อิเซตันจัด “ออลคันไซเฟสติวัล” เป็นครั้งแรกในเมืองไทย 20 – 31 ต.ค. นี้

อิเซตันจัด “ออลคันไซเฟสติวัล” เป็นครั้งแรกในเมืองไทย 20 – 31 ต.ค. นี้

               กิจกรรมพิเศษเฉลิมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 20 ของอิเซตัน โดยรวมสุดยอดของอร่อยแบบคันไซแท้ ทั้งอาหาร ของหวาน ผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพเยี่ยม  พร้อมกิจกรรมช่วงสุดสัปดาห์ทั้งการแสดงและเวิร์คช็อปศิลปหัตถกรรมตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้ายอดขาย 10 ล้าน

               ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ร่วมกับสนามบินนานาชาติคันไซ, สหพันธ์เศรษฐกิจคันไซ, สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย  จัดงาน ออลคันไซเฟสติวัล (All Kansai Festival)  เป็นครั้งแรก    ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20 – 31 ตุลาคม 2554  ที่บริเวณชั้น 1, ชั้น 5 และชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้า  อิเซตัน  เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์อาหาร ศิลปวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเขตคันไซ  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนใต้ของเกาะฮอนชู ประกอบด้วย 8 เมือง คือ โอซาก้า เกียวโต เฮียวโงะ นารา ชิงะ วาคายามะ มิเอะ และฟูคุอิ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของอร่อยมากมายจากท้องทะเล  

               มร. ทาเคชิ  อิโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การจัดงานออลคันไซเฟสติวัลนี้นับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยร่วมกับหน่วยงานสำคัญต่างๆ ของญี่ปุ่น ปกติอิเซตันจัดเทศกาลอาหารและสินค้าจากเมืองสำคัญต่างๆ ของญี่ปุ่นทุกปี และประสบความสำเร็จโดยมีการ    ตอบรับที่ดีเสมอจากลูกค้าทั้งไทยและญี่ปุ่น ด้วยความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพและความหลากหลายของสินค้า สำหรับปีนี้เราจัดเป็นพิเศษในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 ที่ห้างสรรพสินค้าอิเซตันเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะได้คัดสรรแต่สิ่งพิเศษสุดของคันไซซึ่งเป็นเขตสำคัญที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ มีแต่ของอร่อยขึ้นชื่อ โดยงานนี้จะมีทั้งการสาธิตการทำอาหารและออกร้านสไตล์คันไซ โดยพ่อครัวชั้นแนวหน้าจากร้านยอดนิยมที่เดินทางมาจากเมืองต่างๆ ในเขตคันไซโดยตรง บางร้านเก่าแก่กว่า 100 ปี เราจัดมาครบครันทั้งอาหารคาวหวาน ผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์คุณภาพต่างๆ ส่งตรงมาจำหน่ายให้ได้ชิมรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ กันอย่างจุใจ พร้อมทั้งมีการจับรางวัลสำหรับลูกค้าในงานด้วย”

               เมนูเด็ดจากร้านดังที่คัดสรรมาให้ชิมเฉพาะในงานนี้ ได้แก่ ทาโกะยากิจากร้านทาโกะฮาชิ, คุชิคัทสึแบบยืนกินสไตล์ต้นตำรับจากร้านมารุคิน, สาธิตการแล่ปลามากุโระโดยสามารถระบุส่วนที่ต้องการซื้อได้ และซูชิ-ซาชิมิจากตลาดปลาคุโรมอนในโอซาก้าที่พ่อครัวทำให้แบบสดใหม่, ราเมงเส้นโซบะแบบจีนกับน้ำซุปเข้มข้นจากร้านมารุทายะในวาคายามะ พิเศษสุดกับการจำหน่ายเนื้อโออุมิเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เป็นเนื้อวัวชั้นเลิศที่มีชั้นไขมันละเอียดมาก เนื้อหวานนุ่มราวจะละลายได้ในทุกคำ  ส่วนของหวานที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ ขนมญี่ปุ่นจากร้าน Mukashin ที่เปิดกิจการมานานถึง 118 ปี ตั้งแต่ปีเมจิที่ 25 หรือ ค.ศ. 1892, ขนมเฉพาะฤดูกาลที่ผสมผสานวัฒนธรรมฝรั่งเศสและญี่ปุ่นอย่างลงตัว จากร้าน Kobe Fugetsudo ในเมืองเฮียวโงะ เปิดกิจการมา 113 ปี ตั้งแต่ปีเมจิที่ 30,  ช็อคโกแลตสดจากร้าน Ek Chuah, ชีสเค้กจากร้าน Esola  เป็นต้น

