du_sit on December 14, 2011, 08:01:03 PM


เบนท์ลี่ย์ จีทีซี เปิดประทุน (BENTLEY GTC CONVERTIBLE) อวดโฉมในงาน
มหกรรมยานยนต์ LA SHOW
มูซานรุ่นพิเศษ Mulsanne Executive Interior Concept พร้อมหรูหราที่
โดดเด่นด้วยโลกแห่งการเชื่อมต่อสื่อสาร
รุ่นใหม่ที่สร้างยอดขายให้เติบโตขึ้นถึง 33%








Los Angeles : เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ เปิดตัวคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดสู่สายตาชาวโลกที่ Los Angeles Convention Center ในประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งได้นำมูซาน (Mulsanne) รุ่นพิเศษคือรุ่นที่สร้างจากแนวคิดของห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างรุ่น Mulsanne Executive Interior Concept ที่เต็มไปด้วยโลกแห่งการเชื่อมต่อสื่อสารภายในห้องโดยสารที่หรูหราอย่างมีระดับ และเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยมมาแสดงโชว์ในงานนี้ด้วยเช่นกัน   

“เมือง Los Angeles คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเบนท์ลี่ย์ในการนำรถยนต์เปิดประทุน จีทีซี (GTC) ที่หรูหราและทรงพลังมาเปิดตัวในครั้งนี้” Alasdair Stewart สมาชิกบอร์ดฝ่ายขายและการตลาดกล่าว “เบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในมลรัฐแคลิฟอร์เนียใต้นี้ อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดที่เบนท์ลี่ย์ทำยอดขายได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย ดังนั้นการนำรถรุ่นใหม่มาแสดงโชว์ในครั้งนี้ อาทิเช่น รุ่นเปิดประทุนอย่าง จีทีซี (GTC) ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดในปลายปี และรุ่นจีที (GT) คูเป้ใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา จะเป็นรุ่นที่ผลักดันยอดขายทั่วโลกของเบนท์ลี่ย์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 ได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน”

ยอดขายที่เติบโต
ยอดขายของเบนท์ลี่ย์จนถึงเดือนตุลาคมนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้นถึง 33% หรือยอดขายที่ 5,379 คัน ซึ่งใกล้ต่อเป้ายอดขายทั้งปีที่บริษัทตั้งไว้ที่ 7,000 คันเข้าไปทุกที ยอดขายในสหรัฐอเมริกาเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายของรุ่นคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คูเป้ใหม่ล่าสุดที่ทำยอดขายสูงถึง 37% ของยอดขายทั้งหมดถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาถือได้ว่าเป็นตลาดใหญ่สำหรับเบนท์ลี่ย์รุ่นเปิดประทุนด้วยยอดขายที่ถล่มทลายจากรุ่นก่อนที่ผ่านมา ดังนั้นตลาดนี้จึงกลายเป็นตลาดหลักที่เบนท์ลี่ย์พร้อมส่งรุ่นคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) เข้าไปโกยยอดขาย อีกทั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกานี้เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โชว์รูมได้รับการขยายให้มากขึ้นถึง 48 แห่งและแห่งสุดท้ายที่เพิ่งเปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้คือ Bentley Nashville นั่นเอง

อีกหนึ่งตลาดที่เบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือตลาดในประเทศจีนที่มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมหาศาล นั่นคือการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าปี 2010 ถึง 90% ข้ามฟากกลับมายังยุโรปเบนท์ลี่ย์สร้างยอดขายได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน ยอดขายในประเทศเยอรมนีสูงขึ้นประมาณ 60% และส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับหรูในประเทศอังกฤษนั้นเบนท์ลี่ย์สามารถเข้าไปครอบครองได้มากกว่า 25% เลยทีเดียว

