บทสัมภาษณ์ “ฉัตร” ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร รับบทเป็น “หมอก” ในภาพยนตร์เรื่อง “The melody รักทำนองนี้”
คาแรกเตอร์ที่ได้รับในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ในเรื่องนี้ฉัตรมารับบทเป็น “หมอก” ค่ะ หมอกจะเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี อ่อนโยน เข้าใจและแคร์ความรู้สึกของคนอื่น เป็นคนที่มีความสุขเมื่อเห็นคนรอบข้างมีความสุข หมอกเป็นหญิงสาวที่มารักษาตัวอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความสามารถในด้านดนตรี มีพรสวรรค์ ความสุขของเธอคือการแบ่งปันสิ่งต่างๆ ที่เธอสามารถทำได้ให้กับคนรอบข้าง และใช้เสียงเพลงบรรเทาความทุกข์ให้กับคนทุกคน เป็นคนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีจุดหมายในชีวิต หมอกเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่รักและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งนึงที่หมอกทำได้ดีคือการเล่นดนตรีที่ให้ความสุขกับทุกๆ คน หมอกค้นพบตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เธอต้องการ และวันนึงเสียงดนตรีของหมอกก็ทำให้หมอกได้เจอกับใครดีๆ สักคนนั่นก็คือ “วิน”
ก่อนหน้านี้เคยเล่นแต่ละครและโฆษณาทางทีวีมา พอมาเล่นภาพยนตร์เป็นยังไงบ้าง
จากที่ฉัตรเคยเล่นละครและโฆษณามา พอมาเล่นหนังฉัตรถึงได้รู้ว่ามันยากกว่าสิ่งที่ฉัตรเคยทำมา เพราะอย่างการถ่ายทำละครก็ต้องใช้กล้อง 3 ตัว เล่นแค่เพียงครั้งหรือสองครั้งก็ผ่านแล้ว แต่ภาพยนตร์คล้ายกับการถ่ายโฆษณาเพียงแต่โฆษณามันเหมือนซีนสั้นๆ ซีนเดียวแล้วจบ แต่ภาพยนตร์มันมีฉากต่อเนื่อง มีการใช้กล้องแค่เพียงตัวเดียว เราต้องเล่นหลายรอบมาก แล้วเราต้องจำอารมณ์ที่เราเล่นไปให้ได้ ถ้าเล่นไม่เหมือนกันก็ต้องย้อนเทปกลับไปดู แล้วพอเล่นซีนนี้เสร็จก็ต้องจำให้ได้อีกว่าต่อไปจากฉากนี้เป็นฉากอะไรรู้สึกยังไงต่ออีก ขั้นตอนมันซับซ้อนมากความละเอียดที่ต้องแสดงออกทางอารมณ์มันมากกว่า
แตกต่างกันในเรื่องของคาแรกเตอร์ด้วย อย่างตัวละครที่ชื่อว่า “วินดี้” ในเรื่องใต้ฟ้าตะวันเดียวผลงานที่ผ่านมาของฉัตร กับตัวบทของหมอกในเรื่องนี้มีความต่างกันเยอะมาก วินดี้จะมีลักษณะใกล้เคียงกับฉัตรมากกว่าเพราะจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเหมือนชีวิตของวัยรุ่นทั่วไปมากกว่า แต่คาแรกเตอร์ของหมอกจะเป็นผู้หญิงที่มีความคิดโตเกินกว่าตัว เป็นคนเข้าใจโลกที่ออกจะเป็นแนวปลงชีวิตด้วยซ้ำ เหมือนว่าหมอกถึงจุดอิ่มตัวของเขาแล้วในเรื่องของความคิดอะไรหลายๆ อย่าง ก็เลยรู้สึกว่าบทของหมอกเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยากกว่าและโตกว่าฉัตรเยอะ เขาจะคิดอะไรซับซ้อนหลายชั้นเอาไว้แต่ไม่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็น มันมีมิติมีอีกคนนึงอยู่ในตัวเขามันเลยยากมากสำหรับฉัตรค่ะ
มีอุปสรรคหนักใจในการรับบทนี้บ้างไหม
ปัญหาที่ติดบ่อยๆ เลยคือเรื่องของความลึกในอารมณ์ของตัวหมอก อย่างฉัตรเวลาวิเคราะห์ตัวละครอาจจะคิดได้ตื้นเกินไป มันมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวหมอกเขา แต่เราคิดไม่ถึง เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้บางอย่างมันจินตนาการไปไม่ถูก แรกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี พี่โอ๊คผู้กำกับ (ทศพล ศรีสุคนธรัตน์) จะต้องคอยบอกคอยเตือนอยู่เสมอค่ะ อย่างเวลาเล่นพี่โอ๊คจะแนะนำหลายอย่างมาก จริงๆ เขาจะปล่อยให้เราเล่นไปตามความเข้าใจของเราก่อน แล้วถ้ามันไม่ใช่ตรงไหนเขาก็จะพยายามอธิบายอย่างง่ายให้มันชัดเจนขึ้น ให้ฉัตรเข้าใจได้มากที่สุด
