happy on February 27, 2012, 01:07:33 PM

จัดจำหน่ายโดย      เอ็ม พิคเจอร์ส  
ภาพยนตร์เรื่อง    SHAME
ชื่อภาษาไทย      “ดับไม่ไหวไฟอารมณ์”   
 ภาพยนตร์แนว      อีโรติก
จากประเทศ      อังกฤษ
กำหนดฉาย      1 มีนาคม 2555
ณ โรงภาพยนตร์      ในโรงภาพยนตร์

ผู้กำกับ          Steve McQueen (สตีฟ แม็คควีน)

อำนวยการสร้าง   IAIN CANNING (เอียน แคนนิง) , EMILE SHERMAN (เอมิล เชอร์แมน)

นักแสดง   Michael Fassbender (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) , Carey Mulligan (แครี่ มัลลิแกน), James Badge Dale (เจมส์ แบนด์ เดล)

จุดเด่น   Shame เป็นการสำรวจที่ชวนติดตามและได้จังหวะในธรรมชาติของความต้องการใช้ชีวิตของเราและประสบการณ์ที่หล่อหลอมเป็นตัวเราขึ้นมาภาพยนตร์เรื่องนี้สานต่อความรู้สึกที่ลึกซึ้งและความผูกพัน แต่ได้ขยายขอบเขตจากตัวละครหลักเพียงแค่ตัวเดียว ไปสู่การสำรวจความท้าทายของความสัมพันธ์ร่วมสมัยของมนุษย์ที่เรียกว่า Shame

เรื่องย่อ   Shame เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้ไร้อิสระ Shame เป็นการสำรวจตัวละครที่มีอิสระเสรีทุกอย่างตามแบบตะวันตก แต่เขากลับใช้ร่างกายตัวเองในการสร้างที่คุมขังตัวเขาเองขึ้นมา แบรนดอน (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) เป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จ เขาใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายในอพาร์ทเมนต์ของเขาที่นิวยอร์ก ยามว่างจากชีวิตในคอกทำงาน เขาก็จะหว่านเสน่ห์ให้สาวๆ ซึ่งนำไปสู่ความรักครั้งแล้วครั้งเล่ากับความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืน และลงเอยด้วยการเลิกรา   อย่างไรก็ดีจังหวะชีวิตที่ผ่านการควบคุมอย่างดีของแบรนดอนก็มีอันต้องพังทลายลงเมื่อ ซิสซี (แครีย์ มุลลิแกน) น้องสาวผู้ไร้ระเบียบของเขา เดินก้าวเข้ามาในชีวิตเขาโดยไม่บอกกล่าว  และการที่เธอบุกรุกก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตเขา  ทำให้แบรนดอนตัดสินใจใช้ชีวิตเดินเข้าสู่มุมมืดของนิวยอร์กมากขึ้น








« Last Edit: February 27, 2012, 01:09:10 PM by happy »

happy on February 27, 2012, 01:18:30 PM
S H A M E


ข้อมูลงานสร้าง

               Shameถ่ายทำใน นิวยอร์กซิตี้ ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ปี 2011 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมงานครั้งที่สองระหว่างผู้กำกับสตีฟ แม็คควีน (Hunger) และนักแสดงหนุ่ม ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Inglourious Basterds, X-Men: First Class) ใน Shame ฟาสเบนเดอร์รับบทแบรนดอน ผู้บริหารหนุ่มชาวนิวยอร์ก ผู้หลบหนีจากชีวิตที่ปลอดภัยแบบเดิมๆ ด้วยการหาประสบการณ์ทางเพศกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่กิจวัตรประจำวันของเขาต้องพลิกตารปัตรด้วยการมาถึงอย่างไม่คาดฝันของซิสซี น้องสาวผู้เป็นนักร้องตะกายดาว รับบทโดย แครีย์ มุลลิแกน (จากผลงาน An Education และ The Great Gatsby) ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสานต่อความรู้สึกลึกซึ้งและความผูกพันในแบบที่แม็คควีนได้เริ่มต้นเอาไว้ใน Hunger ผลงานกำกับเรื่องแรกในปี 2008 ของเขา แต่ก็ได้ขยายขอบเขตจากตัวละครหลักเพียงแค่ตัวเดียวไปเป็นการสำรวจความท้าทายของความสัมพันธ์ร่วมสมัยของมนุษย์ หลังจากความสำเร็จเชิงคำวิจารณ์ของ Hunger ซึ่งทำให้แม็คควีนได้รับรางวัลคาเมรา ดิ ออร์ (สำหรับผู้กำกับหน้าใหม่) ในตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นเปิดตัวในเทศกาลเมืองคานส์ แม็คควีนและฟาสเบนเดอร์ก็กระตือรือร้นที่จะได้ร่วมงานกันอีกครั้ง “ไมเคิลเป็นอัจฉริยะจริงๆ ครับ” แม็คควีนบอก “ผมอยากจะร่วมงานกับนักแสดงที่ดีที่สุด และผมก็คิดว่าเขาเป็นคนๆ นั้น”

