บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยแผนธุรกิจปี 2555 วางเป้าเติบโตจากปีก่อนหน้า 15% พร้อมเตรียมผุดโครงการใหม่อีก 6-8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจปี 2555 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 6-8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปีนี้กวาดยอดขาย 2,550 ล้านบาท และเป้าการรับรู้รายได้ที่ 2,150 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน
คุณไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2554 เป็นปีที่มีปัจจัยลบภายนอกเข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศหลายปัจจัย นับตั้งแต่ต้นปีที่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิในประเทศญี่ปุ่น มาจนวิกฤตการเงินยุโรป ที่เริ่มขยายวงกว้างออกไปในหลายประเทศ จนนำไปสู่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ตลอดจนเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงปลายปี ซึ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสสุดท้ายมีการขยายตัวที่ติดลบสูงถึง 9% และทำให้ภาวะเศรษฐกิจทั้งปี 2554 ของประเทศไทยมีการขยายตัวได้เพียง 0.1%
อย่างไรก็ตาม บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดเตรียมแผนการรองรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไว้อย่างรัดกุม และจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์การแข่งขัน โดยแบ่งการบริหารงานออกเป็น SBU1 (Brand เดิม บ้านลลิล, ลลิล กรีนวิลล์, และบ้านบุรีรมย์) และ SBU2 (Lanceo, LIO, และ คอนโดมิเนียม LEVO) ทำให้บริษัทมีความคล่องตัว และสามารถเน้น Target Customer ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงความต้องการของทุกกลุ่มมากขึ้น ทำให้ในปี 2554 แม้จะมีปัจจัยลบมากกมาย บริษัทฯยังคงมียอดรับรู้รายได้ที่ขยายตัวและมีการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่สี่
ในส่วนของแผนธุรกิจของบริษัท ฯ ในปี 2555 นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเติบโตที่ยั่งยืน และแข็งแกร่ง ทั้งนี้ตั้งเป้าการขายในปี 2555 ไว้ที่ 2,550 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,150 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 15% โดยในปีนี้บริษัท ฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจให้ครอบคลุม Segment ตลาดที่กว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดกลาง-บน กลางล่าง-ล่าง ฯลฯ พร้อมทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น ตลอดจนมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่ในปี 2555 นี้ อีก 6-8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