CATALYST//What’s Your Number?/ว้อทส์ ยัวร์ นัมเบอร์?เธอจ๋า..มีแฟนกี่คนจ๊ะ 17/11/

ในสหรัฐอเมริกา 96% ของผู้หญิงที่เคยมีแฟน 20 คน หรือมากกว่านั้น จะไม่ได้แต่งงาน
ค่าเฉลี่ยของจำนวนคู่รักที่ผู้หญิงมีตลอดชีวิตของพวกเธอคือ 10.5 คน
จากการศึกษาวิจัยโดย ดร. เฮเลน ฟิก

               เมื่อสาวสวยเจ้าเสน่ห์ แอลลี ดาร์ลิ่ง อ่านบทความในนิตยสารซึ่งอ้างสถิติว่าผู้หญิงที่เคยมีคู่รัก 20 คน หรือมากกว่า จะพลาดการพบรักแท้ แอลลีจึงมองย้อนกลับไปยังบรรดาแฟนเก่าของเธอ ว่าใครกันแน่ที่มีโอกาสเป็นรักแท้ของเธอมากที่สุด ระหว่างการตามหา “อดีต” คนที่ใช่ ตามคำชี้แนะของหนังสือ แอลลีก็ตระหนักว่าเธอได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ในขณะที่ไม่มีทั้งงาน, สามี และชีวิตในแบบที่ตนเองใฝ่ฝัน ซึ่งทำให้เธอค้นพบว่าอะไรหรือใครคือสิ่งสำคัญต่อเธอในช่วงเวลาที่ผ่านมา
              What’s Your Number? คืออีกหนึ่งผลงานที่ทำให้ผู้ชมภาพยนตร์ได้มองเห็นความสามารถในการแสดงบทเบาสมองของแอนนา ฟาริส ดาราสาวผู้รับบทแอลลี ดาร์ลิ่ง “แอนนาทำให้บทนี้โดดเด่นขึ้นมา จนอาจพูดได้ว่าความสามารถอันน่าทึ่งนี้เอง ที่ทำให้เธอกลายเป็นลูซิลล์ บอลล์คนใหม่ ผู้มีทั้งรูปร่างหน้าตาที่สะสวย และจังหวะการแสดงบทตลกที่เหมาะเหม็ง” มาร์ค มายล็อด ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าว บทแอลลี ดาร์ลิ่งที่ฟาริสแสดง อาจเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์น่ารัก แต่เธอก็ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบอยู่ดี “เธอพยายามค้นหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต เพื่อที่เธอจะได้ไม่ทำผิดซ้ำสอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก, การงาน หรือแม้แต่การเลือกซื้อรองเท้าคู่โปรด แอลลีกำลังหลงทาง หนำซ้ำยังตกงานและถังแตกด้วย” ฟาริสกล่าว
              หลังจากเลิกกับแฟนคนล่าสุด และถูกไล่ออกจากงาน แอลลีได้อ่านบทความในนิตยสารที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอ มันทำให้เธอเชื่อว่าเธอจะไม่มีโอกาสได้แต่งงาน หากยังขืนมีแฟนต่อไปไม่จำกัดจำนวนแบบนี้ และแล้วภารกิจการตามหาคู่แท้โดยมีข้อแม้ว่าห้ามเพิ่มจำนวนคนรักก็เริ่มขึ้น ด้วยการหันกลับไปหาบรรดาคนรักเก่า แอลลีสงสัยว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้างนะ แต่งงาน, เป็นเกย์ หรือตายไปแล้ว? “แอลลีเริ่มรู้ว่าชีวิตเธอเสียศูนย์” ฟาริสเอ่ย “เธอตกงาน และเกิดวิตกจริตเรื่องความรัก เธอมีสัมพันธ์กับผู้ชายมาแล้ว 20 คน แต่ยังหาสามีเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ ในขณะที่น้องสาวของเธอกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน”
