MSN on February 22, 2012, 03:04:41 PM
จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เตรียมประกาศศักดา! “ฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” ครั้งที่ 68







เตรียมนับถอยหลังระเบิดความมันส์บนสนามกันอีกครั้ง สำหรับ “การแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” ครั้งที่ 68 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยปีนี้ จุฬาฯ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ และมีแนวคิดหลักร่วมกับธรรมศาสตร์คือ “เปิดรับ” ซึ่งจัดงานแถลงข่าวขึ้น ณ โถงลิฟท์แก้ว อาคารจัตุรัสจามจุรี เมื่อวันก่อน

ภายในงาน นอกจาก ตัวแทนนิสิตผู้อัญเชิญพระเกี้ยว, จุฬาฯคทากร, ทูตบำเพ็ญประโยชน์,ผู้นำเชียร์ลีดเดอร์ พร้อมด้วย ทีมนักฟุตบอลทั้ง  2 สถาบัน ที่มาร่วมเปิดตัว แสดงความสามัคคี และความพร้อมก่อนวันแข่งจริงแล้ว ยังมีผู้บริหารทั้ง 2 สถาบัน ให้เกียรติมาร่วมแถลงรายละเอียดการจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีฯ
โดย นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “นอกเหนือจากการแข่งขันฟุตบอลประเพณีฯ แล้ว ยังมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ซึ่งทูตสันทวไมตรีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม รณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับบริจาคเลือดในโครงการ “เลือดไม่แบ่งสี” ซึ่งเป็นการบริจาคให้กับรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยจะเปิดรับในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 11.00-16.00 น. ณ ลานฮาร์ดร็อค สยามสแควร์”

ด้าน ศาสตราจารย์ กิตติคุณดร.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อุปนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ฟุตบอลประเพณีฯ เรียกได้ว่าเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างช้านานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2477 แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของทั้ง 2 สถาบัน และเชื่อว่าปีนี้ ฟุตบอลประเพณีฯ จะเป็นอีกปีที่น่าจดจำ”

ขณะที่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ฝ่ายธรรมศาสตร์ กล่าวว่า  “สิ่งสำคัญของการจัดฟุตบอลประเพณีฯ ทุกปีคือ เราเน้นเรื่องความสามัคคี แต่อย่างไรก็ตามธรรมศาสตร์จะเพิ่มสถิติการชนะเป็นครั้งที่ 23 ในปีนี้อย่างแน่นอนครับ”

ส่วน นายวันชัย ภาคลักษณ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฝ่ายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า “แนวคิดหลักร่วมกันระหว่างจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ของฟุตบอลประเพณีฯ ปีนี้คือ “เปิดรับ” ซึ่งหมายถึงการเปิดใจยอมรับกับเหตุการณ์บ้านเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หรือกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิต และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดังเช่นแนวคิด ฟื้นคืนความหวัง สร้างพลังความคิด ทุกชีวิตเปิดรับความเปลี่ยนแปลง ที่ทางจุฬาฯ ได้นำมาขยายเพิ่มเติมนั่นเอง”

ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ปีนี้ ต้องการเห็นการพัฒนาตนเอง และเคารพกฎกติกาในการแข่งขัน ซึ่งอยากให้ทุกคนคิดอยู่เสมอว่า ความคิดของคนเราแตกต่างได้ แต่ต้องไม่แตกแยก”

ซึ่ง ศ.นพ.ภิรมย์ กลมรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า “เนื่องจากปัญหาจากอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา การเตรียมงานปีนี้ จึงเน้นเรื่องความประหยัดทั้งขบวนพาเหรด การแปรอักษร และในทุกๆ ส่วน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในแต่ละที่ อีกด้วย”

ด้าน นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เผยว่า “สนามฝึกซ้อมที่ธรรมศาสตร์มีปัญหาเรื่องผลกระทบของน้ำท่วม แต่เราพยายามหาสนามฝึกซ้อมตามที่ต่างๆ อย่างเต็มที่ และแม้ว่าปีที่ผ่านมาธรรมศาสตร์จะแพ้ แต่เชื่อว่าปีนี้ธรรมศาสตร์จะชนะได้อย่างแน่นอน”

ขณะที่ นายทัศนะ พิทักษ์อรรณพ ผู้จัดการทีมฟุตบอลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ตั้งแต่ตนมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลประเพณีฯ 3 ปี ก็ยังไม่เคยแพ้ธรรมศาสตร์เลยสักครั้งเดียว และปีนี้ผมมั่นใจว่า จุฬาฯ ต้องคว้าชัยชนะมาได้เหมือนเช่นเคย”

นอกจากนี้ นิสิตนักศึกษาของทั้ง 2 สถาบัน ยังร่วมกันทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่สังคม คือ ซ่อมสร้างโรงเรียนวัดชะลอ จังหวัดนนทบุรี และอีกหนึ่งโครงการ “เลือดไม่แบ่งสี” ซึ่งเป็นการบริจาคโลหิตให้แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยจะเปิดรับบริจาคโลหิตในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 11.00-16.00 น. ณ ลาน Hard Rock สยามสแควร์

อีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษที่ขาดไม่ได้ คือ การจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “จามจุรีโรย-โดมชรา” ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก่าของ 2 สถาบัน ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 15.00 น. ณ สนามกีฬาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สนามจุ๊บ)

ใครจะแพ้ ใครจะชนะ...มาร่วมส่งแรงใจให้เหล่านักเตะทั้งสองสถาบันกันได้ ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 15.00 น. ณ สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ 

ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 11 (กรมประชาสัมพันธ์) ตั้งแต่เวลา 15.30-18.00 น.  ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่หน้างาน ทางเข้าสนามศุภชลาศัยฯ ด้านถนนพระราม 1  ราคา 100 บาท  และ 200 บาท