Facebook on August 24, 2011, 02:56:38 PM


ไพลินบุ๊คเน็ต’ เชื่อธุรกิจหนังสือคึกคัก มั่นใจโครงการ ‘มหานครแห่งการอ่าน’ ดันยอดโตกว่า 5%
 
          ผู้บริหาร “ไพลินบุ๊คเน็ต” มั่นใจธุรกิจหนังสือคึกคัก หลังกรุงเทพมหานครเดินหน้าโครงการ “มหานครแห่งการอ่านและการเรียนรู้” หลังได้รับการคัดเลือกเป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556 หรือ World Book Capital 2013 จากยูเนสโก ยอมรับได้รับอานิสงส์จากโครงการดังกล่าว พร้อมเตรียมแผนรับมือ ระบุไม่ห่วงเรื่องการแข่งขัน เพราะการทำตลาดของ “ไพลินบุ๊คเน็ต” แตกต่างจากธุรกิจหนังสือรายอื่น ทั้งราคาย่อมเยา ความหลากหลายของประเภทหนังสือ ช่องทางการจำหน่าย รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ครอบคลุมในวงกว้าง เชื่อกระแส “รักการอ่าน” ผลักดันยอดขายมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 5%

          นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ทั้งการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า จากนโยบายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ต้องการส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็น “มหานครแห่งการอ่านและการเรียนรู้” ในโอกาสที่กรุงเทพมหานครได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556 หรือ World Bank Capital 2013 จากองค์กรยูเนสโก นั้น จะส่งผลให้อุตสาหกรรมหนังสือมีความตื่นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น

          “หลังจากนี้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านจะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่คึกคักให้กับอุตสาหกรรมหนังสืออย่างแน่นอน เพราะในเบื้องต้น ทางกรุงเทพมหานครตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราการอ่านหนังสือจาก 5 เล่มต่อคนต่อปีในปัจจุบัน เป็น 10-20 เล่มต่อคนต่อปีในปี 2556 สอดคล้องกับการที่รัฐบาลสนับสนุนให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ โดยกำหนดให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการอ่านหนังสือจาก 5 เล่มต่อคนต่อปี เป็น 10 เล่มต่อคนต่อปี ในช่วง 3 ปีระหว่างปี 2552-2555 ซึ่งเมื่อนโยบายหลักระดับประเทศและนโยบายของ กทม. เดินไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นแรงส่งที่มากขึ้น ทำให้เชื่อว่า ภาพรวมของธุรกิจหนังสือน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างน้อยปีละกว่า 5%” นายฉัตรเฉลิมกล่าว

          ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้คนไทยอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เล่มต่อคนต่อปี และหลังจากนี้ บริษัทฯ จะได้เตรียมแผนที่จะรองรับกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่จะเติบโตขึ้น หลังจากที่ธุรกิจหนังสือได้รับอานิสงส์จากโครงการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเภทหนังสือ และช่องทางการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ไม่ได้ห่วงในเรื่องของการแข่งขันที่คาดว่าจะตามมา เนื่องจากที่ผ่านมา แนวทางการทำตลาดรวมทั้งกลยุทธ์การบริหารของบริษัทฯ มีความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายในประเภทเนื้อหาของหนังสือ ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯมีขนาดใหญ่ ประกอบกับราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา ทำให้หนังสือของบริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และแหล่งชุมชนต่างๆ ได้แก่ สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ตลาดนัด และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงหนังสือได้สะดวกขึ้น

          โดยในปัจจุบัน บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต ผลิตและจำหน่ายหนังสือ พ็อกเกตบุ๊ค ที่เน้นเนื้อหากว้างขวาง หลากหลายประเภท เช่น ภาษา สุขภาพ ความงาม จิตวิทยา ศาสนา การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายหนังสือสำหรับเด็ก ที่เน้นการผลิตหนังสือสำหรับเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ที่มีการสัญจรของผู้คนหนาแน่น และการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจของ บมจ.ไพลินบุ๊คเน็ต มีความได้เปรียบ

          เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
          ในนามบริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน)
          ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ : ฐิยาภรณ์ ศรีอดุลย์พันธ์ (ด๊ะ)
          e-mail : c_mastermind@hotmail.com
          website : www.mtmultimedia.com