ดราม่าหนักมากไหนเรื่องนี้สำหรับฉัตร จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นบทที่หนักทางดราม่ามากเกินไป มีบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าหนัก เพราะส่วนใหญ่เนื้อเรื่องจะเน้นความผูกพันของพระเอกนางเอกมากกว่า ความเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความรักที่ทำให้ใครสักคนเปลี่ยนมุมมองใหม่ได้ อารมณ์หนักๆ น่าจะเป็นของพี่แดนมากกว่า
บุคลิกของฉัตรออกจะขี้เล่นบ้างมากกว่าโรแมนติกหรือเปล่า
ใช่ค่ะจริงๆ ฉัตรเป็นคนไม่ค่อยโรแมนติกเลย ออกจะขี้เล่นและมีมุมที่ห้าวๆ โก๊ะๆ ด้วยซ้ำ มุมโรแมนติกหรือหวานๆ เท่าที่จำได้แทบไม่มีเลย (หัวเราะ) พอมาเล่นบทแบบนี้ก็จะรู้สึกว่าขัดกับบุคลิกของตัวเอง แต่ก็ตั้งใจที่จะเล่นบทแบบนี้มาก
แล้วก่อนถ่ายมีการไปเวริกช็อปล่วงหน้าบ้างไหม
ก่อนที่จะมีการถ่ายทำก็จะมีการเวิรกช็อปกันก่อน มาทวนบทด้วยกันกับพี่แดน พี่โอ๊คจะบอกความรู้สึกของแต่ละฉาก และก็คุยในเรื่องของคาแรกเตอร์ และคุยเรื่องราวของบททั้งหมด แต่ละซีนแต่ละอารมณ์แตกต่างกันยังไงบ้าง แต่เข้าฉากจริงไม่มีแอคติ้งโค้ช ก็ต้องทวนเรื่องราวเอาเอง พี่โอ๊คกับพี่แดนก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้เยอะค่ะ
มารับบทเรื่องนี้ได้ยังไง
ตอนนั้นมีคนบอกให้มาลองแคสเรื่องนี้ดู ตั้งแต่ปี 52 ฉัตรเพิ่งจะอายุ 17 เอง เรื่องนี้ผ่านมานานมากใช้เวลากว่า 2 ปีกว่าจะได้ถ่ายทำจริงจัง ตอนมาแคสติ้งฉัตรยังไม่รู้เลยค่ะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร บทเป็นยังไง ก็ได้มาอ่านบทวันแคสติ้งนิดหน่อย ตอนนั้นพี่โอ๊คให้โจทย์มาว่าฉัตรสนิทกับน้องอายุเกือบ 10 ขวบคนนึงชื่อว่าน้องพลอย เป็นคนที่สนิทกันมากแล้วน้องก็ป่วยต้องเข้ารับการรักษา เราซึ่งสนิทกับน้องพลอยมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องพลอยมารู้ทีหลังน้องพลอยก็อาการหนักมากแล้ว ต้องแสดงอารมณ์ดราม่าร้องไห้อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วพี่โอ๊คก็มีให้ร้องเพลง อยู่ๆ ก็บอกให้ร้องเพลงขึ้นมา 1 เพลง ฉัตรก็คิดอยู่ตั้งนานว่าจะร้องเพลงอะไรดี ซึ่งจริงๆ ฉัตรร้องเพลงไม่เก่งเลย การร้องเพลงเป็นเรื่องที่ยากมาก ตอนนั้นร้องเพลง “กว่าจะรักกัน” เพราะช่วงนั้นเพิ่งจบม.6 มาใหม่ๆ กำลังอินกับเพลงนี้เลย พี่โอ๊คยังแซวว่าเลือกร้องเพลงได้เก่ามาก (หัวเราะ) เลือกเพลงเก่าประมาณรุ่นพี่โอ๊คเลยนะ
ตอนนั้นรู้เหตุผลไหมว่าทำไมพี่โอ๊คถึงเลือกฉัตรมาเป็นนางเอกเรื่องนี้
ตอนนั้นไม่รู้ค่ะ มารู้ทีหลังพี่โอ๊คเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นฉัตรในโฆษณาตัวนึงทางโรงภาพยนตร์แล้วชอบมากอยากได้มาแคสบทนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาฉัตรจากไหน ติดต่อยังไงก็ไม่มีใครรู้ แล้ววันนึงฉัตรก็มาแคสติ้งพี่โอ๊คก็ดีใจมาก ถามฉัตรว่ามาได้ไง (หัวเราะ) แต่ที่ฉัตรอึ้งไปกว่านั้นคือ พี่โอ๊คบอกว่าที่เลือกฉัตรเพราะฉัตรหน้าป่วย ตอนแรกที่ได้ยินตกใจมากทำไมต้องหน้าป่วย หน้าเราไม่ดีหรือว่ามันยังไงหรอ แต่พี่โอ๊คอธิบายว่าหน้าป่วยของเขาไม่ได้หมายถึงคนป่วย แต่หมายถึงดูแล้วเชื่อว่ามีความน่าสงสาร เห็นแล้วเชื่อว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แล้วปรกติฉัตรเป็นคนหน้าซีดอยู่แล้วด้วย แต่งหน้าให้ป่วยง่ายดี (หัวเราะ) อันนี้เป็นเหตุผลหลักที่เลือกฉัตรหรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