เรื่องย่อ: แววมยุรา
บทประพันธ์ พนมเทียน
บทโทรทัศน์ ทองเอก
กำกับการแสดงโดย ต้น ชานนท์ สมฤทธิ์
ดำเนินการสร้างโดย ปิยวดี มาลีนนท์ บริษัท เวฟมีเดียเวิลด์ จำกัด(มหาชน)
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรก วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2555
เรื่องย่อ
สยุมภูว์ ทศพล ( ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ) นักธุรกิจหนุ่มหล่อผู้ลึกลับ เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย และเพิ่มพงษ์( จตุรงค์ มกจ๊ก ) มือขวาข้างกาย รีบมาพบ นิติธร ( พิศาล อัครเศรณี ) ทนายประจำตัวของ สีหราช ทศพล พ่อของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป เพื่อรับฟังพินัยกรรม โดยมีเนื้อความว่า พ่อของเขายกบ้านไม้หลังเก่าและเงินจำนวนหนึ่งให้กับนิติธร และยกกิจการทั้งหมด มูลค่ามหาศาลให้กับสยุมภูว์ พร้อมระบุว่าถ้าสยุมภูว์ไม่สามารถรับมรกดก กิจการทศพลกรุ๊ปทั้งหมดจะถูกยกให้นิติธรและทายาทเป็นผู้รับมรดกแทน ในคืนนั้น หลังจากมื้อค่ำ สยุมภูว์และเพิ่มพงศ์เดินกลับมาที่รถ ทันใดนั้นรถเกิดระเบิดขึ้น มอดไหม้ไปทั้งคัน และเห็นชายชุดดำสวมหมวกกันน๊อกยืนพยักหน้าพอใจที่ทำงานสำเร็จ ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์หนีหายไป
แววมยุรา ( มารี เบรินเนอร์ ) เธอคือพริตตี้ที่สวยเซ็กซี่และพูดพรีเซนท์รถยนต์ได้อย่างฉะฉาน โดย คำรพ(เกริก ชิลเลอร์ ) เจ้าของบริษัทรถยนต์นำเข้า ได้จ้างแววมาทำงานในบริษัทของตน โดยหวังว่าแววจะยอมเป็นภรรยาของเขา ในห้องแต่งตัวหลังเวที คำรพอดใจไม่ไหวเข้าไปลวนลามแวว จนแววสุดจะทนตบหน้าคำรพและตัดสินใจลาออก แววต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของครอบครัวทั้งค่ารักษาของ มารตี ( นวลปรางค์ ตรีชิต ) ผู้เป็นแม่ที่เข้าใจว่าตนเองป่วยอยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง วัณณรี ( ปชาบดี ตัณฑปุตตะ ) น้องสาวที่กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แววกลุ่มใจหนักจนต้องมาปรึกษาเรื่องหางานกับ ชลธิชา ( นุชนันท์ อรัณยะนาค ) และ เริงใจ (หรรษา จึงวิวัฒน์วงศ์ ) เพื่อนรักทั้งสองที่คบกันมานาน จนเพื่อนทั้งสองเห็นใจจึงช่วยแววหางานอีกแรง
นิติภูมิ (อนุชิต สพันธุ์พงศ์ ) ลูกชายคนเดียวของนิติธรแค้นที่พ่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการรับใช้คุณสีหราชกระทั่งแม่ของนิติภูมิป่วยหนัก พ่อก็ยังไม่มีเวลาให้ จนแม่ต้องจากไป หนำซ้ำพ่อยังพูดเปรียบเทียบตนกับสยุมภูว์ นิติภูมิจึงเกลียดสยุมภูว์เข้าไส้ จึงว่าจ้างศักดากำจัดสยุมภูว์ เพราะถ้าไม่มีสยุมภูว์แล้วกิจการทั้งหมดของทศพลกรุ๊ปก็จะตกเป็นของพ่อและเขา