      ฟาสเบนเดอร์เองก็ต้องการจะร่วมงานกับแม็คควีนเช่นกันด้วยความชื่นชมที่เขามีต่อการทำงานที่ผลักดันนักแสดงให้ถึงขีดจำกัดของตัวเองของผู้กำกับ “สตีฟเป็นคนกำหนดโทนขึ้นจริงๆ ดังนั้น ทุกคนก็เลยทั้งกลัวและตื่นเต้นในขณะเดียวกัน” ฟาสเบนเดอร์บอก “มันเหมือนกับการปล่อยวาง กำจัดตาข่ายป้องกันภัย และปล่อยตัวไปตามสบายครับ”

      “การร่วมงานกับสตีฟเป็นเหมือนการก้าวขึ้นไปตรงหุบเหวครับ” เจมส์ แบดจ์ เดล ผู้รับบทเดวิด เจ้านายจอมเจ้าชู้ของแบรนดอน บอก “คุณจะมองไม่เห็นว่าอะไรอยู่ที่ก้นเหว แล้วเขาก็จะบอกว่า ไปสิ กระโดดเลย ซึ่งคุณก็ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น…แล้วสตีฟเองก็กระโดดเหมือนกัน เขาเสี่ยงไปกับคุณด้วย”   โอกาสในการได้ร่วมงานกับแม็คควีนและทีมนักแสดงของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้แครีย์ มุลลิแกนไล่ตามบทนี้ก่อนที่จะได้รับการทาบทามเสียอีก “ในตอนที่บทภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามา แล้วฉันรู้ว่ามีสตีฟกับไมเคิลอยู่ด้วย ฉันก็รู้ว่ามันเป็นงานในฝันค่ะ” มุลลิแกนพูดถึงทั้งคู่ “ฉันได้พบกับสตีฟเพื่อดื่มกาแฟกันในลอนดอนและเขาก็พยายามจะขอตัวกลับตลอดเลย ซึ่งฉันก็ต้องคอยรั้งเขาไว้แล้วบอกว่า ‘ไม่นะไม่! คุณยังไม่ได้ให้งานฉันเลย!’ ฉันบีบคั้นให้เขาให้บทนี้กับฉันค่ะ” ความจำเป็นในการถ่ายทอดธรรมชาติที่อารมณ์อ่อนไหวและคาดเดาไม่ได้ของซิสซีทำให้มุลลิแกนต้องผลักดันตัวเองมากขึ้นในฐานะนักแสดงหญิง แม้ว่านี่จะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอชื่นชอบบทนี้[/size


               Shameเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของซี-ซอว์ ฟิล์มส์ นับตั้งแต่ The King’s Speech ที่ได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ผู้อำนวยการสร้างเอียน แคนนิงตั้งข้อสังเกตว่า ทั้ง Hunger และ Shame ต่างก็ให้ความสนใจกับร่างกายเหมือนๆ กัน “Hunger เป็นเรื่องของผู้ชายที่ไร้อิสระ และเขาก็ใช้ร่างกายในการสร้างอิสระเพียงหนึ่งเดียวเท่าที่เขาสามารถทำได้” แคนนิงบอก “แต่ใน Shame เราบอกเรื่องราวที่ตรงกันข้าม นี่เป็นเรื่องราวของผู้ชายที่มีอิสระเสรีทุกอย่าง แต่เขากลับใช้ร่างกายตัวเองในการสร้างที่คุมขังตัวเองขึ้นมาครับ”

      มือเขียนบทร่วม อาบี มอร์แกน ผู้ชื่นชมทั้งฟาสเบนเดอร์และมุลลิแกน กล่าวว่าโอกาสในการได้ร่วมงานกับทั้งคู่ใน Shame เป็น  “เหมือนฝันที่เป็นจริงค่ะ”    “ ฉันรู้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”   เธอบอก เมื่อเร็วๆ นี้ มอร์แกนเพิ่งจะเขียนบทให้กับ The Iron Lady ภาพยนตร์ชีวประวัติของนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์ ที่นำแสดงโดยเมอริล สตรีพ

