happy on April 22, 2012, 06:49:26 PM

จัดจำหน่ายโดย           เอ็ม พิคเจอร์ส  

ภาพยนตร์เรื่อง            Iron Sky

ชื่อภาษาไทย              2018 ทัพเหล็กนาซีถล่มโลก

เว็ปไซด์ตัวอย่างภาพยนตร์   http://www.youtube.com/watch?v=pStFWqqskCs
      
ภาพยนตร์แนว              แอ๊คชั่น-ไซไฟ
จากประเทศ                 ฟินแลนด์,เยอรมนี,ออสเตเรีย
กำหนดฉาย                 17 พฤษภาคม 2555
ณ โรงภาพยนตร์           ในโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ                       Timo Vuorensola (ทีโม วัวเรนโซลา)

อำนวยการสร้าง            Tero Kaukomaa (เทโร เคาโคมา)

นักแสดง                      Udo Kier (อูโด เคียร์) จากภาพยนตร์ UFO in Her eyes, Key Hole, The Theatre Bizarre

Julia Dietze (จูเลีย ดิทเซ) จากภาพยนตร์ 205:Room of Fear, Berlin Angels, The Berlin Project

Peta Sergeant (พีต้า ซาร์เจนท์) จากภาพยนตร์ Kanowna, Early Checkout
        
Stephanie Paul (สเตฟานีย์ พอล) จากภาพยนตร์ Separation City, The Frequency of Claire

จุดเด่น   Iron Sky เป็นแอ๊คชั่น-ไซไฟ ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อพวกนาซี ที่หลบหนีจากโลกไปยังอีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ในปี 1945 ได้กลับมาเพื่อยึดครองโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานร่วมทุนสร้างระหว่างฟินแลนด์ เยอรมนี และออสเตรเลีย ด้วยงบประมาณ 7.5 ล้านยูโร

เรื่องย่อ      

เรื่องราวของ Iron Sky
             ในช่วงเวลาก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะสิ้นสุดลง โครงการอวกาศลับของพวกนาซีได้หลบเลี่ยงจากการถูกทำลายด้วยการหนีไปยังอีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ ระหว่าง 70 ปีที่เร้นกายอย่างลับสุดยอด พวกนาซีได้สร้างปราการอวกาศยักษ์ พร้อมด้วยกองกำลังจานบินมหาศาล ไม่นานนัก กองกำลังโจมตีที่ไม่อาจหยุดยั้งได้นี้ก็จะมุ่งหน้าสู่โลก และประกาศการกลับมาเยือนอย่างผู้มีชัยของอาณาจักรไรช์ที่สี่!
             เมื่อนักบินอวกาศชาวอเมริกัน เจมส์ วอชิงตันได้จอดยานลูนาร์ แลนเดอร์ของเขาใกล้กับฐานทัพลับนาซีมากเกินไป ท่านผู้นำแห่ง   ดวงจันทร์ก็ตัดสินใจว่าช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของการยึดครองโลกได้มาถึงเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ วอชิงตันอ้างว่าเขาเป็นแค่เพียงนายแบบที่มาทำงานประชาสัมพันธ์ให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่เขาจะเป็นอะไรได้อีกล่ะนอกจากหน่วยสอดแนมสำหรับกองกำลังโจมตีจากดาวโลก อาณาจักรไรช์ที่สี่จะต้องลงมือในทันที!
             ก่อนที่พวกนาซีจะเริ่มต้นการรุกรานของพวกเขา พวกเขาจะต้องสร้างยานแม่ เครื่องจักรสงครามขนาดมหึมาที่มีชื่อว่า กอทเทอร์แดมรัง ให้เสร็จสมบูรณ์เสียก่อน ในการนี้ พวกเขาต้องการพลังคอมพิวเตอร์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เหมือนอย่างสมาร์ทโฟนที่เจอในกระเป๋าของวอชิงตัน นายทหารนาซีสองคน คลอส แอดเลอร์ ผู้โหดเหี้ยม และเรเนท ริชเตอร์ ผู้มองโลกในอุดมคติ เดินทางไปยังโลกพร้อมกับวอชิงตันเพื่อนำคอมพิวเตอร์พวกนี้กลับมา
             อย่างไรก็ดี คลอสไม่มีความคิดที่จะกลับไปดวงจันทร์ เขาวางแผนที่จะยึดอำนาจด้วยตัวเอง ขั้นแรกก็ด้วยการเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วค่อยยึดบัลลังก์ท่านผู้นำบนดวงจันทร์
             แต่เมื่อกองกำลังยูเอฟโอของนาซีดวงจันทร์ได้ปกคลุมน่านฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมโจมตีโลกที่ไม่ทันตั้งรับ ทุกคนทั้งหญิงและชายและทุกประเทศ จะต้องประเมินค่าสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขาเสียใหม่












