ติคนิวซิตี้ แตกไลน์ธุรกิจเสื้อผ้า จับมือแฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากสเปน ส่งแบรนด์ Adolfo Dominguez รุกตลาดเมืองไทย
บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) แตกไลน์ธุรกิจนำเข้าและผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ดังกว่า 10 แบรนด์ รุกร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับแฟชั่นชั้นนำจากประเทศสเปน เปิดตัวเสื้อผ้าแบรนด์ Adolfo Dominguez (อะดอลโฟ โดมิงเกซ) ดีไซเนอร์แบรนด์ดังจากสเปนที่มีร้านกว่า 614 แห่งทั่วโลก พร้อมนำเสนอคอนเซ็ปท์ WRINKLES ARE BEAUTIFUL หรือ “ความสวยงามของรอยยับ” ให้สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษชาวไทยได้รู้จัก คาดรายได้ปีแรกทะลุ 15 ล้านบาท และอีก 5 ปีข้างหน้า ยอดขายแตะ 200 ล้านบาท จากการเพิ่มสาขา และจุดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ประวรา เอครพานิช กรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการนำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ Adolfo Dominguez จากประเทศสเปนว่า จากเดิมที่บริษัทได้จำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส อาทิเช่น Guy Laroche และ Feraud จนเป็นที่ยอมรับของตลาดประเทศไทย มาแล้วกว่า 20 ปี ปัจจุบันตลาดธุรกิจแฟชั่นสเปนกำลังมาแรงและเติบโตในตลาดทั่วโลก Adolfo Dominguez เป็นดีไซเนอร์แบรนด์ที่มีความสวยงามที่ชัดเจน และน่าสนใจเป็นอย่างมาก และนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับดีไซเนอร์แบรนด์ดังจากสเปน โดยมีการทำงานร่วมกันทุกขั้นตอน ตามมาตรฐานของ Adolfo Dominguez ที่มีเหมือนกันกว่า 614 สาขาทั่วโลก ทั้งระบบการทำงานและการตกแต่งร้านที่เน้นความสวยงามหรูหราแต่มีความรู้สึกเป็นกันเองตามคอนเซ็ปท์ของแบรนด์
ความโดดเด่นของ Adolfo Dominguez คือความเป็นดีไซเนอร์แบรนด์คุณภาพติดอันดับ 1 ใน 10 แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศสเปนมานานกว่า 40 ปี เริ่มต้นเป็นที่รู้จักมาจากการออกแบบเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ ของ Mr. Adolfo Dominguez ผู้ปฏิวัติการออกแบบแฟชั่นของสเปนภายใต้แนวคิด WRINKLES ARE BEAUTIFUL หรือ “ความสวยงามของรอยยับ” เป็นการให้ความสำคัญกับความง่าย ความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่ต้องตกแต่งมากแต่มีความสุนทรีย์อยู่ข้างใน เน้นความสวยงามจากเนื้อแท้ของวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ลินินและฝ้าย เป็นต้น ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 470 ร้านค้าในสเปน และมีสาขาทั่วโลกกว่า 27 ประเทศ รวมกว่า 614 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านค้าในทวีปอเมริกา 50 แห่ง ใน 12 ประเทศ ในทวีปยุโรปและแอฟริกา 522 แห่ง ใน 8 ประเทศ และทวีปเอเชียอีก 42 แห่ง ใน 7 ประเทศ ซึ่งมีทั้งร้านค้าของตนเองและรูปแบบแฟรนไชส์ ปัจจุบัน 25% ของยอดขายทั้งหมดมาจากร้านค้าในต่างประเทศ และคาดว่าในปี 2013 ร้านค้าในต่างประเทศจะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 50% ของยอดขายทั้งหมด นอกจากนี้ Adolfo Dominguez ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 30 ธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศสเปนจากสถาบัน Reputation Institute อีกด้วย
“บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) ถือว่าอยู่ในแวดวงธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศมานาน สำหรับแบรนด์ Adolfo Dominguez เป็นการร่วมธุรกิจกัน 100% ทำงานร่วมกันทุกกระบวนการ ด้วยการนำระบบการบริหารงานจากสเปนมาใช้บริหารที่ประเทศไทยเต็มรูปแบบ
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในคุณค่าความแข็งแกร่งของแบรนด์ และระบบการบริหารงานที่ดี รวมถึงความหลากหลายครบครันของประเภทสินค้า ที่น่าจะตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย คือ มีทั้งเสื้อผ้าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เด็ก สัตว์เลี้ยง น้ำหอม เครื่องประดับ เครื่องสำอาง นาฬิกา ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน แต่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ บริษัทฯ จะเปิดตัวด้วยการจำหน่ายเสื้อผ้าสตรี (Adolfo Dominguez Women) และสุภาพบุรุษ (Adolfo Dominguez Men) ก่อน” ประวรา กล่าว
