happy on October 29, 2011, 01:48:06 PM
ANTONIO BANDERAS/ PUSS IN BOOTS FEATURE
แอนโตนิโอ แบนเดอรัส นอนเหยียดเท้าที่สวมรองเท้าบู๊ทหนังกลับที่ตัดเย็บขึ้นในเม็กซิโกของเขา เขาบอกว่าเขาสวมรองเท้าบู๊ทแบบนี้ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เช่นเดียวกับ พุส อิน บู๊ทส์ ตัวละครของเขา
แบนเดอรัสมีลักษณะเหมือนแมวเป็นพิเศษด้วยดวงตาโตเปี่ยมด้วยอารมณ์ การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและความสามารถในการออกเสียงที่ฟังเหมือนเสียงร้องครางของแมวได้ เขาทำงานกับตัวละครพุสนี้มานานหลายปีแล้วนับตั้งแต่ที่เขาปรากฏตัวใน Shrek ในการช่วยส่งเสริมให้เขาสามารถแบกรับภาพยนตร์ทั้งเรื่องได้ ทีมอนิเมเตอร์ได้เพิ่มความซับซ้อนของเขา ทำให้ขนทุกส่วนของเขาพลิ้วไหว เป็นเงาวับ และทำให้คิ้วข้างเดียวมีการเคลื่อนไหวถึง 130 รูปแบบ
มันเป็นกระบวนการเข้มข้นที่ใช้เวลานานกว่าสามปี มิลเลอร์กล่าวว่า “ใน Shrek เขาเป็นมือสังหารรับจ้าง ที่จะต้องเก็บชเร็ค และนี่ก็เป็นเรื่องราวก่อนที่เขาจะไปถึงจุดนั้น มันเป็นเรื่องราวสะเทือนอารมณ์มากๆ เกี่ยวกับความเป็นพี่น้องและการไถ่บาป พุสเป็นตัวละครที่กล้าหาญ บ้าบิ่นและยิ่งใหญ่ และเขาก็จะตลกที่สุดในตอนที่เขาทำตัวซีเรียสที่สุดครับ”
แบนเดอรัสนั่งอยู่ตรงหน้าเราในห้องโรงแรมแห่งหนึ่งในอัมสเตอร์ดัม เขาเดินทางไปที่นั่นเพื่อรับรางวัลและพูดคุยเกี่ยวกับแมวตัวนี้และการใส่รองเท้าบู๊ท ตัวแบนเดอรัสเองก็สามารถออกอาการดรามา แสดงความยิ่งใหญ่ และความจริงจังที่เปล่งประกายระยิบระยับได้เหมือนกัน “ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจทำให้เขามีเสียงที่ไม่เข้ากันเลยกับตัว ความแตกต่างนั้นคือความตลกครับ เขาพยายามทำตัวลึกลับนิดๆ แต่คุณจะลึกลับได้ยังไงในเมื่อคุณเป็นแค่แมวเหมียวตัวน้อย เขาหลงใหลในเพศตรงข้ามและชอบการเล่นเกม เขาสามารถทำให้คนอื่นๆ อิจฉาเขาได้ หรืออยากจะทำ เขาเป็นเหมือนตัวตนอีกร่างหนึ่งของผมครับ” เขากล่าวขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่เราก่อนจะหลบสายตาไปราวกับแมว “ผมชอบการที่แมวมักจะบงการความคิดมนุษย์ครับ”
แบนเดอรัสเป็นคนราศีสิงห์ ซึ่งเป็นแมวใหญ่ เขารักแมวและก็เลี้ยงแมวในบ้านทุกหลังของเขา แต่เขาก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่สุดในมาลาก้า ใกล้ๆ กับที่ที่เขาเกิด แต่ถ้าเขาอยู่ที่นั่นนานเกินไป เขาก็จะคิดถึงบ้านที่ลอสแองเจลิสและแอสเพน
เขาเลี้ยงแมวห้าตัว “เพ็นนี เลนมีขนสีดำออกน้ำตาลนิดๆ ผอมเพรียว ซนมาก แถมพูดเก่งซะด้วย เธอร้องเหมียวๆ ทั้งวัน ส่วนแม็กซ์เวลก็ชอบให้คนลูบไล้มันและชอบอยู่ใกล้ๆ คน แล้วเราก็มีโดมิโน ที่อยู่ในแอสเพน เขามีขนสวยมาก คุณจะอยากลูบขนเขาครับ เขามีขนสีขาว และมีแต้มสีดำล้อมรอบดวงตา เขามีหนวดด้วยนะครับ เบ็ตตี้เป็นน้องสาวเขา และเธอก็มีขนนุ่มเหมือนโดมิโน แต่เธอมีขนสีออกแดงน้ำตาลหน่อยๆ ส่วนอีกตัวหนึ่งจะเป็นแมวผู้ดูแลครับ เธอมีขนสีเทา ตัวอ้วนกลม และไม่ชอบพวกเราซักเท่าไหร่”