      ผู้อำนวยการสร้างเอมิล เชอร์แมนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำงานในนิวยอร์ก ซิตี้ว่า “มันเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับพวกเราในฐานะผู้อำนวยการสร้างที่จะได้ถ่ายทำในนิวยอร์ก ผมไม่เคยถ่ายทำในนิวยอร์กมาก่อนเลย เพราะผมอยู่ในซิดนีย์ ส่วนเอียน แคนนิงก็อยู่ในลอนดอน นิวยอร์กเป็นหนึ่งในมหานครของโลก เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนทำหนังที่นั่น และเราก็มีผู้จัดการและผู้ร่วมอำนวยการสร้างที่วิเศษสุดอย่างเบอร์เกน สแวนสัน นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำที่ยอดเยี่ยมและเราก็อยากจะไปถ่ายทำที่นั่นอีกครั้งครับ”









               Shameเป็นผลงานการสร้างของซี-ซอว์ ฟิล์มส์ร่วมกับฟิล์มโฟร์และสภาภาพยนตร์อังกฤษ ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยเอียน แคนนิงและเอมิล เชอร์แมนแห่งซี-ซอว์ ฟิล์มส์
      โมเมนทัม พิคเจอร์ส  จะเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในอังกฤษ และ ทรานส์มิชชัน ฟิล์มส์ ผู้จัดจำหน่ายจากออสเตรเลียเป็นผู้ถือครองสิทธิในการจัดจำหน่ายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ฮันเวย์ ฟิล์มส์ ตัวแทนจำหน่ายของอังกฤษเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในทั่วโลก

happy on February 27, 2012, 01:37:04 PM





ประวัตินักแสดง

Michael Fassbender (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์)  รับบทเป็น Brandon Sullivan (แบรนดอน)

               ก่อนหน้านี้ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ได้นำแสดงในบทบ็อบบี้ แซนด์ ผู้อดอาหารประท้วงผู้ล่วงลับในภาพยนตร์โดยสตีฟ แม็คควีนเรื่อง Hunger การแสดงครั้งนั้นทำให้เขาได้รับรางวัลบริติช อินดีเพนเดนท์ ฟิล์ม อวอร์ด (บีฟา) และไอริช ฟิล์ม แอนด์ เทเลวิชัน อวอร์ด (อีฟตา) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ลอนดอนและรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชิคาโกและสต็อคโฮล์มปี 2008 สำหรับเทศกาลหลังนี้ เขายังได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากการแสดงของเขาในภาพยนตร์โดยอังเดร อาร์โนลด์เรื่อง Fish Tank ในปีถัดไปอีกด้วย การแสดงครั้งนั้นทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบีฟาและอีฟตา อวอร์ด รวมไปถึงได้รับรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ลอนดอนเป็นครั้งที่สอง นอกจากนั้น เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอีฟตา จากการแสดงของเขาในมินิซีรีส์โดยมาร์ค มุนเดนเรื่อง The Devil’s Whore อีกด้วย

      ผลงานภาพยนตร์หลังจากนี้ของไมเคิลได้แก่เรื่องราวที่เป็นที่รอคอยอย่างสูงของแมทธิว วอห์นเรื่อง X-Men: First Class ในบทอีริค เลชเชอร์ หรือแม็กนีโต้, ดรามาโดยเดวิด โครเนนเบิร์กเรื่อง A Dangerous Method ในบทคาร์ล จุง ประกบเคียรา ไนท์ลีย์และวิกโก้ มอร์เตนเซน, แอ็กชันทริลเลอร์รวมดาราโดยสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์เรื่อง Haywire ที่นำแสดงโดยยวน แม็คเกรเกอร์และแอนโทนิโอ แบนเดอรัส และดรามาเรื่อง Shame ที่เขาได้ร่วมงานกับสตีฟ แม็คควีนอีกครั้งและร่วมแสดงโดยแครีย์ มุลลิแกน

