โครงการพัฒนาทักษะผู้ขับขี่แท็กซี่สาธารณะ “แท็กซี่ไทย หัวใจอินเตอร์”
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการให้บริการขนส่งสาธารณะในเขตเมืองหลวงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่มีผู้ให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการกับประชาชนผู้ใช้บริการทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่เขตเมืองหลวงและปริมณฑล รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สนใจเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ตามนโยบายการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลด้วย
ด้วยเหตุนี้ สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม FM 99.5 จึงได้ริเริ่มแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพและศักยภาพในการให้บริการกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะ โดยการส่งเสริมและพัฒนาคุณลักษณะของการให้บริการที่ดีขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้กับผู้ขับแท็กซี่ไทย รวมถึงเพื่อลดปัญหาภาพลักษณ์เชิงลบที่อาจมีต่อผู้ให้บริการแท็กซี่สาธารณะในปัจจุบันด้วยในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ทางโครงการฯ ยังเล็งเห็นว่า การพัฒนาศักยภาพของการให้บริการ ยังเป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ขับขี่รถสาธารณะอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องไปกับหน้าที่หลักและพันธกิจของสถานีจราจรเพื่อสังคม FM 99.5 มากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องแท็กซี่ไทย หัวใจอินเตอร์
ความหมายของคำว่า “อินเตอร์” (Inter: International) สื่อถึง การบริการของรถแท็กซี่ไทย ที่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ โดยผู้ขับขี่ที่ผ่านการอบรมจากโครงการฯ จะมีความรู้สึกภาคภูมิใจเมื่อผ่านการอบรมอย่างสมบูรณ์
การให้บริการแท็กซี่สาธารณะที่ดีทำอย่างไร ทำได้ตั้งแต่การใช้คำพูดสื่อสารกับลูกค้าด้วยภาษาที่เหมาะสม การสื่อสารที่เข้าใจตรงกันระหว่างผู้ขับขี่กับผู้รับบริการ การดูแลรักษาความสะอาด รูปแบบการให้บริการที่สุภาพ รวมไปถึงการแต่งกายที่เหมาะสม เหล่านี้ล้วนเป็นการสะท้อนถึงการให้บริการที่ดีเช่นเดียวกัน
โครงการพัฒนาทักษะของผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะในโครงการแท็กซี่ไทย หัวใจอินเตอร์
หลักสูตรการพัฒนาทักษะ โครงการแท็กซี่ไทย หัวใจอินเตอร์ เป็นโครงการระยะยาว โดยแบ่งการอบรมออกเป็น 4 กิจกรรม ซึ่งแต่ละครั้งนั้นสะท้อนถึงคุณค่าที่ได้รับเสมือนห้องของหัวใจ ที่มี 4 ห้อง โดยแต่ละห้องของกิจกรรม จะมีการอบรมเพียง 1 วันเท่านั้น และเนื้อหาของกิจกรรม จะเน้นเสริมความสมบูรณ์แบบในทักษะของการให้บริการ ที่ดำเนินการให้ข้อเสนอแนะโดยวิทยากรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ โดยหัวใจทั้ง 4 ห้องนั้นประกอบไปด้วยรายละเอียด ดังนี้
หัวใจของการสื่อสาร : ประโยคภาษาอังกฤษที่จำเป็นต้องรู้จัก สำหรับการพูดคุยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งจะเริ่มในการอบรม 7-8 ประโยคหลักสำหรับภาษาอังกฤษ พร้อมกับ ข้อแนะนำในการสื่อสารบางประเด็นในภาษาไทย
หัวใจของความรู้ : แนวคิดนี้ เป็นแนวเสริมความรู้ให้กับผู้ขับรถในส่วนเนื้อหาที่ควรจะรู้ และสามารถสื่อสารต่อให้กับผู้โดยสารได้ เช่น ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว หรือความรู้เชิงประวัติศาสตร์ เส้นทางแนะนำ ต่างๆ เป็นต้น
หัวใจของการบริการ : การอบรมนี้จะเข้าสู่ศาสตร์ของการบริการ โดยที่จะเป็นการเน้นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว การทักทายผู้โดยสาร ความสะอาดของตัวรถทั้งภายในและภายนอก การวางสิ่งของต่างๆในรถ กลิ่นที่อยู่ในรถ ลักษณะของการขับขี่ คำพูดที่โพล่ง หรือ อาการเผลอสบถ ในอากัปกิริยาต่างๆ
