Movie: Man on a Ledge ระห่ำฟ้า ท้านรก
ประเภท Action / Thriller
คำโปรย The Ultimate Deception Needs the Ultimate Distraction
กำหนดฉาย 2 กุมภาพันธ์ 2011
บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง ลอเรนโซ่ ดิ โบนาเวนทูร่า (Transformers 1 -3, G.I. Joe)
กำกับ แอสเจอร์ เลท (Ghosts of Cité Soleil)
เขียนบท พาโบล เอส เฟนจ์เวส (Bloodhounds, The Devil's Child)
นำแสดง แซม เวอร์ธิงตัน (Avatar, Terminator Salvation, Clash of the Titans)
อลิซาเบธ แบงค์ส (Definitely Maybe, The Hunger Games)
เจมี่ เบลล์ (Billy Elliot, Jumper, The Adventures of Tintin)
เอ็ด แฮร์ริส (National Treasure 2, The Rock)
เนื้อเรื่อง
เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ นิค แคสซิดี้ (แซม เวอร์ธิงตัน จาก Avatar และ Clash of the Titans) ต้องกลายเป็นผู้ต้องหา เขาหลบหนีและมุ่งหน้าไป เดอะ รูสเวลท์ ที่อยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ค ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของโรงแรมและยืนบนระเบียง ทั้งเมืองต้องหยุดนิ่งและเฝ้ามอง รวมถึงกลุ่มคนที่กุมความลับของเขาเอาไว้
การกระทำของ นิค ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเอง มันยังกลายเป็นข่าวไปทั่วเมือง สถานการณ์มีความเปราะบางเมื่อนักเจรจาประจำกรมตำรวจ ไลเดีย สเปนเซอร์ (อลิซาเบธ แบงค์ส) ที่พยายามเกลี้ยกล่อมเขา ต้องรับมือกับตำรวจมือเก๋า (เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส) ที่คิดว่าเธอไม่เหมาะกับการเจรจา เนื่องจากเคยมีประวัติกับ นิค และยิ่ง ไลเดีย ใช้เวลาเจรจากับ นิค มากเท่าไร เธอก็รู้สึกว่าเขามีจุดประสงค์อื่นที่มายืนอยู่ตรงนี้
ในขณะที่ นิค ดึงดูดความสนใจของคนทั้งเมือง ไม่มีใครรู้ว่าเขาแอบคุยกับ โจอี้ (เจมี่ เบลล์) น้องชายของเขา ที่ร่วมมือกับแฟนสาว (เจเนซิส ร็อดริเกซ) ในการตามหาเพชรมูลค่า 40 ล้านเหรียญของนักธุรกิจผู้ทรงอำนาจ (เอ็ด แฮร์ริส) ซึ่งเป็นชิ้นเดียวกับที่เขาถูกใส่ความว่าโจรกรรม นี่คือหนทางเดียวที่ นิค จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และเป็นหนทางเดียวที่จะเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด
Man on a Ledge อำนวยการสร้างโดย ลอเรนโซ่ ดิ โบนาเวนทูร่า (Transformers 1-3, Salt) ผลงานการกำกับของ แอสเจอร์ เลท (Ghosts of Cite Soleil) จากบทภาพยนตร์ของ พาโบล เอส เฟนจ์เวส (The Affair) โดยได้ทีมงานคุณภาพข้ามาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับภาพ พอล คาเมรอน (Man on Fire), ผู้ออกแบบงานสร้าง อเล็ก แฮมมอนด์ (Red), ผู้ตัดต่อภาพ เควิน สติทท์ (X-Men: First Class) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ซูซาน ไลออล (Red)
จุดเริ่มต้นการสร้าง
ตั้งแต่ก่อนสร้าง Transformer ภาคแรก ผู้อำนวยการสร้าง ลอเรนโซ่ ดิ โบนาเวนทูร่า ก็ต้องการเปลี่ยนบทภาพยนตร์ Man on a Ledge ให้กลายเป็นหนัง เขาเล่าว่า "Man on a Ledge เป็นชื่อหนังที่ดึงดูดความสนใจของผม เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนรู้สึกจากการปฏิบัติหน้าที่ นั้นคือการใช้ชีวิตที่เหมือนยืนอยู่ริมระเบียงตึกทุกวัน ต้องเจอกับอาชญากรและอันตรายที่คาดไม่ถึง"
ภาพยนตร์เริ่มด้วยผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูท เดินออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน เช่าห้องโรงแรมหรูใจกลางเมือง และสั่งอาหารราคาแพง เช่น แชมเปญและล็อบสเตอร์ จากนั้นเขาก็เขียนโน้ตและก้าวออกไปนอกระเบียง สำหรับคนดูแล้วนี่อาจเป็นผู้ชายที่สูญเสียกำลังใจในการใช้ชีวิต