              เกเบรียล อัลลัน ผู้เขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับเจนนิเฟอร์ คริทเทนเด็น อธิบายถึง What’s Your Number? ว่า “มันเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของคนอื่นตลอดมา แล้ววันหนึ่ง เธอก็ได้พบใครบางคนที่ทำให้เธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง แอลลียอมรับว่าเธอไม่เหมือนคนอื่น และเธอก็พร้อมรับมือกับเรื่องยุ่งๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ” ข้อมูลและประเด็นที่กลายมาเป็นบทภาพยนตร์เรื่องนี้ มาจากหนังสือชื่อ 20 Times a Lady ที่เขียนโดยแครีน บอสแนค “ฉันเคยอ่านมาว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงอเมริกันมีจำนวนคู่รักอยู่ที่ 10.5 คน แต่ผู้หญิงหลายคนที่ฉันคุยด้วย มีคู่รักมากกว่านั้น” บอสแนคกล่าว “ฉันเลยให้แอลลีมีแฟนมากเป็นสองเท่าของค่าเฉลี่ย และให้เหตุผลสารพัดที่เธอต้องเป็นแบบนี้ ผู้หญิงและผู้ชายโกหกเรื่องตัวเลขกันทั้งนั้น ผู้หญิงชอบลด ส่วนผู้ชายชอบเพิ่ม”
              “ฉันเคยทำอย่างที่แอลลีทำในหนัง” เกเบรียล อัลลัน ยอมรับ “ฉันไม่ยอมมีแฟนเพิ่มอีก ฉันเข้าใจแอลลี แม้การกระทำของเธอดูจะแปลกและบ้าเกินไปสักหน่อย เรื่องนี้สำคัญต่อเธอเหมือนกับที่เคยสำคัญต่อฉัน ฉันคิดว่าผู้หญิงระมัดระวังเรื่องจำนวนแฟน และเหตุผลที่พวกเธอต้องระวัง ก็เป็นไอเดียที่น่าสนุก” บอสแนคกล่าวว่าส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องนี้คือ การซื่อสัตย์ต่อตนเอง “ถ้าหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณก็ไม่ควรเสียใจในสิ่งที่คุณทำ เพราะคุณเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ สิ่งที่คุณตัดสินใจในตอนนั้น ทำให้คุณกลายเป็นคุณในตอนนี้” ส่วนเจนนิเฟอร์ คริทเทนเด็น อีกหนึ่งผู้เขียนบท กล่าวเสริมว่า “หนังสือเล่มนี้ทำให้เราหัวเราะ มันตลกจริงๆ และเหมาะมากสำหรับการทำเป็นหนังโรแมนติกเบาสมอง สิ่งท้าทายที่สุดคือ จะทำยังไง ไม่ให้เรื่องราวถูกแบ่งเป็นตอนๆ เมื่อแอลลีเปลี่ยนแฟนไปทีละคน จากคนนี้ไปคนนั้น จากคนนั้นไปคนโน้น คนโน้น และคนโน้น”
              ทีมผู้สร้างรู้ดีว่าเนื้อหาของ What’s Your Number? นั้นค่อนข้างหมิ่นเหม่พอสมควร “เป็นไปได้ยากที่ตัวละครเอกซึ่งมีแฟนมาแล้วถึง 19 คน จะทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกเบาสมองที่ผู้ชมส่วนใหญ่ยอมรับได้” ทริพพ์ วินสัน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์กล่าว “แต่แทนที่จะหลีกเลี่ยงประเด็นนี้ คงฉลาดกว่าถ้าเราก้าวเข้าไปจับมัน และลุยไปกับมัน” มาร์ค มายล็อด ผู้กำกับภาพยนตร์ เจ้าของผลงานอำนวยการสร้างและกำกับ Entourage ซีรีส์เรื่องดังของสถานีโทรทัศน์ HBO พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ผมกำลังมองหาหนังโรแมนติก แต่ผมอยากทำเรื่องที่ท้าทายและแปลกใหม่ ผมติดใจบทหนังเรื่องนี้ที่ทั้งเฉียบคมและสนุกสนาน มันทำให้เราต้องหัวเราะออกมาดังๆ ผมชอบความแข็งแกร่งของแอลลี การค้นหาตัวเองอย่างเข้มแข็งของเธอประทับใจผมมาก”
              “ผมมองว่าแอลลีคือหญิงสาวที่กำลังตามหารักแท้ แต่เธอก้าวไปบนเส้นทางที่ผิด” มายล็อดอธิบายต่อ “แอลลีพยายามทำให้ผู้ชายมาเป็นคู่ของเธอ แทนที่จะปล่อยให้พวกเขาเข้ากับเธอได้เองตามธรรมชาติ ผมต้องการให้ What’s Your Number? เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของเรื่องเพศที่ชัดเจน โดยมีหัวใจของความเป็นหนังรักชั้นดี เราทำหนังโรแมนติก แต่เราก็อยากนำเสนอความเป็นจริงของชีวิตด้วยเหมือนกัน”