เป็นเรื่องยากที่เราจะจินตนาการว่ามีใคร แม้แต่แมวตัวร้ายก็เถอะ ที่จะไม่ชอบแบนเดอรัส เสน่ห์ของเขาพรั่งพรูออกมาจากทุกรูขุมขน หรืออาจจะเป็นอุ้งเท้าก็ได้
ในช่วงสิ้นปีนี้ โปรเจ็กต์ที่วางแผนไว้นานแล้วสองเรื่องของเขาจะเสร็จสมบูรณ์เสียที Puss in Boots ถูกวางแผนไว้นานก่อนที่มันจะเริ่มต้นถ่ายทำเสียอีก “เจฟฟรีย์ (คัทเซนเบิร์ก ผู้บริหารดรีมเวิร์คส์) อยากให้ Shrek จบก่อนเพื่อที่หนังเรื่องนี้จะได้ไม่มาแทรกตรงกลางครับ เราก็เลยมีพื้นที่ในการขยายเรื่อง ผมคิดว่าตัวละครตัวนี้มีพื้นที่ในการขยับขยายเรื่องราวมากมาย แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมครับ”
ในปีนี้ เขายังได้ร่วมงานกับผู้กำกับเปโดร อัลโมโดวาร์อีกครั้งหนึ่ง ในตอนที่แบนเดอรัสเริ่มยึดอาชีพนักแสดงในสเปน เขาก็เคยร่วมงานกับอัลโมโดวาร์มาแล้ว แต่พวกเขาไม่เคยร่วมงานกันอีกเลยนับตั้งแต่ Tie Me Up! Tie Me Down! ในปี 1990 แบนเดอรัสย้ายไปลอสแองเจลิส และทุ่มเทสมาธิให้กับการแสดงและกำกับภาพยนตร์อเมริกัน แม้ว่าบ่อยครั้ง มันจะมีกลิ่นไอสเปนอย่าง Zorro ด้วยก็ตาม แล้วการร่วมงานกับอัลโมโดวาร์อีกครั้งให้ความรู้สึกอย่างไรบ้าง “มันยากครับ เขามีคำสั่งที่เฉพาะเจาะจงจนคุณรู้สึกเหมือนเขากำลังแย่งอิสระจากคุณไปเพื่อสร้างตัวละครขึ้นมา ตัวละครของผมใน Skin เป็นหมอที่ผ่าตัดศัลยกรรมที่ทำงานที่มืดหม่นมากๆ”
“เขาเป็นคนอันตราย ที่คิดว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ เป็นอสุรกาย ตามปกติแล้ว นักแสดงอาจจะขยายความบทนี้ออกมา ซึ่งนั่นก็เป็นปฏิกิริยาแรกของผม แต่ผมก็เล่นเขาแบบมิติเดียว แบนราบมากๆ ซึ่งมันตรงข้ามกับพุส ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทั้งยิ่งใหญ่ และเป็นดรามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขารักการเต้นรำ การที่เขาเข้าไปในบาร์แล้วสั่งเครื่องดื่ม เขาทำมันด้วยท่าทีกล้าหาญแบบลูกผู้ชายมากๆ ซึ่งมันก็แตกต่างกับลักษณะแบบแมวของเขาโดยสิ้นเชิงครับ”
“พุสเป็นตัวละครที่ซับซ้อนมากๆ เขาจริงจังกับทุกเรื่อง และความตลกก็เกิดจากตรงนั้น นั่นเป็นความงดงามและความเพี้ยนด้วยครับ”
แบนเดอรัสกล่าวว่า การเนรมิตเขาให้โลดแล่นบนหน้าจอเป็นเรื่องซับซ้อนอย่างน่าประหลาด “ก่อนที่คุณจะพากย์เสียง คุณก็จะพบกับทีมงานสร้างมากมาย พอคุณได้อ่านสคริปต์ครั้งแรก ซึ่งนั่นเป็นเหมือนบทเกริ่นนำก่อนจะเริ่มต้นงาน มันไม่ใช่บทสมบูรณ์หรอกครับ คุณจะได้ร่วมงานกับทีมงานเบื้องหลั้ง พวกเขาจะฟังเสียงคุณและเปลี่ยนบทสำหรับนักแสดงที่จะพากย์เสียงบทนั้น กล้องจะเริ่มบันทึกภาพคุณ บางครั้ง พวกเขาก็จะให้อุปกรณ์เกี่ยวกับแมว หมวก และดาบกับคุณ พวกเขาจะดูว่าคุณมีปฏิกิริยายังไงกับมันและพยายามจะใส่มันลงไปในตัวแมวตัวนี้ครับ”
