สวมแว่นตาให้ผู้สูงวัย เสริมกำลังใจสานต่อชีวิตใหม่ให้ปู่ย่าตายายชาวเกาะเกร็ด
กับ “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ”
พื้นที่เกาะเกร็ด จ. นนทบุรี นับเป็นจังหวัดที่ 40 ในการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ในปี พ.ศ. 2554 นี้ทางโครงการฯ ตั้งเป้าที่จะให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยทั่วประเทศเป็นจำนวนกว่า 7,000 คน
ปัจจุบันมีจำนวนผู้สูงวัยที่ได้รับบริการไปแล้ว ตั้งแต่ริเริ่มดำเนินโครงการฯ ในปีพ.ศ. 2552 ทั้งสิ้นกว่า 20,000 คน
ห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ยกขบวนลงพื้นที่ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นฟรีให้แก่ผู้สูงวัยชาวเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ประสบปัญหาด้านสายตากว่า 470 คน เพื่อเป็นการสานต่อ “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ในการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาสายตาในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและบุตรหลานได้ ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้สูงวัยที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วยนางเอกสาวสุดฮอต แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ที่จะมาช่วยดูแลและสร้างรอยยิ้มแก่ปู่ย่าตายาย ปิดท้ายด้วยการชมฝีมือการทำหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาจากภูมิปัญญาผู้สูงอายุอันเป็นมรดกล้ำค่าของชาวเกาะเกร็ดที่น่ายกย่อง
นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างแว่นท็อปเจริญ เปิดเผยว่า ปัญหาการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา เนื่องจากผ่านการใช้งานอย่างหนักมาหลายสิบปี ส่งผลให้ผู้สูงวัยในจังหวัดนนทบุรีจำนวนมาก ต้องประสบปัญหาในการมองเห็น ถึงขั้นประกอบอาชีพตามปกติไม่ได้ ซึ่งอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ชาวเกาะเกร็ด คือ อาชีพการทำหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาและค้าขาย ที่จำเป็นต้องใช้สายตา หรือต้องการแว่นตามาช่วยสร้างความสดใสชัดเจนมากยิ่งขึ้น “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ซึ่งเกิดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างห้างแว่นท็อปเจริญและมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จึงมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การช่วยเหลือเรื่องการดูแลสายตา ตรวจวัดและประกอบแว่นใหม่ให้กับผู้สูงวัยเหล่านี้ และไม่เพียงแต่จะเป็นการสืบสานหัตถกรรมท้องถิ่นแล้ว ยังจะทำให้ปู่ย่าตายายเหล่านี้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกครั้ง สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ดีขึ้น และไม่เป็นภาระต่อบุตรหลาน ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นสำหรับผู้สูงวัยในจังหวัดนนทบุรี และผู้สูงวัยในทั่วทุกภาคของประเทศ
“และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในการช่วยเหลือผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการดำเนินโครงการฯ นับตั้งแต่ปี 2552 – 2557 ทางโครงการฯ ได้กำหนดเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้สูงวัยจนครบทั่วทุกภาคของประเทศที่จะได้รับบริการไว้ รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 คน โดยมีผู้ได้รับบริการในแต่ละพื้นที่ประมาณ 400 คนต่อครั้งต่อจังหวัด จากการพิจารณาคัดเลือกผู้สูงวัย โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้ประสานความร่วมมือกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ของแต่ละจังหวัด” นายนพศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายบุญส่ง ไตรภูธร ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ห้างแว่นท็อปเจริญ กล่าวว่า ในเดือนตุลาคม 2554 ทางโครงการฯ ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงวัยชาวเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนับเป็นจังหวัดที่ 40 ภายใต้การดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้ทางโครงการฯ ตั้งเป้าที่จะให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยเป็นจำนวนกว่า 7,000 คน พร้อมมุ่งเน้นการขยายพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในจังหวัดห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร เพื่อสนองพระราชประสงค์ในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ซึ่งหลังจากโครงการได้ริเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2552 จวบจนปัจจุบันรวมจำนวนผู้สูงวัยที่ได้รับบริการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 20,000 คน
สำหรับผู้สูงวัยที่มีอาการทางสายตา และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดแว่น เช่น มีอาการต้อกระจก ฯลฯ ทางมูลนิธิฯ จะส่งผู้สูงวัยรายนั้นๆ ไปรักษายัง “ศูนย์รักษาตา ท็อปเจริญ” ซึ่งเป็นศูนย์รักษาตาที่ตั้งขึ้น โดยห้างแว่นท็อปเจริญเพื่อให้บริการแก่ผู้เป็นโรคทางสายตาและโรคตา โดยศูนย์รักษาตาท็อปเจริญจะให้การรักษาผู้สูงวัยที่พบว่าเป็นโรคตาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่น ตามโครงการนี้ปีละ 100 ดวงตา โดยไม่คิดค่าบริการรักษาแต่อย่างใด
คุณยายสมบูรณ์ เซ็นเสถียน อายุ 80 ปี ผู้สูงวัยในพื้นที่ ต.เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ได้รับแว่นตาจากโครงการฯ กล่าวว่า “เพียงแค่ดวงตาพล่ามัวลงไปตามวัย ทำให้ยายรู้สึกหมดแรงกายแรงใจในการดำเนินชีวิต เสมือนดวงตาที่กำลังจะมืดบอดนั้น บ่งบอกว่าชีวิตที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลากำลังจะหมดค่าหมดความหมาย เพราะแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเมื่อก่อน ทั้งยังจะเป็นภาระของลูกหลานอีกด้วย หลังจากที่ได้รับทราบข่าวจากชุมชน จึงได้มาเข้ารับบริการจากโครงการนี้ และคาดหวังว่าหลังจากได้รับแว่นแล้ว จะมีส่วนช่วยเรื่องการมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น และมีโอกาสทำอะไรเองได้เหมือนเมื่อก่อน ไม่ต้องลำบากลูกหลาน”
ด้านนางเอกสาวสุดฮอต แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการว่า “นับเป็นปีที่ 3 ของการดำเนินโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ แล้วนะคะ แพนเค้กเองก็รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจมาก ที่ตนเองได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ ที่นอกจากจะนำพาความสดใสของดวงตามาให้ผู้สูงวัยแล้ว แพนเค้กยังได้มีโอกาสพูดคุยกับปู่ย่าตายายที่อยู่ที่เกาะเกร็ดแห่งนี้ และได้รับรู้ถึงความยากลำบากของชีวิตที่ยากไร้ และประสบปัญหาด้านสายตาอีกด้วย หากมีโอกาสแพนเค้กก็อยากเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีก และจะขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูงวัยทุกท่าน ในทุกๆ พื้นที่ด้วยนะคะ”
ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลกับ “โครงการแว่นตาเพื่อผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” สามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ผู้สูงวัยที่ต้องการเข้ามารับการรักษาที่ศูนย์รักษาตา ท็อปเจริญได้ โดยสามารถบริจาคได้ที่ห้างแว่นท็อปเจริญทุกสาขา และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-612-4170 หรือคลิกเข้าดูเว็บไซต์
www.topcharoen.co.th หรือ
www.facebook.com/CareYourEye