« Last Edit: May 07, 2012, 06:55:18 PM by happy »

happy on April 22, 2012, 06:56:00 PM









เกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์

               Iron Sky เป็นแอ๊คชั่น-ไซไฟ ที่อำนวยการสร้างโดยบลายนด์ สปอต พิคเจอร์สและอีเนอร์เจีย โปรดักชั่นส์ ในฟินแลนด์ และร่วมอำนวยการสร้างโดย 27 ฟิล์มส์ในเยอรมนีและนิว ฮอลแลนด์ พิคเจอร์สในออสเตรเลีย
   การถ่ายทำ Iron Sky เกิดขึ้นในแฟรงค์เฟิร์ท ประเทศเยอรมนี และในวอร์เนอร์ สตูดิโอส์ ใกล้กับเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เอฟเฟ็กต์ CGI ของภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการผลิตโดยอีเนอร์เจีย โปรดักชั่นในฟินแลนด์
   ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในฟินแลนด์ในวันที่ 4 เมษายน ปี 2012 และในเยอรมนี ในวันที่ 5 เมษายน ปี 2012 ก่อนที่จะเปิดตัวในประเทศอื่นๆ หลังจากนั้น


Iron Sky: เมื่อภาพยนตร์ แฟนๆ และอินเทอร์เน็ตโคจรมาพบกัน

               Iron Sky เป็นแอ๊คชั่น-ไซไฟที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อพวกนาซี ที่หลบหนีจากโลกไปยังอีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ในปี 1945 ได้กลับมาเพื่อยึดครองโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานร่วมทุนสร้างระหว่างฟินแลนด์ เยอรมนี และออสเตรเลีย ด้วยงบประมาณ 7.5 ล้านยูโร ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยทีโม วัวเรนโซลาและอำนวยการสร้างโดยเทโร เคาโคมา (บลายนด์ สปอต พิคเจอร์ส), ซามูลี ทอร์สโซเนน (ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์จากอีเนอร์เจีย), โอลิเวอร์ เดเมียน (27 ฟิล์มส์), เคธี และมาร์ค โอเวอร์เร็ตต์ (นิว ฮอลแลนด์ พิคเจอร์ส) และซาน ฟู มัลธารับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้าง
   ทีมนักแสดงได้แก่จูเลีย ดิทเซ (11/2 Ritter), ก็อทซ์ ออตโต้ (Schindler's List, The Downfall), คริสโตเฟอร์ เคอร์บี้ (The Matrix Reloaded, The Matrix Revolutions, Daybreakers, Space: Above and Beyond), อูโด เคียร์ (Dogville, Dancer in the Dark), พีต้า ซาร์เจนท์ (Satisfaction), สเตฟานีย์ พอล (Separation City, Film School Confidential) และทีโล พรูคเนอร์ (The Neverending Story, Die Falscher) และบทภาพยนตร์จากเรื่องราวโดยนักเขียนไซไฟชื่อดัง โยฮันนา ซินิซาโล (ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเนบิวลา อวอร์ดปี 2009 และเจ้าของรางวัลฟินแลนเดียปี 2000) บทภาพยนตร์เขียนโดยไมเคิล คาเลสนิโก้ (Private Parts) และทีโม วัวเรนโซลา จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยสเตลธ์ มีเดีย กรุ๊ป