อดีตของแอลลี

ริค (แซคคารี ควินโต) - หนุ่มนักปั่นจักรยานจอมหลงตัวเอง ผู้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาไม่อยากจะสานสัมพันธ์กับแอลลีอีกต่อไป
โรเจอร์ (โจเอล แมคเฮล) - เจ้านายของแอลลี ผู้ชอบสวมใส่สูทตลอดวัน ทั้งที่เป็นคนไล่แอลลีออกจากงาน โรเจอร์ก็ยังไม่เลิกเกี้ยวพาราสีเธออยู่ดี
โดนัลด์ (คริส แพรทท์) - ตอนที่โดนัลด์มีนัดกับแอลลีครั้งแรก เขาหนัก 400 ปอนด์ แต่เมื่อบังเอิญได้พบกันอีกครั้ง โดนัลด์หุ่นดีมาก และมีคู่หมั้นแล้ว
เดฟ แฮนเซ่น (ไมค์ โฟเกล) - บาร์เทนเดอร์นักมายากล ผู้สามารถดึงเหรียญออกมาจากทุกสัดส่วนในร่างกายของผู้หญิง
ไซมอน (มาร์ติน ฟรีแมน) - หนุ่มอังกฤษจ๋า ผู้ที่แอลลีต้องแสร้งทำเป็นคนอังกฤษด้วย ตอนที่พวกเขาเดทกันครั้งแรก เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง เธอก็ยังคงพูดสำเนียงอังกฤษแปร่งๆ เชยๆ ให้เขาฟังเช่นเดิม
เจอร์รี เพอร์รี (แอนดี้ แซมเบิร์ก) - คนเชิดหุ่นกระบอกผู้พิชิตความสาวของแอลลีเป็นคนแรก ซึ่งต่อมาเธอก็สงสัยว่า ระหว่างเจอร์รีและหุ่นกระบอกของเขา ใครเพี้ยนกว่ากัน?  
ดร. บาร์เร็ทท์ อินโกลด์ (โทมัส เลนนอน) - สูตินรีแพทย์ผู้จำแอลลีไม่ได้ จนเมื่อเขาได้รักษาเธอ
ทอม ไพเพอร์ (แอนโธนี แมคคี) - นักการเมืองอนาคตไกล ผู้ที่แอลลีอยากกลับมาคบใหม่ใจจะขาด จนกระทั่งผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสนใจของเขาต่อตัวเธอครั้งนี้ถูกเปิดเผย
เจค อดัมส์ (เดฟ แอนนาเบิล) - รูปหล่อ พ่อรวย แถมยังจิตใจดีอีกต่างหาก เขาจะใช่คนที่เหมาะสมกับแอลลีมากที่สุดหรือเปล่าหนอ?