               พร้อมกันนี้ที่บริเวณชั้น 1 ได้จำลองบรรยากาศสถานที่สำคัญ ได้แก่ ศาลเจ้าอิมามิยะ เอบิสึ โดยเชิญฟูกุมุสุเมะจากศาลเจ้ามาร่วมสวดมนต์อวยพรในวันที่ 20 – 23 ต.ค. วันละ 4 รอบ และจำหน่ายเครื่องรางที่ผ่านการทำพิธีของ Guji แล้ว  รวมทั้งนำบิริเค็นซัง (Biriken San) เทพแห่งความสุขมาให้ขอพรได้ตลอดช่วงการจัดงาน และเป็นการร่วมฉลองครบ 100 ปีของเทพองค์นี้ด้วย โดยเชื่อกันว่าเมื่อลูบที่ฝ่าเท้าของท่านแล้วจะสมปรารถนาตามที่ขอพรไว้ โดยปกติประดิษฐานอยู่ที่ชั้น 5 ของหอชมวิวซือเต็นคะขุ (Tsutenkaku) ในย่านชินเซไก และในงานนี้ยังจัดแสดงซือเต็นคะขุโรบ็อทที่สร้างขึ้นจากสุดยอดเทคโนโลยีของโอซาก้า ในวันที่ 20 – 23 วันละ 7 รอบ

    

             

               นอกจากนี้ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่บริเวณชั้น 6 ยังจัดการแสดงพิเศษ ได้แก่ วันที่ 22 – 23 จัดการต่อสู้แบบซามูไร โดยนักแสดงมืออาชีพจากอุสุมะสะ (Uzumasa) ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ย้อนยุคที่มีชื่อเสียงในเกียวโต วันละ 3 รอบ  ส่วนวันที่ 22 – 23 และ 29 – 30  จัดการแสดงและการละเล่น   ยุรุชาระโชว์ (Yuru Chara Show) ที่สนุกสนานน่ารักจากแมสคอทสัญลักษณ์ของเมืองต่างๆ ในคันไซ พร้อมทั้งเวิร์คช็อปการทำ Piro Piro Pipe ที่สามารถยืดหดได้เมื่อเป่าลมเข้าไป โดย มร. โคอิจิ คิมูระ จากเมือง เฮียวโงะ วันละ 3 รอบ พร้อมทั้งเชิญชวนร่วมสนุกกับการถ่ายภาพกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของคันไซ ตั้งแต่ 11.00 – 19.00 น. โดยผู้ร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ   ในขณะเดียวกันก็จัดเคาน์เตอร์แนะนำการท่องเที่ยวในเขตคันไซที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดปี และสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ให้ผู้สนใจสอบถามข้อมูลได้ในงาน

               มร. ทาเคชิ  อิโตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงานออลคันไซเฟสติวัลครั้งนี้ อิเซตันตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10 ล้านบาท สำหรับยอดขายในงานเทศกาลพิเศษจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่นในลักษณะเดียวกันนี้   ในแต่ละครั้ง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาท  ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีในประเทศไทย อิเซตันได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากการที่สินค้าญี่ปุ่นเป็นที่นิยมมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่อิเซตันนำเข้ามาจำหน่ายล้วนคัดสรรเฉพาะสินค้าคุณภาพ และมีการปรับปรุงพื้นที่ตลอดจนบริการต่างๆ ด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 90% ในปัจจุบัน ส่วนกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีประมาณ 10% สินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ อาหารทะเล, ขนมญี่ปุ่น และ ร้านอาหารในงาน

               สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 นี้  ห้างสรรพสินค้าอิเซตันมีรายได้ราว เพิ่มขึ้นประมาณ 140% จากครึ่งปีหลังของปี 2553 อันเป็นผลจากการเพิ่มสินค้าญี่ปุ่นให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตลอดปี

               ทั้งนี้ ข้อมูลจากธนาคารกสิกรไทยระบุว่าคนไทยนิยมบริโภคอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นทุกปี โดยธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10-15% ต่อปี โดยคาดการณ์ว่าในปี 2555 จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยราว 1,000 แห่ง ซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน