APCS พร้อมเทรด ตลท.วันนี้ มั่นใจนักลงทุนไม่ผิดหวัง
บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น พร้อมเข้าเทรด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันแรก (29 กันยายน) โดยใช้ชื่อย่อ “APCS” มั่นใจ นักลงทุนให้ความสนใจ ย้ำบริษัทฯ พื้นฐานแข็งแกร่ง เน้นการเติบโตอย่างมั่นคง อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ขยายตัวต่อเนื่อง
นายอภิชาติ การุณกรสกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ APCS เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการซื้อขายวันนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากในช่วงการจองมีผู้ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ อย่างล้นหลาม ทั้งจากนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบัน เชื่อนักลงทุนตามเก็บหุ้นต่อหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้บริษัทฯ มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่ดีเป็นตัวหนุน จึงเชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจหลังจากเข้าตลาดแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯประกอบธุรกิจด้านการผลิตชิ้นส่วนความเที่ยงตรงสูง สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ คอมเพรสเซอร์ และกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ซึ่งหากพิจารณาถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯจะเห็นได้ว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตราการขยายตัวทางด้านยอดขายเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯมียอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปี2552 บริษัทฯมีรายได้รวม 609 ล้านบาท ขณะที่ปี 2553 บริษัทฯมีรายได้รวม 907 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทฯมีรายได้รวม 478 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 434 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯคาดว่าในปี2554 บริษัทฯจะมีรายได้รวมเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 408.75 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปลงทุนซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ ชำระเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทในอนาคต ซึ่งเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะสามารถขยายกำลังผลิตของบริษัทฯ ได้อีกเท่าตัว นอกจากนั้นส่วนหนึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะนำไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย โดยผ่านทางบริษัทย่อยของบริษัทฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนเพิ่มอัตราเติบโตของรายได้และผลกำไรของบริษัทฯ ในอนาคต
คุณณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารธุรกิจไพรเวทแบงก์ เครือธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ APCS กล่าวว่า APCS เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง มีอัตรากำไรอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และนโยบายภาครัฐที่ให้การสนับสนุน ยิ่งส่งผลในเชิงบวกต่อบริษัทฯ