การใช้อินเทอร์เน็ต และการทำอย่างถูกวิธี

               สิ่งที่ทำให้ Iron Sky พิเศษสุดคือการร่วมมือกันอย่างดีระหว่างทีมผู้สร้างและสังคมออนไลน์ โดยเฉลี่ยแล้ว ทีมงานของ Iron Sky จะได้ติดต่อกับแฟนๆ กว่า 250,000 คนต่อสัปดาห์ ในจำนวนนี้ แฟนๆ 100,000 คนอยู่ทาง YouTube ส่วนอีก 90,000 คนอยู่ทาง Facebook และอีก 60,000 คนทางเว็บไซต์ Iron Sky และตัวเลขพวกนี้ก็เพิ่มขึ้นทุกวันๆ...
   แฟนๆ และผู้ที่ติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถมีส่วนร่วมในงานสร้าง Iron Sky ได้ด้วยการนำเสนอสิ่งเหล่านี้ ได้แก่ ไอเดีย เงินทุนและการประชาสัมพันธ์

ไอเดีย:   แฟนๆ สามารถมีส่วนร่วมในการสร้าง Iron Sky ได้ผ่านทางแพลทฟอร์มการถ่ายทำร่วมกันที่มีชื่อว่า Wreakamovie.com ใน Wreckamovie ทีมผู้สร้างสามารถมอบหมายงานให้กับแฟนๆ ซึ่งอาจจะเป็นงานง่ายๆ (เช่นคิดชื่อตัวละคร) หรืองานที่ค่อนข้างซับซ้อน (เช่นสร้างโมเดล 3D ของยานอวกาศ)

การประชาสัมพันธ์: ทีมงานหลักของ Iron Sky ใช้โซเชียลมีเดียมาเป็นปีๆ ก่อนที่จะมีการคิดคำๆ นี้ขึ้นมา ในตอนนี้ ทีมผู้สร้างได้ติดต่อกับแฟนๆ ของพวกเขาโดยตรงผ่านทาง Facebook, Twitter, YouTube และโซเชียล มีเดียอื่นๆ แฟนๆ สามารถช่วยเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในแวดวงสังคมของตัวเองได้
   ส่วนสำคัญของแคมเปญประชาสัมพันธ์ Iron Sky คือระบบที่เรียกว่า Demand to See Iron Sky ซึ่งสามารถพบได้ในเว็บไซต์ www.ironsky.net/demand/ ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถเรียกร้องที่จะได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ที่เมืองของพวกเขาได้ แฟนๆ จะต้องยืนยันการเรียกร้องของพวกเขาด้วย e-mail เพื่อทำให้ทีมผู้สร้างสามารถเข้าถึงแฟนๆ ในเมืองหรือพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงได้
   ชุมชน Iron Sky ยังสามารถมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าของภาพยนตร์ได้ด้วย พวกเขาสามารถดาวน์โหลด Design Kit ซึ่งจะประกอบไปด้วยภาพกราฟฟิค ฟอนท์ ภาพและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ Iron Sky ซึ่งพวกเขาสามารถเสนอแนะแบบสินค้าให้กับทาง Iron Sky ได้ ข้อเสนอแนะที่ดีที่สุดจะถูกนำไปเพิ่มเติมในไลน์สินค้าอย่างเป็นทางการของ Iron Sky ซึ่งจะถูกจัดจำหน่ายไปทั่วโลกโดย EMI ผู้ออกแบบก็จะได้รับรางวัลเป็นตั๋วภาพยนตร์ เงินสด ตั๋วไปชม Iron Sky รอบปฐมทัศน์และรางวัลอื่นๆ ตามความเหมาะสม


การสร้างสารคดี แบบเรียลไทม์

                Iron Sky เปิดโอกาสให้แฟนๆ และผู้ติดตามได้ชมภาพเบื้องหลังขณะที่มีการถ่ายทำอยู่ ทีมงานได้เผยแพร่สารคดีออนไลน์ Iron Sky Signal ทาง YouTube (www.youtube.com/energia-productions) ในวิดีโอ ทีมงานถ่ายทำสารคดีได้ไปเยี่ยมแผนกต่างๆ เช่นแผนกศิลป์หรือแผนกเครื่องแต่งกายและโชว์ให้ผู้ชมได้เห็นว่าภาพยนตร์ไซไฟทุนสร้างหลายล้านยูโรถ่ายทำกันอย่างไร นอกเหนือจากนั้น ทีมงานยังได้เผยแพร่วิดีโอไดอารีที่มีขนาดสั้นกว่า เช่นไดอารีของผู้กำกับ ซึ่งผู้กำกับทีโม วัวเรนโซลาได้ถ่ายทำระหว่างการทำงานของเขา

