำให้ได้ และผมก็ทำมันได้ ภูมิใจมากครับทีได้มาเล่นหนังเรื่องนี้

          คริส หอวัง นางเอกที่ทำให้ผมทึ่ง
          ตอนแรกผมกับคริส ยังไม่สนิทกันเท่าไร แต่ด้วยอายุที่ใกล้เคียงกัน และในหนังเราต้องเล่นเป็นแฟนกัน คริส มีความเป็นมืออาชีพมาก เขาช่วยส่งพลังมาถึงผม เวลาเข้าฉากซีนทะเลาะกัน บางครั้งผมเผลอผลักเขาแรงๆ สงสารเลยครับ เพราะเราเพิ่งเข้าฟิตเนส เล่นกล้ามมา ทำให้ไม่รู้ว่าแรงเราเยอะ การกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้ว่า ผมรักงานแสดง พอเราเจอสิ่งที่ใช่ เราจะอยากทำแบบสุดๆ เหมือนไฟเรามอดไปช่วงหนึ่ง มันท้อเหมือนกับว่าสิ่งที่เราอยากทำมันยังไม่มี แต่พอเจอสิ่งต้องการ เราอยากทำมันอย่างเต็มที่

          คริส หอวัง

          อิทธิพลของเลข 7
          ที่เห็นได้ชัดคือการได้มาเล่นหนังเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน สำหรับคริสว่าเป็นหนัง 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ 3 ช่วงอายุ ที่พยายามจะบอกอะไรในมุมต่างๆกันคริสไม่เคยเล่นหนังที่เข้มข้นขนาดนี้ ทุกรีแอค ทุกซีนของการแสดง มีความหมายหมด การได้มาแสดงเรื่องนี้ ทำให้คริสรู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการฉลอง 7 ปีจีทีเอช บ้านหลังที่อบอุ่นที่สุด

          ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง
          คริสเพิ่งนั่งนึกเหมือนกันว่า ทุก 7 ปี ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกัน ตอนอายุ 14 คริสโดนส่งไปเรียนเมืองนอก พออายุ 21 คริสเรียนจบกลับมาอยู่เมืองไทย เป็นครูสอนเต้น พออายุ 28 คริสก็มีโอกาสได้เล่นหนังรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ซึ่งทำให้คริสเป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้ต่อยอดทำงานแปลกใหม่อีกมากมาย ในอนาคตก็รอลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะว่าชีวิตคริสตอนอายุ 35 จะเป็นอย่างไร

          ภูมิใจเล่นหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช
          คริส ภูมิใจและดีใจมากค่ะ ที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ คริส เคยร่วมงานกับพี่ปิ๊ง มาแล้วใน รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ พี่ปิ๊งเป็นผู้กำกับที่ละเอียดมาก และคริส ก็เป็นนักแสดงที่ขี้สงสัยมากเช่นกัน อาจเป็นเพราะคริสไม่ได้เก่งมาก ขนาดดีไซน์ตัวละครได้อย่างชัดเจน พอถามพี่ปิ๊ง พี่ปิ๊งจะไขข้อสงสัยเราได้หมด ใจดี ทำให้เราชอบทำงานด้วย และอยากจะทำงานกับพี่ปิ๊งไปอีกหลายๆ เรื่องค่ะ

          รู้จักกันมา 7 ปี ครั้งนี้เพิ่งได้ร่วมงาน
          คริสเคยเจอซันนี่เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่สนิทกัน พอมาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วยกัน ทำให้ได้คุยกันเยอะ ซันนี่เป็นนักแสดงที่ดีมาก เล่นเก่งมาก บางซีนเค้าไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่ยืนมองคริส แต่ส่งความรู้สึกมาให้เราได้เยอะมาก บางซีนแค่มองหน้า ไม่ต้องพูดอะไร เราน้ำตาไหลได้เลย

