ริเวอร์เบด ขยายระบบนิเวศด้านสตอเรจบนคลาวด์ ช่วยให้ธุรกิจมีทางเลือกที่เหนือชั้น

ริเวอร์เบด ขยายระบบนิเวศด้านสตอเรจบนคลาวด์ ช่วยให้ธุรกิจมีทางเลือกที่เหนือชั้น พร้อมปกป้องข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่น โซลูชัน Whitewater เพิ่มทางเลือกในการปกป้องข้อมูลบนระบบคลาวด์สาธารณะ พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับโซลูชันคลาวด์สตอเรจอย่าง Microsoft Azure, Rackspace และ OpenStack รวมถึงแอพพลิเคชันด้านการปกป้องข้อมูลชั้นนำ อย่าง CommVault, HP และ Veeam

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 19 ตุลาคม 2554 - ริเวอร์เบด เทคโนโลยี (NASDAQ : RVBD)ผู้ผลิตอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกาศการขยายขีดความสามารถผลิตภัณฑ์ตระกูล Whitewater โซลูชันระบบเชื่อมต่อระบบจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์เพื่อการปกป้องข้อมูล ช่วยให้องค์กรธุรกิจมีทางเลือกที่ดีกว่าและยืดหยุ่นกว่าในการนำโซลูชันมาทดแทนการจัดเก็บข้อมูลในระบบเทป ให้ความรวดเร็วในการจัดเก็บ ปลอดภัยและคุ้มค่าการลงทุนโดยเชื่อมข้อมูลเข้ากับสภาพแวดล้อมระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งริเวอร์เบดได้ขยายขอบเขตอุปกรณ์ตระกูล Whitewater มากกว่า 15 ผลิตภัณฑ์ ให้การรองรับการทำงานร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลและการปกป้องระบบฐานข้อมูลที่ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าในช่วงระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โซลูชัน Whitewater ใหม่ ขยายการทำงานร่วมกับโซลูชันระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ครอบคลุมทั้งWindows Azure, Rackspace® Cloud Files™ และ OpenStack Object Storage (Swift) ส่วนซอฟต์แวร์สำรองข้อมูล เช่น CommVault® Simpana® for Backup and Recovery, HP® Data Protector และ Veeam Backup & Replication™ และยังเพิ่มโซลูชันด้านการปกป้องฐานข้อมูลชั้นนำอย่าง Microsoft SQL Server backup and restore และ Oracle® Recovery Manager (RMAN) ซึ่งการเสนอทางเลือก และความยืดหยุ่นครั้งนี้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ต้องการย้ายไปสู่ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลขององค์กร โดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่จัดเก็บและแอพพลิเคชันที่ใช้ในการปกป้องข้อมูล นับเป็นการตอบสนองความต้องการใช้งานในองค์กรได้ดีที่สุด

“หลายองค์กรมักจะเจอปัญหาในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแนวทางการปกป้องข้อมูล ปัญหาใหญ่ที่เจอก็คือการขยายขนาดของข้อมูลอย่างรวดเร็วและการขยายธุรกิจไปทั่วโลก ที่ผ่านมาระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นที่รู้จักว่าเป็นก้าวต่อไปของพัฒนาการในการปกป้องข้อมูล ที่ช่วยให้องค์กรสามารถผลักภาระเรื่องของค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการให้คนอื่นดูแลแทนได้” บ๊อบ ลาลิเบอร์เต นักวิเคราะห์อาวุโสของ Enterprise Strategy Group กล่าวถึงการเพิ่มขยายประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ Whitewater “การขยายตัวของข้อมูลทำให้การสำรองข้อมูลกลายเป็นความท้าทายขององค์กรมากยิ่งขึ้น จากการเปิดตัวครั้งนี้ริเวอร์เบดขยายการรองรับผู้ให้บริการระบบจัดเก็บข้อมูลและโซลูชันสำรองข้อมูลที่มากขึ้น ช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์จากการขยายระบบได้ตามความต้องการ เพิ่มความยืดหยุ่นและได้รับความคุ้มค่าจากระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังไม่ต้องปรับเปลี่ยนขั้นตอนและเครื่องมือสำรองข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งช่วยให้สามารถตอบสนองหรือขยายระดับการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น”
โซลูชันที่ครอบคลุมทั้งระบบช่วยให้ลูกค้าเลือกได้อย่างอิสระรองรับได้ทั่วโลกมากกว่าคนอื่นด้วยผู้ให้บริการที่มากกว่า