นักแสดง
แอนนา ฟาริส  (แอลลี ดาร์ลิ่ง)

                สาวสวยจากซีแอทเทิล ผู้เริ่มอาชีพนักแสดงในโรงละครตั้งแต่อายุยังน้อย ฟาริสนำแสดงและเป็นผู้อำนวยการสร้าง The House Bunny ภาพยนตร์โรแมนติกเบาสมองเรื่องดังประจำปี 2008 เช่นเดียวกับผลงานล่าสุด What’s Your Number? ที่เธอรับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารด้วย ภาพยนตร์เด่นเรื่องอื่นของเธอ ได้แก่ Scary Movie (2000), The Hot Chick (2002), Lost in Translation (2003), Friends (TV series 2004), Waiting… (2005), Brokeback Mountain (2005), Just Friends (2005), My Super Ex-Girlfriend (2006), Smiley Face (2007), Entourage (TV series 2007), Mama’s Boy (2007), Observe and Report (2009), Yogi Bear (2010) และ Take Me Home Tonight (2011)

คริส อีแวนส์  (โคลิน เชีย)

               นักแสดงหนุ่มหล่อฝีมือดี ผู้เป็นที่ต้องการของเหล่าผู้สร้างมากที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวูด เขาเติบโตและเริ่มอาชีพนักแสดงในโรงละครที่แมสซาชูเซทส์ ก่อนจะย้ายมานิวยอร์คเพื่อเรียนวิชาการแสดงเพิ่มเติมที่สถาบันลี สตราส์เบิร์กอันโด่งดัง แล้วจึงก้าวไปเป็นนักแสดงอาชีพอย่างเต็มตัว ด้วยผลงานโดดเด่นในวงการโทรทัศน์และภาพยนตร์อย่างเช่น Opposite Sex (TV series 2000), Boston Public (TV series 2001), Not Another Teen Movie (2001), Cellular (2004), Fierce People (2005), Fantastic Four (2005), London (2005), Sunshine (2007), 4: Rise of the Silver Surfer (2007), The Nanny Diaries (2007), Street Kings (2008), Push (2009), The Losers (2010), Scott Pilgrim vs. the World (2010), Puncture (2011) และ Captain America: The First Avenger (2011)

อารี เกรย์เนอร์  (เดซี ดาร์ลิ่ง)

               เกิดที่บอสตัน แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในนิวยอร์ค และลอส แองเจลิส เธอเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้ชมโทรทัศน์จากบทเพื่อนร่วมห้องเจ้าปัญหาของมีโดว โซปราโน ในซีรีส์สุดฮิต The Sopranos (TV series 2001) ก่อนจะได้แสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในผลงานของผู้กำกับ คลินท์ อีสต์วูด เรื่อง Mystic River (2003) จากนั้น เกรย์เนอร์ก็มีผลงานชั้นดีตามมาอีกมากมาย อาทิ Book of Love (2004), Imaginary Heroes (2004), Game 6 (2005), For Your Consideration (2006), CSI: Miami (TV series 2007), Numb3rs (TV series 2007), Youth in Revolt (2009), Whip It (2009), Holy Rollers (2010), Date Night (2010), Fringe (TV series 2009-2010), Conviction (2010), Lucky (2011) และ The Sitter (2011)

ไบลท์ แดนเนอร์  (เอวา ดาร์ลิ่ง)