Iron Sky: มากกว่าภาพยนตร์

                ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบรรดาผลิตภัณฑ์จาก Iron Sky เท่านั้น นอกเหนือจากสินค้าแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ Iron Sky อื่นๆ ออกตามมาทั้งก่อนและหลังภาพยนตร์เข้าฉาย
   สำหรับการ์ตูนและนิยาย Iron Sky จะมีการ์ตูนพรีเควลสามเล่ม ซึ่งจะถูกตีพิมพ์ก่อนหน้าภาพยนตร์เข้าฉาย และก็จะมีนิยายภาพที่สร้างจากเรื่องราวของ Iron Sky แบบเต็มๆ หนึ่งในผู้สร้างสรรค์โปรเจ็กต์นี้คือศิลปิน เกอร์รี คิสเซล ผู้ซึ่งผลงานก่อนหน้านี้คือเวอร์ชั่นการ์ตูนของภาพยนตร์เรื่อง A-Team และวิดีโอเกม Army of Two นอกจากนี้ ยังจะมีการเขียนนิยายขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง Iron Sky ด้วย รวมถึงหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวเบื้องหลังงานสร้างของโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใครเรื่องนี้อีกด้วย
   สำหรับวิดีโอเกมและแอพพลิเคชั่น วิดีโอเกมที่สร้างขึ้นจากแฟรนไชส์ Iron Sky กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และจะวางจำหน่ายในรูปแบบ PC และ iPad ส่วนแผนการสำหรับการจัดจำหน่ายเกมนี้ในแพลทฟอร์มอื่นๆ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังจะมีคอนเทนท์ Iron Sky ทางแพลทฟอร์มมือถือ เช่นสมาร์ทโฟนอีกด้วย ซึ่งมันก็จะรวมถึงเกม iPhone Iron Sky และแอพพลิเคชั่นฟรี ที่จะนำเสนอข่าวและคอนเทนท์ล่าสุดของ Iron Sky แบบส่งตรงถึงโทรศัพท์ของผู้ใช้เลย




« Last Edit: May 07, 2012, 06:57:00 PM by happy »

happy on April 22, 2012, 07:06:42 PM









สัมภาษณ์ผู้กำกับ

บทสัมภาษณ์ Timo Vuorensola (ทีโม วัวเรนโซลา)

Q:   คุณคาดหวังว่า Star Wreck จะประสบความสำเร็จถล่มทลายรึเปล่า มันทำให้คุณเกิดความมั่นใจที่จะสร้างภาพยนตร์ขนาดยาวใช่มั้ย

A:   เดิมที Star Wreck เป็นหนังเล็กๆ ที่เราอยากจะสร้างสำหรับเพื่อนผู้หมกมุ่นกับคอมพิวเตอร์ของเรา แต่พอเราเผยแพร่มันทางอินเทอร์เน็ตแบบฟรีๆ มันก็ประสบความสำเร็จทั่วโลก Star Wreck กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกและเริ่มแพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง และผมก็คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่พลังของอินเทอร์เน็ตน่าทึ่งมากครับ เมื่อดูจากฟีดแบ็คแง่บวกของ Star Wreck เราคิดว่าบางทีเราน่าจะทดลองสร้างสิ่งที่ใหญ่ขึ้นในครั้งต่อไปน่ะครับ

Q:   อะไรทำให้คุณอยากสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับหัวข้อนี้ กับเรื่องราวนี้ คุณตั้งใจจะทำอะไรให้สำเร็จ มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่คุณใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับสิ่งที่คุณต้องการจะทำรึเปล่า

A:   ไอเดียเบื้องหลัง Iron Sky ถูกเสนอมาทางเราโดยจาโม พูสกาลา ผู้มีส่วนร่วมในการเขียนบท Star Wreck ด้วยตอนแรก มันก็เป็นแค่มุขขำๆ ที่เราคิดกันในห้องซาวนา แต่มันก็เริ่มพัฒนาและเราก็เริ่มคิดการใหญ่กับมัน ผมคิดว่าข้อดีของการสร้างหนังเกี่ยวกับนาซีจากดวงจันทร์คือมันเป็นภาพที่น่าค้นหา ที่ทำให้ทุกคนต้องนึกในทีแรกว่า “มันจะออกมาเป็นยังไงนะ” และนั่นก็เป็นฐานที่ดีสำหรับหนังครับ แล้วเราก็สร้างเรื่องราวเยี่ยมๆ ขึ้นมาประกอบภาพนั้น และเราก็ได้หนังเยี่ยมๆ ออกมา! ข้อมูลอ้างอิงมีมหาศาลเลยครับ เริ่มตั้งแต่ Alien ไปจนถึง Sky Captain and the World of Tomorrow, Delicatessen และ City of Lost Children รวมไปถึง Star Wars ด้วยครับ

Q:   แล้วคุณพัฒนาเรื่องราวนี้ขึ้นมาได้อย่างไร

A:   การพัฒนาเรื่องราวนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในกระบวนการทั้งหมดเพราะเรามีความเป็นไปได้มากมายเหลือเกิน และเราก็มีงานใหญ่ที่ต้องพยายามรักษาความสำคัญของเส้นใยที่โยงใยไปทั่วและเรื่องราวหลักเอาไว้ เราได้ร่วมงานกับนักเขียนเก่งๆ หลายคนเช่นโยฮันนา ซินิซาโล ผู้รังสรรค์เรื่องราวนี้ขึ้นมาและไมเคิล คาเลสนิโก ผู้ที่เราร่วมเขียนบทหนังด้วยน่ะครับ

Q:   คุณเคยกลัวมั้ยว่าคุณอาจจะก้าวล้ำเส้น และคุณจะทำผิดพลั้งด้านการเมืองเกินไปน่ะ

A:   Iron Sky ยืนอยู่ตรงเส้นแบ่งบางๆ ของความผิดพลาดทางการเมืองครับ แต่ผมพบว่าวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างหนังคือคุณจะต้องเข้าใจชัดเจนว่าคุณกำลังทำอะไร และคุณต้องไม่กลัวจนเกินไปเพราะไม่อย่างนั้น หนังที่คุณสร้างก็จะอ่อนยวบเกินไปและทำให้ทุกคนโกรธด้วยครับ

Q:   คุณรู้ตั้งแต่แรกเลยรึเปล่าว่าคุณอยากจะร่วมงานกับบริษัทโปรดักชั่นเยอรมันและนักแสดงชาวเยอรมันน่ะ

A:   ใช่ครับ มันเห็นได้ชัดอยู่แล้วจากเนื้อหาของหนัง ผมอยากได้นักแสดงเยอรมันมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้วครับ

Q:   ช่วยพูดถึงตัวละครและนักแสดงของเรื่องหน่อยสิ

A:   เรื่องราวหลักจะโฟกัสไปที่เรเนท ริชเตอร์ นักวิจัยและครูสาวสวยแบบ “สาวข้างบ้าน” ที่ใช้ชีวิตอยู่ในฐานนาซีบนดวงจันทร์ เรเนท ที่รับบทโดยจูเลีย ดิทเซ เป็นตัวละครหลากมิติที่วิเศษสุดและสนุกสนาน เธอเป็นคนที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเรื่องราวนี้ ส่วนก็อทซ์ ออตโต้ รับบทคลอส แอดเลอร์ ว่าที่สามีของเธอ ผู้เป็นนาซีผู้หยิ่งทะนงในสายเลือดอารยันของเขา และหมายมั่นที่จะเป็นท่านผู้นำคนต่อไป ทั้งคู่ออกเดินทางไปยังโลก และการเดินทางครั้งนี้ก็เปลี่ยนแปลงพวกเขาทั้งคู่ คลอสกลายเป็นคนขมขื่น เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความต้องการทำลายล้างมากกว่าแต่ก่อน ในขณะที่เรเนท เข้าใจว่าเธอถูกป้อนโฆษณาชวนเชื่อมาตลอดชีวิต และเธอก็ตาสว่างเป็นครั้งแรกบนโลก จุดเปลี่ยนของเรื่องทั้งหมดนี้คือเจมส์ วอชิงตัน นักบินอวกาศชาวอเมริกัน ที่รับบทโดยคริสโตเฟอร์ เคอร์บี้ ชายผู้ร่วงลงไปยังดวงจันทร์ ผู้ซึ่งเรเนท หลงรัก
   การร่วมงานกับทีมนักแสดงชุดนี้เยี่ยมมากครับ เราต่างก็มองตัวละครอย่างจริงจัง แม้ว่าเรื่องราวนี้จะกำหนดกรอบตัวละครในคอเมดี แต่เราก็พบว่าพวกเขาตลกกว่าและเหมาะกว่าสำหรับดราม่าปกติเช่นกัน ถ้าทุกคนแสดงแบบตีสีหน้าเคร่งเครียด เราทำงานอย่างหนักกับทั้งสามคนเพื่อให้โทน จังหวะและสไตล์ของตัวละครแต่ละตัวแตกต่างกันและมีเอกลักษณ์โดดเด่น และผมก็คิดว่าเราประสบความสำเร็จทีเดียวนะครับ