          ยิ่งร่วมงานยิ่งผูกพัน หนังรวมพลัง สุดยอดทีมเวิร์ค
          ตัวละครแหม่มในเรื่องนี้ ต่างจาก เหม่ยลี่ ในรถไฟฟ้า..มาหานะเธอ ตัวละครแหม่ม เล่นยากมาก เพราะต่างจากตัวคริสเลย แหม่มอยากเป็นดาราดัง มีความทะเยอทะยานสูง แต่ไม่ใช่คนไม่น่ารัก ตัวละครมีความเข้มข้น เราต้องใส่ความรู้สึกลงไปในตัวละครเยอะ ยิ่งพอเห็นสิ่งที่ซันนี่ ต้องทุ่มเทเพื่อหนังแล้ว มานั่งคิดว่า เราต้องเปลี่ยนแปลงทุ่มเทอะไรบ้าง เราแค่ย้อมผม เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนลุค เลยคิดว่า ช่วงอายุ 28 ของเรา เรายังผอม เพื่อให้เข้ากับหนัง คริส เลยลดน้ำหนักเป็นเพื่อนซันนี่ไปเลยค่ะ คืออยากทุ่มเทบ้าง เพราะหนังเรื่องนี้ เราทำกันเป็นทีมเวิร์ค ซันนี่ คริส พี่ปิ๊ง ตากล้องพี่สีบาน ทีมงานทุกคน รวมถึงอีก 2 เรื่องของพี่เก้ง พี่กอล์ฟ มันคือการรวมพลังของทีมงาน จีทีเอชทุกคนเพื่อหนังเรื่องนี้ มันยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของคริสมากค่ะ

          42.195
          ภาพยนตร์โดย จิระ มะลิกุล
          นำแสดงโดย สู่ขวัญ บูลกุล, นิชคุณ หรเวชกุล และ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ

          เก้ง-จิระ มะลิกุล

          มาราธอน ปรัชญาการใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์
          วาระที่จีทีเอชครบรอบ 7 ปี เราคิดกันว่าจะมีการรวมดาราดัง และมองว่าความรักกับเลข 7 น่าจะไปด้วยกันได้ผมได้อ่านหนังสือของคุณวานิช จรุงกิจอนันต์ ได้เขียนเกี่ยวกับเลข 7 ว่า ชีวิตคนเราจะเปลี่ยนแปลงทุก 7 ปี และฝรั่งยังเชื่อเรื่อง “7 Years itch” หรืออาถรรพ์เลข 7 และยังไปพ้องกับหลักโหราศาสตร์ ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นโคจรไปด้วยการกำกับของดวงดาว โดยมีดาวมฤตยูซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นตัวกำหนด ดาวมฤตยูจะย้ายเปลี่ยนราศีไปทุก 7 ปี สังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่าชีวิตคนเราจะพบความยิ่งใหญ่ในทุก 7 ปีเช่นกัน ปรัชญาของคนที่สร้างมนุษย์คนนึงขึ้นมาบนโลก เขาหวังว่ามนุษย์จะก้าวต่อไป เลยทำให้เท้าชี้ไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าการ เปลี่ยนแปลงที่ 7 ปีไหน การก้าวต่อไปมันคือสิ่งสำคัญที่สุด การผ่านมันไปทุกช่วงวัย ไม่ว่าวัยไหนก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า สุดท้ายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการวิ่งมาราธอน คือปรัชญาในการใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ ที่สอนให้เราก้าวไปข้างหน้า เพื่อจะพบการเปลี่ยนแปลงในทุก 7 ฟุตถัดไป

          42.195 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
          ตอน 42.195 เป็นเรื่องราวของการเล่าถึงการส่งแรงบันดาลใจ เมื่อคนเราดำเนินชีวิตมาถึงอายุ 42 ปี บางคนอาจจะโชคดีมีชีวิตที่สุขใส ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างราบรื่น แต่บางคนชีวิตก็อาจจะมีอุบัติเหตุเข้ามาบ้าง อาจจะมีสิ่งที่ทำให้แรงดลใจ ที่จะมีชีวิตอยู่มันน้อยลงไป เพราะช่วงอายุ 42 ผ่านช่วงวัยรุ่นมาค่อนข้างมากแล้ว และเหมือนกับอาจจะน้อยเกินไปที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ บางคนก็อาจจะปล่อยชีวิตให้มันกลายเป็นสารแขวนลอย การที่อยู่ๆก็ได้แรงบันดาลใจเข้ามา เป็นสิ่งที่น่ารักมากๆสำหรับคนๆหนึ่ง และในเรื่องนี้ การที่หนุ่มหน้าใสมีสิวหนุ่มเล็กน้อยบนหน้าผาก เดินมาสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 42 ด้วยการสอนให้ลองวิ่งมาราธอนดูสิ ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับระยะทางการวิ่งมาราธอนที่อยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 42.195 พอดี ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเขาและเธอ

