จีเอฟเอ สานฝัน ปันรัก สู่เด็กบ้านนานาเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ชีวิต…บนวิถีพอเพียง
"บ้านนานา”...หรือ ศูนย์ทางเลือกการเรียนรู้สู่การพัฒนาและการป้องกันชีวิตเด็ก ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน เด็กขอทาน และเด็กด้อยโอกาสทางสังคม แม้ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูผู้คนในสังคมมากนัก แต่สำหรับเด็กๆ หลากเชื้อชาติตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า ผู้ด้อยโอกาสกว่า 90 ชีวิต ที่นี่คือ บ้านหลังที่สองของพวกเขา ที่พร้อมจะมอบความอบอุ่นและปลอดภัย โดยมี นายกรรจร เจียมรัมย์ หรือ ครูเหงา เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น เพื่อดูแลชีวิตเด็กๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาเป็นเวลากว่า 13 ปี ด้วยแนวคิด "ต้องทำให้เด็กด้อยโอกาสเหล่านี้ ช่วยเหลือตัวเองให้ได้” การรอคอยความช่วยเหลือจากการบริจาคหรือแจกสิ่งของจากผู้มีน้ำใจ ช่วยบรรเทาปัญหาเพียงในระยะสั้นเท่านั้น ในขณะที่เด็กๆ เหล่านี้ ยังต้องเติบโตต่อไป จึงทำให้ “บ้านนานา” แห่งนี้ มีโครงการช่วยเหลือตัวเองมากมาย ภายใต้การทำเกษตรแบบพอเพียง บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ปลูกข้าวเอาไว้กิน ช่วยกันเลี้ยงไก่ไว้กินไข่ เลี้ยงปลา และปลูกผักไว้เป็นอาหาร ที่สำคัญ ไม่ใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีใดๆ ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ด้วยตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท จีเอฟเอ (ประเทศไทย) จำกัด จึงอาสาเป็นส่วนหนึ่งร่วมช่วยเหลือและแบ่งปัน โดยร่วมกับ มูลนิธิพันธกิจเด็กและชุนชน จัดทำ โครงการ Harvesting Rice For Kids หรือ จีเอฟเอ สานฝัน ปันรัก สู่เด็กบ้านนานา โดยนำกลุ่มพนักงานจิตอาสา จำนวนกว่า 40 ชีวิต เดินทางไปร่วมกิจกรรม เกี่ยวข้าวและนวดข้าว ร่วมกับเด็กๆ บ้านนานา พร้อมนำสิ่งของและเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันไปมอบให้เป็นขวัญและกำลังใจ
นางสาวศิรินทร แซ่แต้ หรือพี่ริน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีเอฟเอ (ประเทศไทย) จำกัด บอกความรู้สึกที่ได้เข้ามาสัมผัสกับโครงการฯว่า “รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมส่งเสริมค่านิยมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ช่วงเวลาที่พี่ๆ ได้ร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าว นวดข้าวกับน้องๆ บ้านนานา ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน และเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก โดย จีเอฟเอ ตั้งใจที่จะสานต่อโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวคิดที่จะนำ “ข้าว” ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรจากบ้านนานา ไปให้บริการภายในร้าน “คอฟฟี่ เวิลด์ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์” ในรูปแบบของเมนูเซ็ทพิเศษ รายได้ส่วนหนึ่งจากการอุดหนุน จะส่งกลับมาช่วยเหลือน้องๆ ที่บ้านนานา เพื่อให้ลูกค้าทุกๆท่าน ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือเด็กๆ ด้วยความรู้สึกผูกพันและเห็นคุณค่าในสิ่งดีๆ เหล่านี้ร่วมกันกับ จีเอฟเอ ค่ะ”
นายธน เตชธร เจ้าหน้าที่สรรหา ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท จีเอฟเอ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในพนักงานจิตอาสาเผยความรู้สึกที่ตลอด 2 วันเต็ม ได้มาช่วยน้องๆ เกี่ยวข้าว นวดข้าว ในฤดูกาลเก็บเกี่ยว ท่ามกลางเปลวแดดที่แผดกล้าว่า
“ เพื่อนพนักงานทุกคนยอมรับเลยครับว่า เป็นงานที่เหนื่อยยากมาก ทำให้เห็นถึงคุณค่าของข้าวอย่างลึกซึ้งว่า กว่าจะได้ข้าวเปลือกแต่ละเมล็ด ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย ต้องทะนุถนอมรวงข้าวทุกรวง เพื่อไม่ให้เมล็ดข้าวร่วงหล่นเสียหาย และก็รู้สึกชื่นชมความสามารถของชาวนาตัวน้อยๆ ที่มีความขยันและอดทนอย่างน่าทึ่ง ส่วนตัวผม รู้สึกดีมากๆ ครับที่ได้มาช่วยน้องๆ ผมภูมิใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มีโอกาสมาเกี่ยวข้าว ก็ปวดเมื่อยเนื้อตัวพอสมควรครับ (ยิ้ม) แต่เป็นประสบการณ์ที่จะไม่ลืมเลย เพราะมีคุณค่าทางจิตใจมาก และมื้อต่อไปจากนี้ ผมจะกินข้าวให้หมดทุกเม็ดเลยครับ”