หัวใจเปี่ยมรอยยิ้ม : บุคลิกภาพเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกอาชีพการให้บริการ โดยจะเน้นที่ตัวผู้ขับรถ ทั้งลักษณะการแต่งตัว ความสะอาดของร่างกาย กิริยาท่าทางเมื่อจำเป็นต้องมีการเดิน (เช่นกรณี เดินลงไปช่วยผู้โดยสาร) ท่าทางที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกอุ่นใจ การไหว้ เป็นต้น
โครงการอบรมหัวใจห้องที่ 1 การสื่อสาร วิทยากรโดย คุณนีน่า กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ... สำคัญไฉน
สำหรับเรื่องของภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันนั้น นีน่าพยายามจะบอกกับทุกๆ คนเสมอว่า ภาษาอังกฤษ เป็นกุญแจสำคัญ ที่ไขชีวิตของนีน่าไปสู่โอกาสในชีวิตที่มากมาย อย่างแรกก็คือ เรื่องงาน เพราะตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ รายการผู้หญิงถึงผู้หญิงที่ตัวนีน่าทำอยู่ ก็ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็นพิธีกร เพราะเรามีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษที่ดี แม้ว่ารายการนี้จะเป็นรายการภาษาไทย และดำเนินรายการเพื่อคนไทยก็ตาม แต่ที่ทางสถานีคัดเลือกเราเข้ามา เพราะเรามีความรู้ภาษาอังกฤษอยู่ด้วย ดังนั้นนีน่าเองก็มีโอกาสได้ใช้ความรู้ด้านภาษาอังกฤษ เช่น ในการแปลสคริปต์ภาษาอังกฤษ หรือการแปลข่าวเอามาเล่าในรายการ เพราะทักษะที่เรามีทักษะที่ใช้ได้ รวมไปถึงรายการ English on tour ด้วยค่ะ
นอกจากนี้นีน่าเอง ยังมีงานเขียน ประเภทงานแปลหนังสือ งานเขียนคอลัมน์ และเขียนหนังสือ อย่าง Just Speak Out ซึ่งเป็นการให้คำจำกัดความในการเขียนคือ “แค่พูดออกไป” ที่ออกมาเพื่อให้คนเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการเอาเรื่องของตัวเอง ที่เอาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน หรือความตลกขำขันจากความผิดพลาดในการใช้ภาษาอังกฤษมาเล่าให้คนฟัง เพื่อให้เกิดความสนุก และสร้างแง่คิดว่านีน่าก็เคยผิดพลาดเช่นเดียวกัน หลังจากนั้น เราก็สอดแทรกลงไปว่า สิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่นำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้นั้นเป็นอย่างไร จะได้ไม่ต้องผิดเหมือนที่นีน่าเคยใช้ผิดมาก่อนเป็นต้น ค่ะ
นอกจากนี้ ผลงานการแปลหนังสือต่าง ๆ อาทิ The Secret สุดยอดคนรุ่นใหม่ ที่แปลมาจากหนังสือ Best Seller จาก The Secret to the King Power และงานเขียนคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ แหล่งที่มาของงานเขียนดังกล่าว ก็มาจากภาษาอังกฤษทั้งนั้น ส่วนเรื่องของงานพิธีกร ถ้าเราเป็นพิธีกรภาษาไทยได้ก็ดี “ถ้าเสริมเรื่องของภาษาอังกฤษที่ดีเข้าไปด้วย โอกาสในการรับงานเราก็มากขึ้น หรือค่าตอบแทนเราก็มีโอกาสได้เพิ่มมากขึ้นด้วยนะคะ”
ภาษาอังกฤษ...ทำให้ชีวิตของเรา “ง่ายขึ้น” อย่างไร
“ภาษาอังกฤษ ทำให้ตัวนีน่ามองโลกได้กว้างขึ้น จากเดิมอาจจะแค่มองได้ 180 องศา ก็มาเป็น 360 องศา” เพราะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เรามีโอกาสได้เข้าถึงวัฒนธรรม ประเพณี ความรู้ รวมถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ในโลกนี้ได้มากขึ้น เพราะสื่อต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางหนังสือ ทีวี อินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษนั่นเอง นอกจากนี้ในชีวิตประจำวันของเราเอง ก็ยังมีเรื่องราวของความจำเป็นที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมากมาย อาทิเช่น ฉลากยา รายละเอียดของกินของใช้ต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น
ทำอย่างไรให้กลัวชาวต่างชาติน้อยลง