          นิชคุณ-สู่ขวัญ ความมหัศจรรย์ในรอบ 7 ปี
          หากให้พูดถึงคุณสู่ขวัญ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ผมจะรู้สึกว่าผมได้ทำงานกับนักแสดงมืออาชีพคนหนึ่ง เพราะมีความเป็นธรรมชาติมาก และมีการเตรียมตัวที่ดีมาก เป็นการคอนเฟิร์มคำพูดที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ ซึ่งมหัศจรรย์มาก สำหรับคนที่ไม่ชอบการวิ่งเลย แต่ได้พยายามอย่างสุดชีวิต จนสุดท้ายก็สามารถวิ่งได้ และชอบการวิ่งมาจนถึงทุกวันนี้ นับไปนับมา ตั้งแต่วันแรกที่ถ่ายหนัง รวมระยะทางที่คุณสู่ขวัญวิ่งก็น่าจะ 500 กว่ากิโลเมตร ส่วนนิชคุณก็เป็นอีกคนที่เซอร์ไพร์สมาก ตอนแรกที่คิดถึงเขา รู้สึกว่าจะเป็นไปได้ไง เพราะเขาเป็นถึงซูปเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย แต่พอเจอน้องคุณ เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก นอบน้อมมีสัมมาคารวะ ถ้ามองตรงๆก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนหน้าตาดี แต่พอมองผ่านเลนส์กล้อง มองผ่านมอนิเตอร์ สัมผัสได้เลยว่าน้องคนนี้มีเสน่ห์มากจริงๆ

FB on July 07, 2012, 01:50:21 PM
          นิชคุณ หรเวชกุล

          อิทธิพลของเลข 7
          สิ่งที่เกี่ยวพันกับเลข 7 ในชีวิตของคุณคือ ช่วงอายุในแต่ละ 7 ปี ก่อน 7 ขวบ คุณไม่สบายบ่อยมาก เข้าโรงพยาบาลบ่อย เพราะร่างกายอ่อนแอ พ่อก็เลยจับตีแบท ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลอีกเลย แข็งแรงขึ้นมาโดยทันใด พอ 7 ปีหลัง ตอน 14 ขวบ ย้ายจากนิวซีแลนด์ ไปอยู่อเมริกา คือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ได้เจอเพื่อนเกาหลี ได้เจอวัฒนธรรมเกาหลี ทำให้คุณได้ไปเกาหลี และบวกไปอีก 7 ปี ตอนอายุ 21 คือตอนที่วงของคุณได้รางวัล นักร้องแห่งปีที่เกาหลี เป็นอะไรที่น่าคิดมากว่าทุกๆ 7 ปีของคนเรามีอะไรที่ก้าวเข้ามาและก้าวออกไป จะดีหรือร้ายมีหมด ถ้าคิดและนำสิ่งนั้นมาพัฒนาใช้กับชีวิตตัวเอง

          หลักกิโลเมตรที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลักคิดเปลี่ยนไป
          การได้มาเล่นหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ทำให้มุมมองในชีวิตคุณเปลี่ยนไป ปกติคุณเป็นคนชอบเล่นกีฬา เป็นคนตีแบต ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส เล่นกีฬาที่แข่งขันได้ แต่ไม่ชอบกีฬาวิ่งเลย เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ตอนที่ได้อ่านบทเรื่องนี้ คุณสนใจมาก ว่าการวิ่งมาราธอนกับชีวิตคนเรามันไปด้วยกันได้อย่างไร หนังเรื่องนี้ทำให้คุณได้ไปวิ่ง และทำให้คุณชอบการวิ่ง พอลองได้มาวิ่งดู ชีวิตเปลี่ยนไปเลย จากตอนแรกไม่เข้าใจทำไมคนเราถึงต้องสละเวลามาวิ่งในระยะทาง 42.195 กิโลเมตร แต่พอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าการวิ่งมาราธอนมันได้อะไรมากกว่าการออกกำลังกาย เพราะการวิ่ง เป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นคนเดียวได้ ตอนวิ่งเราจะค้นพบบางอย่าง ถ้าเรามุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว เราสามารถทำมันได้ เพราะทุกฝีเท้าที่ก้าวไป ไม่ใช่แค่เพียงชัยชนะ แต่คือการเอาชนะตัวเองที่จะวิ่งไปถึงเป้าหมาย และสองข้างทางเราได้พบอะไรมากมายกว่าที่คิดจริงๆ