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีทีซี (Bentley Continental GTC) 2012
ในการเปิดตัวในมหกรรมยานยนต์ LA Auto Show นี้ทุกสายตาต้องจ้องมาที่คอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสี Breeze-colored และมีการตกแต่งเป็นพิเศษสร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย ด้านหน้าโดดเด่นด้วยตัวถังหน้าด้านข้างที่ทำจากอลูมีเนียมเพิ่มความลงตัวให้กับเส้นสายทางด้านหน้ารถ ส่วนทางด้านหลังได้รับการออกแบบแบบ double-horseshoe design ที่เคยเห็นเป็นครั้งแรกในรุ่นมูซาน (Mulsanne) 

ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นนี้ จีทีซี (GTC) คันนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นด้วยเช่นกัน อัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์นั้นทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.5 วินาทีเท่านั้น ขุมพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 567 แรงม้า ระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์มาในรูปแบบ Quickshift หรือการเปลี่ยนระดับเกียร์ด้วยความรวดเร็วเพื่อพัฒนาการตอบสนองต่ออัตราเร่งให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นและลดเวลาในการเปลี่ยนระดับเกียร์ลงเหลือเพียงแค่ 200 มิลลิวินาทีเลยทีเดียว  ตัวถังของจีทีซี (GTC) ถือได้ว่ามีความแข็งแรงมั่นคงมากที่สุดในบรรดารถเปิดประทุน ตัวถังที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจะทำหน้าที่ควบคุมระบบช่วงล่าง ลดการสั่นสะเทือน และช่วยให้รถจีทีซี (GTC) คันนี้รักษาเสถียรภาพของรถในยามขับเคลื่อนได้อย่างดีเยี่ยม

ภายในห้องโดยสารของจีทีซี (GTC) ได้รับการตกแต่งด้วยงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมจากเนื้อไม้และหนังชั้นเลิศตามแบบฉบับความเป็นเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เทคโนโลยีระดับชั้นนำต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาภายในห้องโดยสารให้โดดเด่นเช่นเดียวกัน อาทิเช่น ระบบความบันเทิงหรือ infotainment system มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบระบบสัมผัส ระบบค้นหาเส้นทางแบบป้อนรหัสไปรษณีย์เพื่อง่ายต่อการค้นหาเส้นทางที่มาพร้อมกับหน่วยความจำที่สูงถึง 30 กิกกะไบต์ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกๆ ฤดูและสภาวะอากาศ เบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบในรูปแบบ cobra-head  ของจีทีซี (GTC) จะมาพร้อมกับระบบ Neck Warmers ที่ให้ความอบอุ่นต่อลำคอผู้นั่งและติดตั้งอยู่ทางด้านหลังของที่พักศรีษะอีกด้วย เบนท์ลี่ย์ได้เพิ่มนวัตกรรมใหม่ เข้าไปช่วยในเรื่องของเสียงอคูสติกเพื่อความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสาร เมื่อเปิดหลังคาระบบเสียงที่อยู่ภายในห้องโดยสารจะไพเราะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะการเพิ่มแผ่นป้องกัน acoustically-sensitive undersheet เข้าไป รวมไปถึง wheel liners และแก้วทางด้านหน้าและด้านข้าง  อีกทั้งหลังคายังมีโครงสร้างถึง 3 ชั้นและชั้นกลางนั้นทำจาก rubber-film นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอีกด้วย






เบนท์ลี่ย์ จีทีซี เปิดประทุนใหม่จะเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการปลายปี 2011 นี้

แนวคิดห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne: Mulsanne Executive Interior Concept)

ในมหกรรมยานยนต์ LA show นี้เบนท์ลี่ย์ได้นำเบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne) ที่ได้รับการสร้างและตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษตามแนวคิดห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่นคือ Mulsanne Executive Interior Concept มาแสดงโชว์ในงานนี้ด้วย อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นการอวดโฉมนอกยุโรปเป็นครั้งแรกสำหรับมูซาน (Mulsanne) เวอร์ชั่นพิเศษนี้อีกด้วย แนวคิดการเชื่อมต่อและการสื่อสารต่างๆ ทำให้การออกแบบในรถคันนี้มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของความสะดวกสบาย ความบันเทิงและการใช้งานในด้านธุรกิจ โดยลูกค้าสามารถทำงานได้เมื่ออยู่ในรถ หรือประชุมในรถได้อย่างสะดวกสบายในห้องโดยสารของรถคันนี้ที่ใช้เวลาในการสร้างขึ้นมากว่า 170 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เบาะหลังสำหรับผู้โดยสารของมูซาน (Mulsanne) มีการติดตั้ง Apple iPad workstations ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เนต (ผสมผสานเข้ากับโต๊ะทำงานขนาดปิกนิคที่พับเก็บได้) มาพร้อมกับหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ที่พับเก็บขึ้นด้านบนได้เช่นกัน หน้าจอยังสามารถใช้งานในการเลือกหนัง รวมไปถึงช่องโทรทัศน์ที่ต้องการรับชมได้อีกด้วย