               มารดาของกวิเน็ธ พัลโทรว นักแสดงหญิงชื่อดัง ไบลท์ แดนเนอร์เป็นเจ้าของรางวัลโทนี จากบทบาทแรกของเธอบนเวทีละครบรอดเวย์ ในเรื่อง Butterflies Are Free และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีก 3 ครั้งใน Betrayal, A Streetcar Named Desire และ Follies
              ในวงการโทรทัศน์ แดนเนอร์พิชิตรางวัลเอ็มมี สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม 2 ครั้งจากซีรีส์เรื่อง Huff (2004-2006) และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีก 4 ครั้งจาก Will and Grace (นักแสดงรับเชิญหญิงยอดเยี่ยม 2005 และ 2006), Back When We Were Grownups (นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม 2004) และ We Were the Mulvaneys (นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม 2002) รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกหนึ่งครั้งจาก Back When We Were Grownups ส่วนในวงการภาพยนตร์ เธอก็มีผลงานเรื่องดังมากมาย เช่น The Great Santini (1979), Brighton Beach Memoirs (1986), Another Woman (1988), Mr. & Mrs. Bridge (1990), Alice (1990), The Prince of Tides (1991), Husbands and Wives (1992), To Wong Foo Thanks for Everything, Julie Newmar (1995), The Proposition (1998), The X-Files (1998), Forces of Nature (1999), The Love Letter (1999), Meet the Parents (2000), Sylvia (2003), Meet the Fockers (2004), The Sisterhood of the Traveling Pants 2 (2008), Little Fockers (2010), Paul (2011) และ Detachment (2011)

ทีมงาน
มาร์ค มายล็อด  (ผู้กำกับภาพยนตร์)

               นักสร้างภาพยนตร์ชาวอังกฤษ เจ้าของผลงานกำกับและอำนวยการสร้าง Entourage ซีรีส์เรื่องดังของสถานีโทรทัศน์ HBO ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 2006-2009 สมัยอยู่บ้านเกิด มายล็อดคือผู้กำกับซีรีส์ Shameless (2004) ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัล BAFTA สาขาซีรีส์ดรามายอดเยี่ยม, The Royle Family (1998-2006) ซีรีส์ที่ชนะรางวัล BAFTA สาขาละครตลกสถานการณ์ยอดเยี่ยม และ Cold Feet (1998) ซีรีส์ที่พิชิตรางวัลบริติช คอเมดี สาขาละครชีวิต/เบาสมองยอดเยี่ยม ส่วนผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ผ่านมาของมายล็อดคือ The Big White (2005) ที่นำแสดงโดย โรบิน วิลเลียมส์, ฮอลลี ฮันเตอร์ และจิโอวานนี ริบิซี

เกเบรียล อัลลัน  (ผู้เขียนบทภาพยนตร์)

               เริ่มต้นอาชีพนักเขียนบทเมื่ออายุ 24 ตามรอยคุณปู่ เท็ด อัลลัน ผู้เขียนบท Lies My Father Told Me (1975) และ Bethune: The Making of a Hero (1990) เกเบรียล อัลลันศึกษาวิชาการละครที่สถาบันศิลปะการละครอเมริกันในนิวยอร์ค ด้วยความตั้งใจจะเป็นนักแสดงในอนาคต แต่เมื่อคุณปู่บอกว่าเธอเป็นนักแสดงที่ไม่เอาไหน แต่เป็นนักเขียนที่มีแวว อัลลันจึงเบนเข็มมาเป็นผู้เขียนบท งานเขียนชิ้นแรกของเธอคือซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง Ask Harriet (1998) ตามด้วย Jesse (1998-2000) และ Scrubs (2001-2007) What’s Your Number? คือผลงานบทภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ โดยเขียนร่วมกับเจนนิเฟอร์ คริทเทนเด็น

เจนนิเฟอร์ คริทเทนเด็น  (ผู้เขียนบทภาพยนตร์)

               อดีตคนเขียนบทพูดขำขันของพิธีกรชื่อดัง เดวิด เล็ทเทอร์แมน จากนั้นเธอก็มาเขียนบทให้ซีรีส์โทรทัศน์ยอดนิยมอย่าง The Simpsons (1994-1997), Seinfeld (1996-1998), Everybody Loves Raymond (1999-2002) และ The New Adventures of Old Christine (2006-2008) เช่นเดียวกับเกเบรียล อัลลัน  What’s Your Number? คือผลงานบทภาพยนตร์เรื่องแรกของเจนนิเฟอร์ คริทเทนเด็น