          มองพี่เก้ง พี่สู่ขวัญ เป็นแรงบันดาลใจ
          รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่เก้ง ผู้กำกับที่ลึกซึ้งและสุดยอดมาก พี่เก้งให้แนวทางใหม่ๆในการทำงาน คุณเตรียมพร้อมที่จะเล่นให้สมบทบาท ตั้งใจแสดง แต่พี่เก้งจะบอกว่า ให้เล่นเป็นธรรมชาติ พี่เก้งใจเย็น เป็นคนที่คอยสอนคุณเหมือนลูกคนหนึ่ง คุณเลยรู้สึกว่าเหมือนมีคุณพ่อมากำกับหนัง
          สำหรับพี่สู่ขวัญก็เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทมาก ตอนแรกเป็นห่วงมากที่เข้าฉากด้วยกัน เพราะเราไม่ใช่นักแสดงทั้งคู่ แต่ปรากฏว่าเห็นฉากแรกที่พี่ขวัญเล่น แล้วตกใจ แสดงได้มืออาชีพมากๆครับ และซีนไหนที่คุณเล่นไม่ได้ พี่ขวัญจะพยายามมาอยู่ข้างๆ บอกสู้ๆ ดีใจมากครับที่ได้ร่วมงานกับพี่ขวัญและพี่เก้ง
          ส่วนพี่โอปอล์เป็นสีสันกับหนังเรื่องนี้มาก พี่โอปอล์นำมาซึ่งความสุข ความสนุกมามอบให้กับพวกเรา แค่เห็นหน้าก็มีความสุขแล้ว สำหรับหนังเรื่องนี้ผมทุ่มเทมากครับ มันไม่ใช่แค่หนังรัก แต่เป็นหนังรักที่ให้พลังและกำลังใจที่ดีครับ

          สู่ขวัญ บูลกุล

          อิทธิพลของเลข 7 ความผูกพันต่อชีวิต
          ขวัญเป็นคนชอบเลข 7 เพราะเกิดวันที่ 27 ถ้ามีใครถามว่าชอบเลขอะไรก็มักจะบอกว่า 27 เพราะที่เป็น 7 มักรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับเรา ยิ่งถ้าเป็นเลข 27 มันเหมือนเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตอยู่ตลอดเรื่อยๆ เรียนนิเทศจุฬาก็รุ่น 27 บางทีหาที่จอดรถไม่ได้ เพราะจะสายแล้ว ก็จะได้ที่จอดรถเบอร์ 27 โดยบังเอิญ ในเรื่องป้ายนักวิ่งมาราธอนในฉากหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ก็เป็นเสื้อเบอร์ 027 และบางทีก็มักมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเลข 7 อยู่เสมอๆ จึงมีความรู้สึกดีๆ และผูกพันกับเลขนี้ ทุกๆ 7 ปี ของตัวขวัญความเปลี่ยนแปลงภายนอกอาจไม่เห็นชัด แต่การแปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดจากความคิดข้างใน การมองโลก ทัศนคติ มีผลกับชีวิตมากกว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงบางเรื่อง เราอาจจะจำไม่ได้ ว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะมีแต่ไม่ได้อยู่ในรูปของเหตุการณ์ แต่บางเรื่อง อาจเป็นแรงบันดาลใจให้เราเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนมุมมอง ซึ่งมันจับต้องลำบาก แต่ไม่ว่า 7 ปีนี้ หรือ 7 ปีไหน ยังไงคนเราก็ต้องเปลี่ยนแปลง