ริเวอร์เบดยังคงขยายขอบเขตการใช้งานออกไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มการรองรับโซลูชันระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์จาก Windows Azure, Rackspace Cloud Files and OpenStack Object Storage (Swift) นอกเหนือจาก Amazon Simple Storage Service (S3), EMC® Atmos®-based cloud storage solutions และ Nirvanix Cloud Delivery Network™ (CDN) ที่รองรับการใช้งานมาก่อนหน้านี้ และด้วยการรองรับผู้ให้บริการระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่หลากหลาย ทำให้ Whitewater สามารถช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการเลือกโซลูชันระบบจัดเก็บบนคลาวด์ที่ตอบสนองความต้องการที่ดีที่สุด สำหรับระบบกู้ข้อมูลคืนจากพิบัติภัย สถานที่จัดเก็บข้อมูล คุณภาพการให้บริการและต้นทุนรองรับแอพพลิเคชันในการสำรองข้อมูลครอบคลุมส่วนแบ่งการตลาดกว่า 85%

ริเวอร์เบดยังคงเพิ่มจำนวนในการรองรับซอฟต์แวร์สำหรับการสำรองข้อมูลบนอุปกรณ์เกตเวย์ Whitewater ซึ่งเดิมริเวอร์เบดก็รองรับการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้งานในองค์กร อาทิ CA ARCserve® Backup, EMC NetWorker, IBM Tivoli Storage Manager, Quest® vRanger®, Symantec’s NetBackup and Backup Exec และยังได้เพิ่มการรองรับการทำงานกับซอฟต์แวร์ระบบสำรองข้อมูล CommVault Simpana for Backup and Recovery, HP Data Protector และ Veeam Backup & Replication  และจากการเพิ่มการรองรับซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลทำให้จากการสำรวจของ Gartner1รายงานว่าริเวอร์เบดรองรับซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลได้มากถึง 85% ของที่มีอยู่ในตลาด

คุณสมบัติใหม่ในการทำงานร่วมกับโซลูชันการปกป้องระบบฐานข้อมูล
ริเวอร์เบดยังได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในการรองรับการทำงานกับโซลูชั่นสำหรับปกป้องฐานข้อมูล ทั้ง Microsoft SQL Server backup and restoreและ Oracle RMAN

   Microsoft SQL Server backup and restore
ด้วย Microsoft SQL Server Backup ลูกค้าจะมีเทคโนโลยีสำหรับการสำรองฐานข้อมูลที่ช่วยให้ลดเวลาสำหรับการเรียกคืนข้อมูลจากกรณีพิบัติภัยได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้ระบบในองค์กรทั้งหมดสามารถกลับมาทำงานได้ใหม่ในเวลาไม่กี่นาทีแทนที่หลายชั่วโมงในอดีต

   Oracle RMAN
Recovery manager เป็นเครื่องมือแยกอิสระที่ใช้สำหรับทำงานร่วมกับระบบในกระบวนการสำรองข้อมูลและเรียกคืนระหว่างเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องที่มีอยู่ในระบบ  Gartner, Inc., Market Share Analysis: Storage Management Software Market, Worldwide, 2010" by Alan Dayley, Matthew Cheung, Dave Russell, May 3, 2011