เพิ่มพงษ์ ชี้แจงว่า สยุมภูว์กำลังถูกตามฆ่า เพิ่มพงษ์จึงซื้อร้านขายต้นไม้และรับจัดสวนไว้เป็นเซฟเฮ้าส์ เพื่อใช้บังหน้าและเป็นออฟฟิศในการทำงานอีกด้วย และยังเช่าบ้านไว้อีกหลังเพื่อเป็นที่นอนและไว้หลบในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย เมื่อทั้งสองมาถึงบ้าน เพิ่มพงษ์หันมาอีกที สยุมภูว์ก็ได้เดินเข้าบ้านไปแล้ว เพิ่มพงษ์จึงตามเข้าไป แต่จริงๆแล้ว สยุมภูว์เข้าผิดบ้าน เพราะบ้านที่เข้าไปนั้นเป็นบ้านของแวว ซึ่งแววเพิ่งอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเจอสยุมภูว์ จึงคิดว่าสยุมภูว์จะเข้ามาข่มขืน แววจึงได้ปาสิ่งขางใส่ สยุมภูว์เห็นว่าแววไม่ฟังจึงวิ่งออกมาจากบ้านและเจอเข้ากับ เอกรินทร์ ( ภพธร สุนทรญาณกิจ ) เพื่อนของแวว และเมื่อได้ยินแววร้องโวยวายให้ช่วย เอกรินทร์จึงต่อยหน้าสยุมภูว์ทันที แต่เพิ่มพงษ์เข้ามาขวางไว้ทันและปรับความเข้าใจกัน เมื่อถูกถามชื่อ สยุมภูว์เกือบหลุดปากบอกชื่อจริง แต่เพิ่มพงษ์ตอบสวนไปว่าชื่อ จักร กังวาลไกล จากนั้นสยุมภูว์ต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงจากทุกคนด้วยชื่อ จักร ทั้งจักรและแววกลับไม่ปรองดองกัน จักรก็โวยวายว่าแววไม่ขอโทษ น้าเพิ่มหรือเพิ่มพงษ์ก็ชอบใจที่เห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะไม่เคยเห็นสยุมภูว์เป็นแบบนี้ น้าเพิ่มอยากให้สยุมภูว์ทำตัวกวนๆแบบนี้ไปตลอด และน้าเพิ่มก็ได้นำ แจ๊ค (เฉลิมศักดิ์ แย้มคะมัง ) ซึ่งเป็นญาติห่างๆมาช่วยงานที่ร้านดอกไม้และก็ปิดบังตัวตนของสยุมภูว์กับแจ๊คด้วย
ในคืนนั้นชลธิชาโทรหาแววคุยเรื่องที่แววยังตกงาน แววหลบมาคุยหลังบ้านเพราะไม่อยากให้แม่และน้องสาวรู้ ชลธิชาได้ชวนแววให้มาทำงานที่ร้านกาแฟของตนเอง แต่แววปฏิเสธ เพราะอยากทำงานพิสูจน์ตนเองให้ได้ จักรที่ได้ยินและได้เห็นน้ำตาของแววเกิดรู้สึกสงสาร เอกรินทร์เมื่อทราบว่าแววยังไม่ได้งาน จึงพาไปแววไปสมัครงานที่เดียวกับ ไลลา (โชติกา วงศ์วิลาศ ) ซึ่งเป็นน้องสาวของเอกรินทร์ แต่แววโชคร้ายที่มีเรื่องกับไลลาเสียก่อน เอกรินทร์จึงขับรถมาส่งแววที่ร้านกาแฟของชลธิชา เริงใจแสดงออกว่าชอบเอกรินทร์อย่างออกนอกหน้า ขณะที่ชลธิชาได้แต่แอบมองแต่ไม่แสดงออก รุ่งขึ้นคำรพได้มาหาแววถึงบ้านและยื่นข้อเสนอว่าจะเพิ่มเงินเดือน ซื้อบ้าน ซื้อรถให้ แต่แววปฏิเสธไม่ยอมขายศักดิ์ศรีกิน จักรฟังอยู่ยิ่งประทับใจในตัวแวว
