KTAMขาย2กองทุนตราสารหนี้6เดือนชู 3.25%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 35 ( KTSUPB35 ) เสนอขายวันที่ 8 -14 พฤษภาคม 2555 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เงินฝาก / ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย ส่วนตราสารต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำ Union National Bank (UNB ) , เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB ) , MTN ออกโดย Banco Bradesco S.A. ( BRADES ) , MTN ออกโดย Banco Itau BBA S.A. ( ITAU ) โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.25% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 2 ( KTSIV3M2 ) ประเภท Roll Over เสนอขายครั้งใหม่ ในวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2555 อายุโครงการ 3 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุน ในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารธนชาต จำกัด และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี
นายสมชัย กล่าวถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ของไทย มีความผันผวน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราตราสารระยะกลาง และยาว ผลตอบแทนมีการปรับลดลง ส่วนตราสารระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ผลตอบแทนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ในอัตรา 2.94 – 3.22% ทั้งนี้ มีแรงขายทำกำไร เพื่อปรับไปลงทุนในตราสารที่อายุยาวขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนเมษายน 2555 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 2.47% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก รวมถึง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อัตรา 3.00% ต่อปี เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลให้ตราสารระยะสั้นถึงกลางมีการปรับลดลง
ส่วนการลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากตลาดสวอปอัตราแลกเปลี่ยนที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากเมื่อกลางเดือนเมษายน อัตราดอกเบี้ยสวอปปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากการขายทำกำไร และความกังวลต่อนโยบายของทางการในการเรียกเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งล่าสุดตลาดเริ่มผ่อนคลายความกังวลต่อข่าวดังกล่าว จึงทำให้ดอลล่าร์พรีเมี่ยมจากการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดี สำหรับการลงทุนในช่วงเวลานี้