“คุณสามารถอิมโพรไวส์และใช้อีกวิธีหนึ่งเพื่อทำให้มันเวิร์คได้ คุณจะทำงานวันละสามหรือสี่ชั่วโมงนานสองเดือนกว่าซึ่งนั่นเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของภาพอนิเมชัน พวกเขาจะดูว่ามันออกมาเป็นยังไงแล้วคุณก็จะเริ่มมีไอเดียมากขึ้น มันเป็นกระบวนการที่ยาวนานประมาณสองปี แต่มันก็สร้างสรรค์มากๆ และคุณก็ไม่ต้องแต่งหน้า และคุณก็จะไปทำงานในชุดนอนก็ได้” แล้วเขาปรากฏตัวในชุดนอนรึเปล่า “ไม่ครับ แต่คนอื่นๆ ทำนะครับ”
เขายิ้มซุกซนเหมือนแมว พุสเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เย้ายวนมากๆ และเขาก็มีเรื่องปิ๊งปั๊งกับคิตตี้ด้วย “มันเป็นเรื่องราวคลาสสิกที่พวกเขาทะเลาะกันตลอดเวลา แต่คุณก็รู้ว่าพวกเขารักกันและกันครับ”
นั่นมาจากประสบการณ์ของเขาเองรึเปล่า “อาจจะครับ” เขาตอบติดตลก ในปีหน้า เขาวางแผนที่จะกำกับภาพยนตร์อีกครั้ง ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาสร้างขึ้นจากนิยาย แต่เรื่องนี้จะสร้างขึ้นจากบทภาพยนตร์ออริจินอล “มันชื่อว่า Solo ครับ มันเป็นเรื่องของนายพันชาวสเปนที่กลับจากอัฟกานิสถาน เขาพบเจอกับเรื่องมหัศจรรย์ เกือบจะเป็นเรื่องของไซไฟน่ะครับ ผมทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับและผมก็จะรับหน้าที่นักแสดงด้วย ผมจะกำกับตัวเองและแสดงฉากโคลสอัพหลายฉากครับ”
ฟังดูสมกับเป็นคนราศีสิงห์ ผู้แสวงหาการตกเป็นเป้าสายตาเสียจริง “จริงๆ แล้ว ผมกลัวเรื่องอีโก้นะ ผมจะต้องควบคุมความเป็นคนราศีสิงห์ของตัวเองซะหน่อย” เขาพูดอย่างจริงจัง เขาเกิดในวันที่ 10 สิงหาคม ปี 1960 และเมลานีย์ กริฟฟิธ ภรรยาของเขาก็เกิดในวันที่ 9 สิงหาคม ปี 1957 นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะมีประกายไฟวูบวาบเลยรึเปล่า “เปล่าครับ มันหมายถึงเราจะประหยัดเงินสำหรับงานเลี้ยงได้มากขึ้นเพราะเราจัดแค่งานเดียว แต่เราทั้งคู่เป็นราศีสิงห์เหมือนกัน และเราก็เข้าใจเรื่องนั้นดี เราสามารถคำรามในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นจะทำให้เสียงดังมากเลยนะครับ”
“คุณจะต้องเดินหน้าความสัมพันธ์ของคุณและไม่กลัวกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ขั้นตอนต่างๆ ผมคิดว่านั่นเป็นความสำเร็จของเราในฐานะคู่สามีภรรยามา 17 ปี” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและชวนให้สบายใจที่สุด
ในฐานะแมวเหมียวพุสที่มองตัวเองอย่างจริงจัง การแสดงของเขาเป็นอะไรที่น่าหลงใหล มันละเอียดอ่อน ซับซ้อนและมีความเป็นมนุษย์มากๆ และตัวแบนเดอรัสก็มีความเป็นแมวสูงทีเดียวเชียวล่ะ
« Last Edit: October 29, 2011, 01:51:54 PM by happy »
Logged