เบนท์ลี่ย์ได้เติมเต็มด้วยการใส่ใจในการเพิ่มรายละเอียดและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อห้องโดยสารที่สมบูรณ์แบบและหรูหราอย่างมีระดับให้มากที่สุดอีกด้วย อาทิเช่น ภายในที่พักแขนตรงกลางจะมีปากกาสุดหรูจาก Tibaldi fountain pen ที่ได้รับการผลิตออกมาเป็นคอลเลคชั่นพิเศษโดยมีแรงบันดาลใจมาจาก knurled-metal rotary switchgear ของมูซาน (Mulsanne) คันนี้ติดตั้งมาด้วย อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกของเบนท์ลี่ย์ที่ทำการตกแต่งด้วยการใช้เนื้อไม้วีเนียร์รูปแบบ Yachting-style ที่มีทั้งสีอ่อนและสีเข้มตัดกันได้อย่างลงตัวมาตกแต่งในรถคันนี้ด้วยเช่นกัน   

ทั้งคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดนี้และมูซาน (Mulsanne) เวอร์ชั่นพิเศษอย่าง Mulsanne Executive Interior Concept จะแสดงโชว์อยู่ที่บูธของเบนท์ลี่ย์ใน Concourse Hall ของศูนย์แสดงสินค้า Los Angeles Convention Centre

ข้อความจากผู้เขียน

1.   เบนท์ลี่ย์มอเตอร์คือบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่เปิดทำการมานาน และมีการลงทุนเพื่อการพัฒนามาเป็นอันดับสาม บริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของบริษัท ประกอบด้วยแผนกออกแบบ แผนกวิจัยและพัฒนา วิศวกร และโรงงานผลิต เกือบทุกชิ้นส่วนของรถทำจากงานฝีมือของช่างที่มีความเชี่ยวชาญมาหลายยุคหลายสมัย รถทุกคันยังได้รับการพัฒนาขึ้นจากวิศวกรยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแตกต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูหราค่ายอื่นๆ รถยนต์จากเบนท์ลี่ย์คือรถยนต์จากอังกฤษที่มีคุณค่าสูง เบนท์ลี่ย์ได้ส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ในแต่ละปีเพื่อสร้างฐานตลาดให้มากขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกา เช่น เจาะตลาดในประเทศจีน และประเทศทางอเมริกาใต้

2.   บริษัท Bentley Motors, Inc. คือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์ในอเมริกา 1 ใน 3 คันของรถที่ส่งมอบให้ลูกค้าทั่วโลกคือรถที่ส่งมอบให้กับลูกค้าในอเมริกา ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเบนท์ลี่ย์ สำนักงานใหญ่ของบริษัท Bentley Motors, Inc. ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน (Boston) มีพนักงานกว่า 35 คนและมีโชว์รูมกว่า 48 แห่งทั่วภูมิภาค ยอดขายส่วนใหญ่ของภูมิภาคนี้ได้มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมลรัฐแคลิฟอร์เนีย มลรัฐนิวยอร์ค และมลรัฐฟลอริด้าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง 

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาความงามและความโดดเด่นอย่างหรูหรามีระดับของเบนท์ลี่ย์ ได้ที่โชว์รูมเบนท์ลี่ย์ อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ถ.อโศก หรือ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมบริการ (Service Teams) ที่มากประสบการณ์พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯเท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น  ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง
เอเอเอสฯ ได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-522-6703,  02-610-9911




du_sit on December 14, 2011, 08:11:46 PM


แนวคิดการออกแบบภายในห้องโดยสารสำหรับผู้บริหารของมูซาน (Mulsanne Executive Interior Concept) ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ International Automobile Exhibition (IAA) Frankfurt





เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ นำเสนอการออกแบบแนวคิดการเชื่อมโยงมัลติมีเดีย (multimedia connectivity concept) ใหม่ล่าสุดสำหรับผู้บริหารเพื่อความเพลิดเพลินในห้องโดยสารของรถที่เต็มไปด้วยความหรูหรา และเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยม อย่างมูซาน (Mulsanne) รถยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์และผลงานชิ้นสำคัญของเบนท์ลี่ย์ในงานมหกรรมยานยนต์ แฟร้งค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ที่ผ่านมา 

แนวคิดการออกแบบภายในห้องโดยสารสำหรับผู้บริหารของมูซาน (Mulsanne Executive Interior Concept) คือการนำเสนอฟังก์ชั่นการทำงานที่มากมายและน่าประทับใจ ซึ่งตรงกับการใช้งานและช่วยในเรื่องของธุรกิจ ที่มาพร้อมความสะดวกสบาย และการสร้างความบันเทิงให้กับห้องโดยสารที่มากขึ้นอีกด้วย สำหรับการออกแบบยังเน้นในเรื่องของการสร้างความสะดวกสบายในการทำงานหรือการประชุมถึงแม้จะอยู่ในรถ ด้วยการบูรณาการฟังก์ชั่นการทำงานเหล่านี้เข้ามาในห้องโดยสารที่สวยงามหรูหรา และถูกรังสรรขึ้นมาอย่างปราณีตจากช่างฝีมือเบนท์ลีย์ที่สร้างผลงานชิ้นนี้กว่า 170 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ด้านเบาะหลังสำหรับผู้โดยสารในรถมูซาน (Mulsanne) คันนี้จะมีที่ทำงานสำหรับวาง Apple iPad ส่วนตัวและสามารถเชื่อมโยงต่ออินเตอร์เน็ตได้ (อยู่บนโต๊ะทำงานขนาดปิคนิคที่สามารถพับเก็บได้) อีกทั้งยังมีหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนลงมาจากที่เก็บสัมภาระบนหลังคาได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการชมโทรทัศน์หรือดูหนังได้อย่างสุนทรีย์





 
เบนท์ลี่ย์ให้ความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดที่เพิ่มเติมสำหรับห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร รวมไปถึงการเพิ่มอุปกรณ์ที่สัมผัสได้ถึงความหรูหราด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ปากกา Tibaldi ซึ่งผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมกับความหรูหราของภายในห้องโดยสารในรถมูซาน (Mulsanne) คันนี้ อีกทั้งเนื้อไม้ Veneer แบบ Yatching-style ได้รับการติดตั้งในรถเบนท์ลี่ย์เป็นครั้งแรก ซึ่งสีของเนื้อไม้นี้จะให้ทั้งโทนสว่างและเข้มได้อย่างลงตัวทั่วทั้งห้องโดยสารเลยทีเดียว  Alasdair Stewart, สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า:

“ลูกค้าส่วนมากใช้เวลาของพวกเขาในรถมูซานเพื่อทำงานที่สำคัญๆ อยู่ตลอดเวลา หรือต้องการเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งในการพักผ่อน สิ่งเหล่านี้จึงนำไปสู่แนวคิดที่จะพัฒนาให้มูซานของเรานั้นสามารถช่วยให้ผู้บริหารที่ยุ่งกับงานเสมอสามารถที่จะทำการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วได้ขณะที่กำลังเดินทาง ซึ่งอุปกรณ์ที่มีความโดดเด่นเหล่านี้จะถูกติดตั้งให้กลมกลืนอยู่ในห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นสูง และสามารถพับเก็บหรือเก็บซ่อนไว้ได้หากไม่ต้องการใช้งานอีกด้วย”






คุณสมบัติหลักๆ ในการให้ความบันเทิงและความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงการใช้งานในด้านธุรกิจ 

