MOVIE: “แวมไพร์ สตรอเบอร์รี่”
แนวภาพยนตร์ แอ็คชั่น คอมเมดี้
ผู้สร้าง บริษัท ทริปเปิล เอส กรุ๊ป จำกัด
จัดจำหน่าย บริษัท อภิชามณี จำกัด
อำนวยการสร้าง ธีรวัฒน์ สันติชีวะวงศ์
พ.ต.ท. พงศ์รวิช ชัยกิตติธนานันท์
โปรดิวเซอร์ วิดิฐ ธัญพันธุ์
กำกับภาพยนตร์ วิดิฐ ธัญพันธุ์
อิทธินพ โอภาส (เด็กสร้างของ ติ๊ก กลิ่นสี)
บทภาพยนตร์ ชนะชัย
ดูแลด้านกฎหมาย พ.ต.ท. พงศ์รวิช ชัยกิตติธนานันท์
ที่มาของ...แวมไพร์ สตรอเบอร์รี่
“แวมไพร์” หมายถึง...มนุษย์ที่ตายไปแล้ว แต่โดนวิญญาณชั่วร้ายชุปชีวิตขึ้นมาใหม่ กลายเป็นที่ผีดิบที่ต้องดื่มเลือดของหญิงสาว เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต
“สตรอเบอร์รี่” หมายถึง...ความสดใส น่ารัก ซุกซน ของเด็กวัยบริสุทธิ์ ที่ทำอะไรลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เกิดเรื่องราว ที่ร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง
สิ่งที่ภาพยนตร์อยากนำเสนอ คือให้คติสอนใจ สอดแทรกด้วยเนื้อหาสาระ และ คำสั่งสอนของพุทธศาสนา ที่ชี้ให้เห็นว่า การทำอะไร ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผลที่ตามมาคือ ความเสียหายและพ่ายแพ้ ถ้าชีวิตอยู่ในช่วงดวงกำลังตกอาจมีสิ่งไม่ดีเข้าครอบงำได้ง่าย หรือที่เรียกว่า...ลมเพลมพัด (โดนของ) ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับบางสิ่งบางอย่าง อาจทำให้เกิดผลกระทบไปในทางที่ไม่ดีก็เป็นได้
เรื่องย่อ
เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา...อาจารย์คง (สมชาย ศักดิกุล) ได้เล่าเรียนวิชาอาคม เพื่อปราบพวกผีปีศาจที่คอยหลอกหลอน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะ ผีดิบแวมไพร์ (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) อาจารย์คงได้สะกดวิญญาณไว้ในโลงศพที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง แต่อาจารย์คงลืมเอาคัมภีร์คาถาสะกดวิญญาณกลับมาด้วย และคิดว่าคงไม่มีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับตึกร้างแห่งนี้ เพราะแค่เห็นโลงศพก็หนีกระเจิงกันแล้ว และคงไม่มีใครอุตริอ่านคาถาย้อนจากหลังไปหน้าแน่นอน
เสือ (ชาติชาย งามสรรพ์) และ สิงห์ (วิดิฐ ธัญพันธุ์ ) ศิลปินรุ่นเก่าตกยุค ที่ไปร้องเพลงที่ไหนก็ไม่มีใครอยากฟัง จึงถูกไล่ออกจากงานเพราะมีเรื่องกับแขกตลอด เสือมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แม่ตาเป็นต้อกระจกกำลังรอการรักษา แอน (แอนนี่ บรู๊ค) ภรรยาสาวกำลังท้อง เสือกับสิงห์หาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจชั่ววูบเข้าปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง พอดี ผู้กองวุฒิ (เสกสรร สุทธิจันทร์) อยู่ในที่เกิดเหตุจึงตามจับเสือกับสิงห์ ส่วน จ่าดาบ (แอนนา ชวนชื่น) มาเจอเหตุการณ์เช่นกัน แต่ไม่กล้าตามได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ มะเหมี่ยว (รภัทร เอกนิธิเศรษฐ์) นักข่าวสาว และ เพื่อนคู่หู (หนูเล็ก ก่อนบ่าย) ได้ตามไปทำข่าวแบบเกาะติดสถานะการณ์ เสือกับสิงห์หนีไปที่ตึกร้างและยิงต่อสู้กับตำรวจ แต่ชะตาขาดจึงถูกยิงตายทั้งสองคน
