กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงานปี 2554 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเติบโตแข็งแกร่ง
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2554 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเติบโตแข็งแกร่ง จากความสำเร็จของบริการ Ultra hi-speed Internet และการขยายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไร-ก็ตาม กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิในปี 2554 จากค่าใช้จ่ายในการขยายบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช ขณะที่ทรูออนไลน์และทรูวิชั่นส์ยังรักษาผลกำไรได้ดี
ในปี 2554 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 56.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไตรมาส 4 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการลดลงเล็กน้อย (ร้อยละ 0.6) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งจากผลกระทบของวิกฤตน้ำท่วมต่อรายได้ทรูวิชั่นส์ และบริการโทรศัพท์พื้นฐานของทรูออนไลน์
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกาสร้างทรูมูฟ เอช ให้เป็นแบรนด์ 3G ชั้นนำของประเทศ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิกฤตน้ำท่วม และส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นของทรูมูฟ ทำให้กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ของกลุ่มทรู อ่อนตัวลงร้อยละ 7.0 จากปีที่ผ่านมาเป็น 17.1 พันล้านบาท ในขณะที่ ผลการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ปรับเป็นขาดทุน 3.2 พันล้านบาท โดยในปี 2554 ทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 2.7 พันล้านบาท (จากกำไร 1.2 พันล้านบาทในปีก่อนหน้า) โดยรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ซึ่งรวมเป็นกำไรทั้งสิ้น 2.7 พันล้านบาท
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “การดำเนินงานของกลุ่มทรูในปี 2554 มีพัฒนาการด้านยุทธศาสตร์หลายประการ ทั้งการเปิดบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช และการปรับปรุงโครงข่ายเคเบิลโมเด็มด้วยเทคโนโลยีใหม่ DOCSIS 3.0 ซึ่งความสำเร็จจากพัฒนาการต่างๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้รายได้จากการให้บริการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
“สำหรับปี 2555 บริษัทยังคงสานต่อพัฒนาการด้านยุทธศาสตร์ ด้วยการเปลี่ยนระบบออกอากาศของทรูวิชั่นส์เป็นระบบใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง และการขยายบริการแบบ Triple-play ซึ่งประกอบด้วยบริการเสียง บริการบรอดแบนด์ระบบเคเบิลโมเด็ม ความเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps และบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งการขยายความครอบคลุมของบริการ WiFi และ 3G+ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำของกลุ่มทรู ในฐานะผู้ประกอบการไทยรายเดียว ที่ให้บริการสื่อสารครบวงจรด้วยกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์”
กลุ่มทรู โมบาย ประกอบด้วย ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ มีรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและค่าเช่าโครงข่าย) จำนวน 27.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.0 จากปีก่อนหน้า จากรายได้ใหม่ในการเปิดให้บริการ ทรูมูฟ เอช การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทรูมูฟ และการรวมผลประกอบการของฮัทช์ นอกจากนี้ การใช้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้จากบริการที่ไม่ใช่เสียงเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.4 จากปีที่ผ่านมา ในขณะที่มีรายได้จากการขายสินค้าทั้งสิ้น 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 112.7 เนื่องจากอุปกรณ์สมาร์ทโฟนต่างๆ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความโดดเด่นของบริการทรูมูฟ เอช 3G+ และการนำเสนอแพ็กเกจบริการที่ไม่ใช่เสียงและอัตราค่าโทรของกลุ่มทรู โมบายที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ในปี 2554 กลุ่มทรู โมบาย มียอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ (สำหรับทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช) รวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านราย ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 18.9 ล้านราย ณ สิ้นปี 2554 ทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการ 26.9 พันล้านบาท ในปี 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริการบรอดแบนด์ บริการข้อมูลเพื่อธุรกิจ และการดำเนิน
กลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ ในขณะที่รายได้ของบริการบรอดแบนด์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการเปิดบริการ Ultra hi-speed Internet ความเร็ว 7-100 Mbps ด้วยเทคโนโลยี ADSL และ DOCSIS 3.0 โดยในปี 2554 ทรูออนไลน์มียอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิเพิ่ม 160,000 ราย แม้จะได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในไตรมาส 4 ทั้งนี้ ยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์โดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 เป็น 1.33 ล้านราย ณ สิ้นปี 2554 นอกจากนี้ ทรูออนไลน์ยังคงรักษาความเป็นผู้นำการให้บริการ WiFi โดยนำเสนอบริการ WiFi ความเร็วสูงที่สุด และครอบคลุมที่สุด ด้วยจุดเชื่อมต่อ WiFi มากกว่า 100,000 จุด ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งปรับมาตรฐานความเร็ว WiFi ใหม่เป็น 8 Mbps และเปิดตัวบริการ Ultra WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps อีกด้วย
ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 9.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากค่าสมาชิกที่ลดลงในระหว่างปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากการลักลอบใช้สัญญาณในกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม การแข่งขันในตลาดระดับกลางและล่าง และผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมในไตรมาส 4 ปี 2554
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “ในปี 2554 กลุ่มทรู ประสบความสำเร็จในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่ประกอบด้วย การระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นสามัญใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม การสนับสนุนวงเงินกู้ระยะยาวจำนวน 49 พันล้านบาทจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศ เพื่อขยายธุรกิจของกลุ่มทรู โมบาย และการซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลล่าร์สหรัฐของทรูมูฟ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพัฒนาการด้านการเงินที่สำคัญที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการเงินของบริษัท จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้งยังลดความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์ และรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตอีกด้วย”
“ในปี 2555 กลุ่มทรู จะเดินหน้าขยายธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงตามแผนการลงทุนที่วางไว้ ในขณะเดียวกัน จะมุ่งมั่นรักษาวินัยทางการเงิน และดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มกำไรให้แก่บริษัทในระยะยาว” นายนพปฎล กล่าวสรุป