Q:   นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้ทำงานร่วมกับทีมนักแสดงอาชีพ คุณชื่นชอบการทำงานกับนักแสดงรึเปล่า แล้วคุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง

A:   ผมชื่นชอบการทำงานร่วมกับนักแสดงครับ ไม่มีใครเลยที่ผมอยากจะเปลี่ยน และก็ไม่มีตัวละครตัวไหนเลยที่ผมจะไม่ชอบ การทำงานร่วมกับนักแสดงอาชีพเป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกสำหรับผม เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ตระหนักว่าไม่มีอะไรที่นักแสดงที่ดีทำไม่ได้ ถ้าคุณสามารถสื่อสารกับเขาให้เข้าใจแล้วล่ะก็
   นอกจากนี้ การสื่อสารยังเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบางครั้ง เพราะกองถ่ายเต็มไปด้วยคนที่พูดภาษาต่างๆ ทั้งฟินนิช เยอรมันและอังกฤษหลากหลายสำเนียง บางครั้ง ข้อมูลก็ขาดหายไประหว่างการแปล ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดบางอย่าง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความเครียดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
   บทเรียนที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือการได้เรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ได้โปรด” ภาษาฟินนิชไม่มีคำๆ นี้ ซึ่งก็เป็นสาเหตุท่ทำให้พวกเรามักจะลืมไปว่ามันมีคำนี้อยู่ด้วย ซึ่งทำให้หลายคนคิดว่าพวกเราคนฟินแลนด์ไม่สุภาพ หรือไม่ก็หยาบคายไปเลย ก็อทซ์ให้บทเรียนที่ดีกับผมในเรื่องนี้ และก็หวังว่าตอนนี้ผมคงรู้มากขึ้นแล้ว


Q:   อะไรคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้

A:   บทครับ หลายครั้งเราเจอว่าเราไปได้หลายทิศทางและเราก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้หลายแบบ ส่วนที่ยากที่สุดก็คือการกำจัดเรื่องราวที่พวกเราตกหลุมรัก เพื่อรักษาโฟกัสไว้ที่เรื่องราวและตัวละครหลัก มันทำให้เกิดเรื่องดราม่าขึ้นมากมายในกระบวนการเขียนบท แต่ท้ายที่สุด เราก็ได้บทที่เราภูมิใจกับมันจริงๆ เราสนับสนุนบทหนังเรื่องนี้อย่างเต็มที่ครับ

Q:   มีตอนไหนบ้างมั้ยที่คุณไม่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สำเร็จลงได้

A:   ตลอดระยะเวลาการทำงานจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการถ่ายทำ หนังเรื่องนี้ยืนอยู่บนขอบเหวของความพังพินาศครับ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว การสร้างหนังเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เราต้องเจอกับปัญหาของการขาดแคลนทรัพยากรต่างๆ ในการสร้างหนังให้เกิดขึ้นได้ แต่ผมคิดว่าอุปสรรคทั้งหลายนั้นคือสิ่งที่ทำให้เรามีพลังที่จะก้าวต่อไปครับ

Q:   แล้วคุณทำงานด้านดีไซน์อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้อมปราการบนดวงจันทร์ที่มีรูปทรงเหมือนสวัสดิกะ ยานกอทเทอร์แดมรัง      เจ๋งมากเลย