ในขณะนั้น อ้วน (อาไท กลมกิ๊ก) กับ ผอม (ริชาร์ด เกียนี่) สองเด็กน้อยจอมซน ได้ไปเล่นฟุตบอลใกล้กับตึกร้าง บังเอิญลูกบอลลอยตกเข้าไปในตึกร้าง อ้วนกับผมจึงตามเข้าไปเก็บด้วยความเสียดาย ทำให้เจอคัมภีร์คาถาสะกดวิญญาณ อ้วนหยิบขึ้นมาอ่านจากหลังไปหน้า ทำให้วิญญาณของผีดิบฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และเข้าสิงร่างของเสือกับสิงห์ทันที ทำให้ร่างของเสือกับสิงห์หายไป สร้างความแปลกใจให้กับผู้กองวุฒิเป็นอย่างยิ่ง
สารวัตร (ติ๊ก กลิ่นสี) รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากผู้กองวุฒิ จึงพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น จ่าดาบได้ไปปรึกษาเพื่อนร่วมทีมที่เป็น ตำรวจต่างชาติ (โจอี้ จาไมก้า) และเพื่อนตำรวจอีกหลายคน ผู้หมวดสืบสวน (โย่ง เชิญยิ้ม) และผู้กองสอบสวน (เอ๋ เชิญยิ้ม) ได้ไปจับ นักเลงรุ่นใหญ่ (พวง เชิญยิ้ม) มาสอบสวน แต่ก็ไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย ด้านผู้กองวุฒิได้ไปจับ เจ้าพ่อจอมบงการ (ค่อม ชวนชื่น) มาสอบสวน แต่คดีก็ไม่ได้คืบหน้าอะไรเช่นกัน เพราะทุกคนไม่รู้จักเสือกับสิงห์เลย แต่กลับพูดเรื่องของตัวเองอย่างเดียว ผู้กองวุฒิได้ไปปรึกษาพระอาจารย์อ๊อด แห่งวัดสายไหม ทำให้รู้ถึงเรื่องราวของวิญญาณชั่วร้าย รวมทั้งเรื่องบาปบุญคุณโทษและเวรกรรม ที่แต่ละคนจะได้รับจากการกระทำของตัวเอง
ในขณะที่คดีของเสือกับสิงห์ยังหายจุดสรุปไม่ได้ ก็เกิดคดีหญิงสาวหายตัวไปอย่างลึกลับหลายคน สารวัตรให้ผู้กองวุฒิไปที่ตึกร้าง เพราะมีคนแจ้งเบาะแสเข้ามาว่า เห็นผู้หญิงหลายคนเข้าไปที่นั่น อาจารย์คงได้ยินอ้วนกับผอมคุยกัน ถึงความน่ากลัวของผีดิบที่เจอมา จึงให้อ้วนกับผอมพาไปที่ตึกร้าง ในขณะที่ผู้กองวุฒิพร้อมกำลังตำรวจไปถึงที่ตึกร้าง ได้เจอสือกับสิงห์ที่จับหญิงสาวเป็นตัวประกัน ผู้กองวุฒิรู้ดีว่าเสือกับสิงห์ได้กลายเป็นผีดิบไปแล้ว แต่จะช่วยตัวประกันออกมาได้อย่างไร โดยไม่เสียเลือดเนื้อและชีวิต
เมื่อไปถึงตึกร้างอาจารย์คงบอกให้อ้วนกับผอม ช่วยกันหาคัมภีร์คาถาสะกดวิญญาณ พอเจออาจารย์คงรีบท่องคาถาจากหน้าไปหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างของเสือกับสิงห์ที่กำลังต่อสู้กับผู้กองวุฒิมีอันสลายไป พร้อมกับวิญญาณชั่วร้ายของผีดิบที่สิงร่างของเสือกับสิงห์เอาไว้ แต่ก่อนที่ร่างใกล้สลายเสือได้กลับไปหาแอน ด้วยความเป็นห่วงลูกที่อยู่ในท้อง เมื่อวิญญาณร้ายดับสูญคัมภีร์คาถาสะกดวิญญาณ ก็ลุกเป็นไฟและสลายไปพร้อมกัน ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครทราบความจริงมาก่อนนั่นเอง.
“แวมไพร์ สตรอเบอร์รี่” หนังผีดูดเลือด ฮาจมเขี้ยว สไตล์ไทยแท้ เริ่มสยองปนฮา 17 พ.ย. เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์