          เล่นหนัง และการวิ่ง ของขวัญชิ้นใหม่ในชีวิต
          เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของขวัญ และเป็นการวิ่งจริงจังครั้งแรก จุดสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ ต้องยอมรับเลยว่าเพราะพี่เก้งเป็นผู้กำกับในดวงใจ ขวัญเชื่อมั่นในมุมมอง รสนิยมในจินตนาการของพี่เก้ง และอยากลองทำอะไรใหม่ๆสักครั้งในชีวิต เพราะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้สามารถเป้นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน สามารถทำให้บางคนที่อยู่ในความทุกข์ ลุกขึ้นและก้าวเดินต่อไปในชีวิตได้ และพอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ขวัญเคยบอกตัวเองว่า กีฬาวิ่งจะเป็นกีฬาสุดท้ายที่เลือกเล่น ขวัญจะไม่วิ่ง ไม่ใช่คนชอบวิ่ง ไม่ได้เกิดมาเพื่อวิ่ง พยายามบอกโค้ชว่า เราวิ่งไม่ไหวแน่ๆ 5 กิโลนี่เต็มที่แล้ว แค่นี้ก็มหัศจรรย์มาก วิ่งไปก็บ่นไป บอกให้พี่เก้งเปลี่ยนบท ให้พระเอกเป็นอาจารย์สอนไทเก๊กได้ไหม ไม่ต้องเป็นนักวิ่งหรอก หลังจากลองวิ่งไปบ่อยๆ ประมาณเดือนครึ่ง ขวัญรู้สึกว่าตัวเองค้นพบอะไรบางอย่างในการวิ่ง ไม่ใช่ความทรมาน ไม่ได้วิ่งเพราะถูกบังคับ หลังจากนั้นการวิ่งกลายเป็นความสุข เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ ที่เฝ้ารอคอยว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้วิ่งอีกแล้ว กลายเป็นหนึ่งปีที่มีความสุขสนุกสนาน จนวันหนึ่งวิ่งได้ 10 กิโลเมตรแบบต่อเนื่องเป็นครั้งแรก สุดท้ายก็ได้คำตอบอะไรบางอย่างในชีวิต มันเป็นการค้นพบตัวเองครั้งสำคัญ และได้คำตอบสำหรับทุกคำถามที่เคยผ่านเข้ามา การทำงานกับทีมงานสนุกมาก และการร่วมงานกับน้องคุณง่ายมาก คือน้องไม่ได้พกความเป็นซูปเปอร์สตาร์มาทำงานด้วย รู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานกับน้องคุณ เพราะเขาเป็นคนที่ทุ่มเท พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ ใครจะสอนจะติอะไรก็รับฟังได้ทุกอย่าง สำหรับคุณ บทนี้เหมาะกับเขามาก เพราะมีความคล้ายกัน เราสามารถรับรู้ถึงพลังบางอย่าง ที่ส่งผ่านมาถึงคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆได้

          โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ
          เลข 7 มีความหมายในตัวเอง แต่เลข 7 สำหรับปอล์ มันหมายถึงการเปลี่ยนแปลง การเดินทาง การลาจาก อาจเป็นไปได้ว่าทุก 7 ปี ชีวิตคนเรามันต้องถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ตอนปอล์ อายุ 7ขวบ ตอนนั้นติดละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องนางสิบสอง แต่พออายุย่างเข้า 14 ปอล์ ต้องรับหน้าที่ดูแลน้องๆ ทำงานบ้าน เพราะพ่อแม่ทำงาน ผ่านไปอีก 7 ปี อายุ 21 ปอล์เข้ามหาวิทยาลัย ปอล์ตั้งใจเรียน ปูพื้นฐานชีวิต แอบชอบรุ่นพี่ เริ่มมีความรัก และชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่ เมื่อได้เข้าวงการ เล่นหนัง แจ๋ว, เพื่อนสนิท, และอีกหลายๆ เรื่องของ จีทีเอช อายุ 28 เริ่มสร้างชีวิต มีบ้าน มีคอนโด ชีวิตมั่นคง มีตัวตน เป็นตัวของตัวเอง และอีก 7 ปี ข้างหน้า ปอล์ฝันว่า “จะเป็นคุณแม่ที่เปรี้ยวที่สุด”!!!

          แล้วทุกๆ 7 ปีของคุณล่ะ พบเจอเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงอะไรกันบ้าง
          แต่ไม่ว่าทุกๆ 7 ปี ของคุณจะเจอเรื่องราวสิ่งใด เราก็ต้องก้าวเดินต่อไป