“เราก็คน เค้าก็คน ฝรั่งก็เป็นคน ทำไมเราจะต้องกลัวเค้าล่ะคะ” อย่างข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ไม่เคยมีใครเคยเขียนไว้ว่า คนไทยโดนฝรั่งกัด เพราะพูดกันไม่รู้เรื่องซะหน่อย ซึ่งเรื่องนี้เล่าให้ใครๆ ฟังก็ขำกัน เพราะภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่ของเรา ถ้าใครพูดมา แล้วเราฟังผิด ฟังถูก ก็ไม่เห็นเป็นไร แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าคุยกับฝรั่ง เพราะเรากลัวเค้าฟังเราไม่ค่อยรู้เรื่อง กลัวหน้าแตก กลัวเสียหน้า ซึ่งถ้าเรากลัวฝรั่งในฐานะที่เค้าพูดภาษาต่างประเทศนั้น ให้เราลองเปรียบเทียบดูว่า ความสามารถของเราในการพูดภาษาอังกฤษ กับฝรั่งที่จะพูดภาษาไทย แน่นอนคนไทยจะรู้ภาษาอังกฤษ มากกว่าฝรั่งรู้ภาษาไทยอยู่แล้ว ดังนั้นหากมองในแง่ภาษาแล้ว คนไทยเก่งกว่าต่างชาติแน่นอนค่ะ และที่สำคัญประเทศไทยคือบ้านเมืองของเรา ดังนั้นชาวต่างชาติที่มาพูดคุย หรือขอความช่วยเหลือ ถือว่าเป็นความกรุณาของเราที่มีต่อเขามากกว่า เพราะเราพยายามที่จะช่วยเหลือโดยการสื่อสารกับเขานะคะ และในชีวิตจริงเราต้องคุยกับชาวต่างชาติ หากจะพูดผิดหรือถูก พูดด้วยสำเนียงเอเชียแบบไทยๆ ของเรา หรืออาจจะใช้ภาษามือประกอบบ้าง กฌไม่มีใครมาคอยหักคะแนนเราหรอก เพราะไม่ใช่เรื่องของห้องเรียนค่ะ
ทำอย่างไรดี
ถ้าพูดแล้วฝรั่งไม่เข้าใจ
นีน่าได้เตรียมประโยคการพูดที่สำคัญๆ เพื่อช่วยให้พี่ๆ แท็กซี่จำไปบอกกับชาวต่างชาติไว้แล้วค่ะ เช่น การบอกให้พูดช้าๆ อีกครั้งได้หรือไม่ หรือพูดซ้ำได้หรือไม่ อย่าไปกลัว เพราะในอดีตที่ผ่านมา ถ้าเราฟังไม่ทันอาจจะหัวเราะแหะๆ แล้วก็ไม่บอกเค้าว่า เราฟังเขารู้เรื่องหรือไม่ เพราะเราอาย แต่ลองปรับวิธีการเป็นพูดออกไปเลยด้วยความมั่นใจและความเป็นมิตรว่า เราต้องการให้พูดอีกที หรือขอให้พูดช้าๆ แต่ถ้าสมมุติว่าเราสื่อสารไม่รู้เรื่องจริงๆ เราก็ควรจะพาเขาไปขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น อันเนื่องมาจากที่เราไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษเลย ดังนั้น นั่นจึงเป็นที่มาว่าเหตุใด เราจึงต้องเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาภาษาอังกฤษของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
พูดภาษาอังกฤษไปแล้ว แต่ไม่เข้าใจสักที ทำให้เราขาดความมั่นใจทำอย่างไรดี
นีน่าจะบอกว่า เวลาที่เราพูดภาษาอังกฤษ หัวใจอีกประการคือ การเน้นพยางค์ หรือเว้นวรรคคำให้ถูกต้อง หลายๆ คนไม่รู้จุดนี้ ซึ่งมีคนถามเหมือนกันว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า จะออกเสียงอย่างไร เน้นตอนไหนนั้น เราต้องฟังจากต้นฉบับบ่อยๆ ทั้งจากตัวคนพูดจริงๆ หรือสื่อต่างๆนั่นเอง สำหรับคนที่พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เราก็จะมีเทคนิคในการแนะนำเพื่อเพิ่มทักษะในการฟังและการพูด ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องใช้การฟังและจำของบุคคลนั้น ๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นไปได้เราควรจะสร้างคู่มือง่ายๆ ที่มีคำภาษาไทยอธิบาย และมีคำเป็นคาราโอเกะ ภาษาไทยกำกับไว้ เพื่อให้อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ส่วนคำไหนที่ต้องเน้นเสียง ก็จะมีการพิมพ์ตัวสีดำหนาไว้ให้เห็น เป็นต้น
ภาษาอังกฤษ มีหลายระดับ ขนาดตัวนีน่าเอง ที่ดูหนังต่างประเทศประเภทแนววิทยาศาสตร์ล้ำลึก ก็ยอมรับว่าฟังไม่ทัน บางทีก็ไม่รู้เรื่อง แต่การ์ตูน หนังชีวิต เราก็ฟังได้ เพราะมันง่าย ศัพท์ไม่ยากมาก ซึ่งจะบอกว่าภาษาอังกฤษยาก ก็คงไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ง่ายไปทั้งหมด เพราะภาษาก็มีหลายระดับ เหมือนภาษาไทยนั่นแหละ เพียงแต่ระดับของการสื่อสารในเบื้องต้นในชีวิตประจำวันต่างหาก ที่เราอยากให้คนเข้าใจกันมากกว่า ทั้งนี้อยู่ที่ความตั้งใจของคนที่ต้องการนำไปใช้นั่นเอง
สุดท้ายนี้ ภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องของความตั้งใจจริงที่ตัวผู้พูด คิดว่าจะพูดให้ได้หรือจะสื่อสารให้ได้ และเรื่องของการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีโอกาสฝึกฝน แต่ถ้าคนที่ไม่สนใจและขวนขวาย ก็คงไม่มีใครช่วยคุณได้ ซึ่งก็คือการเปิดใจเรียนรู้และฝึกฝนนั่นเองนะคะ