KTAMเปิดขายตราสารหนี้ตปท.11เดือน ชู3.75% พร้อมจ่ายปันผล3กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกองทุนกรุงไทยธนทรัพย์ บี 16 ( KTSUPB16 ) อายุโครงการ 11 เดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.75% ต่อปี เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ เงินฝากประจำหรือบัตรเงินฝากสกุล CNY ของสถาบันการเงินจีน เช่น Bank of China ซึ่งเป็นธนาคารที่ภาครัฐถือหุ้นใหญ่และมีขนาดสินทรัพย์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน โดยกองทุนจะลงทุนในต่างประเทศ ไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และจะทำสัญญาซื้อขายเพื่อปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน (Fully Hedge)
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น รับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างต่ำ ซึ่งตราสารที่ลงทุน จะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน และเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้มีความผันผวนสูงมากตามตลาดการเงินต่างประเทศ และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรุ่นอายุสั้น ยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ของตลาดการเงินส่วนใหญ่ที่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% ไปอยู่ในระดับ 3.50% ในกลางสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และยุโรปเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นต่อการตัดสินใจในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะทำให้ กนง. ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงถัดๆ ไป โดยจะเห็นได้จากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากความกังวลถึงการถดถอยของเศรษฐกิจ กระแสการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ และการค้าการลงทุนที่จะได้รับผลกระทบในอนาคตหากเศรษฐกิจโลกยังไร้เสถียรภาพ
นอกจากนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3 กองทุน โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 31 สิงหาคม 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 15 กันยายน 2554 ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ ( TCIF ) จากผลการดำเนินระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2554 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.225 บาทต่อหน่วย , กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ตลาดไท ( TTLPF) จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2554 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.35 บาท ต่อหน่วย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DTCPF) จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2554 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.367 บาทต่อหน่วย