      ไมเคิลเกิดในเยอรมนีและเติบโตในไอร์แลนด์ เขาสำเร็จการศึกษาจากดรามา เซ็นเตอร์ที่โด่งดังในลอนดอน บทบาทที่แจ้งเกิดให้เขาคือบทร้อยโทเบอร์ตัน “แพท” คริสเตนสันในมินิซีรีส์อีพิคที่ได้รับรางวัลเรื่อง Band of Brothers หลังจากที่เปิดตัวผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์โดยแซ็ค สไนเดอร์เรื่อง 300 ผลงานภาพยนตร์หลังจากนั้นของเขาได้แก่ ภาพยนตร์โดยโจเอล ชูมัคเกอร์เรื่อง Blood Creek, ภาพยนตร์โดยเจมส์ วัตกินส์เรื่อง Eden Lake, ภาพยนตร์โดยจิมมี เฮยเวิร์ดเรื่อง Jonah Hex, ภาพยนตร์โดยฟรังซัวส์ โอซอนเรื่อง Angel ที่ร่วมแสดงโดยโรโมลา กาไร, ภาพยนตร์โดยนีล มาร์แชลเรื่อง Centurion และภาพยนตร์โดยโฟกัส ฟีเจอร์สเรื่อง Jane Eyre


Carey Mulligan (แครี่ มัลลิแกน)  รับบทเป็น   Sissy Sullivan (ซิสซี)

               หลังจากนี้ มุลลิแกนจะได้แสดงประกบไรอัน กอสลิง, ไบรอัน แครนสตันและออสการ์ ไอแซ็คส์ในภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์โดยฟิล์มดิสทริคเรื่อง Drive ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำกับโดยนิโคลัส วินดิ้ง เรฟน์และสร้างขึ้นจากนิยายโดยเจมส์ ซัลลิส ติดตามเรื่องราวของสตันท์แมนฮอลลีวูดไร้ชื่อเสียงเรียงนาม (กอสลิง) ผู้รับจ็อบเป็นคนขับรถพาโจรหนีระหว่างการปล้น Drive เข้าฉายในโรงภาพยนตร์โดยฟิล์มดิสทริคในวันที่ 16 กันยายน ปี 2011

      ในซัมเมอร์ปีนี้ มุลลิแกนเพิ่งเริ่มต้นการถ่ายทำภาพยนตร์โดยผู้กำกับบาซ ลูห์แมน ที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง The Great Gatsby โดยเอฟ. สก็อต ฟิทซ์เจอรัลด์ โดยมุลลิแกนรับบทเดซี บูชานัน ผู้เป็นที่รักของเจย์ แกทส์บี้ ที่รับบทโดยลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะจัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์สในปี 2012 ในเดือนกันยายน ปี 2010 มุลลิแกนได้นำแสดงในภาพยนตร์โดยฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์เรื่อง Never Let Me Go ที่สร้างจากนิยายรางวัลโดยคาซูโอะ อิชิงุโระ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์เทลลูไรด์และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต นอกจากนี้ มุลลิแกนยังได้รับรางวัลบริติช อินดีเพนเดนท์ ฟิล์ม อวอร์ดปี 2010 สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากการแสดงในเรื่องนั้นของเธออีกด้วย

      ในเดือนกันยายน ปี 2010 เธอยังได้แสดงในภาพยนตร์โดยโอลิเวอร์ สโตนเรื่อง Wall Street 2: Money Never Sleeps อีกด้วย เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด รางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลสมาพันธ์นักแสดง และได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากการแสดงนำในภาพยนตร์โดยโซนี คลาสสิกส์เรื่อง An Education ที่เขียนบทโดยนิค ฮอร์นบี้และกำกับโดยโลน เชอร์ฟิก An Education เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2009 ภายใต้เสียงวิจารณ์ชื่นชม มุลลิแกนได้รับรางวัลบริติช อินดีเพนเดนท์ ฟิล์ม อวอร์ดสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากสมาพันธ์นักวิจารณ์แห่งชาติ รวมไปถึงจากเวทีออเรนจ์ บริติช อคาเดมี ออฟ ฟิล์ม (บาฟตา) อีกด้วย สมาคมนักวิจารณ์หลายแห่งได้มอบรางวัลให้กับเธอจากการแสดงเรื่องนี้ด้วย


James Badge Dale (เจมส์ แบนด์ เดล)  รับบทเป็น  David Fisher (เดวิด)