โบนาเวนทูร่า เล่าต่อว่า "มันมีแนวคิดของผู้ชายที่ยืนอยู่ริมระเบียง เขาจะกระโดดหรือไม่ พวกเราได้คุยกับตำรวจและคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ พวกเขาบอกว่าคนที่มองจากด้านล่าง ครึ่งหนึ่งภาวนาให้ปลอดภัย แต่อีกครึ่งหนึ่งก็สารภาพว่าอยากให้กระโดดลงมา มันก็เป็นเรื่องที่ชวนให้คลื่นไส้ แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ผมคิดว่าสิ่งที่ดึงดูดเราก็คือการได้ตีแผ่หายนะที่เกิดขึ้นโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์บนระเบียง และเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน"
ในที่สุดเราก็ได้รู้จักตัวตนของชายคนนั้น ซึ่งก็คือ นิค (แซม เวอร์ธิงตัน) อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เพิ่งถูกตัดสินให้จำคุก 25 ปี ในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ แคสซิดี้ บอกกับจิตแพทย์ของเรือนจำว่า เขาไม่สามารถทนรับความผิดที่ตัวเองถูกใส่ร้ายได้ หลังจากที่เป็นผู้คุ้มกันเพชรมูลค้า 40 ล้านเหรียญที่มีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งนักธุรกิจใหญ่ เอวิด อิงแลนเดอร์ (เอ็ด แฮร์ริส) กล่าวหาว่า นิค เป็นคนขโมย ซึ่งเขาก็ได้วางแผนที่จะเอาเงินประกันและครอบครองเพชรเอาไว้
โบนาเวนทูร่า อธิบายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่องนี้ว่า "นิค มีจุดประสงค์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องแหกคุกออกมา มันเป็นหนังแอ็คชั่นไล่ล่าก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหนังโจรกรรม และลงเอยด้วยการเป็นหนังที่พูดถึงความรัก" แซม เวอร์ธิงตัน เห็นด้วยกับผู้อำนวยการสร้าง เขาเสริมว่า "มันมีบางอย่างที่ทำให้ Man on a Ledge แตกต่างจากหนังแอ็คชั่นทั่วไป ผมสามารถสร้างมิติให้ตัวละคร มากกว่าที่จะวิ่งไปวิ่งมาและตะโกนเหมือนปกติ"
เรื่องราวของความรักเกิดขึ้นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าง นิค และนักเจรจาของกรมตำรวจ ไลเดีย เมอร์เซอร์ (อลิซาเบธ แบงค์ส) ที่ นิค ขอให้มาช่วยเจรจา โดยเธอก็เพิ่งทำงานพลาดจนทำให้คนกระโดดลงมาเสียชีวิต โบนาเวนทูร่า เล่าว่า "นิค เลือก ไลเดีย เพราะเขารู้สึกว่าเธอต้องเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ในขณะเดียวกันเรื่องราวในอดีตของพวกเขาก็กลายเป็นตัวแปรที่สำคัญเช่นกัน"
Man on a Ledge เป็นผลงานการกำกับของ แอสเจอร์ เลท ที่มีผลงานการทำสารคดีมาก่อน นี่คือการตัดสินใจของผู้สร้างที่นำความสมจริงใส่เข้ามาในสถานการณ์ มาร์ค วาห์ราเดี้ยน หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างเล่าว่า "สิ่งที่ แอสเจอร์ นำเข้ามาก็คือรายละเอียดที่ล้ำลึกตามสไตล์ผู้กำกับสารคดี เขามีความสามารถในการเลือกเอาส่วนที่น่าสนใจจากภาพรวม และนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
โบนาเวนทูร่า ก็รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นของผู้กำกับ ในผลงานหนังบล็อคบัสเตอร์เรื่องแรก "เขาไม่ใช่คนที่คอยหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และนั้นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลาแบบนี้ คุณต้องการผู้กำกับที่มีความกล้า พวกเราชอบที่เขานำเอาความกล้าและความใส่ใจในรายละเอียดมาใช้"