อุปกรณ์เชื่อมต่อตระกูล Whitewater ช่วยลดการซ้ำซ้อน บีบอัดและเข้ารหัสข้อมูลในระบบ เพื่อช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายด้านระบบจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ Whitewater นั้นช่วยให้องค์กรธุรกิจมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์จากการใช้พับบลิคคลาวด์ในเรื่องของการขยายได้ตามความต้องการ, ความยืดหยุ่นและต้นทุนที่จ่ายตามจริงได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดเจ้าหน้าที่ในการดูแลด้านการปกป้องข้อมูลทั้งในเรื่องของการสำรองข้อมูลด้วยเทปและการจัดการระบบสำรองข้อมูลบนเทปที่ไม่รบกวนการทำงานประจำวัน ในกรณีของการเกิดพิบัติภัยข้อมูลที่ได้รับการสำรองอย่างปลอดภัยบนระบบคลาวด์สามารถเรียกกลับข้อมูลคืนไปยังที่ใดก็ได้ และยังช่วยให้องค์กรมีระบบเรียกคืนข้อมูลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยที่ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือคอยดูแลอุปกรณ์ราคาแพงที่มีอยู่ในศูนย์สำรองข้อมูล และ Whitewater เชื่อมต่อการทำงานโดยตรงเข้ากับซอฟต์แวร์ปกป้องข้อมูลชั้นนำพร้อมทั้งมีโปรแกรมภาษาที่ใช้สำหรับเชื่อมการทำงานกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ เหล่านี้ช่วยให้มีต้นทุนที่ไม่แพงและการปรับแต่งการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถติดตั้งอุปกรณ์ Whitewater และทำการย้ายข้อมูลขึ้นสู่คลาวด์ได้ในเวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง ช่วยให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนที่รวดเร็ว ผลของการนำเอา Whitewater เข้ามาใช้งานนั้นจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนผ่านระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้ให้บริการคลาวด์เจ้าใหญ่ที่อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งทุกวันนี้มีองค์กรหลายแห่งที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ Whitewater แล้วรวมถึง GeoEngineers,  Psomas, SM Energy และ Northland Services.

“ข้อมูลในองค์กรของเราโตอย่างต่อเนื่อง 30% ในทุกๆ ปี ซึ่งทำให้ต้องเปลี่ยนรูปแบบในการจัดการเรื่องการสำรองข้อมูลด้วยดิสก์โดยต้องตระหนักถึงทั้งเรื่องของความเสี่ยงและปัญหาด้านการจัดการ” แฟรงค์ สลัจเตอร์ วิศวกรเครือข่าย ของ Northland Services ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างวอชิงตัน, อลาสก้าและฮาวาย “การติดตั้ง Whitewater เข้ากับระบบเดิมของเราที่มีระบบสำรองข้อมูลอย่าง CommVault backup software และต้องมีการเชื่อมตรงเข้าใช้งานกับระบบ Amazon S3 ช่วยให้การใช้งานเร็วยิ่งขึ้นพร้อมทั้งยังปลอดภัยและเป็นวิธีที่ประหยัดในการเชื่อมต่อข้อมูลจากภายนอกองค์กร Whitewater ช่วยให้าสามารถขยายระบบได้ตามความต้องการอย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่า อีกทั้งยังไม่ทำให้เราต้องเจอกับปัญหาข้อจำกัดเรื่องของความจุอีกต่อไป”

“จากการทำงานร่วมอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการโซลูชันชั้นนำมากกว่า 15 รายที่รองรับการทำงานในอุปกรณ์ Whitewater เราพยายามมอบทางเลือกที่สมบูรณ์แบบให้กับระบบปกป้องข้อมูลบนคลาวด์” เรย์ วิลเนิฟ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ของ ริเวอร์เบด กล่าวพร้อมเสริมว่า “การเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ Whitewater ช่วยให้ลูกค้ามีระบบที่ยืดหยุ่นกว่าที่เคยมีมาก่อน ซึ่งช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลยุทธ์ในการปกป้องข้อมูล ด้วยโซลูชันที่เหมาะกับความต้องการในรูปแบบของการใช้งานที่ชัดเจนและง่ายสำหรับการปกป้องข้อมูลบนระบบคลาวด์

ความพร้อมในการวางตลาด : อุปกรณ์ Whitewater ที่มีคุณสมบัติตามข่าวประชาสัมพันธ์นี้ คาดว่าจะพร้อมวางตลาดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554

เกี่ยวกับ ริเวอร์เบด
ริเวอร์เบด มอบระบบที่มีประสิทธิภาพให้กับองค์กรที่มีการเชื่อมต่ออยู่ทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีของริเวอร์เบดองค์กรสามารถประสบความสำเร็จและเลือกกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดสำหรับการเลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง ระบบเสมือน, การควบรวมระบบ, การประมวลผลแบบคลาวด์และระบบรองรับภิบัตภัย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ด้วยการมอบแพลตฟอร์มที่เหมาะสมให้กับองค์กรที่ต้องการเข้าใจ, เพิ่มประสิทธิภาพและควบรวมระบบสารสนเทศ ซึ่งริเวอร์เบดจะเข้าไปช่วยให้องค์กรสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว, ราบรื่นและยึดหยุ่นให้กับสถาปัตยกรรมไอที ให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับริเวอร์เบด (NASDAQ: RVBD)  พร้อมแล้วที่ www.riverbed.com