แนวโน้มราคาทองคำยังอ่อนตัวลงอีก

นักลงทุนตามติด ปัญหาหนี้ยุโรปยังส่งผลกดดันราคาทองคำ แนวโน้มระยะสั้น อยู่ในกรอบ 1,588 – 1,640 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,588 – 1,640 หากหลุด 1,588 แนะนำนักลงทุนให้ปิด Long  เพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือรอเปิด Short เมื่อราคาเด้งขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,624/1,630/1,640

นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด  เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาด COMEX  มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,605.70  – 1,624.60  USDต่อออนซ์ ภาพทางเทคนิคยังอ่อนแอเมื่อราคาปิดลดต่ำลง และปิดใกล้จุดต่ำสุดของวัน รวมถึงเมื่อไปแตะเส้น MA 200 วัน เมื่อวันศุกร์แล้วยังผ่านไปไม่ได้ ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีก ส่วนปัจจัยพื้นฐานราคาปิดลดลง ส่วนทางค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง และตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับบวกขึ้นได้ นักลงทุนยังให้ความสนใจต่อการแก้ปัญหาในยูโรโซน เมื่อผลการประชุมระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมันเมื่อวานนี้ กำหนดจะให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ในด้านการคุมเข้มวินัยด้านงบประมาณของ EU ภายในการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันที่ 30 ม.ค. นี้และจะมุ่งเน้นในเรื่องการเพิ่มการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้อ่อนตัวลงเมื่อ เยอรมันและฝรั่งเศสเตือนกรีซว่า อาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออีก จนกว่ากรีซจะทำข้อตกลงกับธนาคารเจ้าหนี้ในเรื่องการ swap พันธบัตร

ส่วนความกังวลในเรื่องความกังวลในเรื่องหนี้ของยุโรปนั้นยังคงกดดันราคาทองคำ คาดว่ากรอบความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 1,570 – 1,640 คาดว่าถ้าหลุดแนวรับบริเวณ 1,605/1,600 จะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,588 และ 1,570  ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,624/1,630 / 1,640 แนวโน้มสัปดาห์นี้มีโอกาสอ่อนตัวทดสอบแนวรับ แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,570 – 1,640 หรือรอเปิด Short เมื่อราคาเด้งขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,624/1,630/1,640

โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ การอ่อนตัวของราคาน้ำมันแม้ว่าอิหร่านขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ แต่การประกาศรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันออกมาลดลง ทำให้มีความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันจะลดลงจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน อีซีบีวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะเวลา 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์เป็นรอบที่ 2 มูลค่าสูงถึง 6 แสนล้านยูโร (ประมาณ 7.6676 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มฐานเงินทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีอย่างต่อเนื่อง เช่น ดัชนีการจ้างงาน ยอดกู้ยืมเงินของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น   

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุมของธนาคารยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสนี้ และการประมูลขายพันธบัตรของอิตาลีและสเปนในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่  วันอังคาร สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ย. วันพุธ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. วันศุกร์ การค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค.

ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.10 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 28.78  USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 28.55 – 29.21 USDต่อออนซ์  ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,516.75 ตัน  ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 28.6/28.2 แนวต้านบริเวณ  29.7/ 30.2  แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 28.2 – 30.2 ส่วนนักลงทุนระยะกลางรอเปิด Short เมื่อราคาเด้งขึ้นสู่แนวต้าน โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ แนวรับ SPDR  ถือทองคำจำนวนเท่าเดิมที่ 1,254.57 ตัน

กลุ่มบริษัท คลาสสิก โกลด์ ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมานาน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุนรวมไปถึงการจัดสัมมนาฟรี!! ทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง www.classicgoldfutures.go.th “Classic Gold Futures อนาคตทอง เรามองขาด