•   โต๊ะทำงานขนาดย่อม 2 ตัวที่ปรับพับโดยระบบไฟฟ้า ทำจากเนื้อไม้ Veneer สามารถพับเก็บได้ ถูกติดตั้งที่ห้องโดยสารด้านหลัง แต่ละโต๊ะจะติดตั้ง Apple iPad และแป้นพิมพ์ Apple แบบเชื่อมต่อโดยบลูทูธมาด้วย 
•   เครื่อง iPads ทั้ง 2 เครื่องจะทำงานเสมือน Apple Media Centre เพื่อทำการเล่นไฟล์วีดีโอ ไฟล์เพลง รวมไปถึงการจัดหาการเชื่อมต่อเข้าสู่อีเมล์ส่วนตัวหรืออีเมลล์งาน รวมไปถึงการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ทได้อีกด้วย (ผ่าน W-Lan)
•   Apple Mini Mac ถูกติดตั้งอยู่ในที่เก็บสัมภาระเพื่ออำนวยการทำงานของ iPad ที่มาพร้อมกับแป้นพิมพ์แบบเชื่อมต่อโดยบลูทูธ และเครื่อง iPod ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอนโซลทางด้านหลัง
•   หน้าจอ LED ความละเอียดสูงขนาด 15.6 นิ้วจะถูกจัดเก็บบนที่ช่องเก็บสัมภาระติดกับหลังคา ซึ่งจอนี้สามารถเล่นวีดีโอ จากเครื่องเล่นดีวีดีหรือ Mac Mino ได้ รวมไปถึงสามารถชมโทรทัศน์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

คุณสมบัติทางด้านความสะดวกสบาย การควบคุมการทำงาน และการเก็บรักษา

•   คอนโซลกลางทางด้านหลังมาพร้อมกับไฟส่องสว่าง อีกทั้งยังติดตั้งที่พักแขนคู่สำหรับการพักผ่อนที่สะดวกสบายตามหลักของรถยนต์ 4 ที่นั่งทุกประการ
•   คอนโซลทางด้านหลังยังเป็นที่เก็บเครื่อง  Apple iPod (control panel) ที่วางแก้ว 2 ช่อง กล่องกระดาษ และที่วางของขนาดใหญ่อีกด้วย
•   การควบคุมการทำงานโดย Apple iPod ที่ทำหน้าที่ควบคุมการใช้งานของระบบให้ความบันเทิงทางด้านเบาะหลังหรือ Rear Seat Entertainment (RSE) และระบบเสียง รวมไปถึง Apple Media Centre ที่ทำการเล่นเพลงและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 
•   จุดเชื่อมต่อ USB มีถึง 2 จุดสำหรับการเชื่อมโยงการทำงานของระบบ Apple และ iPod
•   กุญแจควบคุมบนคอนโซลทางด้านหลังจะทำการควบคุมการทำงานของโต๊ะทำงานและไฟส่องสว่างสำหรับอ่านหนังสือ อีกทั้งยังควบคุมการทำงานของหน้าจอ LED แบบ HD และเลือกการทำงานระหว่างวีดีโอหรือระบบเครื่องเสียงเป็นต้น
•   ปากกาหรู Tibaldi และโทรศัพท์ถูกจัดเก็บไว้ในที่พักแขน
•   ตู้เก็บความเย็นสำหรับแช่เครื่องดื่มพร้อมไฟส่องสว่างถูกติดตั้งที่คอนโซลกลางทางด้านหลัง
•   หลอดไฟที่ให้ความสว่างเพิ่มเติมได้ถูกติดตั้งไว้สำหรับผู้โดยสารทางด้านหลังทั้ง 2 ที่นั่ง และสามารถเรียกใช้งานผ่านเครื่อง Apple ได้
•   ระบบไฟส่องสว่างแบบ mood lighting ได้รับการติดตั้งในคอนโซลกลางทางด้านหลังเช่นกัน (ใช้หลอดไฟแบบ LEDs ที่ให้ความสว่างแบบนุ่มนวล) เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่เก็บสัมภาระและที่วางแก้วมีไฟส่องสว่างเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานที่มากขึ้น