HTECH ตั้งเป้าปี55 ปั๊มรายได้โตเกิน 25% ปี 54 โชว์กำไร 86.85 ลบ.บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บ./หุ้น
บอร์ด"แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี"ควักกระเป๋าจ่ายปันผลเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 2 พ.ค.นี้ "พีท ริมชลา" เผยปี 2554 มีกำไร 86.85 ล้านบาท พร้อมประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักรกล และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟปีนี้ยังสดใส เดินหน้ามุ่งขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง ดันรายได้ปี 55 โตไม่ต่ำกว่า 25%
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการประจำปี 2554 ให้กับผู้ถือหุ้น เพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 19 เมษายน 2555 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดเดือน มกราคม-มิถุนายน 2554 ให้กับผู้ถือหุ้นไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท รวมบริษัทจ่ายเงินปันผลงวดปี 2554 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.16 บาทต่อหุ้น
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2554 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ของ HTECH และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิโดยรวมจำนวน 86.85 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.36 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ในปี 2555 บริษัทยังคงเน้นขยายการลงทุนโดยการซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักรกล และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ อีกทั้งยังมีแผนที่จะเน้นขยายตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าปีนี้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักรกล และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องซึ่งบริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% จากปี 2554
“แม้ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโดยรวมจะเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมถึงสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งได้ส่งผลต่อการชะลอตัวในแง่ของคำสั่งซื้อต่างๆ แต่หากพิจารณาในแง่ของผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยถือว่ายังเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทได้เตรียมแผนรับมือไว้อย่างดี เพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการมองหาตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ" นาย พีทกล่าวในที่สุด