ชลธิชาช่วยหางานให้แววไปเป็นนางแบบวันประมูลงานเครื่องเพชร ซึ่งคำรพก็ไปในงานนั้นด้วย คำรพพยายามประมูลเครื่องเพชรที่แววนำเสนอในราคาหกล้านบาท ขณะที่พิธีกรกำลังนับถอยหลังที่จะเคาะราคา ชายคนหนึ่งได้ประมูลในราคาเจ็ดล้านบาทโดยแนะนำตัวงว่าเขาคือ วงศกร เลขาหมายเลข 3 ของ สยุมภูว์ ทศพล
นิติภูมิได้เห้นข่าวการประมูลเครื่องเพชรและทราบว่าสยุมภูว์ยังมีชีวิตอยู่ จึงได้ด่าศักดาและให้ศักดาตามฆ่าสยุมภูว์ต่อไป หลังเลิกงาน คำรพตามตื้อแวว พร่ำบอกว่าจะดูแลส่งเสียทั้งแววและครอบครัวอย่างดี คำรพฉุดแววให้ขึ้นรถของตน แต่จักรโดดมาช่วยไว้ โดยแลกหมัดกับคำรพจนได้แผลกลับไปคนละเล็กละน้อย จักรพาแววมาส่งที่บ้านด้วยรถกระบะสภาพบุโรทั่งของตน และเมื่อถึงบ้านแววขอบคุณเขาด้วยการทำแผลให้ แต่พอจักรพูดกวนใส่ แววเลยหนักมือไปหน่อย จักรเลยเผลอไปดึงมือแววออก เพียงแค่จับมือทั้งสองก็รู้สึกหวั่นไหวกันเล็กๆ น้าเพิ่มกับแจ๊คมั่นใจว่าเจ้านายของตนท่าทางจะหลงเสน่ห์สาวข้างบ้านคนนี้เข้าแล้วอย่างแน่นอน
จักรเห็นใจที่แววต้องแบกรับภาระของครอบครัวทั้งหมด จึงหาวิธีช่วยโดยให้นิติธรไปหาแววถึงที่บ้าน โดยอ้างว่า สยุมภูว์เห็นแววจากงานประมูลเพชรแล้วถูกชะตา โดยให้เงินเดือนที่สูงถึงสามแสนบาท แววตอบตกลงทำงานเพราะอยากพิสูจน์ตนเองจากการทำงานมากกว่าเงิน นิติธรจึงหยิบโน๊ตบุ๊คให้แววโดยบอกว่า การทำงานกับสยุมภูว์นั้นต้องทำงานผ่านกล้องคอมพิวเตอร์เท่านั้น เมื่อเปิดกล้องแววก็เห็นแต่เงา ไม่เห็นหน้าของสยุมภูว์ แต่งานที่แววได้รับมอบหมายนั้น ก็มีแต่เรื่องหาของกิน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงานที่บริษัท จนแววเริ่มสงสัยว่า สยุมภูว์คือใคร
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป แววจะรู้หรือไม่ว่าสยุมภูว์คือใคร ความรักของจักรและแววจะเป็นอย่าง ไร และนิติภูมิจะจัดการสยุมภูว์ได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “ แววมยุรา ” ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. เริ่ม22 เมษายนนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
นำแสดงโดย
1. สยุมภูว์หรือจักร รับบทโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
2. แววมยุรา รับบทโดย มารี เบรินเนอร์
3. เอกรินทร์ รับบทโดย ภพธร สุนทรญาณกิจ
4. แป้งร่ำ รับบทโดย ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด
5. ชลธิชา รับบทโดย นุชนันท์ อรัณยะนาค
6. เริงใจ รับบทโดย หรรษา จึงวิวัฒน์วงศ์
7. ไลลา รับบทโดย โชติกา วงศ์วิลาศ
และนักแสดงอีกมากมาย