               เจมส์ แบดจ์ เดล เกิดในนิวยอร์ก ซิตี้ เขาเป็นลูกของนักแสดง/นักออกแบบท่าเต้น โกรเวอร์ เดลและนักแสดงหญิงอนิต้า มอร์ริส พออายุได้ 10 ขวบ เขาก็ได้รับเลือกจากชั้นเรียนเกรดห้าที่โรงเรียนประถมวันเดอร์แลนด์ในลอเรล แคนยอนเพื่อทดสอบบทไซมอนในรีเมก Lord of the Flies หลังจากนั้น ระหว่างที่ศึกษาที่แมนฮัตตันวิลล์ คอลเลจ เขาก็ได้รับบาดเจ็บจนเขาต้องหยุดเล่นฮ็อกกี้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ช่วยปลุกไฟด้านการแสดงของเขาให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง  หลังจากที่เก็บเกี่ยวทุกสิ่งทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากแผนกละครของวิทยาลัย  เขาก็ตัดสินใจย้ายไปนิวยอร์กเพื่อฝึกฝนการเป็นนักแสดงเต็มตัว

      เขาได้รับเลือกให้รับบทตัวเอกในซีรีส์โดยเอเอ็มซีเรื่อง Rubicon ทริลเลอร์การเมืองจากเจสัน ฮอร์วิทช์ และวอร์เนอร์ ฮอไรซัน ซีรีส์เรื่องนี้ที่กำกับโดยอัลเลน โคลเตอร์ให้น้ำหนักไปที่สมาคมลับที่ชักใยเวทีการเมืองโลกในสไตล์ของอิลลูมินาติและสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซีรีส์นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่วิล ทราเวอร์ส ตัวละครของเจมส์ นักวิเคราะห์ชาญฉลาด ผู้ค้นพบว่านายจ้างของเขามีอะไรมากกว่าที่เห็น   เจมส์รับบทเชส เอ็ดมันด์ในซีรีส์ฟ็อกซ์เรื่อง 24 และกลับมารับบทเดียวกันนี้ในวิดีโอเกมชื่อเดียวกัน นอกจากนี้ เขายังมีบทสมทบในภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่อง The Departed ที่เขาแสดงประกบแจ็ค นิโคลสัน, แมทท์ เดมอน และ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เขารับบทเป็นหนึ่งในสามตัวละครนำของมินิซีรีส์ทุนหนาทางเอชบีโอเรื่อง The Pacific จากผู้ควบคุมงานสร้างทอม แฮงค์ และ สตีเวน สปีลเบิร์ก


ประวัติผู้กำกับ

Steve McQueen (สตีฟ แม็คควีน) ผู้กำกับและมือเขียนบทร่วม

               สตีฟ แม็คควีน ผู้กำกับมิวสิค วิดีโอชาวอังกฤษได้สร้างชื่อให้กับตัวเองจากการทำงานในสื่อที่หลากหลาย แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นด้วยโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ เขาก็ได้ต่อยอดงานตัวเองไปสู่การทำงานประติมากรรมและภาพนิ่ง เขาเริ่มต้นการฝึกฝนอย่างเป็นทางการด้วยการเรียนที่เชลซี สคูล ออฟ อาร์ตและโกลด์สมิธ คอลเลจในลอนดอน ที่ซึ่งเขาเริ่มทำภาพยนตร์นักศึกษา โปรเจ็กต์ขนาดสั้นช่วงเริ่มแรกของเขาจะเป็นภาพยนตร์ขาวดำและไม่มีเสียงแทบทั้งหมด โดยโปรเจ็กต์เหล่านั้นรวมถึง Bear (1993) ที่บอกเล่าการเผชิญหน้ากันช่วงสั้นๆ ที่แปลกประหลาดของชายเปลือยสองคน, Deadpan ปี 1997 ที่สุภาพบุรุษคนหนึ่งยืนอยู่ใจกลางตึกขณะที่มันกำลังถล่มลงมา และ Drumroll (1998) ที่แม็คควีนได้ติดตั้งกล้องกับถัง ก่อนจะกลิ้งถังให้กระเด็นกระดอนไปตามท้องถนนในแมนฮัตตัน

      แม็คควีน  ได้ถ่ายทำและเปิดตัว Hunger ภาพยนตร์เมนสตรีมเรื่องแรกของเขาในปี 2008 ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำแสดงโดยฟาสเบนเดอร์ ได้เล่าถึงช่วงเวลาหลายเดือนสุดท้ายที่ทุกข์ทรมานของบ็อบบี้ แซนด์ นักเคลื่อนไหวจากกองทัพไอริช รีพับลิกัน ที่ประท้วงการได้รับการปฏิบัติอย่างทารุณจากยามในคุกเบลฟาสต์ เมซ ด้วยการอดอาหารและท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตจากเหตุนั้น