น้องเปาโหละ เด็กชายเชื้อสายพม่า วัยเพียง 13 ปี พูดจากใจเล็กๆ ด้วยสำเนียงแปร่งๆ ไปบ้างว่า “เหนื่อยครับ (พยักหน้า) แต่ก็สนุกมากครับ ผมมาอยู่ที่บ้านนานาได้ปีครึ่งแล้วครับ ดีใจมากๆ ที่มีพี่ๆ มาช่วยเกี่ยวข้าว ผมมีความสุขที่ได้ปลูกข้าวไว้กินกับเพื่อนๆ มันเป็นข้าวของเราที่ปลูกเอง กินแล้วอร่อยที่สุดเลยครับ” น้องเปาโหละ พูดและยิ้มด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ มีเม็ดเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้า ช่างเป็นภาพประทับใจของพี่ๆ ทุกคนที่ได้พบเห็น...และสัมผัสได้ว่าน้องเปาโหละ ผู้นี้ ช่างเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบสูงเกินวัย มีน้ำใจงาม ช่วยเหลืองานทุกๆ ด้าน อย่างเต็มใจด้วยความขยัน
น้องจ๊ะเกอะ เด็กหญิงชาวอาข่าวัย 15 ปี....บอกว่า “หนู ชอบบทเพลงของบ้านนานา ที่มีเนื้อร้องว่า....ที่มาไม่มี ที่ไปไม่มี ที่อยู่คือ ใต้สะพาน ผู้คนเรียกเรา คือเด็กขอทาน เด็กสะพาน นั่นคือตัวหนูเอง อยากมีใครสักคน ที่รักและจริงใจ มีที่ให้อยู่ มีข้าวให้กิน หนูจะตั้งใจ หนูจะเชื่อฟัง ทุกคำที่สั่งสอนให้ หนูเป็นคนดี จะทำเช่นไร ให้หนูได้มี ให้ฝันเป็นจริง กับเขาเสียที
หนูรักบ้านนานาค่ะ หนูมาอยู่ตั้งแต่ 6 ขวบ ถ้าไม่มีที่นี่หนูก็คงเป็นเด็กเร่ร่อน ขอทานแถวสะพานข้ามฝั่งไทยพม่าที่แม่สาย หนูกับเพื่อนๆ ไม่มีโอกาสได้สัญชาติไทย ไม่มีบัตรประชาชน แต่หนูก็ตั้งใจเรียนหนังสือ เทอมนี้หนูสอบได้ที่ 1 ได้เกรด 3.82 ค่ะ โตขึ้นหนูอยากเป็นหมอ เห็นทางการบอกว่า ถ้าเรียนจบปริญญาตรี ก็จะมีโอกาสขอสัญชาติไทยได้ค่ะ”
แม้โอกาสที่พี่ๆ จิตอาสาได้ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับน้องๆ บ้านนานา เป็นช่วงเวลาเพียงน้อยนิด แต่ภาพชีวิตที่เรียบง่าย และงดงามที่ได้สัมผัส.....ความสุภาพ อ่อนน้อม และความมีสัมมาคารวะของเด็กๆ ทำให้รับรู้ได้ว่า ทุกคนผ่านการปลูกฝัง ขัดเกลาจิตใจ ด้วยความรักและเอาใจใส่จากพี่ๆ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเป็นอย่างดี..........เด็กๆ จึงล้วนมีจิตสำนึกรู้บุญคุณของแผ่นดินที่อาศัย รักเมืองไทย รักป่าเขา รักธรรมชาติ และผูกพันกับ “บ้านนานา”...เพราะทุกๆ สิ่งที่นี่ คือชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริง
และสิ่งหนึ่งที่เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ก็คือ...เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตของเด็กน้อยเหล่านี้ ได้ถูกหว่านลงแล้วด้วยความรัก บนผืนดินอันอุดม....บนแผ่นดินไทยแห่งนี้ เพื่อพร้อมที่จะเติบใหญ่ต่อไป......เป็นคนดี ที่ไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่สามารถพึ่ง-พาตนเองได้ รู้ถึงคุณค่าการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างปัญหาและเป็นภาระแก่สังคม.........เท่านี้ก็คงเพียงพอแล้ว
สำหรับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลนี้ ล้วนแตกรวงอย่างงดงาม และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จากทั้งของเด็กๆ และจิตอาสาของพี่ๆ ที่มาร่วมกันเก็บเกี่ยว เมล็ดพันธุ์นี้จึงไม่ได้มีคุณค่าแค่เพียงจิตใจเท่านั้น........เพราะ “ครูเหงา” จะเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวเหล่านี้ ที่ให้ชื่อว่า.....“เมล็ดพันธุ์ข้าว คอฟฟี่ เวิลด์” ไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ในฤดูกาลหน้า เพื่อปลูกและเก็บเกี่ยวต่อไปอีกนานแสนนาน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด'
องค์กรหรือผู้ที่สนใจร่วมสนับสนุนกิจกรรมกับเด็กๆ “บ้านนานา” สามารถติดต่อได้ที่ มูลนิธิพันธกิจเด็กและชุมชน คุณกรรจร เจียมรัมย์ (ครูเหงา) โทร.053-732947 , 053-733967 , 081-9504-723 ทุกวันเวลาทำการ