A:   ผู้กำกับศิลป์ของเรา จุซซี เลห์ตินเอมีช่วยงานพวกเราได้มากครับ เขาได้วาดภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ของโครงสร้างภายในและภายนอกทั้งหมดรวมไปถึงยานอวกาศของพวกนาซีบนดวงจันทร์และความคิดหลักของเขาคือ “Jonssi” มันเป็นคำภาษาฟินนิช ที่ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่เมื่อพูดออกมาด้วยแบบที่ถูกต้องแล้วล่ะก็ เสียงของมันก็เป็นสิ่งที่พูดถึงแบบดีไซน์ของ Iron Sky ได้เป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องของความกล้าครับ โครงสร้างสุดเจ๋ง สเกลที่ยิ่งใหญ่จนน่าขัน และฉากที่เป็นสีทึมและทรงพลังครับ

Q:   คุณเกลี้ยกล่อมให้ไลบัคมาแต่งดนตรีให้กับเรื่องได้อย่างไร

A:   มันเป็นไอเดียแรกเริ่มของผมเลยล่ะครับ การดึงตัวไลบัคให้มาแต่งดนตรีให้เรา เดิมทีผมพยายามทาบทามพวกเขาในคอนเสิร์ตที่แทมเปียร์ ด้วยกระเป๋าสินค้าจาก Iron Sky และ Star Wreck แต่พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ผมเข้าไปหลังเวที หรืออย่างน้อยที่สุด พนักงานรักษาความปลอดภัยของพวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยผมให้เข้าไปน่ะครับ พวกเขาคงคิดว่าผมเป็นคนบ้าที่พล่ามเรื่องนาซีบนดวงจันทร์ แต่เพื่อนผู้อำนวยการสร้างคนหนึ่งของเราได้ติดต่อกับทางไลบัคโดยตรง เพราะพวกเขาบังเอิญมีออฟฟิศและที่ซ้อมอยู่ตึกเดียวกัน และกระบวนการก็เริ่มเดินหน้าจากจุดนั้นครับ พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แล้วบอกว่า มันเข้าทางพวกเขาพอดี หลังจากนั้น การร่วมงานกับไลบัคเป็นเรื่องเยี่ยมมากครับ สิ่งหนึ่งที่คุณมั่นใจได้คือพวกเขาจะไม่มีวันยอมกับแค่ไอเดียที่เห็นได้ชัดเจน และคุณภาพต้องมาก่อนสิ่งอื่นใดครับ

Q:   คุณแฮปปี้กับผลที่ออกมาเปล่า Iron Sky เป็นหนังแบบที่คุณตั้งใจจะสร้างในตอนแรกใช่รึเปล่า

A:   คงตลกดีถ้าผมบอกว่าผมไม่แฮปปี้กับมันนะครับ ถ้าผมบอกว่า Iron Sky เป็นหนังห่วยแตกที่ผมไม่อยากเห็นมันอีกเลย แต่โชคดีที่เรื่องไม่ได้เป็นแบบนั้น Iron Sky ดีกว่าที่ผมฝันเอาไว้ซะอีก และผมก็คิดว่ามันเป็นธรรมชาติของทีมงานสร้างหนังที่ดี เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจากคนๆ เดียว แต่เป็นการร่วมมือกันของทีมงานยอดเยี่ยมที่ร่วมแบ่งปันไอเดียของพวกเขาออกมา ผู้กำกับเป็นคนที่เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันและผลที่ออกมาในตอนที่หนังประสบความสำเร็จคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่าทุกส่วนมารวมกันอีกครับ

Q:   คุณอยากให้ผู้ชมมีการตอบรับอย่างไร

A:   ผมหวังว่าผู้ชมจะหัวเราะท้องคัดท้องแข็งพร้อมไปกับการสงสัยว่า “นี่ฉันควรจะหัวเราะกับเรื่องนี้รึเปล่าเนี่ย” แล้วเดินออกจากโรงหนังมาด้วยควาามรู้สึกว่ามันเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวังไว้ และได้นั่งลงครุ่นคิดถึงข้อคิดจริงๆ ของหนังเรื่องนี้ ผมหวังว่ามันจะกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยกันนะครับ
« Last Edit: May 07, 2012, 06:58:47 PM by happy »

happy on May 07, 2012, 07:08:01 PM
 ::)