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย คุณประวรา เชื่อมั่นว่าการดีไซน์เสื้อผ้าของแบรนด์ Adolfo Dominguez จะเป็นการเปิดตลาดให้กับแฟชั่นคนรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ด้วยความไม่หรูหราจนเกินไป แต่แฝงไว้ความดูดี มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเสริมบุคลิกจากเสื้อผ้า โดยเฉพาะสินค้าสุภาพสตรีที่แบรนด์นี้มีความโดดเด่น จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าระดับเอลิสต์หลายท่าน อาทิเช่น สมาชิกของราชวงศ์สเปน รวมถึงดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง กวินเน็ธ พัลโทรว์ เป็นต้น โดยคาดว่าสัดส่วนการจำหน่ายระหว่างสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษจะอยู่ในอัตราส่วนประมาณ 60%และ 40% ตามลำดับ ในขณะที่ราคาอยู่ในระดับกลางเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ถึงหลักหมื่นบาท ภายใต้นิยามหลักของแบรนด์ Adolfo Dominguez ที่ว่า “Affordable Luxury” ความหรูหรามีระดับที่คุณสัมผัสและเข้าถึงได้
แฟชั่นในเซ็ทแรกของ Adolfo Dominguez Women เปิดตัวในประเทศไทย เป็นคอลเลคชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสเปนโมเดิร์นในยุค 70 และยุคฮิปปี้ เป็นผลงานสถาปัตยกรรมของ Antoni Gaudi สถาปนิกชาวสเปนชื่อดังในยุค Modernism (Art Nouveau) เน้นลวดลายธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลายดอกไม้ และรูปทรงโค้งและพริ้วไหว ใช้สีสันและเน้นลายเส้นภาพวาด มี 4 ธีมสี ได้แก่ ดำขาว สำหรับเสื้อผ้าแนวเก๋และคลาสสิค ฟ้าและกรมท่า ซึ่งใช้ร่วมกับสีแดงและสีขาว สีธรรมชาติ ซึ่งเป็นสีพื้นและดูซอฟท์ เช่น สีเบจ สีเทา สีทรายและสีขาว ให้ความโรแมนติกมากขึ้น สีพาสเทลหรือสีหวานๆ ได้แก่ สีเขียวหยกและสีม่วงอ่อนลาเวนเดอร์ให้เสื้อผ้าดูเทรนดี้มากขึ้น วัตถุดิบที่ใช้มีทั้งคอตตอนที่เป็นผสมกับเส้นใยอื่น ๆ อาทิคอตตอนผสมเมทัลไฟเบอร์ เพิ่มความยับให้กับเนื้อผ้ามากขึ้น มีเข็มขัดเป็นส่วนประกอบสำคัญของคอลเลคชั่น เน้นรัดเข้ารูปเพื่อให้เห็นสัดส่วนเพรียวบาง และบางดีไซน์มีรูปทรงที่แปลกตา สั้นยาวไม่เท่ากันเสมอไป หรือ ผสมเนื้อผ้าต่างชนิดกันในชุดเดียวกัน เห็นเป็นมิติที่แตกต่างเกินความคาดหมาย
ส่วนคอลเลคชั่นของ Adolfo Dominguez Men คอลเลคชั่นเสื้อผ้าผู้ชายได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นในยุค 50 และ 90 ดึงกลิ่นไอของทะเลและทะเลทรายในแอฟริกา ก่อเกิดแนวคอนเซ็ปท์เสื้อผ้าสวมใส่สบาย สีที่ใช้มี 2 ธีมสี คือ สีทะเลทรายดูอบอุ่น เช่น สีเบจ สีเทา สีทรายและสีขาว และธีมสีน้ำทะเล ซึ่งดูเทรนดี้ โดยมีสีฟ้า และสีกรมท่าเล่นระดับอ่อนแก่ ทั้งสองธีมเน้นสีซอฟท์และสีพาสเทลหวานๆ ดูฟอกซีดมากขึ้น ส่วนสีที่ย้อมเข้ม เช่น สีน้ำตาล สีม่วงและสีแดงจะใช้ในเสื้อโปโล วัตถุดิบที่ใช้เป็นคอตตอนผสมเส้นใยอื่น ๆ รูปทรงจะเป็นทรงที่สวมใส่สบายมีความนุ่มสบาย น้ำหนักของผ้าจะเน้นโครงร่างของร่างกายท่อนบน และเน้นเนื้อผ้ามีน้ำหนักในท่อนล่าง นอกจากนี้ยังเป็นคอลเลคชั่นแบบ Deconstructed ที่เพิ่มรายละเอียดบนกระเป๋าเสื้อ กระเป๋าทรงทแยงมุมและรายละเอียดอื่น ๆ บนเสื้อ ทั้งยังมีสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลจากเสื้อผ้าทหาร อาทิ เชิ้ตคอเสื้อจีนทรงประธานเหมา และการใช้ซิป คอลเลคชั่นนี้จะมีเสื้อผ้าที่เป็นแจ็กเกตสไตล์คลาสสิก ทั้งแบบคอตั้งและคอเทเลอร์ ส่วนเสื้อถักจะเป็นสไตล์ที่เน้นรอยยับตามเอกลักษณ์ของแบรนด์
อนาคตการขยายสาขา ประวรา กล่าวว่า ตนได้วางแผนขยายสาขาปีละ 1 สาขา ส่วนการจัดจำหน่ายใน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะเพิ่มปีละ 3-4 จุดจำหน่าย ซึ่งคาดว่าต่อไปจะมีห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมเกิดขึ้นอีกหลายแหล่งโดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 15-20 ล้านบาทในปีแรก คาดภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ยอดขายจะสูงถึง 200 ล้านบาท จากการขยายจุดจำหน่ายและการเพิ่มร้านค้าในห้างสรรพสินค้าระดับหรูที่มีแนวโน้มเปิดใหม่อีกหลายแหล่งในกรุงเทพฯ
ปัจจุบันร้าน Adolfo Dominguez เปิดให้บริการที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน A (เอเทรียม) บนเนื้อที่ 200 ตารางเมตร ออกแบบตกแต่งร้านตามมาตรฐานเดียวกับประเทศสเปน และอีกกว่า 614 สาขาทั่วโลก ครบครันด้วยเสื้อสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